The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 474
ร้อยศอกนั้นไม่ได้ลึกนักตามมาตรฐานของซือหยู เขาขุดไปถึงห้องลับได้ในเวลาหนึ่งก้านธูป
ม่านแสงปรากฏที่ใต้เท้า ในม่านแสงคือห้องลับใต้ดินที่ถูกปิดผนึก มันไม่กว้างนักและมีพื้นที่เพียงสามสิบศอก มีเพียงศิลาและโต๊ะอยู่ภายใน
ไม่มีสิ่งใดบนเตียงศิลา แต่ก็มีตราหยกทองคำบนโต๊ะหิน มันคือตราหลวงที่สลักไว้ด้วยมังกรที่ดูมีชีวิต…มันทรงพลังและเหี้ยมโหด
ของที่เหลือบนโต๊ะนั้นผุพังไปตามกาลเวลา แต่ตราหยกนี้ปกคลุมด้วยสายฟ้าห้าสี มันจึงยังคงเหมือนใหม่
ซือหยูใจเต้นแรง นี่คือสมบัติพิเศษ!
ในม่านพลัง ซือหยูบอกไม่ได้ว่าคุณค่าของสมบัตินั้นอยู่ในระดับใด แต่สัญชาตญาณบอกเขาว่าตราหลวงหยกนั้นอาจจะเป็นของสำคัญที่สุดที่อยู่ที่นี่! เขาเพ่งสมาธิมองดูและยังพบตำราเก้าเล่มบนโต๊ะ แม้มันจะปกคลุมไปด้วยฝุ่น มันก็ยังไม่ผุกร่อนไป
เขามองดูม่านแสงอย่างเป็นกังวลและพบว่ามันมีพลังป้องกันมหาศาล มันกีดขวางทุกสิ่งจากโลกภายนอก เพราะถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ชั้นพื้นดินที่สูงร้อยศอกก็คงจะพังชั้นใต้ดินลับนี้ไปแล้ว
ซือหยูครุ่นคิดก่อนจะหยิบเอามีดเกล็ดทองออกมาทดสอบว่าจะสร้างรอยบนม่านพลังนี้ได้หรือไม่ แต่เมื่อคมมีดสัมผัสกับม่านพลังก็เกิดสะเก็ดไฟที่เหมือนกับการใช้คมมีดฟันเหล็ก แต่ม่านพลังไม่ได้ขยับแม้เพียงนิดเดียว ซือหยูลองต่อไปด้วยเพลงเก้าหยินหยาง แต่ม่านแสงก็แค่สั่นเพียงเล็กน้อย
ซือหยูหัวเราะอย่างขมขื่น เขาสิ้นความคิดไม่รู้จะทำสิ่งใด
ซือหยูนั่งสมาธิคิด เขาสร้างผนึกพลังด้วยทั้งสองมือ เงาโปร่งแสงปรากฏเหนือศีรษะ นั่นคือวิญญาณที่ออกจากร่าง ชั้นแสงนั้นต่อต้านการโจมตีทางกายภาพ แต่ถ้าหากเป็นธาตุวิญญาณเล่า?
วิญญาณของซือหยูออกแรง เขาผ่านม่านพลังไปยังห้องลับได้อย่างง่ายดายไร้สิ่งกีดขวาง! ซือหยูโล่งใจ มันง่ายมาก!
เขาเดินไปยังโต๊ะหินอย่างไม่ลังเล เขามองตราหยกและพยายามหยิบมัน แต่มือของเขาก็เพียงแค่ทะลุผ่านในร่างวิญญาณ เขาสัมผัสมันไม่ได้
ซือหยูถอนหายใจ เขายังต้องพยายามอีกมากมายกว่าจะไปถึงระดับของหยุนย่าสี ในระดับนั้นเขาจะโจมตีใส่สิ่งที่เป็นกายภาพได้ด้วยร่างวิญญาณ เขาจะต้องกลับไปมือเปล่าหลังจากเข้ามาในห้องลับได้สำเร็จงั้นรึ?
ซือหยูรำคาญจากสถานการณ์อันไม่เป็นธรรม เขามองดูตำราทั้งเก้าเล่ม ตำราเหล่านั้นวางอยู่ในลิ้นชัก แม้ลิ้นชักจะปิดอยู่ ซือหยูก็อ่านมันได้โดยใช้เนตรวิญญาณ
“หืม…มันเป็นคำอธิบายวิชาอัสนีทั้งหมดเลย!”
ซือหยูแปลกใจ เขาคิดว่าทั้งหมดคือตำราที่ทิ้งเอาไว้ แต่มันคือคำอธิบายทั้งหมด…มันอาจจะถูกเขียนโดยจักรพรรดิสายฟ้าเองก็เป็นได้!
ซือหยูตั้งสมาธิอ่านตำรา เขาไม่คาดหวังมากกับตำราเหล่านี้ในครั้งแรก แต่เมื่อยิ่งอ่านไปเท่าใดเขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น ในตำราทั้งเก้า เล่มแรกนั้นเป็นบทสรุปวิชาอัสนีแบบธรรมดา ส่วนเล่มที่สองคือคำแนะนำ เล่มที่สามคือประสบการณ์ของจักรพรรดิสายฟ้าในการบ่มเพาะวิชาเหล่านั้น เล่มที่สี่ห้าหกและเจ็ด…ทั้งสี่เล่ม….มันคือพลังของวิชาอัสนีที่จักรพรรดิสายฟ้าบ่มเพาะ! นี่ไม่ต่างอะไรกับสมบัติ!
ตำราเล่มที่แปดนั้นคือการแนะนำวัตถุดิบอัสนี ภายในมีทั้งข้อมูลของวัตถุดิบที่ใช้ปรุงโอสถและสร้างสมบัติเทพ มันมีองค์ความรู้ทั้งหมดในจิวโจวอัดแน่นอยู่
ซือหยูอ่านจนจบและอ่านไปถึงเล่มสุดท้ายที่เป็นเล่มที่เขาตื่นเต้นกับมันมากที่สุด มันคือเล่มที่เขียนถึงตราหลวงหยก!
‘ตราหลวงหยกคือต้นแบบที่ข้าสร้างขึ้นมา มันยังห่างไกลจากตราสายฟ้าห้าธาตุของจริงสามขั้น มันเป็นเพียงแค่กึ่งสมบัติวิญญาณเท่านั้น ถ้าถูกสร้างจนเต็มที่ ระดับอาจจะเหนือกว่าสมบัติวิญญาณ! มันจะเป็นสมบัติภูติที่ทำให้จิวโจวสั่นคลอน’
สมบัติภูติ? ซือหยูตกใจมาก ระดับของสมบัติภูติมันคืออะไรกัน?
ซือหยูแปลกใจยิ่งกว่าเดิมที่พบว่าตราหยกตรงหน้าเขาคือขั้นแรกเริ่มเท่านั้น! มันยังต้องการการปรับแต่งอีกสามขั้น
จากความรู้ของซือหยู การสร้างสมบัติในขั้นแรกๆนั้นจะเกี่ยวข้องกับการประกอบวัตถุดิบ หรือว่ามันจะกลายเป็นกึ่งสมบัติวิญญาณเพียงแค่วัตถุดิบเท่านั้น? ถ้าเพียงการประกอบวัตถุดิบก็ได้ผลอันน่ากลัวเช่นนี้ แล้วตราหยกแบบสมบูรณ์จะน่ากลัวเพียงใดกัน?
ซือหยูอ้าปากค้าง แม้แต่สมบัติเทพระดับสูงหรือเกราะราชาศิลานิรันดร์ก็ไม่ได้ทำให้เขาขนลุกเช่นนี้ ของสิ่งนี้ล้ำค่ากว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก!
ซือหยูหายใจแรง เขาต้องได้มัน! แต่เขามิอาจทำลายม่านพลังได้ เขาจะเอามันออกมาได้ยังไง?
ตู้ม–
ในตอนนั้นก็มีเสียงระเบิดพร้อมกับการสั่นสะเทือนในทั้งชั้นใต้ดิน เขาพบทางเดินที่อีกด้านของม่านพลัง มันคือประตูสู่ชั้นใต้ดิน มีคนกำลังพังมันมาจากอีกด้าน รอยแตกเล็กน้อยเกิดขึ้น
ซือหยูตกใจเมื่อเห็นคนที่อยู่หลังรอยแตก! กังต้าเหล่ย+
ซือหยูเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดในทันที การค้นหาสมุนไพรสายฟ้านั้นเป็นแค่เหตุผลเดียวในการมาที่นี่ เป้าหมายที่แท้จริงของชายแก่ขี้เมาคือสมบัติของจักรพรรดิสายฟ้า
ซือหยูเป็นกังวล ถ้ากังต้าเหล่ยเข้ามาได้ เขาก็จะเอาต้นแบบสมบัติไป!
แต่ทันใดนั้นเองก็มีความร้อนประหลาดในสมองซือหยู
“ยินดีด้วยที่ได้อ่านตำราทั้งเก้าและรับสืบทอดสมบัติของข้า!”
เสียงดังในหัวของเขา
ซือหยูตกใจ จักรพรรดิสายฟ้ายังคงมีตัวตนอยู่ที่นี่งั้นรึ?
“ต้นแบบสมบัติภูติจะถูกมอบให้กับเจ้าในฐานะส่วนหนึ่งของสมบัติ”
เสียงนั้นพูดต่อไป
“หวังว่าเจ้าจะทำงานของข้าให้สำเร็จและสร้างสมบัติชิ้นนี้ต่อไป”
จากนั้นก็มีเสียงมนต์ประหลาดดังในสมอง มันคือวิชาที่ใช้ควบคุมผนึกสายฟ้าห้าธาตุ
ตู้ม ตู้ม—
เสียงระเบิดยังคงดังจากประตูชั้นใต้ดิน ซือหยูท่องมนต์โดยไม่ลังเล เขารู้สึกถึงความเชื่องโยงระหว่างเขากับผนึกสายฟ้าห้าธาตุในพริบตา ซือหยูส่งความคิดของตัวเอง ตราหยกลอยขึ้นมา
ซือหยูดีใจมาก ในการควบคุมของเขา ตราหยกนั้นลอยตามทางไปยังกายหยาบของเขา เขาโล่งใจที่ม่านพลังนั้นไม่ได้กีดขวางตราหยก
ซือหยูตื่นเต้นมาก วิญญาณของเขากลับสู่ภายหยาบ เขาลืมตาและพยายามจะเก็บสมบัติในคันฉ่องจักรวาล แต่น่าแปลกที่สมบัตินั้นยังคงไม่ขยับเขยื้อน ดูเหมือนว่ามันจะเก็บในคันฉ่องจักรวาลไม่ได้
รอยสักมุกวิญญาณเก้าหยกบนแขนส่องแสง ต้นแบบสมบัติภูติถูกดูดกลืนลงไป ความกังวลของซือหยูคลายลง
ตู้ม—
เสียงระเบิดครั้งใหญ่ดังก้อง ประตูห้องใต้ดินถูกเปิดไปแล้ว! กังต้าเหล่ยเดินเข้ามาโดยมีแก้วที่คล้ายค้างคราวอยู่ในมือ มันปกคลุมไปด้วยสายฟ้า