the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 267 มีทักษะเยอะไม่เสียหาย
หลี่ชิงเจิ้งคิดว่าพอถึงที่มั่น 313 แล้วพวกตนจะได้รับการต้อนรับอย่างดี ถึงกับคิดด้วยซ้ำว่าพวกเขาคงจะส่งอาหารอุ่นๆ มาให้รับประทาน อย่างไรระหว่างทางมานี้พวกตนก็ได้รับการปฏิบัติอย่างดีมาโดยตลอด
ทว่าพอเริ่นเสี่ยวซู่นำทหารกองกำลังส่วนตัวมาถึงที่มั่น 313 หลี่ชิงเจิ้งก็พบว่าทหารในค่ายดูจะไม่ต้อนรับพวกเขาเลย สีหน้าท่าทางต่างไปจากพวกคนในฐานปฏิบัติการหน้าที่พวกเขาแวะไปมาก
ทหารในรถบรรทุกที่ขับผ่านจ้องมาด้วยสายตาเย็นเยียบ พอทหารกองกำลังส่วนตัวไปถึงค่าย ก็ไม่มีใครออกมาต้อนรับแม้แต่คนเดียว
หลี่ชิงเจิ้งเกาหัวแกรกๆ อยู่หน้าค่าย “อะไรกันล่ะเนี่ย ไหงที่นี่ไม่ต้อนรับเราล่ะ”
เริ่นเสี่ยวซู่หัวเราะ “คนอื่นอาจต้อนรับเรา แต่ทหารในที่มั่น 313 ไม่มีทางหรอก ก็อย่างที่เฉินอู๋ตี๋พูดไป ขนาดนายยังเดาออกเลยว่าเราถูกส่งมาเป็นเป้ามีชีวิต ผู้บังคับบัญชาของที่มั่น 313 ก็ย่อมคิดออกเหมือนกัน”
ในที่สุดหลี่ชิงเจิ้งก็เข้าใจแล้วว่าทำไมที่ฐานปฏิบัติการหน้าถึงต้อนรับพวกเขานัก เป็นเพราะทุกคนกำลังรอดูผลงานของพวกเขาบนสนามรบนี้ แต่พวกเขาไม่เป็นที่ต้อนรับในที่มั่น 313 ก็เพราะการมาถึงของพวกเขาเท่ากับการอาจมาถึงของกำลังชุดใหญ่จากชิ่งเจิ่น
อีกไม่นานพวกตนต้องสู้รบอย่างดุเดือด ทหารในที่มั่น 313 จะเอาอารมณ์ที่ไหนมาดีล่ะ
แต่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่สนเรื่องนี้แม้แต่นิด เขาพุ่งตรงไปยังป้อมยาม ทำตามระเบียบเข้าค่าย และนำทหารกองกำลังส่วนตัวห้าร้อยนายของตนเข้าไป
ตอนนั้นเองก็มีนายทหารมาบังทางเริ่นเสี่ยวซู่ไว้ เขามองข้างหลังเริ่นเสี่ยวซู่และคนอื่นๆ ที่ยืนเก้กังไร้วินัย มองอย่างไรก็ไม่เหมือนหน่วยรบที่จะรบกับใครได้
ถึงเริ่นเสี่ยวซู่และพรรคพวกจะเคยปราบหน่วยรบพิเศษของสมาคมตระกูลชิ่งมาแล้ว ธรรมชาติของผู้อพยพก็ยังคงอยู่ไม่แปรเปลี่ยน นอกจากอากัปกริยาไม่น่าดูแล้ว ชุดยังไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยอีก
เดิมทีนายทหารในที่มั่น 313 คิดว่า จะมาก็มาเถอะ มีกลุ่มทหารชั้นยอดถูกส่งมาที่นี่ก็ไม่เลวนักหรอก
แต่ดูไปดูมา กองพัน ‘วีรบุรุษ’ ในการต่อสู้รอบล่าสุดคงพึ่งดวงอยู่อย่างเดียว!
นายทหารขมวดคิ้วมองเริ่นเสี่ยวซู่แล้วว่า “นายคือเริ่นเสี่ยวซู่สินะ”
“ใช่ ฉันเอง” เริ่นเสี่ยวซู่ยิ้ม
“ฝึกทหารตัวเองมายังไง” นายทหารแค่นเสียง “ยืนยังไม่เป็นระเบียบเลย ไม่ฝึกทหารบ้างเหรอไง”
“นายเป็นใคร” เริ่นเสี่ยวซู่ไม่พอใจ “คิดดูถูกกองพันวีรบุรุษเราเหรอ”
นายทหารสะอึกเล็กน้อยก่อนตอบ “ฉันหมาข่ายเป็นผู้บังคับบัญชาของที่มั่น 313 ยศพันเอกพิเศษ! ฉันเป็นคนดูแลการก่อตั้งที่มั่น 313 มาตั้งแต่ต้น รู้จักการป้องกันของที่นี่ประดุจหลังมือตัวเอง”
เริ่นเสี่ยวซู่ยกมือประสานแน่นแล้วว่า “ลำบากแล้ว ลำบากแล้ว ช่างเป็นคนนอบน้อมถ่อมตนที่ทางสมาคมต้องการ!”
หมาข่าย “???”
ที่เขาพูดไปเพราะอยากให้เริ่นเสี่ยวซู่รู้ว่าตนเองเป็นผู้ตัดสินใจของที่มั่น 313 ต่อให้มีเอ็งเป็นกองพันวีรบุรุษ ก็ยังต้องฟังคำสั่งเขาอยู่ดี ไฉนถึงมาลงเฉยด้วยการเริ่นเสี่ยวซู่มาแสดงความเห็นอกเห็นใจเขาล่ะ!
หมาข่ายพูดด้วยหน้าทะมึน “ไม่ต้องแสร้งโง่งม ฉันไม่รู้หรอกว่านายปราบหน่วยรบพิเศษของสมาคมตระกูลชิ่งได้ยังไง แต่คนของนายไม่ต่างไปจากขี้หมูขี้หมาที่เบื้องบนส่งมาถ่วงพวกเรา หวังว่าจะสำเหนียก ไม่คิดว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษจริงๆ หรอกนะ ผู้ช่วยจาง พาพวกเขาไปที่ที่สมควรอยู่ซะ และถ้าไม่มีธุระผายลมอะไรก็ไม่ต้องออกมาสร้างปัญหาให้พวกเรา”
ไม่มีทหารกองกำลังส่วนตัวสักคนกล้าปริปาก ถึงพวกเขาจะได้รับเกียรติมาตลอดทาง แต่พอมาถึงที่นี่ก็ต้องถูกดึงลงมาสู่โลกความเป็นจริงอีกครา แต่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่พูดอะไร เพียงสังเกตสภาพภูมิประเทศระหว่างผู้ช่วยจางพาเดินขึ้นไปทางเหนือ
ที่มั่น 313 เป็นชื่อทั่วไปที่ตั้งให้กับที่มั่นป้องกันแห่งนี้ มันเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับแนวป้องกันตลอดทั่วทั้งแนวหน้าที่เขาชวงหลง และตั้งอยู่จุดเหนือสุดของทั้งสนามรบ ทั้งยังอยู่ใกล้กองกำลังทหารของสมาคมตระกูลชิ่ง
ที่มั่นป้องกันทั้งหมดปกคลุมอาณาเขตกว่าพันหมู่[1] กินเข้าไปในพื้นที่ของเขาชวงหลง สงครามในยุคปัจจุบันแค่ปกป้องพื้นที่สูงไม่พอ ถ้าใครเป็นพวกไร้สมองทำแต่แบบนั้น คงได้โดนลูกกระสุนปืนใหญ่ถล่มตายเอา
แต่ถ้าคิดว่าป้องกันพื้นที่สูงไปไร้ค่ายามเจอปืนใหญ่ ก็เป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงเช่นกัน
บางครั้งขณะก๊งเหล้ากันอยู่ คนธรรมดาในป้อมปราการก็คุยกันเรื่อง ‘ทฤษฎีอำนาจขีปนาวุธ’ ทว่ามีแต่ผู้ผ่านประสบการณ์รบจริงเท่านั้นถึงจะเข้าใจว่า ถ้าจะให้ขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายอย่างแม่นยำ จำเป็นต้องเสียสละชีวิตมนุษย์จำนวนมากถึงจะระบุพิกัดแน่ชัดของศัตรูได้
นอกจากนี้ตามที่มั่นตั้งรับทางยุทธศาสตร์ต่างๆ ยังมีการติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศระยะใกล้ ทำงานต่อต้านขีปนาวุธประเภทความเร็วต่ำกว่าเสียงอย่างระเบิด ปืนครก และจรวดได้อย่างดี ซึ่งอาวุธเหล่านั้นไม่มีระบบระบุพิกัด ไม่มีทางผ่านระบบป้องกันทางอากาศนี้ได้เลย
มนุษย์ไม่ได้ศึกษาเพียงแค่การโจมตีหลากหลายรูปแบบเท่านั้น ในยุคปัจจุบัน ใครครอบครองระบบป้องกันที่ทันสมัยกว่า ก็จะถือแต้มเหนือกว่าถ้ามีอาวุธระดับเดียวกัน
ก็จริงอยู่ที่ว่าสมาคมตระกูลชิ่งจะยิงกระสุนปืนใหญ่ถล่มทั้งพื้นที่ก็ได้ แต่ใครจะมีกระสุนปืนใหญ่มากพอจะใช้ปูพรมทั้งสนามรบได้ล่ะ กระสุนหนึ่งลูกมันเงินทั้งนั้น!
ที่ก่อสงครามก็เพราะต้องการช่วงชิงผลประโยชน์ ถ้ารายจ่ายมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้ตอนจบสงคราม แบบนั้นก็ไม่เรียกว่าชนะแล้ว
เริ่นเสี่ยวซู่เดินไป ก็หันไปเห็นรถบรรทุกทหารขนาดกลางหน้าตาไม่คุ้น พวกมันจอดอยู่หลังบังเกอร์ แต่เขาไม่รู้ว่ามันไว้ใช้ทำอะไร
ทักษะที่คัดลอกมาจากหยางเสียวจิ่นไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลย เริ่นเสี่ยวซู่ยังมีคัมภีร์คัดลอกทักษะที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ เขากำลังคิดว่าควรใช้กับพันเอกพิเศษหมาข่ายเพื่อหาทักษะการสงครามเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างดีไหม
คิดแล้วเริ่นเสี่ยวซู่กล่าวในห้วงจิต “ใช้คัมภีร์คัดลอกทักษะ”
เสียงจากพระราชวังดังมา [สุ่มคัดลอกหนึ่งในทักษะของเป้าหมาย]
[สุ่มได้รับทักษะทายหมัดระดับมือใหม่จากเป้าหมาย ต้องการเรียนรู้เลยหรือไม่]
เริ่นเสี่ยวซู่นิ่งงันไป ทักษะทายหมัดคือเชี่ยอะไรวะ
อู่กุ๋ยโช่วลิ่วลิ่วลิ่ว[2]?!
เริ่นเสี่ยวซู่ใจเจ็บแปลบ ข้อห้ามการดื่มสุราของสมาคมตระกูลหลี่นี่โคตรจะใช้การไม่ได้[3] ขนาดนายทหารของสมาคมยังเล่นทายหมัดเลย ไม่มีใครคิดจะทำอะไรหน่อยหรืออย่างไร
คัดลอกได้ทักษะทายหมัดก็ช่างเถอะ แต่ระดับมือใหม่เนี่ยนะ ถ้าใช้ทักษะแบบนี้ไปแข่งดื่มสุรา คงได้แพ้แบบราบคาบ!
เริ่นเสี่ยวซู่รู้อยู่แล้วว่าโอกาสจะได้ทักษะดีๆ จากการใช้คัมภีร์คัดลอกทักษะนั้นต่ำมาก การคัดลอกพลังพิเศษของลั่วซินอวี่สำเร็จก็เรียกว่าใช้ดวงที่เก็บสะสมมาหลายปีจนหมดแล้ว ดังนั้นคราวนี้ไม่ได้ทักษะอะไรดีๆ จึงไม่ผิดหวังอะไรมากนัก
เริ่นเสี่ยวถามพระราชวัง “ทักษะนำทัพของหมาข่ายอยู่ระดับไหน”
[เคยคัดลอกทักษะจากเป้าหมาย ข้อมูลสามารถเปิดเผยได้ ทักษะบัญชาการกองทัพอยู่ในระดับสูง] พระราชวังตอบ
พอรู้ว่าเขามีฝีมือระดับสูงในด้านนี้ก็รู้สึกไม่คาดคิดอยู่บ้าง ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นผู้บังคับบัญชาของที่มั่น 313
สุดท้ายเริ่นเสี่ยวซู่ก็ยังเรียนรู้ทักษะทายหมัดอยู่ดี
ไม่เรียนก็เสียดายแย่ มีทักษะเยอะไม่เสียหาย
เขาถึงกับเรียนทักษะกระโดดเชือกมาแล้ว จะเรียนทักษะทายหมัดระดับมือใหม่ด้วยจะเสียหายอะไร การรักใฝ่เรียนไม่มีอะไรให้น่าอาย!
[1] หมู่ (亩) หรือไร่จีน = 666.67 ตารางเมตร
[2] อู่กุ๋ยโซ่วลิ่วลิ่วลิ่ว (五魁首六六六) เปรียบเทียบได้กับยังยีเยาปักเป่ายิ้งฉุบ
[3] ทายหมัด (猜拳) มักเล่นในวงสุรา ใครแพ้ต้องดื่ม