The Great Demon System - ตอนที่ 35 : ความสุขที่ผิดพลาด
ทันทีที่นาธานเห็นเจย์เดน เขารู้สึกเหมือนร่างกายของเขาเข้าสู่ระบบอัตโนมัติ
เขาไม่สามารถควบคุมการกระทำของเขาได้อีกต่อไป เขาวิ่งเข้าหาเจย์เดนด้วยสายตาหื่นกระหายและกระโดดขึ้นเตียงโดยมีเป้าหมายที่จะล้มทับลงบนตัวเธอ
“อย่าเพิ่งรีบร้อนสิ!” เจย์เดนกรีดร้องด้วยท่าทางรังเกียจพลางยกมือของเธอขึ้นมาขวางเขาไว้ไม่ให้เข้ามาหาเธอได้
จากการมองเห็นที่บิดเบี้ยวของนาธานมันเหมือนกับว่าเจย์เดนนั้นดูเหมือนนางฟ้าหรือเทพธิดาที่กำลังบอกเขาว่าเธอนั้นต้องการสนุกกับมันแบบช้า ๆ แต่หนักแน่น
เจย์เดนเริ่มสังเกตได้ทันทีว่าเธอนั้นดูไม่สามารถรักษาการแสดงเอาไว้ได้ เธอจึงรีบปรับตัวเองทันที
ในสายโทรศัพท์เธอต้องพยายามอย่างมาก ในการพยายามประจบประแจงและออดอ้อนแม้จะรู้สึกรังเกียจและขยะแขยงมากก็ตาม
เธอไม่ต้องการที่จะทำให้เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอผิดหวัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องของไอ้คนที่เหมือนตายไปแล้วนี่ก็ตาม แต่โมบี้นั้นบีบคั้นเธอ เขาบอกว่าเขาไม่สนใจและเขารู้ว่าเธอไม่ได้ต้องการอย่างนั้นจริง ๆ และสุดท้ายแล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้อยู่ดี
“มันจะไม่เป็นไรน่า! ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้คิดแบบนั้นจริง ๆ สักหน่อย แค่อดทนไว้ก่อนในตอนนี้ แล้วทุกอย่างมันจะคุ้มค่าแน่นอน! เราจะทำให้เขารู้สึกมีความสุขและสนุกแบบปลอม ๆ ก่อนที่เราจะฉีกกระฉากและทำลายมันทิ้ง มันจะต้องตลก สนุกและโหดร้ายในเวลาเดียวกัน!”
หลายครั้งที่เธอพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำให้ตัวเองหัวเราะดัง ๆ ออกมา แต่ต้องแสร้งเป็นหัวเราะคิกคักอย่างน่ารักเสมอแทน มันช่างยากเย็นอย่างมากที่จะข่มตัวเองเพื่อทำอะไรแบบนี้
ตอนนี้เธอกำลังต้องแสร้งทำเป็นประจบประแจงและออดอ้อนเจ้าคนน่ารังเกียจนี่
เธอกังวลว่าเธอนั้นอาจเผลอทำแผนแตก และนั่นมันจะทำลายทุกอย่าง
‘บ้าชิบ! ฉันคิดว่าความคิดของฉันอาจจะกำลังทำลายแผนการของเรา! เราควรเปลี่ยนไปใช้แผน B ในตอนนี้!’ เจย์เดนพูดกับโมบี้ทางโทรจิต
ทันทีที่พวกเขากำลังจะเตรียมเปลี่ยนแผนจู่ๆนาธานก็พูดขึ้นมาทันที
“ผมมาที่นี่ตามที่คุณต้องการแล้วที่รัก เราจะมีเซ็กส์กันเมื่อไหร่! ผมแทบจะรอไม่ไหวแล้ว!” นาธานกล่าวด้วยสายตาหื่นกระหายอย่างอดทนไม่ไหวอีกต่อไป
‘ไม่ทันแล้ว! ไอ้นี่มันปัญญาอ่อน! ฉันคิดว่าเขาอาจจะหลงรักฉันไปทั้งตัวและใจ โดยไม่ได้สังเกตอะไรสักนิดเลยด้วยซ้ำ’ เธอพูดกับโมบี้พร้อมกับถอนหายใจ
“นาธานสุดที่รักของฉัน มันยังไม่ถึงเวลา ก่อนที่ฉันจะยอมให้กับนาย ฉันต้องรู้ว่านายนั้นคู่ควรและแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องฉันได้ไหม ฉันต้องการให้นายต่อสู้กับคนที่ฉันเลือกเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งและความรักที่นายมีต่อฉัน!” เจย์เดนกล่าวด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่
“แน่นอนครับเจย์เดนที่รัก ผมไม่มีปัญหาในการพิสูจน์ความรักของผมที่มีต่อคุณ ผมจะจัดการใครก็ตามเพื่อคุณ ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งมากแค่ไหน ผมให้สัญญากับคุณเลยว่าผมมีความสามารถมากพอที่จะปกป้องคุณได้และผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นเร็ว ๆ นี้ที่รัก ! ตอนนี้ไอ้โง่นั่นที่จะต้องพ่ายแพ้ย่อยยับนั่นอยู่ที่ไหน ?” นาธานกล่าวด้วยความลุ่มหลงอย่างชัดเจน
“คู่ต่อสู้ของนายอยู่ที่นี่” เธอพูดพลางชี้ไปที่โมบี้ที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ
โมบี้นั้นยืนอยู่ข้าง ๆ เจย์เดนมาสักพักแล้ว แต่นาธานไม่สังเกตเห็นเขาเลยสักนิด เขาให้ความสำคัญกับความสวยงามของเจย์เดนมากเกินไปที่จะใส่ใจกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
ตั้งแต่วินาทีที่นาธานเข้ามาในห้อง โมบี้ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่หัวเราะออกมา เอวิเลียนั้นดูเหมือนกำลังจะขาดใจตายจากเสียงหัวเราะที่ดังอยู่ภายในหัวของเขาซึ่งสำหรับโมบี้นั้นเสียงของเธอมันทำให้เขากลั้นหัวเราะได้อย่างยากลำบากมาก โชคดีที่โมบี้กัดกรามของเขาไว้แน่นและยังสามารถตีหน้าตายเอาไว้ได้
“มันหรอ!? ผมคิดว่าคุณโยนไอ้คนนี้ทิ้งไปแล้วซะอีก?!” นาธานถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“ฉันตัดสินใจที่จะเก็บเขาไว้สำหรับเวลาพิเศษในโอกาสที่พิเศษแบบนี้ ถ้านายไม่สามารถเอาชนะสัตว์เลี้ยงตัวก่อนของฉันได้ นายจะเป็นผู้ชายแบบไหนสำหรับฉันกันล่ะ ?” เจย์เดนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ที่รัก ด้วยความเคารพ ผมไม่เชื่อว่าการเอาชนะคลาส F ที่อ่อนแอแบบนี้จะนับเป็นการพิสูจน์ความแข็งแกร่งของผมได้โปรดเลือกใหม่เถอะ! ผมสามารถจัดการกับคนที่แข็งแกร่งมากกว่าไอ้กระจอกนี่ได้!” นาธานพูดพลางถ่มน้ำลายไปที่โมบี้
โมบี้รีบหลบน้ำลายและพูดว่า
“อะไรนะ?! แกกระจอกเกินกว่าจะสู้กับฉันได้งั้นเหรอ เพราะนั่นคือสิ่งที่ฉันได้ยินจากที่แกพูด!” โมบี้ กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมา
“หุบปากซะ! แกจำไม่ได้เหรอ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแกเมื่อครั้งสุดท้ายที่แกตัดสินใจที่จะมีปัญหากับฉัน นาธานกล่าวพลางหันมาเผชิญหน้ากับโมบี้
“ฉันดีใจที่ได้รู้ว่านายคิดว่านี่มันเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้น ถ้านายสามารถเอาชนะ “ไอ้กระจอก” นี่ได้ ฉันก็จะเป็นของนายทั้งตัวและหัวใจ!” เจย์เดนกล่าวขณะบิดร่างกายของเธอให้ดูยั่วยวนมากยิ่งขึ้น
“ไม่ต้องพูดแล้วสุดที่รักของผม ไอ้ขี้แพ้คนนี้จะต้องนอนร้องไห้อยู่บนพื้น แล้วจูบเท้าพลางขอให้ผมให้อภัยในเวลาไม่นานนักหรอก!” นาธานกล่าวด้วยความมั่นใจเต็มที่
ทันทีที่เขาพูดอย่างนั้น เจย์เดนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาราวกับไม่เคยได้ยินเรื่องตลกที่ไหนจะตลกเท่านี้มาก่อนเลย
ใบหน้าของโมบี้เริ่มมีสีแดงเล็กน้อยจากการที่เขาพยายามกลั้นเสียงหัวเราะ เอวิเลียนั้นหัวเราะหนักยิ่งกว่าเดิม นั่นทำให้โมบี้เกือบจะไม่สามารถที่จะตีหน้าตายเอาไว้ได้
‘ไอ้โง่นี่มันจะตลกมากเกินไปแล้ว!! ฉันไม่สามารถจะทนมันได้มากกว่านี้แล้ว!’ โมบี้คิด
นาธานไม่พบว่ามันจะผิดแปลกอะไรไปจากลักษณะนิสัยของเจย์เดนที่จะหัวเราะเสียงดังออกมา เขาคิดว่าเธอกำลังหัวเราะพลางนึกภาพตามที่เขาเพิ่งจะพูดไป เขาเพิ่งจะรู้ว่าเธอนั้นน่ารักมากแค่ไหนขณะที่ทำเช่นนั้นพลางเผยรอยยิ้มที่น่าขนลุกนั่น มันเหมือนกับว่าเขาถูกเสน่ห์ของเธอล้างสมองไปจนหมดสิ้นแล้ว
นาธานยังเข้าใจผิดว่าใบหน้าแดงเล็กน้อยของโมบี้นั้นเป็นเพราะโมบี้นั้นเริ่มที่จะโกรธและอับอายซึ่งนั่นทำให้รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
“คฤหาสน์ของฉันมีสนามประลองเป็นของตัวเอง การต่อสู้ทั้งหมดจะเกิดขึ้นที่นั่น ฉันไม่ยอมให้พวกนายต่อสู้กันในห้องนอนของฉันหรอกนะ” เจย์เดนกล่าวขณะที่ยังหัวเราะคิกคัก ในขณะที่เธอยังไม่สามารถหยุดเสียงหัวเราะดังลั่นก่อนหน้านี้ได้
“แล้วแต่คุณเลยที่รัก! มันคงไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นได้หรอก” นาธานพูดด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส
“คุณหนูเจย์เดนจะเป็นไรไหมถ้าผมจะอยู่ที่นี่อีกสักพักเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการต่อสู้ ผมสัญญาว่าจะรีบตามพวกคุณไปทันทีหลังจากที่ผมจัดการเสร็จแล้ว ผมจะไม่ใช้เวลามากนานเกินไป” โมบี้กล่าวด้วยใบหน้าที่ดูสงบแต่ทว่าแดงก่ำยิ่งกว่ามะเขือเทศ
“ก็ได้ แต่อย่าใช้เวลานานเกินไปนักนะ” เจย์เดนพูดขณะออกจากห้องไปพร้อมกับนาธาน
ทันทีที่พวกเขาออกจากห้อง โมบี้ก็เริ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันทีพลางลงไปกลิ้งเกลือกอยู่บนพื้นอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาไม่อาจอดทนรอให้พวกเขาทั้งสองเดินไปไกลมากพอ เขานั้นหัวเราะทันทีที่ประตูถูกปิดลงเพราะเขารู้ว่าห้องนั้นสามารถกันเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
*************************
“หึหึ มันช่างเป็นอะไรที่น่าตลกมากใช่ไหมล่ะ ใบหน้าของเขาแดงไปหมดจากความโกรธและความอับอาย ผมคงจะใจร้ายกับเขามากไปหน่อยที่ทำร้ายความรู้สึกของเขาขนาดนั้น!” นาธานพูดกับเจย์เดนพลางหัวเราะเสียงดัง
“โอ้ใช่ เขาต้องเป็นแค่ไอ้กระจอกอย่างแน่นอน!” เจย์เดนกล่าวด้วยรอยยิ้มที่น่าอึดอัดใจ
ตลอดทางไปยังสนามประลอง นาธานนั้นจ้องมองไปที่เจย์เดนด้วยสายตาราวกับนักล่าซึ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจนแทบอยากจะตัดหัวของเขาที่นี่และตอนนี้
ในที่สุดเมื่อพวกเขามาถึงสนามประลองสายตาของนาธานก็เห็นเข้ากับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ทรวดทรงของเจย์เดน
สถานที่นี้มันเล็กกว่าเมื่อเทียบกับสนามประลองของโรงเรียนเตรียมทหาร แต่ก็ยังใหญ่โตเท่าขนาดสนามฟุตบอลประมาณครึ่งสนาม แต่แทนที่มันจะเป็นสีฟ้า ๆ เหมือนของสนามกีฬาที่โรงเรียน แต่ของที่นี่นั้นกลับเป็นสีม่วง ๆ นอกจากนี้มันยังจุที่นั่งได้ประมาณ 250 ที่รอบสนามประลองทั้งหมด พร้อมด้วยฟองป้องกันที่เอาไว้ป้องกันอัฒจันทร์เช่นเดียวกันกับที่โรงเรียน
‘ฉันรู้ว่าตอนที่มองจากข้างนอกที่แห่งนี้ดูใหญ่โต แต่ฉันไม่คิดว่ามันจะมีสนามประลองขนาดใหญ่แบบนี้ได้!’ นาธานคิดพร้อมกับจ้องมองไปที่สนามประลองด้วยสายตาตกตะลึง
นาธานและเจย์เดนนั่งอยู่บนม้านั่งข้างสนามประลองพลางพูดคุยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ รอให้โมบี้มาถึงในที่สุด
นาธานพยายามจีบและหยอดเจย์เดนอยู่ตลอดเวลาและยังพยายามจะจูบเธอถึงสองสามครั้ง เจย์เดนนั้นพยายามหลบเลี่ยงการจูบทั้งหมดและซ่อนความรังเกียจของเธอไว้หลังใบหน้าที่พยายามทำให้ปกติตลอดเวลาของเธอ
“มันผ่านไป 5 นาทีแล้ว! คุณแน่ใจหรือเปล่าว่าเขาจะยอมโผล่มาที่นี่ ?! ผมเกรงว่าเขาอาจจะกลัวจนหนีหางจุกตูดไปแล้ว! มันเป็นแค่ไอ้กระจอก! เพราะเมื่อครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นมัน… ” นาธานพูดพร้อมเล่าเรื่องราวที่เขาทรมานโมบี้พลางหัวเราะ และทำให้มันเป็นเรื่องตลกโดยพยายามทำให้ตัวเองดูเท่ในสายตาของเจย์เดน
*************************
หลังจากที่โมบี้สงบสติลงได้ในที่สุด เขาก็ออกจากห้องและวิ่งตรงไปยังสนามประลอง
ตลอดเวลานั้นเจย์เดนเอาแต่เล่าเรื่องต่าง ๆ ให้เขาได้ยินผ่านโทรจิตเช่นกัน
‘เร็วเข้า ไอ้หมอนี่มันน่ารำคาญมากจนฉันอาจเผลอไปฆ่าเขาได้’
ดังนั้นโมบี้จึงรีบวิ่งตรงไปยังสนามประลองด้วยความเร็วเต็มที่
‘รออีกหน่อย! ฉันกำลังจะรีบไปที่นั่น!’ โมบี้พูดกับเจย์เดนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เมื่อโมบี้มาถึงสนามประลองในที่สุด สถาการณ์มันก็แย่กว่าที่เขาคาดการณ์ไว้
เนื่องด้วยการได้ยินที่ดีขึ้นของเขา โมบี้นั้นจึงสามารถได้ยินบทสนทนาทั้งหมดของพวกเขา
“แล้วหลังจากนั้นเล็บที่ 7 เขาก็เริ่ม…”
นาธานคุยโวว่าเขานั้นทำให้โมบี้ปวดร้าวมากแค่ไหนและพยายามโน้มตัวเข้าไปใกล้เธอและจูบเธออยู่หลายครั้ง
เมื่อโมบี้ใช้ความคิดของพวกเขาในการอ่านอารมณ์ของเจย์เดน เขารู้สึกได้ถึงความโกรธอันมหาศาลที่มาจากเธอจนเกือบจะเกินระดับที่ทนไหว
‘เธอพยายามเก็บซ่อนความโกรธทั้งหมดแบบนั้นได้ยังไงกันนะ!’ โมบี้คิด
เจย์เดนสามารถทนต่อความพยายามของนาธานที่คิดว่าเขานั้นมีโอกาสที่จะลงเอยกับเธอได้อย่างไร และเธอก็คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกทุกครั้งที่เขาบอกว่าเขาสามารถเอาชนะโมบี้ได้ แต่สิ่งที่เธอทนไม่ได้มากกว่าสิ่งใดคือการที่เขาดูถูกและโอ้อวดเกี่ยวกับการทรมานเพื่อนเพียงคนเดียวของเธอ
“ผมขอโทษที่มาช้า!” โมบี้กล่าวพลางแสร้งทำเป็นเหนื่อยจากการวิ่ง
“โอ้ดูเหมือนว่าในที่สุด โมบี้ก็มาถึงที่นี่แล้ว! ตอนนี้เราสามารถเริ่มการต่อสู้ได้แล้ว!” เจย์เดนกล่าวแล้วยืนขึ้นและมุ่งหน้าไปยังสนามประลอง
“เดี๋ยวก่อนสิ! นี่ผมกำลังเล่าไปถึงส่วนที่สนุกอยู่แล้วเชียวนะ” นาธานพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวัง
“ไม่เป็นไรหรอกน่า! นายสามารถเล่าให้ฉันฟังถึงส่วนที่เหลือหลังจากการประลองจบลงก็ยังได้!” เจย์เดนกล่าวด้วยรอยยิ้มน่ารัก
ตอนนี้ทั้งโมบี้และนาธานยืนอยู่คนละฟากของสนามประลองเพื่อรอสัญญาณเริ่มต้น
นาธานยืนตั้งท่าต่อสู้ในขณะที่โมบี้นั้นยืนอยู่ตรงนั้นเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรเลย
“ทำไมแกเอาแต่ยืนยิ้มปัญญาอ่อนแบบนั้น ฉันทำให้แกกลัวมากเกินไปจนขยับตัวไม่ไหวงั้นเหรอ!” นาธานกล่าวพลางหัวเราะเสียงดัง
โมบี้เพียงแค่ยืนอยู่เฉย ๆ ด้วยรอยยิ้มเหยียดหยามที่มันได้กลายเป็นเสียงหัวเราะแบบซาดิสต์อย่างรวดเร็ว
‘มันบ้าไปแล้วเหรอ! มันคงจะเสียสติไปแล้วที่รู้ว่าไม่มีโอกาสชนะ และฉันนั้นจะเป็นคนจัดการเอาชนะและคว่ำมันลงไปกองกับพื้น‘ นาธานคิดด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ
เจย์เดนชูปืนขึ้นกลางอากาศเพื่อส่งสัญญาณเริ่มการแข่งขัน
“3”
“2”
“1”
“เริ่มได้!” เจย์เดน กล่าวด้วยรอยยิ้มราวกับปีศาจที่บิดเบี้ยว