The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 650 - กองทัพแห่งความแค้น
ตอนที่ 650 – กองทัพแห่งความแค้น
“ฮ่าๆๆๆ ข้าขอไปก่อนล่ะ!”
เสียงของคนที่พุ่งเข้าไปข้างหน้าตะโกนดังก้อง
เขามีแขนเสื้อซ้ายที่ว่างเปล่า ดวงตาซ้ายปิดสนิทเหลือเพียงตาขวา เขาคือวีรบุรุษแขนเดียว นายน้อยแห่งเสาใต้!
ในการต่อสู้ครั้งใหญ่ เขาได้เสียแขนข้างเดียวที่เหลือไป เขาถือกระบี่ในมือไม่ได้อีกแล้ว
แต่เขาก็ยังมีกระบี่คาบไว้ในปาก! กระบี่เล่มนี้มีทั้งเลือดของศัตรูและเลือดของเขาเอง!
เขาคาบกระบีหัวเราะ และพุ่งลงไปราวกับดาวตก เหมือนกับแสงที่สวรรค์หลงเหลือไว้ให้คนได้มอง เป็นแสงที่นาพามวลมนุษย์ออกจากความมืดมิด
ปั้ง
ร่างของเขาค่อยๆหายไป เริ่มจากขาทั้งสองข้าง จากนั้นจึงเป็นลําตัว เมื่อมาถึงหน้าเชี่ยหวู่ก็เหลือเพียงหัวและกระบี่ในปาก
“ตายซะไอ้สารเลว!”
หัวของเขาอยู่ห่างจากเชี่ยหวู่่เพียงสามศอก
จากระยะสามศอก ดวงตาเพียงข้างเดียวยังคงเปล่งประกายอย่างน่ากลัว เขาราวกับอาวุธ เทพที่ทะลวงหัวใจของเชี่ยหวู่และบดขยี้ดวงวิญญาณ
ภาพที่ได้เห็นทําให้เชี่ยหวู่่ใจสั่น ความเกลียดชังในลูกตาเดียวแสดงถึงความแค้นไร้ก้นบึง ยากที่จะลืมมันไปได้
ปั่ก
และตอนนั้น หัวของเขาได้สลายไปเพราะการกัดของพิษ กระบี่ที่คาบในปากเองก็สลายไป เช่นกัน
นายน้อยแขนข้างเดียวราวกับดาวตกที่ถูกเผาจนหมดก่อนถึงพื้นโลก สิ่งที่เหลือมีเพียงเถ้าอันงดงามที่หายไปจากโลกตลอดกาล ในท้ายสุด กระบี่ของเขาไม่ได้สัมผัสขนสักเส้นเดียวของเชี่ยหวู่
แต่จิตวิญญาณของเขามิอาจลืมเลือน มันได้ทะลวงหัวใจของเชี่ยหวู่
“นายน้อยเสาใต้!”
ผู้เฒ่าเฉินที่ยืนอยู่ข้างลั่วซวงตะโกน
ทั้งคู่ตามรอยดาวตกที่หลงเหลือบนนภา พวกเขาพุ่งเข้าใส่ศัตรูอันไร้เทียมทาน
ดวงวิญญาณของทุกคนสั่นระริก พวกเขาเริ่มน้ำตาไหล
อย่างที่ผู้เฒ่าเฉินพูดไว้…แม้ว่าเขาจะตาย…ก็ยังมีคนอีกมากมายของทวีปเฉินหลงเหลือรอด ผู้เฒ่าเฉิน ลั่วซวง และคนในหน่วยกวาดล้างทุกคนล้วนมองเห็นความตายดั่งการกลับบ้าน
พวกเขาตั้งมั่นที่จะเป็นดาวตกแห่งความมืดในการเอาชนะศัตรูที่กล้าแกร่ง พวกเขาได้แค่ ฝากความหวังไว้กับคนรุ่นต่อไป
“ข้าก็อยู่ที่นี่! มีอะไรที่ข้าต้องกลัวกัน? อย่างมากข้าก็แค่ตายเท่านั้น!”
เสียงตะโกนดังมาจากคนหนึ่งในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ที่ถอยไปก่อนหน้านี้ เขารีบพุ่งเข้ามาตามผู้เฒ่าเฉิน
“ข้าก็ด้วย! ชีวิตเป็นดั่งกระดานหมาก ข้าจะอยู่เยี่ยงคนธรรมดาไร้ความกล้าหาญได้ยังไง? ให้ข้าสู้จนหยดสุดท้ายด้วยเถอะ! ฮ่าๆๆๆ…”
มีอีกคนตะโกนขึ้นมา
“ให้ข้าสนุกด้วยเช่ ในที่สุดข้าก็ได้รู้จุดหมายของชีวิต! มันไม่ใช่ชีวิตเพื่อตัวข้า แต่เพื่อปกป้องคนที่ข้ารัก แต่ช้าเหลือเกินที่ข้าไม่รู้มาก่อนหน้านี้ เพราะพวกท่านทั้งสองจากไปแล้ว! ให้ข้าส่งของขวัญการปกป้องกับคนรุ่นต่อไป! ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าจะไปหาท่านแล้ว!
มีอีกคนตะโกนขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆ ไปด้วยกันเถอะ ต่อให้ตาย เลือดข้าก็จะต้องท่วมมิดหัวมันจนตายไปด้วย!”
เสียงอีกคนตะโกนอย่างห้าวหาญ
“ไปเลย! ให้เลือดพวกเราเสริมกําลังแม่น้ําเฉินหลง ให้ชีวิตพวกเราเป็นความหวังใหม่ของ เฉินหลง!”
อีกคนหนึ่งเข้ามาร่วมด้วยเช่นกัน
“ฆ่ามัน!”
เสียงตะโกนไม่รู้จบดังก้องจากกองทัพ
ทั้งหมื่นคนที่ถอยออกไปราวกับถูกต้มโลหิตจนเดือดพล่าน พวกเขาพร้อมจะพุ่งเข้าใส่ศัตรูไร้เทียมทาน พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าด้วยพลังที่แข็งแกร่ง แม้แต่พลังพิษก็สลายไปด้วยพลังของคนมหาศาล!
ไม่ว่าฝ่ามือพิษของเชี่ยหวู่จะร้ายแรงแค่ไหน มันก็มิอาจเหนือกว่าคนหมื่นคนได้ และมันยังดับจิตอาฆาตของแต่ละคนไม่ได้อีกด้วย
เชี่ยหวู่ก้าวไปข้างหลัง แม้จะก้าวเดียว มันก็แสดงให้เห็นว่าเขากําลังตื่นตระหนก
เขาไม่เคยเห็นจิตตั้งมั่นของมนุษย์ที่น่ากลัวเท่านี้มาก่อน พวกมันเป็นแค่ฝูงมด แต่ก็ทําให้เขาหวาดกลัวได้ ทั้งหมื่นคนยังรวมพลังจนเกิดเป็นแรงกดดันที่เขาไม่อาจก้าวข้าม
เชี่ยหวู่รู้สึกอับอายเมื่อใจเย็นลง เขามิอาจเชื่อว่าตัวเองจะหวาดกลัวกับกลุ่มมดปลวกเหล่านี้
“พวกเจ้าทุกคนต้องตาย!”
เขาตะโกนเสียงหลง บอกได้เลยว่าเขากระสับกระส่ายแค่ไหน
เขาซัดฝ่ามือออกไปอีกสิบครั้ง แต่ละครั้งครอบคลุมผู้คนมากกว่าพันคน ดังนั้นสิบฝ่ามือจึง สังหารจนได้ทั้งหมื่น
เหล่าทหารเงาทมิฬที่อยู่ด้านหลังก็สัมผัสได้ถึงพลังอันตระการตาที่เหมือนกับดาวตกลูกยักษ์ คนทั้งหมื่นคนทําให้พวกเขาใจสั่นจากก้นบึงของหัวใจ
พวกเขาแปลกใจเช่นกันที่เจ็ดศักดิ์สิทธิ์ผู้ชั่วร้ายไร้จิตใจอยู่เสมอกลับตื่นตระหนกขึ้นมาได้ คนทั้งหมื่นคนนี้มิได้สนใจชีวิตของตัวเอง พวกเขาสาบานจะฆ่าเชี่ยหวู่ไม่ว่าจะต้องแลกกับสิ่งใด! พวกเขาไม่สนใจฝ่ามือทั้งสิบที่ฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด!
“ย้ากกก!”
เสียงตะโกนเบาๆดังแทรกขึ้นมา
กิเลนชมพูพุ่งเข้าใส่วู่เหิงที่หมดสติ กิเลนที่สะบัดปีกดูน่ารักอย่างมาก
กิเลนน้อยใช้พลังทั้งหมดอ้าปากกว้าง สายลมรุนแรงพัดพาพลังพิษจากฝ่ามือทั้งสิบเข้าไปใน ปากกิเลนน้อย
พริบตาเดียว แสงสีม่วงบนอากาศได้หายไปเหลือท้องนภาสดใสสีครามดังเดิม พิษทั้งหมดถูกดูดไปแล้ว!
เอิ้ก…
กิเลนน้อยเรอออกมาราวกับคนที่อิ่มอาหาร มันแบกวู่เหิงไปข้างผู้เฒ่าเฉิน หลังจากที่ไปถึงผู้เฒ่าเฉินมันก็คุกเข่าบนไหล่ผู้เฒ่าเฉินและกัดฟันใส่เชี่ยหวู่ มันดูโกรธมาก
ทุกคนตกตะลึงและพูดไม่ออก แม้แต่เชี่ยหวู่ก็ตกใจ
เลือดพิษทั้งหมดถูกกิเลนน้อยดูดกลืนไปหมดแล้วรึ?
ที่มันทําลงไปก็ดีแล้ว แต่มันกล้ากระโดดไปมาอย่างเบิกบานใจตอนนี้ได้ยังไงกัน?
“ว้าว สัตว์วิญญาณระดับสูง ข้ามองข้ามไปจริงๆ! ข้าจะต้องได้มันมาครอง!”
เชี่ยหวู่เรียกสติคืนมาและหมายตากิเลนน้อย เขาหายตัวพุ่งไปจับกิเลน!
“ปกป้องมัน!”
ผู้เฒ่าเฉินสัมผัสได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
แต่ไม่มีทางที่พวกเขาจะเร็วไปกว่าภูติระดับสาม ก่อนที่พวกเขาจะได้ขยับตัว เชี่ยหวู่ก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้ว เขาหัวเราะอย่างดุร้ายและยื่นมือไปหากิเลนน้อย
ปั้ง
มีเสียงแปลกๆดังออกมา มีวัตถุทรงกลมสีครามและสีอําพันตกมาจากฟ้า มันพุ่งตรงมาที่ศีรษะของเชี่ยหวู่
เชี่ยหวู่ตกใจ เขามองมันและหัวเราะ
“นั่นมันการลอบโจมตีอะไร?”
วัตถุทรงกลมที่ตกลงมามิได้มีพลังชีวิต เสียงตอนตกก็ดูธรรมดาเช่นกัน ราวกับว่ามันบังเอิญหล่นมาจากฟ้าเฉยๆ
“หายไปซะ!”
เชี่ยหวู่โบกมือพัดมันออกไป แต่สายลมรุนแรงก็ไม่ทําให้วัตถุทรงกลมทั้งสองขยับแม้แต่นิดเดียว
เอ๋? เชี่ยหวู่เพิ่งรู้ตัวว่ามีบางอย่างแปลกๆ ถึงสายลมที่เขาสร้างจะธรรมดา แต่มันก็มีพลังมหาศาล แม้แต่สมบัติวิญญาณก็ต้องเปลี่ยนทิศทางเมื่อเจอกับลมแรงเช่นนี้
แต่วัตถุทรงกลมนี้กลับไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย มันยังตกลงมาไม่หยุด
“ออกไปนะ!”
เชี่ยหวู่เคร่งเครียด ชั้นพลังโลหิตก่อร่างในมือ เขาตบวัตถุทรงกลมไปหนึ่งครั้ง
นอกจากฝ่ามือเขาจะทําอะไรมันไม่ได้ พิษในมือยังกลายเป็นฝุ่นผง ใบหน้าเชี่ยหวู่แสดงความกลัวออกมาเมื่อมือได้สัมผัสกับมัน
“อ๊าก!!”
เสียงระเบิดดังลั่น เขาร้องด้วยความเจ็บปวด มือทั้งสองข้างของเชี่ยหวู่ระเบิดออกและกลายเป็นฝักบัวโลหิต
นี่คือผลจากการที่มีอถูกบดขยี้โดยพลังมหาศาล! ทุกคนเงียบจนลืมหายใจ พวกเขาสงสัย…
สิ่งของใดกันที่ทําให้มือของภูติระดับสามระเบิดได้?
แต่มันก็ยังไม่จบเมื่อมือของเขาระเบิดวัตถุทรงกลมนั้นไม่ได้เคลื่อนไหวช้าลงแม้แต่น้อย มันยังจมลงมาข้างล่างราวกับบดขยิ้มด
มันกดดันเชี่ยหวู่ด้วยความเร็วสูง เขาจมลงไปในดิน
ตุ้ม
แผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อมันตกถึงพื้น ทุกคนบนพื้นรู้สึกว่าผืนธรณีปั่นป่วนอยู่ที่ใต้เท้า มีบางคนล้มลงไป
ส่วนคนที่ลอยอยู่ก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรง พวกเขาได้ยินเสียงพื้นดินบดขยี้กันไม่หยุด พวกเขาถูกดันออกไปหลายลี้!
ฝุ่นควันได้ลอยขึ้นมาราวกับดอกเห็ดยักษ์ ทุกคนเงียบกริบ…
นั่นมันของสิ่งใดกัน? ของที่ดูธรรมดาอย่างนั้นจะทําให้เกิดเรื่องน่ากลัวแบบนี้ได้รี?
ผู้คนสับสนและตกตะลึง ฝุ่นควันเริ่มจางไป สิ่งที่เห็นทําให้พวกเขาใจเต้นแรงกว่าเดิม
พวกเขาเห็นพื้นที่เหมือนกับถูกซัดโดยพลังที่ไม่ทราบที่มา มันกลายเป็นหลุมดํามืดที่ลึกลงไป!
ที่กลางหลุมมีรอยแยกแปดรอยในคนละทิศทางจากเขตกลาง มันแบ่งเขตกลางเป็นสองส่วน
นี่คือผลลัพธ์จากการที่วัตถุทรงกลมชิ้นเดียวหล่นมาจากฟ้า! แม้ว่ากลุ่มภูติจะร่วมมือกันก็มิอาจสร้างความเสียหายเช่นนี้ได้! ทุกคนสงสัยอีกครั้ง…
สิ่งนี้คืออะไรกัน?
“ข้ามาช้าไป”
เสียงถอนหายใจเบาๆดังมาจากเบื้องบน
หูกิเลนน้อยกระตุกเมื่อได้ยินเสียง มันยืนขึ้นในทันทีและกระโดดไปที่ไหล่ของชายหนุ่มผมสีเงิน มันหนุนหัวกับลําคอของชายหนุ่มคนนั้นด้วยความรัก
“ท่านเจ้าพันธมิตร!”
เหล่าผู้คนตะโกนเสียงดัง ความนับถือต่อซือหยูพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่มีคําอธิบายใดจะสื่อถึงสิ่งนี้ได้อีก
พวกเขามองดูชายหนุ่มผู้น่าเกรงขาม พวกเขาไม่รู้สึกแม้แต่ความริษยา นั่นก็เพราะพลังของซือหยูอยู่ในระดับเทพในใจของพวกเขา
ผู้เฒ่าเฉินตกใจกับการที่ซือหยูฆ่าเชี่ยหวู่ได้อย่างง่ายดาย เขาตกใจยิ่งกว่าที่ว่าตะขาบเลือดเกล็ดมุกที่ซือหยูต่อสู้อยู่ได้หายตัวไปแล้ว
“ท่านเจ้าพันธมิตร ไอ้สัตว์ประหลาดนั้นหายไปไหน?”
ผู้เฒ่าเฉินถามด้วยความสงสัย
แต่ทันใดนั้นเองเขาก็พบว่ามีสายโลหิตหยดลงมาจากแขนเสื้อของซือหยูไม่หยุด มันไหลลงมาถึงข้อมือ
ผู้เฒ่าเฉินตกใจและรีบถาม
“ท่านเจ้าพันธมิตรบาดเจ็บงั้นรึ?”
ซือหยูไม่ตอบอะไร สีหน้าเขาดูหม่นหมอง เขามองไปยังท้องนภา เนตรวิญญาณของเขากําลังพยายามมองหาอะไรบางอย่าง
ทุกคนในพันธมิตรผู้คุมสวรรค์สนใจแต่กับการต่อสู้ พวกเขาจึงไม่ได้สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับซือหยูและตะขาบเลือดเกล็ดมุก สัตว์ประหลาดนั่นแข็งแกร่งโดยแท้จริง มันมีวิชาเนตรที่ยอดเยี่ยมจนม่านเกราะของเกราะราชาศิลานิรันดร์ต้านไม่อยู่!
แต่แขนของซือหยูก็ไม่ได้บาดเจ็บเพราะตะขาบ เขาบาดเจ็บเพราะพลังลึกลับ!
มีคลื่นพลังแข็งแกร่งที่ตกมาจากฟ้าและชิงเอาตัวตะขาบเลือดเกล็ดมุกไป แต่ก่อนจะไป มันยังพยายามฆ่าซือหยู
ซือหยูรับพลังนั้นได้ทันท่วงทีโดยใช้กายามังกร ลําดับห้าธาตุ ไม้หกทิศ และเกราะราชาศิลานิรันดร์ มือของเขาถูกเฉือน นั้นเป็นที่มาของบาดแผล
แม้จะมีการคุ้มกันจากสมบัติหลายชิ้นและกายามังกร เขาก็ยังบาดเจ็บ ตั้งแต่ต้นจนจบ ซือหยูไม่เห็นศัตรูอย่างชัดเจนเลย สิ่งเดียวที่มั่นใจก็คือศัตรูมาจากเบื้องบน!
ซือหยูมองบาดแผลที่แขนและใจหายเล็กน้อย
“ท่านเจ้าพันธมิตร…”
ผู้เฒ่าเฉินเห็นบางอย่างที่แปลกไป เขารู้ว่าคนที่ทําร้ายเจ้าพันธมิตรจะต้องแข็งแกร่งอย่างมากแน่นอน
ซือหยูใจเย็นและโบกมือ
“ข้าไม่เป็นไร ตรวจสอบความสูญเสียของพวกเราก่อนเถอะ”
จากนั้นเขาจึงสั่งเสียงดัง
“ช่วยคนที่บาดเจ็บและฝังคนที่ตาย!”
ซือหยูเห็นภาพตอนที่นายน้อยแขนเดียวได้กลายเป็นฝุ่นผง แต่เขาก็มิอาจช่วยได้ทัน เขาทําได้แค่ให้กิเลนน้อยมาช่วย
สิ่งที่เกิดขึ้นประทับลงในวิญญาณของซือหยูเช่นเดียวกับทุกคน หลังจากที่สั่งการ ซือหยูมองไปยังทหารเงาทมิฬที่เหลือยี่สิบสองคน
เมื่อได้เห็นแววตาของซือหยู ทั้งหมดก้าวไปข้างหลังด้วยความกลัว พวกเขาทําให้ฝั่งซือหยูุเสียหายมากมายนัก
“เดี๋ยวก่อน! พวกข้ายอมแพ้!”
เหล่าทหารเงาทมิฬไม่คิดจะสู้ต่อ พวกเขายอมแพ้ในทันที
“ใครกันที่ยอมรับการยอมแพ้ของเจ้า?”
ซือหยูถามกลับไป แววตาของเขาเย็นชายิ่งกว่าเดิม
เขาอัดอากาศด้วยมือขวา ไม่นานมันก็ถูกอัดจนเป็นลูกกลมสีดํา
มันคือลูกพลังที่เกิดจากแรงกดดันพลังมหาศาล พลังทําลายล้างอัดอยู่ในมือของซือหยู
“ตั้งแต่โบราณ คนที่ยอมแพ้จะไม่ถูกฆ่า มันเป็นเช่นนี้เสมv…”
หนึ่งในทหารเงาทมิฬพูด
ใบหน้าของทหารเงาทมิฬที่เหลือขาวซีด พวกเขารู้สึกถึงพลังมหาศาลจากฝ่ามือของซือหยู
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ซือหยูก็แทรกขึ้นมา
“ตั้งแต่โบราณรี? แล้วตอนที่พวกเจ้าบุกรุก คนที่ผ่านมาไม่เคยยอมแพ้เลยรึ? พวกเจ้าคิดถึงเรื่องธรรมเนียมโบราณเหล่านี้หรือไม่?”
ทหารเงาทมิฬหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม พวกเขาไม่คิดว่าวันหนึ่งพวกเขาจะกลายมาเป็นผู้ร้ายของการล้างสังหาร!
“มิใช่ว่าคนจากเฉินหลงมีความเมตตาและใจดีหรอก? ฆ่าพวกข้าไปแล้วไม่ละอายใจบ้างรึ?”
ทหารเงาทมิฬคนหนึ่งพยายามพูดเอาตัวรอด
แต่ซือหยูก็หัวเราะอยู่นาน
“ใครบอกเจ้าว่าพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ของพวกเรามีเมตตา? เจ้าดูคนในกองทัพ ดูแววตาทุกคน พวกเจ้าเห็นสิ่งใด?”
เมื่อเหล่าทหารเงาทมิฬเหลือบมอง พวกเขามิได้เห็นดวงตาที่มีเมตตาหรือความใจดีแม้แต่น้อย ดวงตาเหล่านั้นมีแต่ความชิงชังและความอาฆาต
พวกเขาคือกองทัพแห่งความแค้น!