The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 477
หยางยี่เต๋าผู้ล้มเหลวในการทะลวงพลังสู่ขอบเขตภูติตกตะลึง เขาไวต่อสัมผัสของวิบัติอัสนีอย่างมาก หยางยี่เต๋าหัวใจแทบหยุดเต้นเมื่อเห็นว่าสายฟ้านั้นมีพลังของวิบัติอัสนีไหลเวียนอยู่เล็กน้อย
เขาตัวสั่นด้วยความกลัว เขาสะบัดมือเรียกเอามุกห้าสีออกมาจากแหวน มุกสีม่วงบินเข้าหาเข้ามาป้องกัน หยางยี่เต๋าใส่พลังวิญญาณลงไปอย่างบ้าคลั่ง ลำแดงสีม่วงปรากฏขึ้นมาล้อมกายเขา
มันคือลำดับห้าธาตุเมฆาแห้งเหือด ลำดับนี้ต้องใช้ห้าคนใส่พลังลงไปพร้อมกัน ดังนั้นมันจึงแข็งแกร่ง มันมิอาจใช้ในพลังสูงสุดได้ห้าหากมีคนเพียงคนเดียว
ซือหยูใส่พลังลงในตราสายฟ้าห้าธาตุอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุด อากาศสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ผนึกสายฟ้าพุ่งออกจากตราสายฟ้าห้าธาตุ
ผนึกมีรูปร่างของมังกรที่ขนาดเท่าฝ่ามือเท่านั้น มันดูเล็กและแทบจะมองไม่เห็น แต่ที่ต่างจากสิ่งอื่นก็คือมันทำให้ทุกคนที่มองเห็นรู้สึกลำบากใจ
“ไป!”
ซือหยูแววตามุ่งมั่น เขาตะโกนเบาๆ มังกรห้าสีแปรเปลี่ยนเป็นเงาเข้าจู่โจมด้วยความเร็ว
หยางยี่เต๋าทำได้แค่ซัดมีดเพียงครั้งเดียว ผนึกมังกรนั้นพุ่งเข้ามาห่างจากเขาเพียงสิบศอก พลังมีดอันน่ากลัวที่ตัดได้ทุกสิ่งปะทุออกมาอีกครั้ง!
มีดที่ทำให้ร่มวิเศษกับเข็มทั้งเก้าไร้ผลอย่างง่ายดายฟันผนึกมังกรเข้าไป ผนึกเปล่งแสงต่อต้านแรงปะทะ เสียงมังกรคำรามดังมาจากผนึกเบาๆ มันปะทะกับลำแสงสีม่วงอย่างแรง
แกร๊ก—
เสียงลำแสงแตกลั่นเข้าหูหยางยี่เต๋า มันเป็นเสียงที่ทำให้เขาตื่นตระหนกอย่างมาก รอยแตกมากมายปกคลุมลำแสงสีม่วง จากนั้นก็มีเสียงบางสิ่งตกสู่พื้น ลำแสงสีม่วงแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ!
แม้ผนึกวิบัติอัสนีจะหม่นแสงลงไปครึ่งส่วน พลังอีกครึ่งก็ยังคงอยู่ ผนึกมังกรไร้สิ่งขีดกขวาง มันปะทะเข้ากับร่างของหยางยีเต๋าโดยตรง!
เสียงสายฟ้าคำรามสะเทือนดังก้องไปทั่วทุกมุมเขา สายฟ้าที่หลงเหลือครึ่งส่วนระเบิดลั่น แสงสายฟ้าเปล่งประกาย พลังทำลายล้างหลั่งไหลไปยังทุกทิศทาง
หยางยี่เต๋าจมอยู่ในผนึกสายฟ้านั้น ร่างของเขาถูกสายฟ้ากลืนกินเข้าไป ระยะสามลี้ปกคลุมไปด้วยแสงทั้งห้าสีในพริบตาเดียวจนยากที่จะมองตรงๆ ไม่นานทุกสิ่งก็หายไปโดยสมบูรณ์ บนพื้นที่หยางยี่เต๋าเคยยืนนั้นกลายเป็นหลุมยักษ์ที่มีรัศมีสามสิบศอก
ส่วนหยางยี่เต๋าเองนั้น พลังวิญญาณที่เรียกมาป้องกันตัวได้ฉีกขาดสะบั้น เสื้อผ้าของเขาขาดวิ่น เนื้อหนังของเขาดูเละ โลหิตอาบพื้นเต็มไปหมด ยังมีโลหิตที่ไหลมาจากขาทั้งสองข้าง
ฝ่ามือที่ถือมีดครามจันทร์เสี้ยวสั่นระริกเป็นสัญญาณของร่างกายที่บาดเจ็บ แต่ที่น่ากลัวที่สุดก็คือมือข้างนั้นที่ถือมีด มันคือสิ่งที่เสียหายสูงสุดเพื่อเป็นมือที่ถือมีดเพื่อป้องกันผนึกสายฟ้า
แขนทั้งข้างกลายเป็นเนื้อบด และนิ้วชี้กับกลางของเขาหายไป ผนึกสายฟ้าเกือบจะคร่าชีวิตหยางยี่เต๋าไปด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้ลำดับห้าธาตุเมฆาแห้งเหือดช่วยลดพลังจากสายฟ้าไปครึ่งส่วน เขาก็คงจะหมดลมหายใจไปแล้วในตอนนี้
ดังนั้นเขาจึงแค่บาดเจ็บอยู่ไม่กี่ส่วน แววตาของเขาแสดงความทุกข์ใจ แต่แววตานั้นก็มีความชิงชังที่ลึกล้ำยิ่งกว่ามหาสมุทรอยู่ด้วย
เขากระอักเลือดออกมา จิตสังหารคุกรุ่นพวยพุ่ง
“ดี! ยอดเยี่ยม! ดีจริงๆ! ตั้งแต่บ่มเพาะพลังมาจนถึงวันนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนทำให้ข้าบาดเจ็บได้ขนาดนี้ แม้เจ้าจะตายเจ้าก็ภูมิใจซะเถอะ!”
ซือหยูสีหน้าเคร่งเครียด อีกฝ่ายยังไม่ตายแม้จะรับพลังไปขนาดนั้นงั้นรึ?
แม้แต่ใช้สมบัติวิญญาณ เขาก็ยังมีชีวิตรอด ความแข็งแกร่งนั่นมันอะไรกัน?!
ตามที่ซือหยูคาดคิด แม้จะเป็นซื่อหลิงที่มีร่างกายของขอบเขตภูติก็มิอาจจะมีชีวิตรอดไปได้ ส่วนหยางยี่เต๋าผู้จะทะลวงพลังสู่ขอบเขตภูติ พลังของเขาต่างกับกึ่งเทพทั่วๆไปโดยสิ้นเชิง เขาแข็งแกร่งจนเกินกว่าที่ซือหยูจะคาดคิดได้
หยางยี่เต๋าตะโกนอย่างโกรธแค้น เขาหยิบเอาขวดโอสถออกมา ซือหยูมองมันและเบิกตากว้าง
“โอสถฟื้นฟูกายา!”
ซือหยูจดจำโอสถนี้ได้ดี มันรักษาบาดแผลของคนที่เป็นแผลหรือพิการได้! หยางยี่เต๋าเงยหน้ากระดกโอสถจนหมด ดัชนีที่หายไปของเขางอกกลับมาด้วยความเร็วอันน่ากลัว บาดแผลของเขาฟื้นฟูจนหมดสิ้นในพริบตาเดียว!
ซือหยูตกตะลึง แม้จะเป็นโอสถฟื้นฟูกายาก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสิบวันถึงครึ่งเดือนในการรักษาบาดแผลหรือความพิการ แต่โอสถตรงหน้าเขามันอะไรกัน? นี่ไม่ได้หมายความว่าตราบใดที่หยางยี่เต๋ายังมีลมหายใจ เขาจะไร้พ่ายหรอกรึ?
“ข้าเก็บหอมรอมริบมาตลอดชีวิตเพื่อแลกโอสถฟื้นฟูกายามาก่อนที่จะมายังกระโจมเทพสวรรค์ ข้าเตรียมการพร้อมสรรพ แต่ข้ากลับต้องมาเจอกับศัตรูและบาดเจ็บหนักจากคนอย่างเจ้า!”
คำพูดของหนางยี่เต๋าเก็บงำความชิงชังในส่วนลึก
“รีบๆตายไปซักที!!”
หยางยี่เต๋าหายใจเข้าลึก บรรยากาศรอบตัวเขาเปลี่ยนไปในพริบตา พลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่และพลังชีวิตพวยพุ่งขึ้น!
“ฮื่ม! ถึงช้าจะยังไม่ได้เป็นภูติ แต่แก้วพลังวิญญาณทั้งสามของข้าก็กลายเป็นแก้วพลังชีวิตแล้ว! ข้าปกปิดเรื่องนั้นไว้จนถึงตอนนี้ ข้าไม่คิดเลยว่าจะต้องใช้มันกับเจ้า!”
นี่คือไพ่ตายสูงสุดของหยางยี่เต๋า! เขาเก็บเร้นพลังเอาไว้และกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งในระดับกึ่งภูติ!!
“ตายซะเถอะ!”
หยางยี่เต๋าใส่พลังชีวิตลงในมีดครามจันทร์เสี้ยวในมือ!
มีดเปล่งแสงสีครามที่เปล่งประกายยิ่งกว่าครั้งก่อน พลังอันน่าขนลุกที่ช่วงชิงวิญญาณผู้คนออกมาได้ปะทุออกมาราวกับคลื่นยักษ์
ซือหยูรู้สึกได้ถึงแรงกดดันวิญญาณมหาศาล เขาหายใจอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเขาเคร่งเครียด สมบัติที่ใส่พลังชีวิตเข้าไปจะมีพลังเพิ่มขึ้นมาแค่สองเท่านั้นรึ? ไม่ใช่เลย!
หยางยี่เต๋าสร้างความหวาดกลัวแก่ซือหยู ถ้าเป็นซื่อหลิงมาเผชิญหน้ากับหยางยี่เต๋า เขาก็ไม่ใช่ศัตรูกับหยางยี่เต๋าอยู่ดี! ความทรงพลังของหยางยี่เต๋านั้นเหนือกว่าที่ใครๆจะคิดได้
“ลำดับสามสวรรค์!”
แสงเทพเปล่งออกจากดวงตาหยางยี่เต๋า เขามองผ่านพื้นที่หนึ่ง
มีดในมือปล่อยพลังที่ยาวพันศอกออกมา เงาคมมีดใหญ่ยักษ์ราวกับจะกรีดนภาเป็นสอง
ซือหยูตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก เขาตายได้ทุกเมื่อ! ซือหยูฝืนใช้ตราสายฟ้าห้าธาตุอีกครั้ง เขาสร้างผนึกสายฟ้าออกมา
ด้วยพลังที่ใช้ไปครั้งก่อน พลังที่ใช้ได้ในครั้งนี้จึงเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของครั้งแรก! แต่แม้จะเพียงครึ่งเดียว มันก็มากพอที่จะทำให้หยางยี่เต๋าบาดเจ็บสาหัสอีกครั้ง!
ครืน—
พลัวมีดพันศอกซัดใส่ซือหยู ผนึกมังกรระเบิดออกเป็นสายฟ้าห้าสีทันที มันถูกทำลายโดยพลังมีดโดยไม่หลงเหลือพลังอยู่เลย!
ซือหยูเบิกตากว้าง หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น! การโจมตีของกึ่งภูตินั้นน่ากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ!
ซือหยูเรี่ยกชุดเกราะทมิฬออกมา และพลังวิญญาณก็ไหลออกมาปกป้องร่างกายของซือหยูราวกับน้ำหลาก
ซือหยูในเกราะราชาศิลานิรันดร์รู้สึกสบายขึ้นมาบ้างจากแรงกดดัน แต่เขาก็รู้สึกได้ถึงรอยเปิดใหญ่ที่ลำตัว
สัญชาตญาณยังคงบอกว่าเขาจะตายเพราะการโจมตีนี้! ซือหยูแววตาเยือกเย็น ในเวลานี้ เขาทำได้แค่ลองกระบวนท่านั้น
ซือหยูตอบสนองโดยการเรียกพลังทั้งสามออกมาปกคลุมกาย พลังสีขาว พลังสีแดงมรกต และพลังห้าสี มันคือต้นกำเนิดจากสามธาตุ น้ำแข็ง อัคคี และอัสนี!
สามต้นกำเนิดก่อเกิดพร้อมกัน มันกลายเป็นพลังต้นกำเนิดทรงกลมสามธาตุเล็กๆที่หมุนวนในฝ่ามือทั้งสองของซือหยู ทุกธาตุครอบครองพลังอันยิ่งใหญ่ ถ้ามันระเบิด แม้แต่ซือหยูเองก็ต้องบาดเจ็บสาหัส เขาอาจจะตายในทันทีด้วยซ้ำ
แต่ซือหยูในตอนนี้ได้ทำสิ่งที่อันตรายมากไปแล้ว! เขาได้เรียกพลังทั้งสามธาตุออกมาพร้อมกันอย่างมหาศาล! ไม่ต้องพูดถึงเรื่องพลังทั้งสามที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกันเลย!
ถ้าพลังทั้งสามปะทะกันเองเพียงเล็กน้อยก็มีโอกาสสูงมากที่มันจะระเบิด! ถ้าสองธาตุระเบิดพร้อมกัน ร่างกายของซือหยูก็คงกลายเป็นเถ้าถ่านโดยไร้ความเป็นไปได้อื่น!
แต่ในตอนที่ต้นกำเนิดน้ำแข็งและอัคคีกำลังจะสัมผัสกัน ซือหยูก็ลงมือ เขาใส่ต้นกำเนิดสายฟ้าเข้ากั้นขวางระหว่างต้นกำเนิดทั้งสองทันที
จากนั้นเอง พลังต้นกำเนิดทั้งสามได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่ง! มันกลายเป็นไข่มุกที่มีสามสีเปล่งประกายออกมา
ทันทีที่ต้นกำเนิดสายฟ้าสัมผัสกับต้นกำเนิดน้ำแข็งและอัคคี พลังทั้งสามได้หลอมรวมเป็นหนึ่ง แต่จู่ๆพลังทั้งสามก็หม่นแสงลง มีรอยแตกสีดำเล็กๆหลายรอยในบอลพลัง พลังทำลายล้างปกะทุออกมาจากรอยแตกเล็กๆนั้น!
ซือหยูสีหน้าเคร่งเครียด
“แย่แล้ว! การหลอมรวมล้มเหลว!”
ซือหยูลำบากใจอย่างมากเมื่อสัมผัสได้ว่าทั้งสามต้นกำเนิดกำลังจะระเบิด เขาเคยวางแผนไว้ว่าการหลอมรวมพลังต้นกำเนิดทั้งสามด้วยกันจะทำให้เกิดกระบวนท่าใหม่
แต่จากที่ทำลงไปในครั้งนี้ การหลอมรวมของต้นกำเนิดนั้นยากกว่าที่คาด ตอนนี้มันล้มเหลวและกำลังจะระเบิด!
พลังมหาศาลขนาดนี้มากพอที่จะล้างร่างและวิญญาณของเขาจนหมดสิ้น! ซือหยูใจเต้นระรัว เขาเบิกตากว้าง!
หยางยี่เต๋าผู้ปล่อยจิตสังหารออกมามหาศาลสัมผัสได้ว่าพลังต้นกำเนิดอันบ้าคลั่งกำลังจะระเบิด เขามองดูอย่างตกตะลึง
“เจ้าบ้าไปแล้วรึไง! หลอมรวมต้นกำเนิดเข้าด้วยกัน เจ้าคิดจะฆ่าตัวตายงั้นเรอะ?”
สีหน้าเขาหวาดกลัว เปลือกตากระตุกไม่หยุด เขาตกตะลึงอย่างมาก ในตอนนี้มันยิ่งกว่ากลัวมากกว่าเดิม เทียบได้กับตอนที่เขาเห็นวิบัติอัสนีเป็นครั้งแรก!
“ผสมต้นกำเนิดสองธาตุก็น่ากลัวอยู่แล้ว เจ้ากลับผสมมันทั้งสามธาตุ! เจ้ามันบ้าไปแล้ว!”
หยางยี่เต๋าหวาดกลัวและโกรธแค้น เขาถอนมีดที่กำลังจะฟันซือหยูโดยไม่ลังเล เขาหันกลับและบินหนีหายไปจากระยะการระเบิด!