The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 401
ระดับความยากของการสำเร็จขั้นผู้คุมสวรรค์นั้นเหนือกว่าที่ซือหยูคาดไว้!
ถ้าเขายังคงไม่สำเร็จพลังหลังจากที่กลืนกินผู้คุมสวรรค์ไปสี่คน ความยากของการสำเร็จพลังจะต้องอยู่ในขั้นสุดยอด และแม้ว่าเขาจะกลืนกินผู้คนไปหลายหมื่นคนจากทุกกองกำลังในพันธมิตรอุดรทวีป เขาก็ยังคงไม่เป็นผู้คุมสวรรค์
ในตอนนี้ ซือหยูรู้สึกสิ้นหวัง ความต่างในพลังที่ต้องการนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ ถ้าการล้างสังหารทั้งทวีปยังไม่พอ แล้วเขาจะต้องทำอย่างไรถึงจะทะลวงพลังได้สำเร็จเล่า?
แต่เขาก็รู้สึกว่าเขากำลังใกล้จะสำเร็จพลังอย่างมาก ดูเหมือนว่าความหวังเดียวของเขาจะเป็นการไปยังก้นบึ้งมังกรเก้านรกและใช้โอกาสครั้งนี้ในการสำเร็จพลัง!
ซือหยูลอยอยู่กลางน่านน้ำ เขาหันหลังไปมองทางหลงเฟยหยูและตระกูลทั้งสี่ที่อยู่ห่างออกไปเพียงหมื่นศอก
“ของขวัญงานแต่งของพวกเจ้าทั้งหมดอยู่กับข้า…”
ซือหยูพูดและไปทางพวกเขาช้าๆ
“ถ้าอยากจะได้คืนก็จงเข้ามา”
เขาเรียกธนูออกมา พลังทำลายล้างของมันน่าตกตะลึง
เหล่าผู้เฒ่าของสี่ตระกูลกัดฟัน พวกเขาตามซือหยูมาตลอดเพื่อรอให้เขาอ่อนแอและสังหารเพื่อนำสมบัติตกทอดกลับคืนมา และพวกเขาก็อาจจะได้ชิงสมบัติเพิ่มขึ้นอีก
แต่พลังปีศาจของซือหยูดูดกลืนศัตรูอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าซือหยูจะบาดเจ็บหรือ่อนแอเพียงใด ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ…เขาก็จะฟื้นฟูได้ ในตอนนี้การฆ่าล้างสังหารจบไปแล้ว พวกเขาไม่มีโอกาสอีก
“ราชาปีศาจหิมะทมิฬ…พวกข้าจะจดจำเรื่องครั้งนี้ไว้!”
ผู้เฒ่าสี่ตระกูลถอยกลับ มีเพียงหลงเฟยหยูที่ยังคงอยู่
“เจ้าคิดจะสู้กับข้ารึ?”
ซือหยูถาม เขาจ้องมองหลงเฟยหยู
หลงเฟยหยูยิ้มเยาะ
“สู้กับเจ้าเรอะ? เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว! ข้ายอมรับว่าข้ามิอาจฆ่าล้างทวีปได้อย่างเจ้า ข้าจะไม่มีวันเป็นอย่างเจ้าที่เติมเชื้อเพลิงสงครามให้มากขึ้น! แต่ถ้าหากต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง…เจ้าอ่อนแอเกินไปสำหรับข้า! ความต่างระหว่างราชามนุษย์และผู้คุมสวรรค์นั้นกว้างใหญ่ ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะเข้าใจ”
ซือหยูรู้ในข้อนี้เมื่อเขาเห็นความแข็งแกร่งของเฉินยิ่ง ระดับนั้นเหนือกว่าผู้คุมสวรรค์เป็นอย่างมาก
“เช่นนั้นเจ้าต้องการอะไร?”
ซือหยูถาม
หลงเฟยหยูจ้องอย่างเย็นชา
“ข้ายังต้องพูดอีกรึ? ถ้าเจ้าส่งของทั้งสี่มา ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า! อย่างแรก หยดหมื่นพล อย่างที่สอง เขาแห่งความตาย อย่างที่สาม ปีกตระกูลหวัง และสุดท้าย เศษวิชาระดับตำนาน! ส่วนเหรียญก้นบึ้งมังกรเก้านรก ถือว่าเป็นรางวัลจากข้าก็แล้วกัน! ส่งของพวกนั้นมา!”
รางวัลรึ? เขาทำราวกับซือหยูเป็นขอทานงั้นรึ?
“แล้วถ้าข้าบอกว่าไม่ล่ะ?”
ธนูสีเงินอยู่ในมือที่ไพล่หลัง
จิตสังหารจมลึกอยู่ในดวงตาของหลงเฟยหยู
“เช่นนั้นก็จงตายไปซะ!”
ครืน—
ครืน—
แต่ในตอนนั้นก็มีเสียงคำรามจะพื้นสะเทือนดังขึ้นมาจากนภา เรือรบยาวสามหมื่นลี้ปรากฏขึ้นจากนภาว่างเปล่า มันบดบังท้องนภาและน่ากลัวอย่างมาก
“หลงเฟยหยู จงกลับมาโดยเร็ว!”
เสียงตะโกนอันยิ่งใหญ่ดังก้องไปทั่วทุกทิศทาง
หลงเฟยหยูสีหน้าไม่พอใจ แม้ว่าเขาอยากจะลงมือแต่เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง หลงเฟยหยูตะโกนอย่างเยือกเย็น
“โชคดีนักนะเจ้า! เจ้าจงอย่าใช้สองทั้งสี่นั่น ของพวกนั้นข้าทิ้งไว้ให้เจ้าดูแล ถ้าเจ้ากล้าใช้ของของข้า…ฮื่ม! เจ้าจะต้องชดใช้!”
พรึ่บ–
หลงเฟยหยูหายเข้าไปในเรือรบ เมื่อเขาก้มลงมองก็ไม่พบซือหยูอีกแล้ว ซือหยูหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่เสียงอันไม่ยี่หระของซือหยูก็ดังตามมา
“ข้าหวังว่าคำพูดเจ้าจะเป็นเรื่องจริง ข้าจะรอเจ้าจัดการข้าในตอนที่ข้าไร้ทางออก”
ความไม่พอใจกัดกินหลงเฟยหยู
ในเรือรบแสงเงาปรากฏ นั่นคือแสงจุติพันลี้ที่คนในขอบเขตกึ่งเทพครอบครอง
“เฟยหยู ทำไมเจ้าถึงไม่กลับมานานนัก?”
หลงเฟยหยูสีหน้าเคร่งเครียด
“ท่านพ่อ…”
“ท่านได้ยินเรื่องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของทวีปเหนือหรือไม่?”
แสงเงาสลายไป ใบหน้าจริงมิได้เห็นอย่างชัดเจน รับรู้แต่เพียงอารมณ์
“ข้ารู้ ราชาปีศาจหิมะทมิฬ ลูกหลานตระกูลกุย จู่ๆก็ปรากฏตัวและล้างสังหารพันธมิตรอุดรทวีป เรื่องนี้ค่อนข้างประหลาด”
“เช่นนั้นท่านพ่อก็รู้ด้วยใช่หรือไม่ว่าเขามีเขาแห่งความตายและหยดหมื่นพลในมือ?”
เงานั้นพยักหน้าเบาๆ
“ข้ารู้แล้ว ข้าจะส่งคนไปรับสมบัติเทพกลับมาเพราะมันอันตรายเกินไป พันธมิตรผู้คุมสวรรค์จะต้องดูแลของสิ่งนั้นแทนเขา”
หลงเฟยหยูใจเย็นลงเมื่อได้ยินเช่นนี้
“ขอรับท่านพ่อ!”
“เตรียมตัวให้พร้อม ศิษย์ของฉิวหนิงชุ่ย จ้าววิหคเพลิงอาสัญกำลังจะเข้าไปที่ก้นบึ้งมังกรเก้านรกเพื่อบ่มเพาะพลังเป็นผู้คุมสวรรค์ ต้องมีคนตามนางไปปกป้องนางตลอดการบ่มเพาะ เจ้าจงเตรียมตัวให้เร็ว”
หลงเฟยหยูรู้สึกยินดี
“ฉินเซี่ยนเอ๋อกำลังจะไปที่ก้นบึ้งมังกรเก้านรกรึ? งานนี้เป็นหน้าที่ข้าเท่านั้น! ข้าจะช่วยให้เซี่ยนเอ๋อได้เป็นผู้คุมสวรรค์!”
เงาร่างนั้นหัวเราะ
“ไปซะ ถ้าเจ้าทำได้ดี ข้าจะคิดถึงเรื่องขอจ้าววิหคเพลิงอาสัญให้จับคู่เจ้าทั้งคู่ให้”
หลงเฟยหยูหัวเราะ
“ไว้ใจข้าได้เลย!”
******
ที่อาณาจักรทมิฬ ใต้จุดสูงสุด
เงาอันงดงามทอดยาวตามอาทิตย์อัสดงดั่งภาพเขียนจากยอดจิตรกร
เซี่ยจิงหยูนั่งเท้าคางอย่างเงียบเชียบ นางมองท้องนภาห่างไกล ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยอารมณ์ นางยิ้ม ต่อมาก็เซื่องซึม จากนั้นจึงกังวล จากนั้นไม่พอใจ
จ้าวฉิงจูรู้สึกอิจฉาอย่างไร้เหตุผล เขามิอาจเข้าใจว่าเหตุใดหยินหยูจึงทำให้เซี่ยจิงหยูหมกมุ่นนัก
“ยี่หยู…”
“หยินหยูผู้นี้ เขาคือซือหยูเพื่อนสนิทเจ้าจากเกาะเฉินยี่ที่เจ้าพูดถึงใช่หรือไม่?”
ยี่หยูคืนสติกลับมาและทำใบหน้าเรียบเฉย แต่สายตาของนางก็มิอาจปกปิดความคิดถึงซือหยูไปได้
“ใช่แล้ว…”
“เขาคือเพื่อนสนิทของข้า สัญญาระหว่างเรา ข้าจะใช้ดวงตาคู่นี้ของข้ามองทุกสิ่งที่งดงามในทวีปเฉินหลงแทนเขา!”
ในบรรดาเจ็ดจ้าวแห่งความมืด มีเพียงฉิงจูที่นิสัยอ่อนโยน ยี่หยูคือคนเดียวที่เขาพูดคุยด้วยได้ มีแค่เขาที่รับรู้ถึงตัวตนของซือหยู
ฉิงจูพูดขึ้น
“ใครจะไปคิดว่าเขาถูกตัดสินว่าไร้พรสวรรค์จะได้เข้ามาในทวีปเฉินหลงด้วยตัวตนที่มีคุณสมบัติวิญญาณวิปลาส แล้วเขาก็ยังไต่สูงขึ้นทีละก้าว…ยอดเยี่ยมนัก”
จากเกาะรกร้างห่างไกล เขาได้ไต่ขึ้นมาเป็นรองเจ้าตำหนักหยินหยู ฉิงจูรู้ว่าซือหยูนั้นยอดเยี่ยม แต่ในสายตานั้นเขามองว่าซือหยูไม่คู่ควรกับเซี่ยจิงหยู
เซี่ยจิงหยูนั้นเป็นตัวตนอันงดงาม และซือหยูเป็นเพียงคนธรรมดา เป็นแค่อีกคนธรรมดาบนจักรวาลแห่งนี้ ซือหยูไม่ใกล้เคียงกับคนที่คู่ควรกับเซี่ยจิงหยูแม้แต่น้อย และหลังจากที่ยี่หยูรู้ว่าหยินหยูคือซือหยู การเปลี่ยนแปลงของนางก็ทำให้ฉิงจูเศร้าหมอง
“ตอนนี้สถานการณ์ไม่ดีนัก เฉินยิ่งกำลังไล่ล่าเขาด้วยตัวเอง”
ฉิงจูพูดโพล่งขึ้นมา
แต่เซี่ยนจิงหยูก็เผยรอยยิ้มอย่างงดงามจากจิตวิญญาณออกมา รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจอันตระการตา
“เขาจะต้องไม่เป็นอะไร ข้าเชื่อมั่นในเขา ข้าเชื่อมั่นใจตัวเขายิ่งกว่าที่ข้าเชื่อมั่นในตัวข้าเองเสียอีก!”
เชื่อมั่นใจตัวเขายิ่งกว่าเชื่อมั่นในตัวเองงั้นรึ?
เพลิงริษยาแผดเผาดวงตาฉิงจู เขาคิดมาก่อนว่าถ้าหยินหยูตายไปก็เป็นเรื่องดี! เขารู้สึกว่าซือหยูไม่คู่ควรที่จะเป็นเพื่อนสนิทกับเซี่ยจิงหยู อย่างน้อยๆเขาก็ไม่คิดว่าซือหยูแข็งแกร่งกว่าเขา
“เอาเถอะ…”
ฉิงจูตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง
“เราควรเดินทางไปที่ก้นบึ้งมังกรเก้านรก เจ้าจะได้บ่มเพาะเป็นผู้คุมสวรรค์”
เซี่ยจิงหยูยืนขึ้นช้าๆ สีหน้านางทำเป็นไร้อารมณ์
“อืม เราต้องเตรียมตัว แต่ข้าก็อยากจะเดินทางไปทวีปเหนือเสียก่อน”
“เจ้าจะทำอะไร?”
ฉิงจูขมวดคิ้ว เขารู้ความตั้งใจของเซี่ยจิงหยู
ใบหน้าไร้อารมณ์ของเซี่ยจิงหยูมีจิตสังหารที่ยากจะได้พบเจอ
“ข้าจะทำสิ่งที่ข้าไม่ชอบที่สุด…นั่นคือการสังหารคน! คนหลายคน! ใครก็ตามที่เปื้อนโลหิตของเขาต้องชดใช้!”