The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 551
ขออภัยนักอ่านทุกท่าน
ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ขอเปลี่ยน ผู้สร้างสรรพสิ่ง เป็น อสูรเนรมิตร ครับ
———-
ซือหยูมองกิเลนน้อยบินรอบดวงดาวอีกครั้งและกัดฟันใส่ซือหยูกับเซี่ยจิงหยูที่ยืนเหนือดาว กิเลนตั้งใจจะไล่ทั้งสองออกไปเพราะมันกำลังจะกินดาว
“พี่หยู ทำยังไงดี?”
เซี่ยจิงหยูจ้องมองกิเลนน้อยอย่างไม่เป็นมิตร เพราะมันชิงสายใยมังกรของซือหยูไป!
ซือหยูเงียบไปครู่หนึ่งเพื่อใช้ความคิด เขาเหลือบมองกิเลนน้อยและแตะปลายเท้าบินขึ้น
เซี่ยจิงหยูไม่เต็มใจจะยอมแพ้ แต่นางยังคงเชื่อฟังซือหยู นางจึงบินตามเขาไป
เมื่อไม่มีคนรอบๆ กิเลนน้อยสะบัดตัวไปมาและยืนด้วยขาหลัง มันใช้ขาคู่หน้าลูบกันเหมือนกับมนุษย์ที่ประสานหมัด ดูเหมือนว่ามันกำลังจะลองทำอะไรใหม่ๆ! มันจะต้องมีสติปัญญาที่สูงส่งเหนืออื่นใด!
กิเลนน้อยรีบอ้าปากที่ดูดพลังจำนวนมากเข้าไปแล้ว ซือหยูที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยศอกรู้สึกว่ากำลังถูกดึงเข้าไป เขารีบถอยออกมาพร้อมกับเซี่ยจิงหยู ชางก่วนชิงเอ๋อกับไป่หยีเจี้ยนที่ไล่ตามกิเลนก็หยุดเพื่อสังเกตท่าทีของมัน
“นั่นไม่ใช่ดาวเหมือนดวงอื่น! มันคือดาวที่สร้างจากกระดูกของสัตว์อสูรระดับอสูรเนรมิตร ดังนั้นมันจึงทำลายไม่ได้และมีน้ำหนักถึงสองพันชั่ง! เพราะมันก็คือสมบัติที่เคยถูกอสูรเนรมิตรใช้มาแล้ว!”
เซี่ยจิงหยูอุทาน
หรือว่าดาวดวงนี้จะเป็นสมบัติของเทียนจี่จื้อ?
ในตอนนั้น ดาวทั้งดวงที่ไม่เคยขยับกลับถูกดูดไปด้วยพลังมหาศาล จากนั้นดาวดวงอื่นได้คล้อยตามพลังที่ดูดเข้ามาอีก!
ไม่นานหลังจากนั้น กิเลนน้อยรู้สึกถึงความแปลกไป ดวงตาสีม่วงของมันจ้องมองดวงดาวด้วยความโกรธ
เกล็ดสีชมพูในร่างกายของมันเปล่งแสงดูราวกับผิววารี พลังดูดกลืนของมันเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเป็นสองเท่า ขณะเดียวกันซือหยูกับคนที่เหลือก็ต้องถอยไปอีกหลายก้าวจนถึงขั้นบันได
ทั้งทางช้างเผือกกำลังถูกดูดกลืนไปในท้องของกิเลนน้อยด้วยความเร็วสูง แต่ดวงดาวที่อยู่ตรงกลางกลับไม่ขยับแม้แต่น้อย
ดูเหมือนว่ามันจะทำให้กิเลนน้อยโกรธเข้าจริงๆ เนตรสีม่วงเต็มไปด้วยเพลิงแห่งความโกรธ เกล็ดสีชมพูจากทั้งตัวเริ่มเปล่งแสงสีม่วงอ่อนๆออกมา!
พลังดูดกลืนที่เพิ่มขึ้นมาแล้วกลับทวีคูณไปอีกขั้น! ทั้งทางช้างเผือกเคลื่อนตัวในทิศทางตรงกันข้าม ดาวทุกดวงถูกดูดเข้าไปในท้องของกิเลนน้อย การดูดกลืนดวงดาวทั้งลำดับทางช้างเผือกเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ใครอื่นจะทำได้เลย!
สุดท้ายดาวดวงที่อยู่ตรงกลางก็เริ่มขยับ! ดาวทั้งดวงสั่นสะเทือน! แต่มันก็เป็นอยู่เพียงไม่นาน จากนั้นมันก็ร่วงลงสู่พื้น
กิเลนน้อยถอนหายใจด้วยความเศร้า มันกระทืบเท้าอย่างแรง แม้ว่ามันจะใช้พลังสูงสุด กิเลนน้อยก็ขยับดาวดวงตรงกลางได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หากมองดูจากทางช้างเผือกในตอนนี้ ดวงดาวอื่นเหลือน้อยและห่างไกล พวกมันกระจัดกระจายอย่างยุ่งเหยิง!
ดาวที่เหลืออยู่ในตอนนี้มีเพียงหนึ่งในสิบจากแรกเริ่ม แต่สิ่งที่ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงคือดาวตรงกลาง!
กิเลนน้อยทั้งอับอายและโกรธแค้น มันกระโจนกระทืบดาว กีบเท้าเล็กๆทั้งสี่กระทบดาวเสียงดัง
จากนั้นดาวก็สั่นอย่างแรง! กิเลนน้อยก้มลงมองด้วยความแปลกใจและสับสน
จากนั้นไม่นานก็เกิดรอยแตกที่กลางดวงดาว! ทั้งลำดับทางช้างเผือกหลุดเคลื่อนไหวในทันทีที่เกิดรอยแตก!
ไป่หยีเจี้ยนตาเป็นประกาย
“ได้การล่ะ! นั่นคือที่สุดท้ายของสมบัติวัตถุดิบในลำดับทางช้างเผือก!”
กิเลนน้อยพุ่งเข้าไปในรอยแตกแล้วเมื่อเขาพูด
“ไล่ตามมันไป!”
ไป่หยีเจี้ยนมิอาจปิดบังความตื่นเต้น เขาเข้าไปในช่องว่างตามไปด้วยบุตรชาย
จากนั้นราชาปีศาจ ซือหยู เซี่ยจิงหยู และจางซื่อเหลียนที่เงียบมานานก็ไล่ตามไป
เมื่อผ่านรอยแตก ซือหยูได้เจอกับแสงจ้าที่ต้องหลับตารับ! มันมีตำหนักกระดูกอยู่ในดวงดาว!
ทั้งตำหนักทำมาจากไป่กู้ผู้ที่เป็นอสูรเนรมิตร มันเปล่งแสงที่อ่อนโยนออกมา กลางตำหนักมีศีรษะสัตว์อสูรขนาดใหญ่สองตัววางอยู่
แม้สัตว์อสูรจะตายมานาน ศีรษะของมันก็ยังปล่อยพลังที่แข็งแกร่งดุร้ายออกมาราวกับจะเตือนผู้คนไม่ให้เข้าใกล้ ทุกคนมองดูมุกสองเม็ดที่อยู่ในปากของมันแต่ละตัว
มุกเม็ดหนึ่งเป็นสีเงินงดงามขณะที่อีกเม็ดเป็นอีอำพันเข้ม สัตว์อสูรทั้งสองวางไว้อย่างสมมาตรขณะที่มุกทั้งสองเม็ดดูตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง
ชางก่วนชิงเอ๋อตกใจจนถึงแกนร่าง นางตะโกนเสียงดัง
“มุกบาดาลโลกปีศาจ!”
ไป่หยีเจี้ยนมองมุกสีเงิน เขาตื่นเต้นไม่ต่างกับชางก่วนชิงเอ๋อ ราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับสิ่งที่เห็นอยู่แล้ว
แต่ซือหยูกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างกับมุกเม็ดนี้เช่นกัน! เขาตื่นเต้นไม่แพ้ไป่หยีเจี้ยน!
ถ้าเขามองไม่ผิด นี่คือมุกที่ใช้พัฒนาต้นแบบสมบัติสายฟ้า มุกสมุทรสาบสูญ!
ตามคำเล่าขาน มันคือหยาดน้ำตาจากสวรรค์ที่มีธาตุอัสนีอยู่ภายใน มันคือหนึ่งในวัตถุดิบที่ดีที่สุดในการตีสมบัติภูติของจิวโจว!
สำหรับต้นแบบสมบัติภูติอย่างตราสายฟ้าห้าธาตุ นี่คือวัตถุดิบหลักที่ต้องการในการตีครั้งที่สอง! ถ้าหากได้วัตถุดิบนี้มาก็เป็นไปได้มากว่าตราสายฟ้าห้าธาตุจะกลายเป็นสมบัติกึ่งภูติ!
ซือหยูทั้งตกใจและตื่นเต้น! แต่เขาก็เป็นว่าซากศพของไป่กู้นั้นนอนอยู่หน้าศีรษะสัตว์อสูรที่คาบมุกสมุทรสาบสูญเอาไว้
ร่างของไป่กู้แห้งเหือดผุพังไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังมีพลังสายฟ้าอ่อนๆอยู่! ซือหยูดูซากที่เหลือของเขา
“นี่มันจักรพรรดิสายฟ้า!”
ซือหยูหัวใจหยุดเต้น
ก่อนหน้านี้เขาได้ตราสายฟ้าห้าธาตุมาจากห้องลับในเขาจักรพรรดิสายฟ้า แต่เขาไม่พบร่างของจักรพรรดิสายฟ้าที่นั่น
ซือหยูสับสนมานานตั้งแต่ครั้งนั้น แต่เขาก็ไม่คิดว่าร่างของจักรพรรดิสายฟ้าจะถูกพบในที่เก็บสมบัติสุดท้าย!
เขาตายที่นี่ได้ยังไง? เพราะจักรพรรดิสายฟ้าเป็นจ้าวเทวะที่ทรงพลังอย่างมาก!
แปลกมากที่เขาจะมาตายในที่แบบนี้!
ซือหยูรู้สึกว่ามีบางสิ่งที่แปลกไปเมื่อมองดูศีรษะสัตว์อสูรทั้งสอง
“จิงหยู เราหนีกันเถอะ!”
ซือหยูดึงเซี่ยจิงหยูและรีบหนีไป! ถ้าหากแม้แต่จ้าวเทวะก็ตายที่นี่ ตำหนักกระดูกจะต้องเต็มไปด้วยอันตรายอย่างแน่นอน!
พฤติกรรมประหลาดของซือหยูทำให้ทุกคนหันไปมองซากไร้วิญญาณที่พบ
“ร่างไร้วิญญาณของจ้าวเทวะรึ?”
ชางก่วนชิงเอ๋อรู้ทันทีว่านางเห็นอะไร นางหัวใจหยุดเต้น แน่นอนว่านางไม่เชื่อว่าจ้าวเทวะผู้แข็งแกร่งจะตายด้วยอุบัติเหตุ!
นางกลอกตามองและตัดสินใจล้มเลิกสิ่งที่คิดจะลงมือ นางหนีออกมาทันที!
คนอื่นๆก็เริ่มทำแบบเดียวกัน ราชาปีศาจที่จ้องมองมุกบาดาลด้วยความโลภเริ่มที่จะถอยออกมา!
คนที่ไม่ขยับตัวไปไหนเลยก็คือไป่หยีเจี้ยนกับบุตรชาย ไป่หยีเจี้ยนยังทำใบหน้าเยาะเย้ย
“เจ้าไม่คิดรึว่าสายไปแล้วที่จะหนี?”
ไป่หยีเจี้ยนหัวเราะ
เมื่อเขาพูดจบ รอยแตกของดวงดาวก็ปิดแน่นเสียงดัง! ซือหยูเกือบจะถูกรอยแยกบีบเอาไว้!
เขาเรียกกระบี่ทองคำออกมาซัดกำแพงตรงหน้า กระบี่ทองคำเฉือนผ่านกำแพงไปได้ลึกเหมือนกับตัดโคลน
แต่ไม่นานกระบี่ทองก็ได้สัมผัสกับสิ่งที่แข็งแกร่งมากลึกลงไป มันฟันลึกไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว!
ซือหยูสะบัดข้อมือเบาๆ กระบี่ทองสั่นสะเทือน สิ่งรอบข้างหลุดร่อนออกมาเผยให้เห็นตัวกำแพง! มันคือชิ้นส่วนกระดูกจากอสูรเนรมิตร!
เมื่อทางออกถูกปิด คนที่เหลือรู้สึกไม่สบายใจทันที พวกเขาเริ่มโจมตีกำแพงจากทั้งสี่ด้าน
เศษดินเริ่มหลุดร่อนออก ที่นี่สร้างจากกระดูกสัตว์อสูรระดับอสูรเนรมิตรทั้งดวง!
ไม่เพียงแต่พวกเขาจะออกจากกับดักนี้ไม่ได้ แต่แม้จ้าวเทวะก็จบชีวิตลงที่นี่! ซากของอดีตจ้าวเทวะทำให้ทุกคนขนลุกซู่!
“ไป่หยีเจี้ยน เจ้าคิดจะทำอะไรกัน?”
ชางก่วนชิงเอ๋อหรี่ตาด้วยความสงสัย
“หึหึ…”
ไป่หยีเจี้ยนหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“เจ้าเต็มใจมาที่นี่เอง ข้าไม่ได้บังคับพวกเจ้า!”
“เจ้าจะทำอะไร? ขังพวกข้าไว้แล้วได้อะไรเรอะ?”
พลังชีวิตของชางก่วนชิงเอ๋อพุ่งออกจากร่าง นางพร้อมที่จะต่อสู้ในทุกเมื่อ
ไป่หยีเจี้ยนหัวเราะชอบใจ
“ใครบอกว่าข้าจะขังเจ้ากันเล่า? ข้าจะจบชีวิตพวกเจ้าต่างหาก! เพราะแก่นโลหิตของยอดฝีมืออย่างพวกเจ้าจะทำให้ดาวดวงนี้ปลดผนึกกระโจมเทพสวรรค์ พวกข้าจะได้เข้าไปในดินแดนจิวโจวที่กว้างใหญ่! ตระกูลข้ารอคอยเวลานี้มานานเกินไปแล้ว!”
ชางก่วนชิงเอ๋อใบหน้าเย็นชาลง
“ฮื่ม อสูรเนรมิตรยังปลดผนึกกระโจมเทพสวรรค์ไม่ได้ อะไรทำให้เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำสำเร็จ?”
ไป่หยีเจี้ยนหัวเราะต่อไป
“เทียนจี่จื้อทิ้งของดีเอาไว้ หนึ่งในนั้นไม่ใช่แค่ปลดผนึกที่นี่ได้ แต่มันยังสังหารอสูรเนรมิตรได้ในพริบตา!”
ใบหน้าของทุกคนเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก ชางก่วนชิงเอ๋อถามต่อไป
“ถ้าเช่นนั้น เจ้าคิดว่าเจ้ากับลูกชายเจ้าจะฆ่าพวกข้าทั้งหมดได้รึ?”
ไป่หยีเจี้ยนหัวเราะ
“ต้องใช้พวกข้าทั้งคู่เลยรึ แค่ลูกชายข้าคนเดียวก็เหลือเฟือแล้ว!”
การคิดว่าไป่ฉีคนนั้นสามารถสังหารทุกคนที่นี่ได้ด้วยตัวเองนั้นน่าขัน แต่ในตอนนี้ก็ไม่มีใครมีกระจิตกระใจที่จะหัวเราะออกมา
ไป่ฉีแสยะยิ้ม
“น่าเสียดายนัก ข้าคิดจะมาที่นี่กับพวกเจ้าด้วยตัวเองแล้วฆ่าพวกเจ้าด้วยมือข้า ข้าไม่คิดเลยว่าท่านพ่อจะเข้ามาด้วย! แต่ก็ไม่เป็นไร ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมดอยู่ดี!”
จิตสังหารของไป่ฉีที่จะสังหารทุกคนระเบิดออกมา คำพูดของเขาทรงพลังอย่างมาก!
ดูจากคำพูดของเขา ซือหยูก็ได้เกิดความคิดอะไรบางอย่างที่น่าตกใจ! จักรพรรดิสายฟ้าที่เป็นจ้าวเทวะอาจจะถูกไป่หยีเจี้ยนสังหาร!