The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 531
เวลาผ่านไปนาน ซือหยูไปส่งชายหนุ่มผมขาวและพูดเบาๆ
“หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง”
เซี่ยจิงหยูสับสน นางเพียงแค่เห็นซือหยูพูดคุยกับชายหนุ่มผมขาวและยื่นสิ่งที่มีสีสดใสให้กับเขา จากนั้นชายหนุ่มก็สีหน้าเยือกเย็นลงและจากไป
แม้ว่านางจะสงสัย นางก็ไม่ได้ถามอะไร นางพูดอย่างอ่อนโยน
“ไปหาที่พักฟื้นดีๆเถอะ จากนั้นข้าจะช่วยพี่บ่มเพาะวิชาอีกครั้ง พี่หยูจะได้สำเร็จวิชาไปอีกขั้น”
ซือหยูพยักหน้า เขาหาที่สงบๆกับนางและพักฟื้นพลังของตัวเอง หลังจากที่ต่อสู้มานาน ทั้งสองค่อนข้างเหนื่อยล้า
เมื่อซือหยูพักฟื้น แสงมรกตส่องสว่างบนแขน เสี้ยววิญญาณของเขาเข้าสู่มุกวิญญาณเก้าหยก
“นายท่าน”
เมื่อเขาเข้าไป หวูอู๋ยี่ก็ต้อนรับด้วยความเคารพ
ซือหยูมองดูนาง แม้นางจะแสดงความนับถือต่อเขา เขาก็สัมผัสได้ว่ามีจิตสังหารและความชิงชังอยู่ภายใน นี่เป็นเรื่องปกติ ใครกันจะยินดีรับใช้คนอื่นเล่า?
“หุบเขาเป็นเช่นใดบ้าง?”
ซือหยูถามอย่างไร้อารมณ์
หวูอู๋ยี่ชี้ไปที่ภูเขาเขียวขจี
“ข้าทำตามที่นายท่านชี้แนะ ข้าสร้างกระท่อมไว้ที่ตีนเขา ท่านไปพักและบ่มเพาะพลังที่นั่นได้ แปลงสมุนไพรก็ถูกย้ายมาที่ข้างกระท่อมแล้ว”
ซือหยูพาหวูอู๋ยี่ไปที่นั่นในพริบตา กระท่อมดูเรียบง่าย สงบ งดงาม และให้ความรู้สึกสดชื่น
ข้างกระท่อมคือแปลงสมุนไพรที่มีดินเพาะบ่มชั้นสูง ต้นไม้เล็กๆสีขาวราวหิมะเติบโตแข็งแรงอยู่ภายในแปลง มันคือทับทิมวิญญาณขนนก ผลที่ต้นผลิออกมานั้นจะช่วยชำระล้างพลังวิญญาณของคนที่กินมัน ซือหยูเคยกินมันมาก่อน ผลที่ได้นั้นดีเป็นอย่างมาก เว้นเสียแต่ว่าผลที่ได้นั้นจะเกิดก็ต่อเมื่อกินมันเป็นครั้งแรกเท่านั้น
ต้นทับทิมวิญญาณขนนกในตอนนี้สูงกว่าเดิมสามเท่าในตอนที่เขาย้ายมันมา! มันสูงเท่าคนสองคนยืนต่อกัน กิ่งก้านสาขาและใบเติบโตอย่างสมบูรณ์พร้อม ทับทิมสามลูกเปล่งแสงสีทองออกมา
“มันโตเร็วขนาดนี้เชียวรึ?”
ซือหยูแอบเดาะลิ้น หากมองดูอย่างใกล้ๆก็จะพบว่ามันค่อยๆเติบโตขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้นทับทิมวิญญาณขนนกนี้ก็ดูแก่กว่าเทียบจากเดิมถึงหกสิบปี แต่ในความจริงกลับใช้เวลาเติบโตเพียงไม่นาน และก็มีทับทิมอยู่สามลูกแล้ว!
“ดินเพาะบ่มชั้นสูงนับว่าเป็นดินเทวะลำดับแรก พลังวิเศษของมันเป็นสิ่งที่คนอื่นคิดไม่ถึง สิ่งที่เกิดขึ้นกับต้นทับทิมนี้ไม่ต่างกับปาฏิหาริย์”
หวูอู๋ยี่แอบมองผลทับทิมทั้งสาม นางอยากจะได้มันมาครอง
ในสำนักของนาง ผลไม้เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ศิษย์นอกอย่างนางจะได้ฝันถึง ผลเหล่านี้เป็นของที่มีไว้เฉพาะศิษย์ในเท่านั้น ส่วนศิษย์นอกก็ต้องทำงานหนักถึงสามปีและสร้างคุณประโยชน์มากมายต่อสำนักเพื่อแลกกับทับทิมผลเดียว
ในตอนนี้ ฐานพลังของนางติดอยู่ในจุดสูงสุดของกึ่งเทพ นางขาดพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์มากพอ พลังวิญญาณของนางมิอาจเป็นพลังชีวิตได้แม้จะผ่านมานาน ถ้าหากนางได้กินทับทิมวิญญาณขนนกสักลูก นางจะทำให้แก้วพลังวิญญาณทั้งสามดวงอยู่ในขั้นที่บริสุทธิ์ที่สุดและเปลี่ยนเป็นแก้วพลังชีวิตได้ จากนั้นนางก็จะกลายเป็นกึ่งภูติเมื่อเงื่อนไขครบถ้วน
น่าเสียดายนัก ถ้าซือหยูขายผลทับทิมที่แล้วไปเขาก็คงจะได้ผลตอบแทนมาอย่างมาก และนางที่เป็นข้ารับใช้ สิ่งที่เป็นของซือหยูไม่มีทางมาถึงมือนาง
“ทำได้ดีมาก”
ซือหยูยิ้ม เขาโบกมือสร้างสายลมตัดผลทับทิมทั้งสาม พวกมันตกลงในกล่องหยกสามกล่อง
หวูอู๋ยี่ที่ได้ยินหัวเราะอย่างขมขื่นและไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก
ฟึ่บ–
แสงสีเขียวพัดผ่าน หวูอู๋ยี่รับมันไว้โดยไม่ทันคิด นางก้มลงมองและพบกล่องหยกปิดผนึกที่มีทับทิมวิญญาณขนนกอยู่ภายใน นางตกใจและมองไปทางซือหยูด้วยความสับสน เขาเก็บอีกสองกล่องในอกและพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก
“นี่คือสิ่งที่เจ้าสมควรได้ รับไว้ซะ”
หวูอู๋ยี่เบิกตากว้าง
“จริงรึ?”
ซือหยูเหลือบมองและหัวเราะ
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจ แต่เจ้าก็ได้เห็นดินเพาะบ่มไปแล้ว ก่อนที่ข้าจะมีพลังสูงสุด ข้าจะปล่อยเจ้าไปไม่ได้ นี่ก็เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดกับข้าในอนาคต ก่อนหน้านั้นเจ้าต้องอยู่ที่นี่และดูแลหุบเขาแทนข้า ถ้าเจ้าทำได้ดี ข้าก็จะไม่หวงในสิ่งที่เจ้าควรจะได้”
นางรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อได้ยินว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะออกไปในทีแรก แต่ความขมขื่นนั้นก็หายไปบ้างเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอันเยือกเย็นที่กล่องหยกปล่อยออกมา นางรู้สึกขอบคุณอยู่เล็กน้อย แม้นางจะกลายเป็นข้ารับใช้ นางก็โชคดีที่เป็นข้ารับใช้ของคนอย่างซือหยู แม้เขาจะขืนใจนางได้ในวันนั้นเขาก็ไม่คิดจะลงมือ และเขายังให้รางวัลกับนางอีก บอกได้เลยว่าเขาไม่ได้ร้ายกับนาง
นางแอบถอนหายใจ แต่ความโศกเศร้าในใจก็หายไปมาก นางช่วยอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับชะตา
“ขอบคุณนายท่านที่ให้รางวัลข้า เมื่อถึงเวลา ข้าจะทำตามที่นายท่านชี้แนะ”
หวูอู๋ยี่คำนับอย่างจริงใจ นางยอมรับตัวตนในฐานะของข้ารับใช้โดยสมบูรณ์
ซือหยูพยักหน้า
“แล้วสิ่งที่ข้านำมาที่นี่ล่ะ เจ้าได้ดูแลมันหรือไม่?”
หวูอู๋ยี่ผลักประตูกระท่อม ภายในนั้นนางสร้างตู้เอาไว้อย่างดี ตู้เหล่านั้นมีสมบัติเทพที่จัดเรียงเอาไว้ มีสมบัติเทพมากมาย ทั้งหมดคือสิ่งที่ซือหยูได้มาจากการสังหารศัตรู
ด้านในตู้ที่ใหญ่ที่สุด ซือหยูเห็นร่างจางตี๋เก้อที่กลายเป็นหิน
“ฮ่าๆๆ สิ่งนี้ก็เกิดกับเจ้าได้เหมือนกับสินะ”
ผนึกที่เกิดจากการหลอมรวมสายฟ้าและวิญญาณพุ่งออกจากหน้าผากซือหยูไปยังหน้าผากจางตี๋เก้อ แต่เมื่อผนึกถูกส่งออกไปก็ถูกเค้นออกมา
อย่างที่เขาคิดไว้ แม้ร่างของจางตี๋เก้อจะกลายเป็นหิน วิญญาณของนางก็ยังคงอยู่ นางขัดขืนเขาได้
ซือหยูยิ้ม
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง เจ้าคิดจะเป็นรูปปั้นหินไปตลอดกาลหรือเป็นข้ารับใช้ของข้า? ถ้าเจ้าเลือกอย่างแรก ข้าก็จะทำให้อย่างที่เจ้าปรารถนา เจ้าจะเป็นรูปปั้นไปตลาดกาล ถ้าเจ้าเลือกเป็นข้ารับใช้ ข้าที่เป็นนายเจ้าจะหาวิธีทำให้เจ้ากลับสู่สภาพเดิม”
ซือหยูพูดต่อหลังจากหยุดไป
“นี่เห็นแก่ที่เจ้าไม่ทำร้ายข้าในตอนที่ให้ข้ารับใช้เจ้าในครั้งนั้น ไม่งั้นตอนนี้เจ้าก็ตายไปแล้ว! ข้าจะให้โอกาสเจ้าครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น!”
ซือหยูสีหน้าโหดร้ายขึ้น เขาเยือกเย็นอย่างมาก
ร่างกายอันน่าหลงใหลของหวูอู๋ยี่สั่นเล็กน้อยเมื่อสัมผัสจิตสังหารที่ซือหยูปล่อยออกมา นางยังคงตกใจมากอีกด้วย รูปปั้นศิลาที่ซือหยูโยนเข้ามาที่นี่มีชีวิตอยู่รึ? และจากที่ซือหยูพูด อีกฝ่ายเคยจับซือหยูเป็นข้ารับใช้มาก่อน แต่นางในตอนนี้ต้องรับชะตาที่ถูกซือหยูจับเป็นข้ารับใช้?
เด็กสาวที่กลายเป็นหินผู้นี้เป็นทวยเทพองค์ใดกัน?
ซือหยูสะบัดดัชนี เขาสร้างผนึกลงในหน้าผากจางตี๋เก้ออีกครั้ง ผนึกเข้าไปได้เพียงครึ่งเดียว แต่มันก็มิอาจฝังลึกลงไป นั่นเป็นสัญญาณว่าจางตี๋เก้อกำลังขัดขืน
แต่จางตี๋เก้อก็หยุดขัดขืนเมื่อจิตสังหารแล่นผ่านดวงตาซือหยู ผนึกเข้าไปประทับอยู่กับดวงวิญญาณ นับแต่นี้ไป เพียงซือหยูคิด เขาก็จะตัดสินชะตาของวิญญาณจางตี๋เก้อได้
หลังจากที่ทำให้จางตี๋เก้อยอมรับ ซือหยูก็ผ่อนคลายลง
“รอให้สบายใจไปก่อนเถอะ ข้าจะทำให้เจ้ากลับมาเป็นเหมือนเดิม”
เขาพูดจบและก้าวออกจากกระท่อม เขาใช้ความคิดและผสานมือ พื้นดินเคลื่อนไหว มีบางสิ่งผุดขึ้นมา
หวูอู๋ยี่มองด้วยความระวัง นางเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่ามีดินเพาะบ่มโผล่มาจากใต้ดิน! มันใหญ่กว่าแปลงสมุนไพรทับทิมวิญญาณขนนกเป็นร้อยเท่า! และสมุนไพรเทพห้าสีสิบต้นที่สูงพันศอกได้เติบโตอยู่ภายใน