The Great Demon System - ตอนที่ 38 : ในที่สุดก็ตาย!
เจย์เดนยกร่างที่แห้งเหี่ยวของนาธานขึ้นมาจากพื้นโดยใช้ความสามารถเงาของเธอ
เธอคลุมเงาของเธอไว้รอบตัวเขาอย่างแน่นหนาจนทำให้เขานั้นไม่สามารถดิ้นได้ แต่ก็ไม่แน่นจนบดขยี้ร่างของเขาจนแหลกละเอียด และเธอยังใช้เงาพันรอบปากของเขาเอาไว้ เพื่อกันไม่ให้เขากรีดร้องออกมา
โมบี้และเจย์เดนไม่สามารถฆ่านาธานในบ้านของเจย์เดนได้ไม่เช่นนั้นโรงเรียนจะได้รับแจ้งเนื่องจากนาฬิกาจะบอกว่าบ้านของเธอเป็นสถานที่สุดท้ายก่อนที่นาธานจะตาย
“ได้เวลากำจัดขยะแล้ว!” โมบี้พูดพลางเผยรอยยิ้มขณะเอาร่างที่ถูกมัดของนาธานใส่ถุงขยะ
ดวงตาของนาธานกำลังร้องไห้ออกมาเป็นสายเลือด ขณะที่เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะดิ้นรนขยับเขยื้อนทว่ามันไม่ส่งผลแต่อย่างใด ท้ายที่สุดเขาก็หยุดความพยายามที่จะหลบหนีอย่างไร้ประโยชน์ที่กำลังทำอยู่ ดวงตาของเขาซีดเซียวเนื่องจากขาดความหวัง แรงใจและความพยายามต่อการที่จะมีชีวิตอยู่ เขาแค่ต้องการจะมีโอกาสที่จะได้ฆ่าตัวตายไปซะเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ แต่ตอนนี้เขายอมแพ้แล้ว เพราะเขารู้ว่าความตายที่รวดเร็วนั้นมันเป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อม ซึ่งเขานั้นก็ควรจะตระหนักได้มานานแล้ว
โมบี้และเจย์เดนพานาธานไปยังกองขยะที่ใกล้ที่สุด ขณะมองไปรอบ ๆ ว่าพวกเขานั้นไม่ได้ถูกใครติดตามไปที่นั่น เพราะพวกเขานั้นกำลังจะกำจัดขยะชิ้นใหญ่เลยทีเดียว
กองขยะในเมืองอยู่ห่างจากคฤหาสน์ของเจย์เดนเพียงไม่กี่กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาไม่นานในการไปถึงแม้จะเดินเท้าไปก็ตาม
พวกเขาใช้เงาของค่ำคืนเพื่อปกปิดการเคลื่อนไหวของพวกเขาตลอดทางที่มายังที่แห่งนั้น
กองขยะในเมืองมีขนาดใหญ่ และมีอยู่หลายกองรวม ๆ กันแต่พวกมันล้วนแต่เป็นขยะทั้งสิ้น มันอยู่ในที่ว่างห่างจากอาคารอื่น ๆ ประมาณหนึ่งกิโลเมตรเนื่องจากกลิ่นเหม็นที่น่ารังเกียจที่โชยออกมา
ขยะเหล่านี้จะถูกเผาทำลายทุกสัปดาห์โดยใช้เครื่องจักรชั้นสูง แต่เมืองนั้นก็มักจะมีขยะมากมายจนแทบไม่เห็นพื้นที่ทิ้งขยะว่างเปล่า
โมบี้และเจย์เดนแอบเข้าไปในกองขยะของเมือง พลางตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ก่อนที่จะปล่อยนาธานออกจากถุงขยะ โมบี้ถึงกับต้องใช้ทักษะ “Energy Sense” เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีวี่แววของสิ่งมีชีวิตอะไรอยู่โดยรอบ
นาธานหลุดร่วงออกจากถุงขยะเหมือนซากศพไร้ชีวิต แม้ว่าขณะนี้เขาจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม แต่ดวงตาของเขานั้นช่างดูว่างเปล่า ผิวของเขานั้นดูซีดเซียวยิ่งกว่าภูติผี เขาดูเหมือนเปลือกที่กลวงเปล่าของมนุษย์
โมบี้ถอนหายใจออกมาด้วยสายตาเวทนา พลางสงสัยว่าถ้าเขาหักกระดูกนาธานอีกสักหน่อยเขาจะตอบสนองบ้างหรือไม่ หรือว่าตอนนี้เขานั้นเป็นมนุษย์ที่ไม่สมประกอบไปเสียแล้ว
โมบี้ย่อตัวลงไปที่ระดับเดียวกับสายตาของนาธานแล้วพูดกับเขา
“ในที่สุดก็มาถึงตอนที่แกจะตายแล้ว! ดูแกไม่มีความสุขเลยนี่!” โมบี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
นาธานจ้องกลับมาที่เขาด้วยท่าทางที่ว่างเปล่าเหมือนกับซอมบี้
จากนั้นนาธานก็เห็นมือที่กางออกของโมบี้ค่อย ๆ เข้าใกล้หัวของเขา
ทันทีที่เขาจำภาพที่คุ้นเคยนั้นได้ ร่างกายของเขาก็เริ่มส่งสัญญาณอันตรายให้กับเขาอีกครั้ง ประกายของชีวิตกลับเข้ามาในดวงตาที่ไร้อารมณ์ก่อนหน้านี้ของเขา น้ำตาโลหิตเริ่มพรั่งพรูออกมาจากดวงตาของเขาราวกับน้ำตก
เขาเริ่มกรีดร้องและร้องขอชีวิต ซึ่งฟังดูเหมือนเสียงร้องอู้อี้เนื่องจากความสามารถเงาของเจย์เดนที่พันรอบปากของเขา
‘ไม่ ไม่เอาแล้ว!!! ได้โปรดอย่าทำแบบนั้นอีก!! ทำไมถึงต้องทำกับฉันแบบนี้! แกไม่มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่ในตัวแล้วหรือไง!! ไม่เอาอีกแล้ว…!!!!!’ นาธานคิดในใจอย่างสับสนวุ่นวาย ขณะที่เขาเริ่มดิ้นรนเหมือนกับหนอนและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อออกจากการถูกเงาของเจย์เดนมัดไว้
เมื่อมือของโมบี้สัมผัสกับศีรษะของนาธาน เขาก็เริ่มรู้สึกถึงความสงบสุขแบบเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่มีความสุขเลย เขารู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น แม้ตอนนี้จะรู้สึกมีความสุขหรือโล่งอกจากความเจ็บปวดทั้งหมด
ผิวของนาธานกลายเป็นหินแข็ง ๆ สีดำสนิท ดวงตาของเขาโผล่ออกมาจากเบ้าก่อนที่จะละลายไปทั้งหมด เลือดสีดำเริ่มไหลออกจากทุกรูขุมขนในร่างกายของเขาราวกับสายน้ำ
จากนั้นร่างของนาธานก็ร่วงหล่นลงไปบนพื้นแตกออกเป็นชิ้น ๆ เหมือนเขานั้นเป็นรูปปั้นหินที่ล้มลง
ในที่สุดนาธานจอห์นสันก็สิ้นใจ
<ระบบแจ้งเตือน!>
<คุณได้ฆ่าศัตรูแรงค์ D!>
<+7500 XP>
<เลเวลอัพ!>
‘เย่! เราทำสำเร็จแล้ว! มันโคตรสนุกเลย!’ เจย์เดนพูดกับโมบี้ทางโทรจิตเพื่อที่จะไม่ส่งเสียงใด ๆ ในขณะที่กระโดดขึ้นลงด้วยความสุข
‘ใช่! เราทำสำเร็จแล้ว!’ โมบี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม
‘เราจะทำอะไรต่อไปดีล่ะ! เราจะลองปกครองโรงเรียนดูไหม!? ทรมานคนให้มากขึ้น? โอ้! หรือ! บางทีเราอาจจะ…’
‘ฉันไม่รู้ว่าเป้าหมายของฉันจะเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า ฉันไม่มีแรงจูงใจแบบนั้นแล้ว และฉันก็คงจะไม่ไปไล่จัดการคนอื่นจนกว่าพวกเขาจะเข้ามาวุ่นวายกับฉันหรือแผนการของฉัน และจนกว่าฉันจะพบเหตุผลหรือแรงจูงใจอื่นแผนของฉันตอนนี้คือจะต้องเข้มแข็งขึ้นให้ได้มากที่สุด แต่ไม่ต้องกังวล ฉันมั่นใจว่าเราจะต้องเจอกับความยากลำบากอีกมากมาย ซึ่งหมายความว่ามันจะสนุกมากขึ้น‘ โมบี้ตอบกลับเจย์เดนด้วยรอยยิ้ม
‘ไม่ต้องห่วง! ฉันจะอยู่กับนายในทุก ๆ ก้าวเลย! แม้ว่าเราจะไม่ได้ทรมานคนอีกก็ตาม แค่ได้อยู่ใกล้ ๆ กับนายก็พอแล้วสำหรับฉัน! และยิ่งไปกว่านั้น! นายเป็นคนที่ดูน่าสนุกจริง ๆ!’ เจย์เดนกล่าวพร้อมหัวเราะเบา ๆ
‘ขอบใจมากนะ’ โมบี้ตอบพลางรู้สึกอายเล็กน้อย
‘ฉันคิดว่าเราควรจะอัพโหลดวิดีโอในวันพรุ่งนี้ ถ้าเราอัพโหลดมันดึกขนาดนี้ฉันว่ามันจะมียอดการเข้าดูน้อย เธอก็รู้ว่าฉันหวังจะได้เงินจำนวนมากจากยอดคนเข้าดู!‘ โมบี้กล่าว
‘อืม! ก็เข้าท่า! เราควรจะอัปโหลดในวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย! เราควรเจอกันตอนพักเที่ยงหรือตอนพักเพื่ออัพโหลด!’ เจย์เดนตอบ
‘โอเคเลย แผนนี้เข้าท่า!‘ โมบี้กล่าวด้วยรอยยิ้มและยกนิ้วให้เธอ
เจย์เดนกลายร่างเป็นแอ๊บบี้ รีดและใช้ความสามารถไฟของเธอเผาซากศพของนาธานอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะที่เหลือแต่เพียงเศษซากไว้ในกองขยะ เปลวไฟสีแดงเข้มที่ลุกโชนด้วยพลังที่รุนแรง กระนั้นมันก็ยังดูสวยและงดงามอย่างมาก หลังจากนั้นเพียงเวลาไม่กี่วินาทีเปลวไฟได้ทำให้ร่างของนาธานกลายเป็นเถ้าถ่านสีดำอย่างรวดเร็ว
โมบี้และเจย์เดนแอบออกจากกองขยะไปอย่างเงียบ ๆ และระมัดระวัง เหมือนตอนที่เดินเข้ามาเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขานั้นจะไม่ถูกพบเห็นหรือถูกติดตาม
ในที่สุดเมื่อพวกเขากลับไปที่คฤหาสน์ของเจย์เดนเวลานั้นก็เป็นเวลา 23:20 น. การนั่งรถจากคฤหาสน์ของเธอไปยังโรงเรียนใช้เวลาประมาณ 30 นาทีดังนั้นโมบี้จึงจำเป็นต้องกลับออกไปทันทีหากเขาต้องการกลับไปถึงหอพักก่อนเวลาเคอร์ฟิว
โมบี้บอกลาเจย์เดนก่อนจะขึ้นรถลีมูซีนไปกับพ่อบ้าน
ในระหว่างการเดินทางโมบี้ตัดสินใจเพิ่มค่าสถานะ 10 แต้มที่เขาได้รับมาจากการอัพเลเวล
หลังจากใคร่ครวญอยู่สักพัก เขาตัดสินใจใช้แต้มของเขาไปที่ความคล่องตัว ความแข็งแกร่งและความฉลาด โดยยังไม่สนใจความอดทนและพลังจิตในตอนนี้ จากประสบการณ์ของเขา เขาพบว่านี่เป็นการเพิ่มค่าสถานะที่ดีที่สุดสำหรับเขา
เนื่องจากความสามารถทางทักษะศิลปะการต่อสู้ที่ดีขึ้น โมบี้จึงสามารถหลบหลีกและคาดเดาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ได้ดีกว่าเดิม และถ้าเขาเร็วกว่าคู่ต่อสู้ก็แทบจะไม่มีโอกาสที่การโจมตีจะโดนตัวเขา เว้นแต่คู่ต่อสู้ของเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้หรือเขาถูกจับตัวได้ วิธีนี้ช่วยให้เขาสามารถทิ้งค่าความอดทนไว้ก่อนได้ แล้วค่อยเพิ่มมันเมื่อมันน้อยเกินไปในอนาคต
การเพิ่มค่าความแข็งแกร่งนั้นฟังดูเหมาะสมที่สุด เพื่อทำให้สร้างความเสียหายได้มากขึ้นซึ่งจะทำให้มันไปได้ดีกับความเร็วของเขาที่มากอยู่แล้ว
และท้ายที่สุดค่าความฉลาดจะเพิ่มปริมาณของพลังงานปีศาจทั้งหมดของเขา ทำให้เขาใช้ทักษะได้มากขึ้น นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเขาในการต่อสู้ เนื่องจากทักษะหลายอย่างของเขาต้องการพลังงานปีศาจจำนวนมาก อย่างไรก็ตามข้อเสียเพียงอย่างเดียวในการเพิ่มค่าความฉลาดของเขาก็คือทักษะหลายอย่างของเขาที่ต้องใช้พลังงานปีศาจอย่างมากเช่น “Eyes of Sin” นั้นไร้ประโยชน์ในที่สาธารณะโดยสิ้นเชิงเพราะนั่นจะเป็นการเปิดเผยความลับที่ตัวเขานั้นไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน
สำหรับค่าพลังจิต โมบี้ตัดสินใจว่าเขาจะหยุดการเพิ่มค่าสถานะให้มันจนกว่าเขาจะพอใจกับค่าสถานะอื่น ๆ ของเขาแล้ว
นับจากนี้ไปโมบี้จะจัดลำดับความสำคัญโดยให้ค่าความคล่องตัวของเขาเป็นอันอับแรก จากนั้นความแข็งแกร่งตามด้วยค่าความฉลาด
โมบี้กำหนดแต้มสถานะ 10 แต้มของเขาดังนี้
5 แต้มสำหรับความคล่องตัว 3 แต้มสำหรับความแข็งแกร่งและ 2 แต้มสำหรับความฉลาด
ค่าสถานะของเขาตอนนี้ก็คือ
————————————-
ชื่อ: โมบี้ เคน
เผ่าพันธุ์: ปีศาจระดับต่ำ
เลเวล: 19
XP ไปยังระดับถัดไป 5150/8400
ระดับพลัง: 3670
พลังชีวิต: 120/120
พลังงานปีศาจ: 95/95
อัตราการฟื้นฟูพลังปีศาจ: 48 หน่วย / ชั่วโมง
ความแข็งแกร่ง: 96
ความคล่องตัว: 103
ความอดทน: 73
ความฉลาด: 95
พลังจิต: 30
แต้มสถานะที่สามารถใช้ได้: 0
————————————-
รถลีมูซีนจอดให้โมบี้ลงที่หน้าโรงเรียน
เขาออกจากรถลีมูซีน ขอบคุณพ่อบ้าน สวมฮู้ด แล้วมุ่งหน้าไปโรงเรียนทันทีด้วยการวิ่งเหยาะๆตามปกติ
ตอนนี้เป็นเวลา 23:53 น. เขามีเวลาเหลือเพียง 7 นาทีในการกลับไปที่หอพัก โชคดีที่เขาน่าจะถึงก่อนเวลาเคอร์ฟิว
เวลา 11:58 น. โมบี้ก็พาตัวเองมาถึงหน้าประตูห้องพักรวมของเขาในที่สุด
เมื่อเขาเปิดประตูเขาก็ได้รับการต้อนรับจากสายตาที่คุ้นเคยของอเล็กซ์ที่รออยู่บนเก้าอี้อย่างอดทนและเรย์ที่นอนอยู่บนเตียงของเขาเองและกำลังเล่นวิดีโอเกม
“นายหายไปไหนมา! ฉันเป็นห่วงแทบแย่!” อเล็กซ์ลุกขึ้นยืนและพูดด้วยน้ำเสียงกังวล