The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 439
ชายแก่ในภาพเขียนนั่งลง ข้างหน้าเขาคือมุกอรหันต์เปล่งประกายลอยอยู่กลางอากาศ
เหนือมุกอรหันต์มีภาษาสันสกฤตหลายตัวปรากฏออกมา ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใดก็ทำให้ผู้คนใจเย็นลง มันคือวิญญาณของผู้คนที่ถูกอรหันต์ชำระล้าง
ส่วนแรงดันวิญญาณที่ปล่อยออกมานั้นน่าตกใจยิ่งนัก แรงกดดันนั้นเหนือยิ่งกว่าระดับของสมบัติเทพ แทบจะเทียบได้กับกระบี่สายฟ้า ถ้าเทียบกันแล้ว แหวนทองปราบมารก็ยังด้อยกว่า
เมื่อมุกอรหันต์เปล่งแสงกระทบราชาปีศาจที่ถูกพันธนาการ ร่างของมันก็บิดเบี้ยวและเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม และทั้งร่างของมันยังปล่อยพลังภูติอันรุนแรงออกมา
ทันใดนั้นมันก็ลืมตาขึ้น มันจะหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ? มันก็แค่เสแสร้งได้ดีเท่านั้น!
ชายแก่ยิ้มเยาะ
“เจ้าหยุดทำเป็นหมดสติแล้วรึยังไงกัน? แหวนทองปราบมารถ้าใช้กับราชาปีศาจธรรมดาก็คงทำให้หมดสติและไม่ตื่นขึ้นไปตลอดกาล แต่เจ้าไม่ใช่ราชาปีศาจธรรมดา ข้าจะมองข้ามเรื่องนั้นไปได้รึ?”
ชายแก่ในภาพเขียนรู้อยู่แล้วว่าการพันธนาการราชาปีศาจไม่ได้ทำให้มันหมดสติ มันก็แค่แสร้งหมดสติเพื่อรอให้พวกเขาประมาท ราชาปีศาจจะได้ฉวยโอกาสนั้นลงมือ
ราชาปีศาจตะโกนด้วยความเจ็บปวด
“เจ้าเป็นใครกันแน่? เจ้ามีของจากอรหันต์อยู่กับตัว สาวกตัวจริงยังเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีสมบัติวิญญาณสองชิ้น!”
ชายแก่พูดอย่างใจเย็น
“เจ้าไม่ต้องรู้หรอก”
เขาพูดจบและแตะปลายนิ้วไปที่มุกอรหันต์ มุกอรหันต์หมุนวนขุดหน้าผากของราชาปีศาจ
“อ๊าก!! เจ้าจะใช้มันควบคุมข้า! อย่าแม้แต่จะคิด!”
คลื่นพลังภูติรวมตัวกันที่หน้าผากเพื่อหยุดมุกอรหันต์ด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ชายแก่ยิ้มเยาะ
“ทำอะไรของเจ้า!”
ชายแก่ในภาพเขียนขยับดัชนีทั้งสิบ มุกอรหันต์ได้กลายเป็นก้อนพลังทำลายคลื่นพลังภูติและผ่านหน้าผากของราชาปีศาจไป
จากนั้นชายแก่จึงหยุดและหายใจหอบ
“จากนี้มันจะอยู่ในตัวเจ้า หากข้าคิดจะทำ พลังอรหันต์ในมุกนั่นก็จะระเบิด เจ้าจะเป็นเถ้าถ่านในพริบตา! จากนี้ไป เจ้าคงรู้ว่าต้องทำอะไร!”
ราชาปีศาจชิงชังสุดขั้ว แต่ในใบหน้าก็มีความกลัว
หลังจากที่ขัดขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันก้มหน้าอย่างไม่พอใจ
“นายท่าน ข้าฉิงกุย”
ชายแก่ยิ้ม
“ดีมาก สมกับที่เป็นผีที่บ่มเพาะมาหลายปี จะอย่างไรชีวิตก็สำคัญยิ่งกว่าศักดิ์ศรี ดูเหมือนข้าจะไม่ต้องพูดให้มากความ”
ราชาปีศาจเกลียดชังยิ่งนัก แต่มันก็ไม่แสดงใบหน้าไม่พอใจอีกแล้ว
“ฉิงกุยผู้นี้มิควรได้รับคำชม”
“ฮื่ม! ข้ารู้ว่าเจ้าคิดอะไร ไม่ต้องห่วง หลังจากที่ข้ากลับไปยังจิวโจว ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ตอนนี้เจ้าก็ช่วยข้าไปที่กระโจมเทพสวรรค์ซะเถอะ ข้าจะใช้โอกาสนี้กลับจิวโจว”
ดวงตาราชาปีศาจกลอกไปมา
“ข้าน้อมรับคำชี้แนะจากนายท่าน…”
“อืม ตอนนี้ข้ารอให้คนรับใช้ข้าอีกคนเอาแผนที่ลับสวรรค์ออกจากตัวเจ้า!”
ชายแก่พูดอย่างเรียบเฉย
“ข้าจะเอาแหวนทองปราบมารออกจากตัวเจ้าก่อน ข้าเป็นเพียงร่างวิญญาณ ข้าต้องมีการคุ้มกัน”
“นายท่าน ขอบคุณนายท่าน!”
ราชาปีศาจยินดียิ่งนัก มันยืนข้างหลังชายแก่ด้วยความนับถือ
ชายแก่พยักหน้า เขาเงยหน้าอีกครั้งและใช้พลังสั่งให้แหวนทองปราบมารคลายลง จากนั้นมันจึงกลายเป็นแหวนทองขนาดเท่าฝ่ามืออีกครั้ง
ในตอนนั้นเอง เมื่อชายแก่ในภาพเขียนกำลังจะเอื้อมมือคว้าแหวนทองเก็บเอาไว้ พลังภูติก็ปรากฏขึ้นจากช่องท้องของราชาปีศาจ
ชายแก่ตกใจเล็กน้อย
“เอ๋? เร็วกว่าที่ข้าคิดเสียอีก มันหาแผนที่ลับสวรรค์เจอได้เร็วเช่นนี้เชียวรึ?”
แต่แววตาของชายแก่ก็เปลี่ยนไปในไม่นาน!
“ไม่ใช่สิ!”
เพลิงยักษ์พุ่งออกจากวายุพลังเข้าใส่ชายแก่ที่อยู่ใกล้อย่างมาก ชายแก่ตกตะลึงอย่างมาก จากนั้นสีหน้าเขาก็เยือกเย็น
“ฮื่ม! ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริงๆ เจ้ายังไม่ตายแม้จะอยู่ในตัวราชาปีศาจมาสามวัน!”
เขาอุทาน
หลังพูดจบก็มีพลังที่มองไม่เห็นพุ่งออกมา มันไม่สนใจเพลิงพิโรธและผ่านช่องว่างเข้าไปยังคนในวายุพลังที่กำลังจะออกมา
ร่างสีแดงส่งเสียงกรีดร้องและขัดขืนออกมาจากวายุพลังภูติ จากนั้นเขาก็หนีไปอย่างรวดเร็ว!
ชายแก่ตกใจเล็กน้อย
“ไม่ตายแม้จะเจอการโจมตีวิญญาณของข้าไปงั้นรึ?”
แม้แต่วิญญาณของชิงจู้เหิงที่แข็งแกร่งก็ถูกทำลายในพริบตา ชายแก่ซัดพื้นด้วยฝ่ามือ ร่างของเขาพุ่งตรงออกไปยังนภาด้วยความเร็วอันน่ากลัว เขาไล่ล่าคนที่กำลังหนี
แต่ในตอนนั้นเอง เมื่อชายแก่ออกไป อีกวายุพลังก็ปรากฏขึ้นจากท้องของราชาปีศาจ! ชายหนุ่มผมแดงที่สวมชุดขาวได้พุ่งพรวดออกมา
เขาที่ออกมาคว้าแหวนทองปราบมารเอาไว้อย่างไม่ลังเล จากนั้นเขาก็หายลับหนีไปอีกทาง
แต่เมื่อเขากำลังจะบินหนี สายลมรุนแรงได้แล่นผ่านศีรษะ! ชายแก่ร่างโปร่งใสยืนมือไพล่หลังอยู่เบื้องบน เขาก้มลงมองอย่างเย็นชา
“เจ้าคิดจะใช้กลไม้นี้หลอกข้าจริงๆน่ะรึ?”
ร่างเทียมของซือหยูหลอกเขาไม่ได้!
“ถ้าเจ้าซ่อนตัวอยู่ในราชาปีศาจ ข้าก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้ แต่ถ้าเจ้าออกมา นี่ก็คือที่ตายของเจ้า!”
พลังที่มองไม่เห็นพุ่งออกจากดวงตาของชายแก่ มันคือคลื่นพลังที่ทำให้ร่างอวตาลของชิงจู้เหิงถูกทำลาย
ซือหยูตกใจและหลบมันไม่ได้ แต่สีหน้าชายแก่ก็เปลี่ยนไปเมื่อการโจมตีวิญญาณของเขาราวกับหายไปดื้อๆ มันทำอะไรวิญญาณซือหยูไม่ได้แม้แต่น้อย!
“เจ้าเป็นใคร?”
สีหน้าของชายแก่เคร่งเครียด เขาถามขึ้นและยังสั่งให้ราชาปีศาจลงมืออย่างลับๆ!
ดวงตาแดงก่ำของราชาปีศาจดุร้าย กรงเล็บของมันซัดใส่ซือหยูด้วยพลังรุนแรง พลังนั้นต่ำกว่าขอบเขตภูติเพียงเท่านั้น
ซือหยูตัวสั่น เขาใช้ปีกตระกูลหวังบินหนีไม่คิดชีวิต
สีหน้าของชายแก่หม่นหมองลง เขาวางมือลงและสร้างการโจมตีวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าเดิมอย่างมาก มันสร้างรูปลักษณ์เป็นฝ่ามือยักษ์ที่มองไม่เห็นและดันเข้าใส่วิญญาณของซือหยู
แต่ชายแก่ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นว่าร่างของซือหยูเพียงแค่กระตุกในตอนที่พุ่งออกไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
ดังนั้นแล้ว การโจมตีวิญญาณของชายแก่นั้นใช้ไม่ได้กับซือหยูโดยสมบูรณ์ ชายแก่ตกตะลึงอย่างมากเมื่อเห็นดังนี้ เขาคิดจะออกไปจากที่นี่ในจิตใต้สำนึก
ส่วนซือหยูก็บินหนีเมื่อได้โอกาส เขาหายลับไปในพริบตา
“ฉิงกุย! จับมันมาเดี๋ยวนี้!”
ชายแก่ตะโกนสั่ง
ฉิงกุยตาเป็นประกาย เมฆาดำสนิทปรากฏที่ใต้เท้าของมันและพามันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ส่วนชายแก่นั้นไม่ได้ไล่ตาม เขาสงสัย
“หรือว่าเด็กนั่นจะเป็นหุ่นเชิด? การโจมตีวิญญาณของข้าทำอะไรมันไม่ได้เลย!”
“มีโอกาสสูงนักที่ฉีหมิงจะตายแล้ว ส่วนแผนที่ลับสวรรค์ก็น่าจะอยู่ในมือมันเสียแปดเก้าส่วน…แหวนทองปราบมารก็ด้วย! บัดซบ เจ้าเด็กนั่นหนีไปพร้อมกับสมบัติของข้า!”
ใบหน้าชายแก่เต็มไปด้วยจิตสังหาร
“ของที่ข้าพยายามหนักหนาเพื่อให้ได้มาถูกไอ้เด็กน้อยขโมยไป! ถ้าไม่ใช่เพราะข้าทำได้แค่โจมตีวิญญาณ ข้าก็ได้ฆ่ามันไปแล้ว!”
…
เหนือมหาสมุทรมีปีกคู่หนึ่งสยายออกตัดผ่านขอบนภา ข้างหลังปีกคู่นั้นคือเมฆามืดสนิทที่รวดเร็วไม่แพ้กัน ปีกและเมฆาไล่ล่ากันอย่างบ้าคลั่ง มนุษย์กับภูติผีกำลังหนีและไล่ล่าอย่างดุเดือด
ราชาปีศาจถอนหายใจแรง
“เจ้าหนู ข้าตกต่ำมาจนถึงระดับที่ต้องเป็นทาส ทั้งหมดเพราะฝีมือเจ้า เจ้าจะต้องแหลกเป็นพันๆชิ้น!”