The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 500
นี่เป็นครั้งแรกที่ซือหยูเห็นความดีใจเช่นนั้นผ่านใบหน้านาง เว่ยกังก็ดีใจเช่นกัน
“ยินดีด้วยท่านอาจารย์! ในที่สุดก็ได้เจอวิชาช่างลับสวรรค์แล้ว!”
แต่จู่ๆมิติข้างหลังพวกเขาก็บิดเบี้ยว คลื่นลมพุ่งเข้าใส่พวกเขา มันมีจิตสังหารอันรุนแรง!
ลู่จือยี่กับเว่ยกังที่กำลังตื่นเต้นไม่ได้พบอะไรแปลก มีเพียงซือหยูที่ไม่ได้ตกใจกับพวกเขาและรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงข้างหลัง
ซือหยูหันกลับไปด้วยความตกใจ คลื่นลมนั้นเปลี่ยนทิศทางไปเมื่อถูกจับได้ มันพุ่งไปยังทิศทางของอุโมงค์
“คิดจะหนีเรอะ!”
ซือหยูขว้างลำดับเก้าหยินหยางออกไป
ฟึ่บ! ฟึ่บ–
เสียงเข็มแล่นเมื่อลำดับเก้าหยินหยางถูกใช้งาน มันโอบล้อมร่างที่พุ่งออกไป
“บัดซบ!”
เสียงของคนดังพร้อมกับพลังชีวิตมหาศาลที่เอ่อล้นออกมา มันปัดลำดับเก้าหยินหยางทิ้งไป!
มีมือโผล่ขึ้นมาจากกลางอากาศและคว้าเข็มที่พุ่งตรงหาเขาไว้หนึ่งเล่ม เพียงออกแรงเล็กน้อย สมบัติเทพระดับกลางก็หัก!
มนุษย์ล่องหนเผยตัวออกมา
เขาไม่ได้มีคนเดียวแต่มีสองคน! ทั้งสองสวมชุดเกราะสีดำ ชุดของพวกเขาดูธรรมดา สีหน้าพวกเขาฉาบด้วยจิตสังหาร หนึ่งในนั้นมีหนวดเฟิ้ม ส่วนอีกคนนั้นผิวเรียบเนียนราวกับสตรี
ฐานพลังของชายไว้หนวดนั้นน่ากลัว ดูเหมือนเขาจะเทียบได้กับโจวฉีหมิง เขามีแก้วพลังชีวิตสามดวง!
ส่วนอีกคนนั้นอ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่เขาก็เป็นกึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตเช่นกัน
ทั้งสองมีสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน คนที่ผิวเนียนนั้นดูดีกว่าอีกคน พลังของเขาอ่อนลงเล็กน้อย เกราะบนตัวดูเหมือนจะละลายไปแล้วที่บางแห่ง ชายหนวดเฟิ้มนั้นมีรอยข่วนน่ากลัวบนเกราะที่เหมือนกับฝีมือของสัตว์อสูรดุร้าย ผิวหนังของเขาส่วนใหญ่ถูกฉีกออกไปเหลือบาดแผลใหญ่ที่เต็มไปด้วยโลหิตเอาไว้ ถ้าหากกรงเล็บสัตว์อสูรเข้าลึกกว่านี้ เขาก็คงจะขาดครึ่งไปแล้ว
และเป็นชายหนวดเฟิ้มที่ทำลายเข็มเหล็กของซือหยู!
ทั้งสองทั้งตกตะลึงและวิตกกังวล พวกเขายังคงไม่หยุดแม้ว่าจะเผยตัวเองแล้ว พวกเขาหนีไปทางอุโมงค์ทางเข้าทันที
ซือหยูเหลือบมองเข็มที่ถูกทำลายและรู้สึกเสียดาย นี่คือสมบัติเทพที่ใช้งานแบบชุด พวกมันช่วยซือหยูมาโดยตลอด แต่มันก็ถูกทำลายไปอย่างง่ายๆ!
ความเยือกเย็นแล่นผ่านแววตา สายฟ้าปะทุทั่วร่าง ทั้งสองหนีไปยังที่เหนืออุโมงค์
สีหน้าของชายหนวดเฟิ้มเปลี่ยนไป เขาละสายตาและหนีไปด้านข้างห้าศอก
เมื่อเขาเบี่ยงตัวหลบก็มีมีดทองคำพุ่งเข้ามาอย่างไม่มีปี่ขลุ่ย มันพุ่งไปทางลำคอของเขา เขาต้องใช้พลังชีวิตเพื่อสร้างม่านพลังป้องกัน
มีดทองพลาดเป้า มันเพียงแค่เฉือนไหล่ของเขาไปและทำลายม่านพลังชีวิตไม่ได้ ชายหนวดเฟิ้มกำลังจะใช้มือซัดมีดนั้น
แต่ลูกแก้วสีครามก็ปรากฏออกมาขวางมีดเอาไว้ มันปล่อยลำแสงสีน้ำเงินออกมา หมัดของชายหนวดเฟิ้มเข้ากระแทกกับลำแสงนั้นและถูกสะท้อนกลับไป
จากนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับสายฟ้า เขาคือซือหยู เขามาขวางทางออกของอุโมงค์แคบ เขาก้มลงมองทั้งสองที่อยู่เบื้องล่าง
ชายหนวดเฟิ้มมองดูลูกแก้วสีครามด้วยความตกใจ เขาอยากจะได้มันแต่สีหน้าก็แทนที่ด้วยความตระหนก เขาถอนหายใจแรง
“หลีกไป! อย่ามาขวางทางข้า!”
แต่ลูกแก้วห้าลูกได้หมุนวนรอบซือหยู ลำแสงทั้งห้าพวยพุ่งขวางทางออกจนหมด
ชายหนวดเฟิ้มหมดหวัง เกล็ดสีทองปรากฏบนแขนกำยำเมื่อเขาปลอ่ยหมัด
ครืน—
ลำแสงทั้งห้าสั่นสะเทือนเบาๆ!
ลำดับห้าธาตุควรจะป้องกันการโจมตีจากจ้าวเทวะได้เมื่อใช้งานเต็มที่ แม้ซือหยูจะมีพลังวิญญาณที่ใช้งานมันได้ไม่ถึงสิบส่วนของพลังเต็มที่ แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีคนระดับต่ำกว่าขอบเขตภูติที่ทำให้มันสั่นสะเทือนได้
แต่มันก็แค่สั่นเท่านั้น
ชายหนวดเฟิ้มตกตะลึง
“เจ้ามาขวางทางพวกข้าทำไมกัน?”
ซือหยูหยิบเข็มที่ถูกทำลายด้วยความเยือกเย็น
“เจ้าฆ่าพวกข้าไม่สำเร็จแล้วยังทำลายสมบัติของข้า ยังต้องถามอีกเรอะว่าข้าขวางเจ้าทำไม?”
ชายหนุ่มอีกคนสีหน้าดุร้าย
“ดูเหมือนเจ้าจะมาจากโลกภายนอก ถ้าเจ้ารู้ดีกว่านี้ก็คงจะไม่ขวางพวกข้าแล้ว!”
ซือหยูหัวเราะกับคำขู่
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตรอดออกไปรึ?”
ซือหยูไม่คิดถึงเรื่องที่พวกเขาอยู่ในดินแดนของสมบัติด้วยซ้ำ เขาไม่มีเหตุผลที่จะไว้ชีวิตทั้งสองคนเพราะจิตสังหารที่แผ่ออกมาอยู่แล้ว
ชายหนวดเฟิ้มตัวสั่นเบาๆ เขาพยายามข่มความโกรธ
“เจ้าหนู พวกข้าจู่โจมก็เพราะสถานการณ์เป็นใจ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เจ้ารามือแล้วหลีกทางให้พวกข้าเถอะ”
ซือหยูยังไม่ได้พูดอะไร กลิ่นหอมหวานลอยมาจากด้านหลังพวกเขา เป็นลู่จือยี่ที่มีใบไม้ทองคำในมือ นางปิดทางหนีของทั้งสอง นางดูสงสัย
“โอ้? ผู้คุ้มครองตำหนักลับสวรร๕์รึ? เจ้าไม่ได้ป้องกันจากภายนอก แต่เข้ามาในดินแดนสมบัติเพื่อขโมยสมบัติเองเลยรึ?”
“ถ้าข้าจำไม่ผิด นอกจากสมบัติโอสถและวัตถุดิบจากห้าสมบัติที่ใช้ได้ เจ้าไม่ควรจะแตะต้องสมบัติอีกสามปประเภทที่เหลือ กล้าดียังไงถึงมาขโมยสมบัติช่างฝีมืออย่างนี้?”
สีหน้าของชายหนวดเฟิ้มเปลี่ยนไป
“เจ้าไม่ต้องยุ่งว่าพวกข้าจะทำอะไร ถ้าพวกเจ้าเจอคัมภีร์วิชาช่างลับสวรรค์ พวกข้าก็ไม่คิดจะต่อสู้แย่งชิง หยุดลำแสงซะ ให้พวกข้าได้ออกไปเถอะ!”
แต่ซือหยูก็หัวเราะอย่างเย็นชา
“ตลกอะไรของเจ้า! เจ้าคิดว่าพวกข้าโง่นักรึไง? วิชาลับสวรรค์เผยออกมายังโลกแล้ว แต่ไม่ได้เพราะด้วยมือพวกเจ้า เจ้ากลับเลือกที่จะซ่อนตัวในความมืด นั่นหมายความว่าคัมภีร์นี้มีปัญหา เจ้าจะหลอกให้พวกข้าเสี่ยงชีวิตหยิบเอาคัมภีร์สินะ”
ชายหนวดเฟิ้มที่ถูกเปิดโปงสีหน้าเกรี้ยวกราด เขาหันไปจู่โจมลู่จือยี่ในทันที
“จับอีกคนไว้ ใช้มันทดสอบกับดัก!”
ชายผิวเนียนมองเว่ยกังอย่างเหี้ยมโหด!
เว่ยกังนั้นเป็นนักสู้ในระดับของซื่อหลิง พลังชีวิตในร่างกายเขายังไม่ได้ก่อเป็นแก้วพลัง แต่ศัตรูของเขาคือกึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตหนึ่งดวง!
ในมือของชายหนุ่มผู้เหนื่อยล้ามีบางสิ่งที่เป็นสีดำ สิ่งนั้นแพร่กระจายไปตามอากาศ มันคือพิษ!
เว่ยกังสังเกตได้แต่สีหน้าเขาก็ยังเยือกเย็น
“ฮื่ม! วิชาพิษเรอะ? นับว่าเป็นวิชาอสูรประหลาดที่มีระดับสูง แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังไม่ชำนาญเต็มที่นะ!”