The Great Demon System - ตอนที่ 22 : การทดลองตอนที่ 2
“หากเธอสามารถลอกเลียนความสามารถได้ถึง 70% ของระดับพลังของคนอื่น บวกกับที่เธอยังคงใช้ความสามารถของเธอได้อยู่ งั้นก็หมายความว่าเธอสามารถใช้ 2 ความสามารถพร้อมกันได้!” โมบี้อุทาน
“นั่นก็จริง แต่ที่หายไป 30% จากคนที่ฉันเลียนแบบมันเป็นข้อเสียที่ใหญ่มากนะ สมมติว่าฉันคัดลอกคนที่มีระดับพลัง 3000 ฉันก็จะมีระดับพลังแค่ 2100 เท่านั้น” เธอตอบ
“ใช่ แต่เธอก็จะยังคงใช้ความสามารถของเธอได้อยู่แม้จะอยู่ในร่างของคนที่เธอเลียนแบบมา ดังนั้นในทางทฤษฎีระดับพลังของเธอก็ควรเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ฉันเชื่อว่าในบางสถานการณ์เธอก็จะเป็นฝ่ายได้เปรียบหรือบางสถานการณ์เธอก็อาจจะเสียเปรียบ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับคู่ต่อสู้ที่เธอกำลังเผชิญอยู่”
“แล้ว 30% ของพลังที่หายไปนั่น มันจะรวมไปถึงพลังความสามารถของฉันด้วยหรือเปล่า ?
“อืม ก็คงประมาณนั้น ลองนึกดูว่ามันเหมือนดีบัฟ 30% ในพวกเกม RPG นั่นแหละ”
“ก็เข้าใจง่ายดี” เธอพยักหน้า
“ฉันคิดว่าพลังที่หายไปนั้นมันเยอะเพราะเธอยังเป็น Doppelganger ระดับต่ำ แต่เมื่อเธอวิวัฒนาการไปเป็นระดับกลาง หรือระดับสูงพลังที่หายไปนั้นมันก็น่าจะลดลงนะ” เขาอธิบาย
“แล้วนายเป็นปีศาจแบบไหนกัน ?” เธอถามด้วยความอยากรู้
“ฉันเป็นแค่ปีศาจระดับต่ำเท่านั้น” เขาตอบ
“ดูเหมือนว่ามันจะค่อนข้างทั่วไปนะ” เธอพูดพลางหัวเราะออกมา
โมบี้เพิกเฉยต่อเสียงหัวเราะของเธอและถามเอวิเลียว่าเจย์เดนนั้นยังมีสกิลอื่น ๆ อีกหรือเปล่า
‘เอวิเลียมีอะไรอีกไหมที่ฉันควรรู้เกี่ยวกับ Doppelganger ?’
‘สิ่งเดียวที่ฉันพอจะนึกออกก็คือ เธอมีความสามารถในการอ่านใจอยู่นิดหน่อย เมื่อแปลงร่างเป็นคนอื่น เธอจะสามารถอ่านใจของผู้คนรอบตัวคนนั้น เพื่อให้เข้าใจได้ดีมากขึ้นว่า คน ๆ นั้นควรจะแสดงออกกับคนอื่น ๆ อย่างไร และคนอื่น ๆ คิดอย่างไรกับพวกเขา สิ่งนี้ช่วยให้พวก Doppelganger สามารถใช้ชีวิตเป็นอีกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือถ้าคนที่ Doppelganger อ่านใจของพวกเขามีอคติต่อพวกเขา พวกเขาอาจมีพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกันซึ่งอาจทำให้ดูมีพิรุธได้’ เธออธิบาย
โมบี้พูดซ้ำสิ่งที่เอวิเลียเพิ่งบอกเขาให้กับเจย์เดน
“แปลว่าฉันก็มีความสามารถในการอ่านใจอยู่บ้าง แต่ได้แค่ผิวเผินสินะ ?” เธอถามด้วยความประหลาดใจ
“อืม ก็ประมาณนั้น” เขาตอบ
“แล้วทำไมตอนนี้ฉันอ่านใจนายไม่ได้”
“อาจเป็นเพราะเธอเป็นแมว และฉันไม่มีความคิดอะไรเกี่ยวกับแมว” เขากล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“ดังนั้นสิ่งที่ฉันต้องทำคือเปลี่ยนเป็นคนที่นายรู้จักแล้วฉันก็จะทำได้ใช่ไหม ?”
ทันทีที่เธอพูดอย่างนั้นร่างกายของเธอก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เธอสะบัดขนทั้งหมดของเธอสลายไปในอากาศและมีผิวหนังของมนุษย์งอกขึ้นมาแทน เธอสูงขึ้นมากและยังสูงกว่าโมบี้เล็กน้อย แล้วจู่ ๆ ชุดเรียนก็ปรากฎขึ้นบนร่างกายของเธอ มันเข้ากับตัวเธอได้อย่างพอดี
“ฉันดูเป็นยังไงบ้าง!” เธอกล่าวด้วยความดีใจ
“เธอดูเหมือนอเล็กซ์!” เขาตอบด้วยความตกใจ
“ฉันรู้ว่านายสองคนเป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ฉันเลยคิดว่านี่น่าจะเป็นคนที่เหมาะสมที่จะลองดู”
“เขากับฉันรู้จักกันมานานแล้ว! เราเป็นเพื่อนรักกันมาก” เธอพูดด้วยความภาคภูมิใจ
โมบี้กำลังรอดูว่าจมูกของเธอจะยาวออกมาเหมือนพินอคคิโอหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูดจริง ๆ
“แล้วมันใช้ได้ไหม ? เธออ่านใจฉันออกไหม ?” เขาถามพลางกำหมัดแน่นด้วยความคาดหวัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มันบอกฉันว่านายเห็นอเล็กซ์เป็นคนหลอกลวง ที่ทำตัวดีแต่มีแรงจูงใจที่แอบแฝง” เธอพูดในขณะที่หัวเราะ
‘ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างถูกต้องนะ’ เขาพยักหน้าภายใน
“ลองใช้ความสามารถสายฟ้าของเขาดูสิ”
เจย์เดนพยักหน้าขณะที่เธอร่ายเวทย์สายฟ้าขนาดใหญ่ ซึ่งทำลายกำแพงด้านหนึ่งในห้องของเธอ
“อ๊ะ ดูเหมือนว่าฉันจะใส่แรงมากเกินไปหน่อย” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเก้อ ๆ
โมบี้รู้สึกประหลาดใจที่การโจมตีนั่นมันรุนแรงมาก ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามยั้งมือไว้แล้วและยังมีพลังส่วนที่หายไปอีก 30% อีกด้วย เขานึกไม่ออกเลยว่าอเล็กซ์นั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของโมบี้ เขาถูกจัดการได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
โมบี้พยายามสงบใจลงอย่างรวดเร็วและถามว่า
“ลองใช้ความสามารถเงาของเธอด้วยสิ”
เธอพยักหน้าขณะที่เธอเสกมีดสั้น 2 เล่มขึ้นมาในมือทั้งสองข้าง
“ตอนนี้ก็ลองใช้ทั้งสองความสามารถพร้อมกัน”
เธอทำตามที่เขาบอก โดยล้อมรอบมีดเงาของเธอด้วยออร่าพลังไฟฟ้า
“โอเค พอแล้ว ดูเหมือนว่าสมมติฐานของฉันจะถูกต้องตอนนี้เธอสามารถใช้ 2 ความสามารถพร้อมกันซึ่งค่อนข้างจะโกงมาก ๆ เลย”
“ไหนลองบอก เรื่องที่ฉันยังไม่รู้หน่อยสิ” เธอตอบอย่างภาคภูมิใจ
“อู้ว! ฉันมีความคิดบางอย่าง! ให้ฉันลองแปลงร่างเป็นนายหน่อย!” เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น
เพียงไม่กี่วินาทีเธอก็กลายร่างเป็นโมบี้ได้แล้ว โดยไม่มีทางแยกความแตกต่างระหว่างพวกเขาจากสายตาได้เลย
มันน่าทึ่งมากที่ได้มองเห็นตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็ดูน่าขนลุกเหมือนกัน
“หูยยยย !! ดูเหมือนว่านายจะมีของใหญ่เหมือนกันนะ!” เธออุทานขณะมองหอกในตำนานที่อยู่ในกางเกงของเขา
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!” เขากรีดร้องด้วยความอับอาย!
“ก็ได้ ฉันจะหยุด” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะคิกคัก
————————————-
3 ชั่วโมงต่อมา …
หลังจากทดลองอีกสองสามครั้ง โมบี้พบว่าการเชื่อมโยงทางความคิดของพวกเขาทั้งคู่นั้น สามารถใช้สำหรับการสื่อสารทางโทรจิตจากระยะไกลได้ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ามหาศาล
พวกเขายังพบว่าเจย์เดนนั้นถูกจำกัดให้สามารถแปลงร่างได้เพียง 5 ครั้งต่อวัน ซึ่งจะเพิ่มขีดจำกัด นี้ได้ขึ้นอยู่กับพลังของเธอ และเธอนั้นยังสามารถสลับไปมาระหว่างการแปลงร่างทั้ง 5 ได้อย่างง่ายดายมากเท่าที่เธอต้องการ แต่ถ้าเธอพยายามที่จะแปลงร่างเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ร่างทั้ง 5 ที่เธอได้แปลงไปแล้ว การแปลงร่างก็จะล้มเหลว
นอกจากนี้ทุกครั้งที่เจย์เดนอยู่ระหว่างการแปลงร่าง การจะคงสภาพร่างเอาไว้นั้นทำให้พลังงานปีศาจของเธอจะถูกใช้ไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ วินาที ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถคงสภาพการแปลงร่างได้ตลอดไป
นอกจากนี้เจย์เดนยังสามารถคัดลอกการเคลื่อนไหวทั้งหมดของโมบี้ได้อย่างง่ายดายและเธอยังเรียนรู้ “Energy Sense” และ “Nature’s Stimulation” ได้อีกด้วยเพราะพวกมันไม่ใช่ทักษะเฉพาะเผ่าพันธุ์เหมือนกับทักษะอื่น ๆ ของเขา
เธอยังสามารถปรับเปลี่ยน ” Nature’s Stimulation ” เพื่อฟื้นฟูทั้งพลังงานปีศาจและมานาแทนที่จะเป็นเพียงแค่พลังงานปีศาจเท่านั้น
เจย์เดนเริ่มที่จะเดินด้วย 4 ขาได้แล้ว แต่เธอก็ยังหกล้มอยู่บ่อย ๆ
และพวกเขายังค้นพบว่าเมื่อเจย์เดนพยายามเปลี่ยนเป็นอาจารย์คนใดคนหนึ่ง มันมักจะจบลงด้วยความล้มเหลว น่าจะเป็นเพราะพวกเขานั้นมีพลังมากเกินกว่าที่เธอจะเลียนแบบได้
พวกเขาใช้เวลาของพวกเขาคุ้มค่าอย่างมาก พวกเขาค้นพบหลายสิ่งหลายอย่างในกระบวนการทดสอบ แต่ทุกสิ่งที่ดีต่าง ๆ ต้องมาพร้อมกับการลงทุน เวลา 3 ชั่วโมงที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่โมบี้รู้สึกหงุดหงิดและโมโหมากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในชีวิต เขาไม่เคยเจอคนที่น่ารำคาญมากเท่านี้มาก่อน
“ฉันต้องกลับไปก่อนที่ฉันจะมีปัญหา อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเคอร์ฟิวแล้ว เธอช่วยให้รถไปส่งฉันได้ไหม”
“ทำไมฉันต้องทำด้วยล่ะ ? นายก็มี 2 ขาก็เดินไปสิ”
“เพราะฉันจะกลับไปไม่ทันเวลานะสิ ยายบื้อ”
“ก็ได้! ให้ฉันเรียกพ่อบ้านก่อน” เธอพูดขณะวิ่งออกไปจากห้อง
เมื่อพวกเขามาถึงประตูหน้าและโมบี้กำลังเดินออกไปพร้อมกับพ่อบ้านจู่ ๆ เธอก็ดึงเสื้อของเขาส่งสัญญาณให้เขารอก่อน
“เนื่องจากเราจะต้องทำงานร่วมกันนับจากนี้ ฉันคิดว่าเราควรแลกข้อมูลการติดต่อของเรากันไว้” เธอกล่าวขณะถูมือเข้าหากันช้า ๆ
“ทำไมต้องแลกล่ะ เรามีโทรจิตอยู่แล้วมันดีกว่าการติดต่อทางอื่นซะอีก” โมบี้พูดด้วยสีหน้าสับสน
ใบหน้าของเจย์เดนเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที
“ก็ได้!” เธอพูดพลางปิดประตูในทันที
โมบี้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความสับสน เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาไม่มีจังหวะจะอ่านอารมณ์ของเธอ แต่จากใบหน้าของเธอเขาสามารถสันนิษฐานได้ว่าเธออาจจะโกรธเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง
จากนั้นความทรงจำของเอวิเลียบอกเขาว่าเขามีเวลาเพียง 2 สัปดาห์ในการทำให้เธอจงรักภักดีไม่เช่นนั้นมันจะมีโอกาสสูงที่เธอจะทรยศเขาได้
‘ฉันต้องหาทางควบคุมเธอ ไม่งั้นฉันก็อาจจะตายก็ได้’ โมบี้กล่าวพร้อมกับปาดเหงื่อที่ไหลบนใบหน้าของเขา
โมบี้เข้าไปในรถลีมูซีน และพ่อบ้านก็ขับรถพาเขากลับไปที่โรงเรียน
เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่คนเดียวอย่างเงียบ ๆ นับตั้งแต่ที่เขาได้รับค่าสถานะมาเพิ่มในที่สุดโมบี้ก็สามารถกำหนดค่าสถานะของเขาได้
เขามีแต้มค่าสถานะที่เพิ่มได้ตอนนี้อยู่ 85 แต้ม
หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว โมบี้จึงตัดสินใจเพิ่มแบบนี้:
ความแข็งแกร่ง 30 แต้ม
ความฉลาด 30 แต้ม
พลังจิต 12 แต้ม
ความอดทน 13 แต้ม
ค่าสถิติใหม่ของเขาตอนนี้คือ:
ค่าสถานะ
————————————-
ชื่อ: โมบี้ เคน
เผ่าพันธุ์: ปีศาจระดับต่ำ
เลเวล: 11
XP ไปยังระดับถัดไป 500/1200
ระดับพลัง: 2720
พลังชีวิต: 120/120
พลังปีศาจ: 55/55
อัตราการฟื้นฟูพลังปีศาจ: 27 หน่วย / ชั่วโมง
ความแข็งแกร่ง: 83
ความคล่องตัว: 98
ความอดทน: 36
ความฉลาด: 55
พลังจิต: 30
แต้มสถานะที่สามารถใช้ได้: 0
————————————-
เป้าหมายในปัจจุบันของโมบี้คือทำให้ค่าสถานะของเขาสมดุลกัน เพราะเขาเชื่อว่านั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว นอกจากนี้เขายังต้องการค่าพลังจิตให้ถึง 30 แต้มเพื่อให้ได้ทักษะที่เอวิเลียต้องการให้เขาเรียนรู้
โมบี้สังเกตเห็นว่าเมื่อความฉลาดของเขาเพิ่มขึ้น ความจุของพลังปีศาจของเขาก็เพิ่มเช่นกัน นี่เป็นการแก้ไขการมีพลังปีศาจน้อยของเขา ดังนั้นโมบี้จึงตัดสินใจว่าเขาควรมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มค่าความฉลาดและความอดทนเพื่อที่เขาจะได้มีพลังปีศาจมากขึ้นและไม่ถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ทันทีที่โมบี้เพิ่มค่าสถานะทั้งหมดของเขาเสร็จ เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ
<ระบบแจ้งเตือน!>
<เนื่องจากผู้ใช้มี 30 แต้มในค่าสถานะ “พลังจิต” จึงได้เรียนรู้ทักษะใหม่! >
———————————–
Lesser Mind Control [ระดับ 1]
เมื่อจ้องมองเป้าหมายเป็นเวลา 20 วินาที ผู้ใช้สามารถควบคุมการกระทำของอีกฝ่ายได้เป็นเวลา 5 วินาที ไม่สามารถใช้ทักษะนี้ได้กับทุกคนที่มีระดับพลังสูงกว่าผู้ใช้ และไม่สามารถใช้เพื่อทำให้อีกฝ่ายทำร้ายตัวเองอย่างรุนแรงหรือถึงแก่ชีวิตได้
เวลาเปิดใช้งาน: 20 วินาที
ระยะเวลาส่งผล: 5 วินาที
ค่าร่าย: 25 พลังปีศาจ
———————————–
‘เอวิเลียนี่เป็นทักษะที่เธอต้องการให้ฉันเรียนรู้ใช่ไหม ?’ โมบี้ถาม
‘ใช่แล้ว! มันไม่น่าอัศจรรย์เหรอ! มันเป็นทักษะที่ฉันชอบใช้อยู่เสมอ มันอาจไม่สามารถสั่งให้ใครทำร้ายตัวเองได้ แต่มันทำให้พวกเขาทำเรื่องโง่ ๆ ออกมาได้ก็แล้วกัน! เมื่อใดก็ตามที่ฉันโกรธใครบางคน ฉันมักจะใช้ทักษะนี้เพื่อทำให้พวกเขาทำอะไรที่น่าลำบากใจ และไม่มีใครสามารถใช้ทักษะนี้กับฉันได้ เพราะฉันเป็นปีศาจที่แข็งแกร่งที่สุด หากนายวางแผนที่จะทำให้ใครสักคนแต่งตัวประหลาด ๆ เช่นนาธานหรือลูกน้องของเขาอับอาย นี่ก็เป็นทักษะที่ดีมาก! ลองจินตนาการถึงเรื่องที่สามารถทำลายชีวิตทั้งหมดที่นายสามารถบังคับให้พวกเขาทำได้สิ! ตราบเท่าที่มันไม่ทำร้ายตัวเองอย่างรุนแรง นายก็สามารถบังคับให้พวกเขาทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!‘
‘นี่มันสุดยอดไปเลย!’ เขาอุทานในความคิดพลางกระโดดออกจากที่นั่งของเขา นั่นทำให้พ่อบ้านตกใจในทันที
โมบี้ไม่เคยได้ยินน้ำเสียงเอวิเลียที่แสดงความตื่นเต้นกับสิ่งที่เธอพูดแบบนี้มาก่อน
และหลังจากได้ยินสิ่งที่เอวิเลียพูด โมบี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสุดยอดกับทักษะนี้เช่นกัน
โมบี้และเอวิเลียใช้เวลาที่เหลือในการนั่งรถกลับที่พัก เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับวิธีการใช้ทักษะนี้ให้ดีที่สุดและน่าอับอายที่สุดเพื่อทำลายพวกนาธานและลูกน้องของเขา