The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 472
พวกเขาเงยหน้ามองสิ่งที่ยิ่งใหญ่ราวกับจักรพรรดิ มันรู้สึกกดดันจนยากจะหายใจ นี่คือพลังของจ้าวเทวะงั้นรึ? แรงกดดันที่พวกเขารู้สึกเมื่อเพียงยืนอยู฿่ต่อหน้านั้น….ราวกับว่าถ้าพวกเขาจู่โจม พวกเขาทั้งห้าจะแหลกสลายไป
เสียงดังมาจากด้านหลัง
“ตั้งสมาธิหน่อย อย่าหวั่นไหวเพราะมัน!”
หยางยี่เต๋าเป็นผู้พูด สีหน้าของเขาน่ากลัว เขาใช้พลังวิญญาณใส่ลงในเสียงที่พูดเพื่อให้ทุกคนหลุดจากภวังค์ หยางยี่เต๋ามองสายฟ้าเทวะห้าธาตุและพูดช้าๆ
“นี่ไม่ใช่รูปลักษณ์จริงของจักรพรรดิสายฟ้าแต่เป็นสายฟ้าเทวะห้าธาตุที่เขาทิ้งเอาไว้ มันทำให้คนสับสนเท่านั้น!”
ทำให้สับสน? ซือหยูเข้าใจแล้ว มันเริ่มมีเหตุผล ถ้าหากมีจ้าวเทวะอยู่ที่นี่จริงๆ พวกเขาก็อาจจะก้าวเข้ามาในเขาจักรพรรดิสายฟ้าไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว
หยางยี่เต๋าทุบกล้วยไม้กดวิญญาณในมือ เสียงแหลกดังก่อนที่สมบัตินั้นจะปล่อยพลังชีวิตมหาศาลออกมา วารีพลังชีวิญญาณเอ่อรอบตัวพวกเขา มันเข้าสู่ลำดับทั้งห้าลูก ม่านลำแสงที่ปกป้องกายพวกเขากลับมาอีกครั้ง มันแข็งแกร่งกว่าเดิมสิบเท่า!
จักรพรรดิสูงสามสิบศอกก้มลงมองด้วยความเหยียดหยาม
“ฮื่ม!”
ลำแสงทั้งห้าสั่นอย่างบ้าคลั่ง มันเริ่มส่งสัญญาณว่าจะแตกอีกครั้ง!
ทุกคนตกตะลึง พวกเขาสละกล้วยไม้กดวิญญาณเพื่อใช้ลำดับห้าธาตุด้วยพลังที่เพิ่มขึ้น แต่มันก็ยังจะถูกทำลายไปอีก สายฟ้าเทวะห้าธาตุแข็งแกร่งเช่นนี้เชียวรึ?
หยางยี่เต๋าสร้างผนึกพลังด้วยมือเดียว ลำดับทั้งห้าหมุนช้าๆและพุ่งไปในทิศทางของตำหนักสายฟ้า
“ถ้าเราบุกเข้าไป ลำดับห้าธาตุจะอยู่ได้ไม่นาน”
“ฮื่ม!”
จักรพรรดิสายฟ้ายื่นมือออกมา
ลำดับห้าธาตุถูกเงามือใหญ่บดบัง
เปรี๊ยะ–
แรงเสียดทานเกิดขึ้นจากฝ่ามือและลำดับห้าธาตุ ลำแสงทั้งห้ามิอาจทนรับแรงกดดันไหว มันส่งเสียงแตกร้าว
ซือหยูตื่นตัวมาก เขาพบรอยแตกมากมายจากลำดับของเขา แสงเริ่มเบาบางลง ดูเหมือนว่ามันจะทนได้อีกไม่นาน! แม้จักรพรรดิที่สร้างจากสายฟ้าเทวะห้าธาตุจะไม่ใช่ระดับจ้าวเทวะ แต่มันก็ต้องไม่ใช่ขอบเขตเทวะธรรมดาๆ!
วิกฤติกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทั้งห้าตัวสั่นด้วยความกลัวตาย!
หยางยี่เต๋าเริ่มเป็นกังวล
“แย่ล่ะสิ! พลังของสายฟ้าเทวะห้าธาตุแกร่งยิ่งกว่าคำบอกเล่า มันใกล้เคียงกับระดับจ้าวเทวะอย่างมาก พลังมันอยู่ในช่วงระดับสุดท้ายของขอบเขตภูติ! เร็วเข้า! ใส่พลังชีวิตพวกนี้ลงในลำดับห้าธาตุ ไม่งั้น…ไม่งั้นเราจะตายกันหมด!”
หยางยี่เต๋าหยิบเอาโอสถและสมุนไพรมากมายที่มีพลังชีวิตออกมาจากแหวนเก็บของ แต่พลังชีวิตที่มีก็นับว่าอ่อนแอ
คำพูดของหยางยี่เต๋าทำให้ทุกคนหนาวสั่น สายฟ้าเทวะห้าธาตุนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าที่จินตนาการ แม้จะมีกล้วยไม้กดวิญญาณช่วยเพิ่มพลังให้ลำดับห้าธาตุจนเต็มกำลังก็ยังต่อต้านมันไม่ได้!
แกร๊ก—
เสียงแตกดังทำลายความเงียบ รอยแยกขนาดเท่าแขนปรากฏที่เหนือลำแสง!
ลำดับที่เหยียบใต้เท้าหม่นแสงลงอย่างรวดเร็ว ลำแสงทั้งห้ากำลังแตกสลายอย่างรวดเร็ว
“มันจบแล้ว…”
ยู่จางพูดออกมา
นางหน้าซีด แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า นอกจากสิ่งของที่มีพลังชีวิตในแหวนพื้นที่ของหยางยี่เต๋า ใครกันจะมีพลังชีวิตได้อีก?
หยางยี่เต๋าก็เช่นกัน ใบหน้าไร้สีนั้นสัมผัสได้กับความไม่เป็นธรรมและความเศร้าหมอง
แกร๊ก–
รอยแตกเกิดขึ้นอีกครั้ง ในครั้งนี้มันกว้างถึงหนึ่งศอก ฝ่ามือของสายฟ้าเทวะห้าธาตุกำลังเข้าใกล้พวกเขาเข้าไปทุกที พวกเขาอยู่ใกล้กับตำหนักสายฟ้าขนาดนี้! แต่สุดท้ายพวกเขาก็ล้มเหลว!
แต่ทันใดนั้นเอง ลำแสงทั้งห้าส่องประกายอีกครั้งราวกับดาวตก! แต่พวกมันก็หม่นแสงลงในไม่นานแต่นั่นก็เพียงพอแล้ว ด้วยการลงพลังในครั้งนี้ ลำแสงทั้งห้าระเบิดออกและช่วยยื้อเวลาให้พวกเขา
ทั้งสามคนที่คาดว่าตัวเองจะตายนั้นดีใจ! หยางยี่เต๋าตกใจและรีบใช้ลำดับห้าธาตุเปิดประตูเหล็กบานยักษ์
เมื่อประตูเปิด พลังโบราณพุ่งเข้าใส่พวกเขา ร่างจักรพรรดิสามสิบศอกค่อยๆหายไปจากพลังนั้น สายฟ้าเทวะห้าธาตุที่คอยปกป้องตำหนักสายฟ้ามาหลายขวบปีได้ทำภารกิจเสร็จสิ้นเมื่อประตูถูกเปิดออก และมันก็ได้หายไปจากโลกมนุษย์
ทุกคนดีใจมาก พวกเขาหนีรอดจากคมเขี้ยวแห่งความตายมาได้หวุดหวิด
หยางยี่เต๋าเหลือบมองซือหยูด้วยความนับถือ เขายิ้มอย่างเป็นมิตร
“เจ้าทำได้ดีมาก”
ทุกคนมองซือหยูที่ถือแก้วสีชมพูที่แตกสลาย ในตอนสุดท้าย เป็นซือหยูเองที่หยิบเอาแก้วพลังชีวิตจากเกราะราชาศิลานิรันดร์ออกมา เขาใช้พลังชีวิตสุดท้ายนั้นในลำดับห้าธาตุทำให้พวกเขารอดชีวิต
“ข้าทำเพื่อตัวเองเท่านั้น…”
ซือหยูโยนแก้วที่หมดพลังทิ้งไปอย่างไม่เป็นสุขนัก พลังของเกราะราชาศิลานิรันดร์จะลดลงไปสามในสิบส่วนจากความสูญเสียนี้
“ไม่ต้องห่วง…”
“ข้าจะไม่ให้ทำให้การเสียสละของเจ้าสูญเปล่า เจ้าจะได้สองในสิบส่วนจากสิ่งที่ได้ในโถงสายฟ้า!”
ก่อนหน้านี้ หยางยี่เต๋าอยากจะยึดสมบัติทั้งหมดไว้กับตัวอย่างแน่นอน การให้ซือหยูสองในสิบส่วนนั้นนับว่ามหาศาล
“ไปกันเถอะ แต่ข้าจะขอพูดก่อน…จะไม่มีใครเก็บของทุกสิ่งไว้กับตัวโดยไม่ได้รับคำอนุญาตจากข้า ส่วนแบ่งจะตัดสินโดยข้า!”
ไม่มีใครปฏิเสธในจุดนี้ เขาสละมากที่สุดในครั้งนี้ และเขายังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด เขามีสิทธิ์ที่จะตัดสินเช่นนั้น
ทุกคนเข้าไปในห้องโถงใหญ่ เหล่าเก้าอี้ศิลาเรียงรายอยู่ข้างๆ มันนำทางพวกเขาไปยังส่วนลึกที่สุดของตำหนัก ไปยังแท่น ที่มีบัลลังก์ทองคำตั้งอยู่ บัลลังก์นั้นสลักด้วยมังกรหลายตัว มันปล่อยแรงกดดันวิญญาณอันทรงพลังออกมา
บัลลังก์นั้นผุพังไปตามกาลเวลา และด้วยพลังจากโลกภายนอกไหลซึมเข้าไปเมื่อประตูเปิด บัลลังก์นั้นได้แหลกสลายกลายเป็นฝุ่นควันไปกับสายลม! เหล่าเก้าอี้ศิลารอบๆก็ค่อยๆถล่มลงกลายเป็นฝุ่นหนา
โถงสายฟ้าที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีจนถึงตอนนี้กำลังลมสลายผุพังไปต่อหน้าต่อตา สุดท้ายทั้งห้องโถงก็แทบไม่เหลืออะไร
หยางยี่เต๋าบินไปยังแท่นสูง เขาสะบัดแขนพัดฝุ่นที่บัลลังก์ทิ้งเอาไว้ขุดเอาท่อนไม้ที่มีขนาดไม่ถึงฝ่ามือออกมา สายฟ้าห้าสีปกคลุมท่อนไม้นั้น แม้จะเป็นสายฟ้าอ่อนๆ สายฟ้านั้นก็เป็นสายฟ้าเทวะห้าธาตุที่เขาเพิ่งจะเผชิญหน้า
“ไม้เทวะห้าธาตุ!”
หยางยี่เต๋าพูดด้วยความยินดี
“ไม้สายฟ้านี่มีอายุพันปี…มันเป็นไม้เทวะที่เกิดขึ้นจากการถูกรายล้อมด้วยสายฟ้าเทวะห้าธาตุมาเป็นเวลานาน! ถ้าข้าใช้มันทำสมบัติเทพ มันจะเป็นสมบัติเทพระดับสูง มันอาจจะใช้สร้างสมบัติวิญญาณอัสนีได้ด้วย!”