the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 346 ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่ออกแรง
ในที่สุดฤดูหนาวอันยาวนานของภาคเหนือมาถึงจุดสิ้นสุด เริ่น เสี่ยวซู่เห็นว่าริมแม่น้ามียอดพืชผลิออกมา พวกแมลงจาศีลก็ค่อยๆ ตื่น
น้าหลากของฤดูใบไม้ผลิใกล้มาเยือนแล้ว บรรดาภูเขาหิมะที่ยืด ยาวนับพันลี้ของตะวันตกเฉียงเหนือก็ค่อยๆ ละลาย แสงอาทิตย์สาด ส่องแม่น้าน้อยนับพันสาย พวกมันจะไหลไปทางตะวันออกและ รวมกันแม่น้ากรรโชกสายหนึ่ง
มีคนเคยกล่าวว่าแม่น้าสายนี้คือแม่น้าจากสวรรค์ที่จะไหลสู่ ตะวันออกอย่างไม่หยุดยั้ง
หุบเขาที่แห้งแล้งมาหลายเดือนจะได้รับน้าจานวนมหาศาลในฤดู ใบไม้ผลิ นี่เป็ นช่วงที่ดีที่สุดในการทาการเกษตร เมื่อเวลามาถึง แหล่งน้าปริมาณมหาศาลจากแม่น้านี้ก็จะไหลเข้าคูน้า เปลี่ยนแปลง ช่องดินแห้งผากให้กลายเป็ นก้นแม่น้า
เริ่นเสี่ยวซู่และพวกโจรต้องก่ออิฐดินเหนียวให้ทันก่อนน้าหลาก ฤดูใบไม้ผลิมาถึง
พอพวกกิ่งไม้ท่อนไม้ลอยลงมาตามน้าหลากฤดูใบไม้ผลิแล้ว ก็ จะถึงเวลาเผาอิฐได้
มีคนพูดว่าไม่เห็นต้องล าบากเผาอิฐเลย เอาดินมาท าบ้านดินก็ ได้ไหม อย่างไรทุกคนก็อาศัยกันมาแบบนี้ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว
แต่เริ่นเสี่ยวซู่พูดว่า “ทาไมคนในป้ อมปราการมีบ้านอิฐอยู่แต่ พวกเราไม่มีล่ะ พวกเราไม่ได้แค่จะสร ้างบ้าน พวกเราจะสร ้างปราการ ป้ องกันด้วย”
ตอนที่ผู้อพยพถามว่าเขาจะสร ้างป้ อมปราการใหม่ที่นี่เหรอ ทา เอาเริ่นเสี่ยวซู่ประหลาดใจ เขายิ้มและว่า “อยู่อาศัยในแดนรกร ้างก็ดี อยู่แล้วนี่ ทาไมต้องสร ้างกาแพงมาล้อมกรอบทุกคนด้วยล่ะ”
พอพูดจบผู้อพยพก็เงียบไป แต่หลังจากนั้นก็ตั้งใจทางาน มากกว่าเดิม
พวกโจรวางปื นและลงไปขุดตะกอนดินแถบริมแม่น้าด้วยเท้า เปล่า หลังจากขุดตะกอนดินมาได้หลายตะกร ้า ก็จะกลับขึ้นมาบน พื้นแห้งและปั้นอิฐดินเหนียว
ขุดตะกอนดินพูดแล้วฟังง่าย แต่ท าจริงยากกว่ามาก พวกโจร เอาแต่ปืนมาที่นิคมไม่ได้พกพลั่วมาด้วย ถ้าอยากจะขุดตะกอนดินก็ ใช ้ได้แค่มือเปล่าแล้ว
แต่ว่าอากาศหนาวยะเยือก ถึงโจรดุร ้ายจะหนาวตัวสั่นขนาดไหน ก็ต้องก้มหน้าก้มตาท างานต่อไป
“ถ้าบีบคั้นพวกเขาไปเรื่อยๆ แบบนี้จะไม่ยอมแพ้กันหมดเหรอ” หยางเสียวจิ่นถาม
“ไม่หรอก” เริ่นเสี่ยวซู่ยิ้ม “ยิ่งพวกเขาเหนื่อยขนาดไหน ก็ยิ่งเชื่อ ว่านี่เป็ นเรื่องจริงมากเท่านั้น ยิ่งพวกเขาผ่อนคลายเท่าไร ย่อมต้อง สงสัยว่าเรื่องมันไม่เป็ นอย่างที่คิดมากเท่านั้น”
“แต่ยังไงสักวันหนึ่งพวกเขาก็จะรู ้ความจริงอยู่ดี” หยางเสียวจิ่น ว่า
เริ่นเสี่ยวซู่หันไปหาหยางเสียวจิ่นและพูดอย่างจริงจังว่า “ฉัน อยากสร ้างบ้านที่นี่ ก่อนหน้านี้มันแค่ความคิดเลือนลาง แต่พอเห็น พวกเขาท างานแล้วความคิดก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลานั้นมาถึง ฉันจะให้ค าอธิบายดีๆ กับพวกเขาเอง”
นี่เป็ นก้าวแรกในการฝึ กโจรพวกนี้ของเริ่นเสี่ยวซู่ด้วย เขา อยากจะเปลี่ยนนิสัยขี้เกียจและรู ้จักแต่ปล้นชิงผู้อื่น ให้พวกเขาผ่าน ความลาบากหลายหลายรูปแบบที่นี่ พวกเขาจะสามารถปูรากฐาน แห่งมิตรภาพได้
หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน พวกโจรก็บ่นออดแอดไม่หยุด ขนาด จินเหลียนเองก็เริ่มใจเรรวน พอมองโคลนที่เปื้อนมือเท้าก็รู ้สึกเหนื่อย จนแทบอยากร ้องไห้ “ทาไมเราไม่กลับไปเป็ นโจรแทนที่จะเข้าไปใน ป้ อมปราการ 178 เวรนั่นล่ะ นี่มันหนักเกินไปแล้ว!”
“ใช่” มีคนล้มลงที่ริมขอบแม่น้าจากนั้นก็แหงนหน้าเหม่อมองฟ้ า “พวกเรากาลังทาอะไรอยู่เนี่ย”
ตอนนี้จินเหลียนและจางอี้เหิงเป็ นหัวหน้าหน่วยหนึ่งและหน่วย สอง พอคนอื่นๆ เห็นว่าหัวหน้าเริ่มท้อ ความมุ่งมาดเดิมก็ท้อถอยไป กว่าเดิม
ตอนเที่ยงผู้อพยพจานวนหนึ่งจากนิคมก็แบกตระกร ้ามาหาพวก เขา จากนั้นก็วางพวกมันลงกันพื้น จินเหลียนถามด้วยความสงสัย “เพื่อน อะไรล่ะนั่น”
ผู้อพยพจิตใจดียิ้มอย่างเขินอายและว่า “พวกเรายังไม่ได้ ขอบคุณพวกนายที่ช่วยขุดคูน้าเลย พวกเราอบวอโถวมาให้น่ะ ถ้า รสชาติแย่ไปก็ขออภัยด้วยนะ”
จินเหลียนนิ่ งไป เขาไม่รู ้เลยว่าจะตอบกลับอย่างไรใน สถานการณ์แบบนี้ พออ้าปากออกมาก็มีแต่คาผรุสวาท “จะเกรงใจ อะไรกันนักกะหนาวะ ไม่ต้องมาเกรงจงเกรงใจอะไรฉัน วางวอโถวไว้ และอยากจะให้ช่วยอะไรก็ตะโกนมา”
จินเหลียนพูดราวกับว่าเขาแค่ท างานของตัวเองเฉยๆ ไม่ได้คิด อยากจะช่วยพวกผู้อพยพอะไรเลย นี่ทาให้ผู้อพยพสะดุ้งเฮือก
ตอนนี้เองก็มีคนถามจินเหลียน “พี่ใหญ่ คืนนี้พวกเราหนีกัน ไหม”
แต่จินเหลียนชะงักไปแวบหนึ่งก่อนจะว่า “ดูอีกสักสองวัน ตอน นั้นจะหนียังทัน! เพื่อนบ้านเราอุตส่าห์ท าวอโถวมาให้ อย่างน้องก็ควร สร ้างบ้านให้พวกเขาก่อน!”
หลังจากทางานมาจนตกเย็น ทุกคนก็นอนนิ่งบนพื้นคร ้านจะ ขยับแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่มาที่ริมแม่น้าและเห็นอิฐดินเหนียววางเรียงราย บนแผ่นไม้ “ลุกขึ้นมาเอากระสุนไป รายงานจานวนอิฐของตัวเอง อิฐ สิบก้อนได้กระสุนหนึ่งนัด”
มนุษย์เป็ นสิ่งมีชีวิตประหลาด เดิมทีกระสุนพวกนี้ไม่มีค่าอะไร แม้แต่น้อย ต่อให้ตอนท างานไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่พอได้แลก อิฐกับกระสุนแล้วทุกคนก็ยินดีกันไม่น้อยเชียว
จินเหลียนลุกขึ้นและว่า “ผม! วันนี้ผมทาอิฐดินเหนียวได้สามสิบ ก้อน จะทาได้มากกว่านี้อีกถ้ามันขุดง่ายกว่านี้!”
เริ่นเสี่ยวซู่พยักหน้า “อืม ได้กระสุนสามนัด”
จินเหลียนมองกระสุนสีทองเหลืองในมือ ความรู ้สึกแห่งการบรรลุ เป้ าหมายสายหนึ่งนี้ทาให้เขารู ้สึกซาบซึ้งขึ้นมา
ก็แค่กระสุนธรรมดาสามนัดเอง ทาไมเขาถึงรู ้สึกแบบนั้นได้นะ
นี่เป็ นแผนที่เริ่นเสี่ยวซู่คิดไว้ ถ้าพวกเขาเอาแต่ท างาน พวกโจร คงได้หม่นหมองแน่เพราะมองไม่เห็น ‘ความคืบหน้า’ และ ‘เป้ าหมาย ปลายทาง’
แต่การแบ่งความคืบหน้าเป็ นกระสุนร ้อยนัดให้พวกโจรท าให้ ส าเร็จ พวกเขาก็จะมีเป้ าหมายให้มุ่งไป
ตอนนี้จินเหลียนเริ่มคิดคานวณแล้ว วันหนึ่งเขาได้กระสุนสาม นัด ถ้าชินกับงานแล้วน่าจะสะสมได้วันละห้านัด ไม่ถึงเดือนเขาก็จะ รอดพ้นแล้ว
เดือนหนึ่งมันจะนานแค่ไหนกันเชียว คิดแล้วจินเหลียนก็รู ้สึกว่า ตนเองยังทนได้อีกหน่อย อย่างมากถ้าไม่เป็ นไปตามแผน ค่อยหนี หลังผ่านไปเดือนหนึ่งก็ได้ อย่างไรก็ไม่สายไปหรอก
เขาหันไปมองคนอื่น พอเห็นจางอี้เหิงได้กระสุนแค่สองนัดก็ หัวเราะ “เพื่อนยาก เหมือนจะอาการไม่ค่อยดีนะเนี่ย ไหงได้กระสุนแค่ สองนัดเองล่ะ”
จางอี้เหิงโมโหหน้าดาหน้าแดง “แค่ยังไม่ชินกับงานหรอกโว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันได้กระสุนมากกว่านายแน่”
จากนั้นจางอี้เหิงก็หันไปมองด้านข้างและเห็นว่าบางคนไม่ได้ กระสุนเลยด้วยซ้า เขาก็หัวเราะเช่นกัน “ฉันยังไม่ใช่คนแย่สุดละกัน!”
เริ่นเสี่ยวซู่ไม่เอ่ยอะไร เขาไม่คิดวิจารณ์คนที่ทางานได้น้อยกว่า และไม่คิดชื่นชมคนที่มีผลงานมากว่าด้วย
จินเหลียนหัวเราะพลางเดินมาหาเริ่นเสี่ยวซู่ “พี่ใหญ่ คิดว่าผม เป็ นไง วันนี้ผมมีผลงานมากสุดเลยนะ”
เริ่นเสี่ยวซู่พูดเสียงเรียบเฉย “ต้องเข้าใจว่าฉันแค่กาลังให้โอกาส พวกนายได้ผ่านการทดสอบ ไม่ได้ช่วยอะไรฉันทั้งนั้น” จากนั้นเริ่น เสี่ยวซู่ก็เดินจากไป
จินเหลียนนิ่งไปจากคาพูดปลุกตื่นของเริ่นเสี่ยวซู่ หลังหลุดจาก ภวังค์แล้วก็พูดอย่างตะลึงว่า “พี่ใหญ่ ขอบคุณที่ให้โอกาสพวกเรา!”
[ได้รับเหรียญค าขอบคุณจากจินเหลียน +1!]
ทันใดนั้นเองจินเหลียนก็หันกลับไปคารามว่า “ฟ้ ายังไม่มืดเลย ทุกคนกลับไปก่อน ฉันจะท างานอีกหน่อย!”
พวกโจรมองหน้ากันเอง พวกเขาเหนื่อยกันมาก แต่ได้ยินคานั้น ก็รู ้สึกถูกกระตุ้นขึ้นมานิดหน่อย แต่ว่าตอนนี้เองหยางเสียวจิ่นกลับ โผล่มาพร ้อมเอ่ยว่า “หยุดท างาน ทุกคนล้างมือให้สะอาดเตรียม ตัวรับการสอน”