The Great Demon System - ตอนที่ 17 : ห้องสมุด
อเล็กซ์ถอนหายใจยาว ๆ ออกมาก่อนที่จะเริ่มอะไรก็ตามที่เขาต้องการจะพูด
“ครอบครัวของฉันและเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอ พ่อแม่ของเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ก่อนฉันเกิดด้วยซ้ำ ตอนที่ฉันยังเด็กฉันมักจะถูกบังคับให้ใช้เวลากับเธอทุกครั้งที่พ่อแม่ของเราไปมาหาสู่กัน ซึ่งฉันบอกได้เลยว่ามันค่อนข้างจะบ่อยเลยหล่ะ”
“ในตอนแรกความสัมพันธ์ของเราก็ค่อนข้างดี เราเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ เธอมีนิสัยที่ใจดีและเอาใจใส่ซึ่งแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจต่อทุกคน อย่างน้อยที่สุดก็เป็นอย่างที่ฉันเคยคิด”
อเล็กซ์หยุดอยู่นานเพื่อสงบสติอารมณ์และรวบรวมความคิดของเขาก่อนจะถอนหายใจยาว ๆ ออกมาอีกครั้ง
“วันหนึ่งเมื่อเราไปที่สวนสาธารณะเพื่อเล่นกันในสนามเด็กเล่น เด็กชายคนหนึ่งบังเอิญเดินมาชนเธอ เธอตกลงไปบนโคลนซึ่งทำให้ชุดโปรดของเธอเสียหาย เธอเกือบจะฆ่าเด็กคนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรั้งเธอเอาไว้ เด็กคนนั้นคงตายไปแล้วแน่ ๆ”
“นั่นคือตอนที่ฉันเข้าใจถึงวิธีการที่เธอปฏิบัติต่อฉัน มันไม่เหมือนกับวิธีที่เธอปฏิบัติต่อคนอื่น เธอมองว่าทุกคนที่อ่อนแอกว่าหรือด้อยกว่าเธอนั้น เป็นอะไรที่ไม่มากไปกว่า ‘ของเล่น’ ของเธอ”
“ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉันก็พยายามหลีกเลี่ยงเธอเหมือนเธอคือโรคระบาด ฉันไม่อยากผูกสัมพันธ์กับคนแบบนี้ แต่เมื่อใดก็ตามที่พ่อแม่ของเรามาเจอกัน เธอก็มักจะพยายามเข้าหาฉันและทำตัวดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอนั้นเป็นคนโรคจิตของจริงเลยแหละ”
“โมบี้ นายไม่ได้เป็นมากกว่าตุ๊กตาที่ใช้แล้วทิ้งในสายตาของเธอ เมื่อเธอเบื่อนายแล้ว เธอจะโยนนายทิ้งไปในถังขยะ ฉันขอเตือนให้นายหลีกเลี่ยงเธอไม่ว่าจะยังไงก็ตาม“
โมบี้แสร้งทำเป็นตกใจกับทุกสิ่งที่อเล็กซ์เพิ่งจะบอกกับเขา จากการกระทำและท่าทางของเธอ เขาก็ก็พอเดาได้มากพอสมควรแล้ว แต่เมื่อเขายอมรับข้อเสนอของเจย์เดน เขาก็รู้ตัวดีว่าตัวเองนั้นกำลังทำอะไรอยู่
“ไม่ต้องห่วงฉันน่า ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่” โมบี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
“นายแน่ใจเหรอ ถ้านายต้องการฉันสามารถไปคุยกับเธอให้ได้นะ บางทีฉันอาจจะโน้มน้าวให้เธอเลิกยุ่งกับนาย” อเล็กซ์กล่าวด้วยสีหน้ากังวล
โมบี้แสร้งทำเป็นคิดถึงข้อเสนอของอเล็กซ์ก่อนตอบกลับไปว่า
“นั่นคงจะไม่ได้ผลหรอก แม้ว่าเธอจะยินยอมก็ตาม แต่ฉันได้สร้างศัตรูกับนักเรียนชายเกือบทุกคนในโรงเรียนแล้ว หากไม่มีเธอปกป้องฉันก็จะคงไม่รอดเหมือนกัน” โมบี้ตอบด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
“งั้นฉันจะปกป้องนายแทน!” อเล็กซ์กล่าวด้วยความแน่วแน่
โมบี้ไม่คาดคิดว่าอเล็กซ์จะเสนอตัวเป็นบอดี้การ์ดให้กับเขา ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่แผนของโมบี้ เขาก็คงจะยอมรับข้อเสนอของอเล็กซ์แน่นอน เพราะอเล็กซ์คงจะเป็นหุ่นเชิดที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก
“นั่นมันไม่ได้ผลหรอก แม้ว่านายจะอยู่ในระดับสูง นายก็คงไม่สามารถตรวจสอบฉันได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน มันคงจะมีช่วงเวลาที่ฉันเสี่ยงต่อการถูกโจมตีอยู่เสมอ นอกจากนี้การที่คนระดับสูงจะมาคอยปกป้องคนในระดับต่ำก็ยังไม่เคยมีมาก่อน นายอาจจะถูกเหยียดหยามอย่างแน่นอน และอาจดึงดูดปัญหาที่บางทีนายก็ไม่สามารถจะรับมือได้มาใส่ตัวนายเองนะ” โมบี้ตอบขณะแสร้งรู้สึกหดหู่ใจ
อเล็กซ์ใช้เวลานานในการคิดเกี่ยวกับประเด็นของโมบี้ ก่อนที่จะยอมแพ้ในที่สุด
“ประเด็นที่นายพูดก็ถูกและเข้าใจได้ ฉันไม่มีข้อโต้แย้งในเรื่องนี้ แต่ถ้านายรู้สึกว่าจนมุมหรืออยากจะเปลี่ยนใจ ก็บอกให้พวกเรารู้ล่ะ หากนายต้องการความช่วยเหลือเพียงแค่บอกฉัน” อเล็กซ์กล่าวด้วยใบหน้าที่จริงจัง
‘ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชายอย่างอเล็กซ์คนนี้ เขาถึงสนใจคนที่มีระดับพลังต่ำอย่างฉันได้ เขาต้องมีเหตุจูงใจที่ซ่อนอยู่แน่ ฉันต้องจับตาดูเขาให้มากขึ้น’ โมบี้คิด
“ฉันยอมรับข้อเสนอนั้นของนาย” โมบี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ทันใดนั้นเสียงระฆังก็ส่งสัญญาณ ว่าสิ้นสุดเวลาการทานอาหารกลางวันแล้ว
ทั้งสามคนบอกลากันและแยกย้ายกันไป
ตอนนี้เป็นคาบว่าง
โมบี้ต้องการไปยังห้องสมุดของโรงเรียนเพื่อดูว่ามีประวัติเกี่ยวกับปีศาจถูกกล่าวถึงเอาไว้หรือไม่ เมื่อเขาเริ่มค้นหา เขาไม่แปลกใจที่พบว่าส่วนใหญ่มีการกล่าวถึงปีศาจในส่วนของนิยาย เขาใช้เวลาว่างทั้งหมดนี้ในการอ่านสิ่งต่าง ๆ ที่พบในหนังสือ
“เฮ้ เอวิเลีย ที่บอกว่าปีศาจอ่อนแอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่า ?”
“ใช่ นั่นเป็นจุดอ่อนเดียวของพวกปีศาจอย่างเรามี นายต้องอยู่ห่าง ๆ จากโบสถ์ มัสยิดหรือวัดวาอาราม ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า เราไม่ควรไปใกล้พวกนั้น”
โมบี้จดจำไว้ว่าให้อยู่ห่างจากสิ่งที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้า โชคดีที่ศาสนานั้นได้ลดน้อยลงไปอย่างมากนับตั้งแต่มีการค้นพบความสามารถต่าง ๆ จู่ ๆ ผู้คนก็ได้รับพลังและความสามารถเหมือนพระเจ้า นั่นทำให้หลายคนหมดศรัทธาในพระเจ้า นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา
โมบี้ยังคงอ่านหนังสือต่อไป เขาก็พบกับสิ่งที่รบกวนจิตใจอีกครั้ง
“ฉันต้องอาบเลือดของทารกแรกเกิดเพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแกร่งหรือเปล่า ?” โมบี้ถามด้วยความรู้สึกขยะแขยง
โมบี้พร้อมที่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งพลัง แต่นี่มันมากเกินไป เขาไม่โกรธเด็กทารก ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างแท้จริง และเขาไม่ได้วางแผนที่จะเป็นนักฆ่าทารกในเร็ว ๆ นี้แน่
“ไม่! มนุษย์เหล่านี้และจินตนาการป่วย ๆ ของพวกเขามันเพ้อเจ้อและไร้สาระ!” เธอตอบด้วยน้ำเสียงดูถูกอย่างมาก
“มีอีกอย่างที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยจะสบายใจ คือฉันต้องมีความสัมพันธ์แบบนาย – บ่าว กับสาว ๆ ในฮาเร็มเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังหรือเปล่า” โมบี้ถาม ท่าทางของเขาดูเหมือนจะกังวลมากกว่าเรื่องการฆ่าทารกแรกเกิดเสียอีก
“นายคิดว่าฉันเป็นแบบนั้นหรือไง ? นังร่านเหรอ ? ฉันคือจ้าวปีศาจตนแรก ฉันไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นมาตลอดทั้งชีวิตของฉัน”
เมื่อเธอบอกแบบนั้น เขารู้สึกราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก
“สุดท้าย นี่เป็นคำถามสำคัญที่อยู่ในใจของฉันมาระยะหนึ่งแล้ว เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะเปลี่ยนคนอื่นให้กลายเป็น ปีศาจรับใช้ของฉัน”
“แน่นอน แต่ด้วยพลังของนายในตอนนี้ คงเป็นไปได้แค่ตนเดียวเท่านั้น“
โมบี้เผยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา
“นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากได้ยินที่สุด”
ทันใดนั้นระฆังก็ดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณว่าหมดเวลาสำหรับช่วงพักของเขาแล้ว
โมบี้ยังคงมีเรียนอีกหนึ่งวิชาที่ต้องเข้าเรียนก่อนจบการเรียนการสอนในวันนี้ นี่เป็นวิชาอื่นแต่คนบรรยายก็ยังคงเป็นอาจารย์ลีโอ ซึ่งเขานั้นกำลังอธิบายพื้นฐานของศิลปะการต่อสู้และความสำคัญในชั้นเรียน
โมบี้นั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อยู่แล้วจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะไม่ใส่ใจ เขาตัดสินใจที่จะใช้เวลาในการฝึกฝนเพื่อเพิ่มเลเวลของทักษะ “Eyes of Sin” ของเขาแทน
ลีโอสังเกตเห็นโมบี้ที่กำลังหลับอยู่ แต่เขาตัดสินใจที่จะไม่วุ่นวายกับโมบี้ เพราะเขารู้จากบันทึกของนักเรียน ว่าตัวโมบี้นั้นนั้นรู้ข้อมูลทั้งหมดที่เขาพูดถึงอยู่อย่างแน่นอน
หลังจากผ่าน 2 ชั่วโมงอันแสนยาวนานและน่าเบื่อ เสียงระฆังก็ดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณว่าโรงเรียนเลิกแล้ว แม้ว่าจะผ่านการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องแต่เลเวล “Eyes of Sin” ของเขาก็ยังคงไม่เพิ่มขึ้น
ทว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้โมบี้ท้อใจ เพราะเขารู้ว่าผลลัพธ์สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยเวลาและการพยายามอย่างหนักเท่านั้น
ขณะนี้โมบี้กำลังเดินออกจากโรงเรียน เขาไม่สนใจการจ้องมองที่น่ากลัวราวกับการวางแผนฆาตกรรมทั้งหมดที่ตรงมายังเขา เขาสังเกตเห็นเจย์เดนยืนรอเขาอยู่ที่ประตูหน้า ด้านหลังเธอคือรถลีมูซีนสีขาวที่กำลังลอยขึ้นจากพื้น
เมื่อโมบี้เข้ามาใกล้เจย์เดน เธอก็วิ่งไปหาเขาทันทีโดยกระโดดขึ้นลงราวกับว่าเธอไม่สนใจโลก
“ดูเหมือนว่าในที่สุดสัตว์เลี้ยงตัวน้อยน่ารักของฉันก็มาถึงแล้ว!” เธอกล่าวด้วยรอยยิ้มกวน ๆ