The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 567
ไม่มีทางที่เขาจะได้รู้คำตอบของคำถามเหล่านี้ สิ่งเดียวที่เขารู้ตอนนี้ก็คือแก่นแท้วิญญาณที่เหล่าอสูรเนรมิตรล้วนถวิลหาได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเขาแล้ว!
แต่หลังจากที่คิดถึงอะไรบางอย่าง ซือหยูพูดออกมา
“ถ้าหากไม่มีสิ่งอื่นที่เจ้าคิดจะทำ เจ้าก็จงอยู่ในมุกวิญญาณเก้าหยกต่อไป จนกว่าเจ้าจะแข็งแกร่งพอ ตัวตนของเจ้าจะทำให้เจ้าเองเป็นอันตราย!”
เพราะมันคือแก่นแท้วิญญาณที่ยังเด็กอยู่ ถ้าหากมนุษย์ได้พบเจอมัน ชะตาอย่างเดียวที่ต้องเจอก็คือการถูกไล่ล่าจับตัว กิเลนน้อยไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อได้ยิน เพราะมันก็หวังจะได้อยู่อย่างเป็นอิสระและไม่คิดจะอยู่ในมุกวิญญาณเก้าหยก
มันกลอกตาไปมาและกระโดดออกจากตัวซือหยู หมอกสีชมพูล้อมรอบกายสว่างไสว
ในเสี้ยววินาทีถัดมาก็มีร่างของหญิงสาวเดินออกมาจากหมอกแสงสีชมพู! นางมีใบหน้างดงามที่เหมือนกับไม่ใช่มนุษย์ นางงดงามเหนือว่าสตรีใด
“เซี่ยจิงหยู?”
ซือหยูตกตะลึง!
หญิงสาวที่เดินออกมาจากหมอกเหมือนกับเซี่ยจิงหยูอย่างไร้ที่ติ! ใบหน้างดงามและความสง่างามเหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะมองนางไหนก็คือนาง!
ความต่างเดียวก็คือแววตาอันงดงามของเซี่ยจิงหยูแทนที่ด้วยดวงตาสีชมพูของกิเลนน้อย เมื่อมาอยู่คู่กับเครื่องหน้าของเซี่ยจิงหยูก็ขับส่งให้ดูลึกลับ
ซือหยูตัวแข็งทื่อ จนเมื่อกิเลนน้อยดันตัวเองเข้าหาอ้อมแขนของซือหยูเขาจึงตระหนักได้ว่าเขาไม่สบายใจและผลักกิเลนน้อยออกไป
“แค่ก แค่ก….ทำไมเจ้าแปลงร่างเป็นร่างนี้กันเล่า?”
กิเลนน้อยยังปรับตัวไม่ทันและใช้สองมือทำท่าทาง มันอยากจะบอกว่ามันแปลงกายได้เก่ง ดังนั้นคนธรรมดาจะแยกไม่ออกมามันอยู่ในร่างจริงหรือร่างปลอม
แต่ซือหยูก็เป็นห่วงในเรื่องอื่น เขาถามให้เฉพาะเจาะจงลงไป
“ข้าอยากจะถามว่า ทำไมเจ้าถึงแปลงร่างเป็นเซี่ยจิงหยูต่างหาก”
กิเลนน้อยหันหน้าไปด้านข้างอย่างประหลาดและทำท่าทางต่อไปอย่างไม่ค่อยชัดเจน
“เจ้านาย…ในวิญญาณท่าน นี่เป็นคนที่…น่าจดจำ…ที่สุด”
ซือหยูหัวใจเต้นแรง เขาเสียสติไปทันที
คนสำคัญสำหรับเขาคือฉินเซี่ยนเอ๋อ! ไม่ใช่รึไงกัน? มันกลายเป็นเซี่ยจิงหยูตั้งแต่เมื่อไหร่?
เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้!
ซือหยูถึงกับคลั่ง เขาหลอกตัวเองได้แต่ไม่ใช่กับกิเลนน้อย! ตามที่มันรู้สึก กิเลนน้อยพบว่าเซี่ยจิงหยูนั้นมีค่ามากกว่าฉินเซี่ยนเอ๋อในวิญญาณของซือหยู ดังนั้นแล้วมันจึงแปลงกายเป็นเซี่ยจิงหยู!
ซือหยูเงียบไปนาน ใบหน้าของเขาขมขื่น ที่มุมปากตกลง
ขุนเขาราบเรียบ ฟ้าดินหลอมรวม มิเพียงส่วนหนึ่งได้อยู่ร่วมกัน..เมื่อเขาได้ยินสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งในหัวใจที่เปลี่ยนไป …ข้าควรจะรู้….
เขาต้องถามตัวเองว่าคนที่สำคัญที่สุดในหัวใจเขาใช่ฉินเซี่ยนเอ๋อจริงหรือไม่ แล้วเขาก็ยังสงสัยว่าเขาไม่เคยมีความรู้สึกต่อเซี่ยจิงหยูสักครั้งเลยหรือ ซึ่งความจริง มันมิใช่ว่าเขาไร้ความรู้สึกต่อนาง แต่เป็นเพราะเขาไม่ยอมรับ
แต่กระนั้น ระหว่างฉินเซี่ยนเอ๋อกับเซี่ยจิงหยู ข้ารักใครกันแน่?
มันเป็นคำถามที่ยากจะตอบ หัวใจของเขาใหญ่พอที่จะยอมรับคนคนเดียวเท่านั้น ถ้าหากเขายอมรับความรู้สึกต่อใครคนใดคนหนึ่ง นั่นก็ไม่มีพื้นที่ว่างพอสำหรับคนอีกคน
ตลอดมา เขาคิดว่าคนที่อยู่ในหัวใจของเขาคือฉินเซี่ยนเอ๋อ แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นเซี่ยจิงหยูตลอดมา!
เขารักเซี่ยนเอ๋อจริงงั้นหรือ? พวกเขาหมั้นกันในไม่กี่วันที่ได้รู้จัก จากนั้นพวกเขาก็แยกห่างกันไกลจนได้เจอกันอีกครั้งในระยะเวลาสั้นๆก่อนจะแยกจากกันอีก
จนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยได้คุยกับเซี่ยนเอ๋อจริงๆจังๆเลยสักครั้ง สิ่งเดียวที่ผูกมัดพวกเขาอยู่ร่วมกันก็คือความเป็นคู่หมั้น
ความเชื่อมั่นในตัวซือหยูจากฉินเซี่ยนเอ๋อและความคิดถึงซือหยูมาโดยตลอดของนางนั้นประทับใจซือหยูอย่างมาก มันยังเป็นรักอันอ่อนโยนต่อซือหยูและความรู้สึกรับผิดชอบต่อนางที่ทำให้ความสัมพันธ์ยังคงเหนียวแน่นอยู่
แต่ซือหยูในตอนนี้ตระหนักรู้แล้วว่าเขารู้สึกรับผิดชอบและต้องปกป้องฉินเซี่ยนเอ๋อมากกว่าความรู้สึกรักชอบ ส่วนเซี่ยจิงหยู ซือหยูรู้สึกถึงความรักโดยแท้จริง
มีหลายครั้งหลายคราที่นางได้เผชิญหน้าต่อความตายอย่างเต็มใจเพื่อเขา สิ่งเหล่านั้นติดตราตรึงใจซือหยูไม่เสื่อมคลาย นางผ่านร้อนผ่านหนาวกับเขาตลอดมา ตลอดมา นางดูอ่อนโยนนุ่มนวลทั้งที่นางแข็งแกร่งกว่าสตรีคนใด!
ถ้าหากความรู้สึกต่อฉินเซี่ยนเอ๋อเป็นแม่น้ำที่ไหลอย่างอ่อนโยนและทำให้หลงรักนางอย่างนุ่มนวล ความรู้สึกต่อเซี่ยจิงหยูก็เป็นดังคลื่นอารมณ์ที่ไม่มีวันลืมเลือนไปตลอดกาล
ความขมขื่นที่มุมปากแผ่ขยายมากขึ้นเมื่อเขายอมรับความรู้สึกจริงๆของตัวเองเป็นครั้งแรก นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเผชิญหน้ามากที่สุด!
“เจ้านาย เกิดอะไรขึ้น? ถ้าเจ้านายไม่ชอบ ข้าจะเปลี่ยนร่างเดี๋ยวนี้แหละ”
กิเลนน้อยไม่เข้าใจท่าทางของซือหยู
ร่างของมันเปลี่ยนไป ครั้งนี้มันกลายเป็นฉินเซี่ยนเอ๋อ ร่างกิเลนน้อยดูเหมือนเซี่ยนเอ๋อจริงๆ แม้แต่สีหน้าท่าทางก็เป็นฉินเซี่ยนเอ๋ออย่างสมบูรณ์แบบ
ซือหยูยังคงเงียบไปนาน ความยินดีที่ได้รับลูกแก่นแท้วิญญาณมาเป็นสัตว์เลี้ยงลดน้อยถอยลง เขาทำใจมองกิเลนน้อย
“จะดีกว่าถ้าเจ้าจะแปลงร่างอีกครั้งนะ”
กิเลนน้อยยอมรับอย่างว่าง่ายและเปลี่ยนเป็นมนุษย์อีกคน ครั้งนี้มันกลายเป็นลู่จือยี่!
จะเป็นนางได้ยังไง? ต่อจากฉินเซี่ยนเอ๋อก็คือลู่จือยี่งั้นรึ?
แต่ไม่นานซือหยูก็เข้าใจว่าความรู้สึกต่อนางถือความรู้สึกผิดมากกว่าความรักใคร่ ในบรรดาหญิงสาวทั้งหลาย ลู่จือยี่คือคนที่ซือหยูยังมิอาจลืมได้
และที่สำคัญกว่านั้นก็คือซือหยูได้พรากครั้งแรกของนางไปแม้ว่านางจะมีคนในใจอยู่แล้ว ซือหยูรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำต่อนางอย่างมาก นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่หยุดคิดถึงนาง
“อยากจะให้ข้าแปลงร่างอีกไหมเจ้านาย?”
กิเลนน้อยกระพริบตากลมโตและขยับมือไปมา ท่าทางของมันซุกซนและตรงกันข้ามกับลู่จือยี่ผู้เย็นชาโดยสิ้นเชิง
“ช่างเถอะ เจ้าจะอยู่ร่างนี้ก็ได้ แต่ถ้าให้ดี อย่างออกจากมุกวิญญาณเก้าหยกก็แล้วกัน”
ซือหยูสั่งกิเลนน้อย มันหัวเราะอย่างมีความสุขและเข้าใกล้เขา มันมองเขาอย่างไร้เดียงสา
ซือหยูผลักกิเลนน้อยออกไปอย่างหมดท่าและเปลี่ยนเรื่อง
“ใช่สิ ทำไมเจ้าถึงกระโดดใส่ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์เล่า? เจ้าชอบกินพวกผลไม้วิญญาณงั้นรึ?”
เขาเดาว่าสัตว์ลึกลับอย่างแก่นแท้วิญญาณอาจจะมีการกินที่ไม่เหมือนสิ่งอื่นใด แต่กิเลนน้อยก็ส่ายหน้าและดึงซือหยูไปที่หน้าสวน มันชี้หน่อทางด้านขวา
ซือหยูสับสน เขามองดูใกล้ๆและพบว่าไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ต้นขวามีสีที่หม่นหมองกว่า
กิเลนน้อยทำมือบอก สุดท้ายซือหยูก็เข้าใจและถาม
“เจ้าอยากจะบอกว่ามันมีปรสิตอยู่ในต้นอ่อนนี้รึ?”
กิเลนน้อยพยักหน้าและอ้าปากกว้าง พลังไร้ลักษณ์แล่นผ่านหน่อไผ่โดยไม่ทำให้ต้นไผ่เสียหาย มันไปถึงส่วนลึกในดิน
ทั้งหมดเห็นเป็นเพียงหมอกสีชมพูที่เปล่งประกาย จากนั้นหนอนขนาดเท่าเมล็ดข้าวก็โผล่ขึ้นมาจากหน่อไม้ ร่างอ้วนกลมของมันคลานไปมาบนพื้น ดูเหมือนมันเพิ่งจะกินอิ่ม
“ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ก็มีหนอนศัตรูพืชได้รึ?”
ซือหยูแปลกใจ
เมล็ดของไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์นั้นเป็นที่รู้จักในด้านความแข็งแรงทนทาน เขาสงสัยว่าหนอนประเภทใดที่ขุดไปถึงภายในและดูดซับพลังออกมาได้
เขามองดูไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่อ่อนแอด้วยความโกรธ เขายกขาเตรียมจะเหยียบหนอนเพื่อฆ่ามัน!
มันเป็นหนอนที่แปลกๆ ถ้าหากมันได้ขยายพันธุ์ในสวนนนี้ ซือหยูก็ห่วงว่าต้นไม้ทั้งหมดที่เขาปลูกจะถูกทำลาย
“หยุดก่อนนายท่าน!”
หวูอู๋ยี่รีบพูดออกมาหลังจากที่เห็นตัวหนอนและท่าทางของซือหยู
นางรีบวิ่งมาพร้อมกับกล่องหยก นางเก็บหนอนไว้ข้างในและมองดูมันให้ชัดเจน สีหน้านางเปลี่ยนไปมาก
“นายท่านโปรดรอสักเดี๋ยว ให้ข้าตรวจสอบมันอย่างละเอียดเสียก่อน ข้าจำบางอย่างได้จากตำรา ดูเหมือนว่ามันจะเป็นหนอนวิญญาณโบราณ!”
หนอนวิญญาณโบราณรึ? มันปรากฏตัวจากในเมล็ดไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่ถูกเก็บมานานหลายสิบปี การมีอยู่ของหนอนนั้นไม่คาดคิดมาก่อน และก่อนหน้านี้ก็ไม่มีหนอนอยู่ในมุกวิญญาณเก้าหยกเลย
หรือว่าหนอนวิญญาณโบราณจะหลับใหลอยู่ในไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์มาโดยตลอด?
และเมื่อไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์เริ่มงอก มันจึงตื่นขึ้นมางั้นรึ?