The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 440
สีหน้าของซือหยูหม่นหมอง เขาบินไปยังทิศเรือรบของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ เขาคิดว่าเขาแค่ต้องสู้กับกึ่งเทพลึกลับที่ไม่มีใครรู้จัก เขาไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องสู้กับราชาปีศาจที่ตกอยู่ในควบคุมของกึ่งเทพด้วย!
เขาเคยเห็นความแข็งแกร่งของราชาปีศาจแล้ว ในใจนั้นเย็นยะเยือก!
“ตายซะ!”
เมฆามืดมิดใต้เท้าของราชาปีศาจเร็วมาก มันใช้เวลาไม่นานก่อนจะไล่ตามซือหยูทัน มันอ้าปากและส่งเสาศิลาสองต้นออกไป
ซือหยูใจหาย อัสนีม่วงส่วนมากนั้นกำลังใช้เพื่อกดพลังอัสนีจากกระบี่สายฟ้าเอาไว้ เขาเหลือสายฟ้าในตัวที่ใช้ได้เพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวเท่านั้น และด้วยการต่อสู้ในแท่นบูชา เขาได้ใช้สายฟ้าที่ใช้ได้จำนวนมากไปแล้ว ถ้าเขายังใช้อีก สายฟ้ามรกตในตัวก็จะกำเริบ มันจะต้องทรมานยิ่งกว่าความตายอย่างแน่นอน
ซือหยูคิดแผนในพริบตาและโยนสร้อยสายฟ้าของฉีหมิงออกไป สายฟ้าพุ่งซัดใส่ราชาปีศาจ ราชาปีศาจใช้พลังภูติก่อตัวเป็นเกราะกำบัง ซือหยูใช้โอกาสนี้ทิ้งระยะห่างอีกครั้ง
ราชาปีศาจถอนหายใจแรง มันมองดูทิศทางของซือหยูและเริ่มไล่ล่าอีกครั้ง!
การไล่ล่าดำเนินไปครึ่งวัน ระยะนั้นเกิดกว่าแสนลี้ และพลังวิญญาณของซือหยูก็ค่อยๆหมดไป เขาเริ่มใจไม่ดีและหยิบโอสถหยาดจันทราเยือกแข็งที่จ้าววิหคเพลิงฉิวให้มาเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณ แต่อีกฝ่ายก็ไล่ล่าไม่หยุดหย่อน เขากำลังจะใช้โอสถหมดในไม่นาน การหนีเอาชีวิตรอดไม่ใช่ทางออก
ซือหยูใช้พลังวิญญาณสุดท้ายที่มีเก็บปีกและตั้งท่าเตรียมต่อสู้!
พลังของราชาปีศาจนั้นแข็งแกร่งกว่าอสุราอย่างมาก และซือหยูก็เดาว่าแม้แต่กึ่งเทพทั้งสามจากพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ก็อาจจะทำอะไรมันไม่ได้ ซือหยูต้องใช้แก้วพลชีวิตสุดท้ายในการเรียกกระบี่สายฟ้า
เพียงแค่เขาเปิดคันฉ่องจักรวาลก็มีรังสีกระบี่อันรุนแรงพวยพุ่งออกมา
สีหน้าราชาปีศาจเปลี่ยนไป มันขนลุกซู่ มันไม่เพียงหยุดไล่ล่าแต่ยังเริ่มถอยไปไกล มันมองซือหยูด้วยความตกใจ
“สมบัติวิญญาณอัสนี?”
“เจ้าเป็นใครกันแน่? เด็กจากโลกดับสูญอย่างเจ้าจะมีสมบัติวิญญาณได้ยังไง!”
ซือหยูเหลือบมองราชาปีศาจ
“ข้าจะบอกเจ้าทำไมกัน?”
สายตานั้นทำให้ราชาปีศาจต้องหยุดคิด ไม่นานจิตสังหารของมันก็ลดลง พลังภูติรอบตัวมันลดน้อยลงไป
“เจ้าอยากจะได้สมุนไพรบาดาลอมตะใช่หรือไม่?”
เอ๋? ซือหยูประหลาดใจเล็กน้อย
“เจ้าจะพูดอะไรกันแน่?”
ราชาปีศาจกอดอก
“ข้าจะต่อรองกับเจ้า ข้าจะให้สมุนไพรบาดาลอมตะ ถ้าเจ้าช่วยข้าฆ่าไอ้แก่บัดซบนั่น!”
ราชาปีศาจแววตาดุร้าย
ซือหยูลูบคาง
“นั่นเป็นร่างวิญญาณและมีความลับมากมาย ข้าอาจจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าเขา ถ้าเป็นเช่นนั้น เจ้าก็จะมีโอกาสฆ่าข้าหลังจากข้าฆ่ามัน”
ราชาปีศาจหัวเราะ
“เจ้าไม่ต้องตกลงตอนนี้ก็ได้! พลังเจ้าไม่ได้อ่อนแอไปกว่าราชามนุษย์ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะไปที่กระโจมเทพสวรรค์ ที่นั่นมีอันตรายมากมายนัก รวมถึงโอกาสที่จะฆ่ามันด้วย ถ้าเจ้าสัญญาจะช่วยข้าฆ่ามัน สมุนไพรบาดาลอมตะก็จะเป็นของเจ้า!”
ซือหยูพยักหน้า
“ก็ได้ ข้าสัญญา! แต่ข้าต้องได้สมุนไพรบาดาลอมตะสองต้น!”
ราชาปีศาจหัวเราะและอ้าปากคายเส้นขนสีดำสองเส้นออกมา สมุนไพรบาดาลอมตะคือเส้นผมของราชาปีศาจ
“ย่อมได้!”
“ตอนนี้ข้าถูกไอ้แก่นั่นควบคุม สมบัติข้าก็เป็นของมัน ข้าให้เจ้าตอนนี้จะไม่เป็นอะไรรึ?”
ในตอนนั้นมันก็คายม้วนคัมภีร์ออกมา มันคือปฏิญาณสัตย์ดวงใจ! ถ้าหากมีปฏิญาณสัตว์ดวงใจ ราชาปีศาจก็ไม่ต้องกลัวว่าซือหยูจะผิดคำพูด จากนั้นเมื่อคำสาบานเสร็จสมบูรณ์ ซือหยูก็ได้สมุนไพรบาดาลอมตะไปสองต้น ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเรียบร้อย
ราชาปีศาจพอใจมาก มันหัวเราะเสียงดัง
“ดีล่ะ! ข้าจะรอให้เจ้ามาช่วยข้าในกระโจมเทพสวรรค์!”
หลังพูดจบมันก็ฉีกแขนออก หากบาดเจ็บเล็กน้อยก็จะหลอกชายแก่ในภาพเขียนได้
“ข้าให้แขนข้างนี้กับเจ้า…”
“ดูเหมือนเจ้าจะมีสายโลหิตของข้า นี่คือแก่นโลหิตของราชาปีศาจ เจ้าจะชำระสายโลหิตและเพิ่มพลังสายโลหิตปีศาจได้ นี่คือสิ่งที่ลูกหลานตระกูลกุยได้แต่ฝันถึง!”
ราชาปีศาจหัวเราะ
ซือหยูตกตะลึง เขารับแขนไว้ด้วยมือหนึ่งข้างและมองดูโลหิตที่หลั่งไหลภายใน พลังอันอบอุ่นและความตื่นเต้นเอ่อล้นในจิตใจ
“เจ้าต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้นถึงจะฆ่าไอ้แก่บัดซบนั่นได้”
พลังภูติรอบตัวราชาปีศาจผลักเขาหายลับไป
ซือหยูมองดูรอบๆและเก็บแขนนั้นไว้และบินออกไปเมื่อยืนยันได้ว่าไม่มีใครเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น
ที่หลายพันลี้ ราชาปีศาจในเมฆาทมิฬทำแววตาเจ้าเล่ห์
“หึหึ เจ้าคิดว่าแก่นโลหิตของข้ามันใช้ได้เช่นนั้นเชียวรึ? ถ้าเจ้าใช้มันชำระสายโลหิตจริงๆ เจ้าจะต้องกับดักข้า ข้าจะควบคุมความเป็นความตายของเจ้าได้ตามใจคิด!”
******
ซือหยูบินไปยังเรือรบของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์
จ้าวคณะฉิวนั้นรออยู่แล้ว
“พลังวิญญาณเจ้าดูจะบริสุทธิ์กว่าตอนที่ข้าเจอเจ้าเมื่อครึ่งเดือนก่อนซะอีก! เจ้ารู้รึยังว่าสมุนไพรบาดาลอมตะอยู่ไหน?”
ซือหยูถอนหายใจ
“ข้าได้ข้อมูลมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ข้าคิดว่าคงไม่มีหวังนักที่จะได้เนตรเงินล้างอสูร”
ไม่ดีแน่ถ้าเขาจะบอกเรื่องข้อตกลงระหว่างเขากับราชาปีศาจ
จ้าวคณะฉิวไม่แปลกใจ นางคงจะสงสัยมากกว่าถ้าหากซือหยูได้ของล้ำค่าอย่างสมุนไพรบาดาลอมตะมา
“อย่าเพิ่งสิ้นหวัง!”
จ้าวคณะฉิวปลอบก่อนจะหยิบเอากล่องหยกออกมา
“ข้าปรุงโอสถก้นบึ้งมังกรเสร็จแล้ว”
ซือหยูยินดีอย่างมาก ในที่สุดโอสถก้นบึ้งมังกรก็ปรุงจนเสร็๗เสียที!
“ขอบคุณท่านจ้าวคณะฉิว!”
เขาพูดด้วยความขอบคุณ
หลังจากที่พูดคุยกันไม่นาน ซือหยูก็ออกเดินทาง เขาไปยังก้นบึ้งมังกรเก้านรกตามที่ตกลงกันไว้
******
เมื่อซือหยูเดินทางก็มีหญิงงามบินมาจากขอบนภา นางแต่งกายอย่างสง่างามและเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง
จ้าวคณะฉิวสีหน้าเคร่งเครียดแต่ก็แสดงความนอบน้อมเมื่อรออย่างเงียบๆ
“แม่นางหวูชิง”
“เจ้าพันธมิตรรอเจ้ามานานนัก เหตุใดถึงกลับช้ากว่ากำหนดเสียครึ่งเดือนเล่า?”
นางคือหลงหวูชิง เป็นบุตรสาวของหลงจื้อชิง นางคือหญิงสาวยอดอัจฉริยะที่กำลังจะได้เข้าสู่ขอบเขตภูติ
นางมองจ้าวคณะฉิว หลงหวูชิงไม่ได้เคารพนางนัก
“ใช่ ข้าช้าไปสักหน่อย จ้าวคณะฉิว ท่านรู้เรื่องราวของราชาปีศาจหิมะทมิฬหรือไม่?”
จ้าวคณะฉิวแอบตกใจ เกิดอะไรขึ้นในการเดินทางของหลงหวูชิงกัน นางถึงได้ถามถึงเรื่องราชาปีศาจหิมะทมิฬตั้งแต่ที่กลับมาเช่นนี้?
“คนคนนี้ลึกลับอย่างไม่น่าเชื่อ…”
“เราสืบหาพื้นเพของเขาไม่ได้เลย…แต่เขาก็เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่นะ”
“อะไรนะ? เขายังมีชีวิตอยู่รึ?”
หลงหวูชิงเบิกตากว้าง นางตกใจมาก เขาถูกราชาปีศาจดูดกลืนเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด เขาจะรอดมาได้ยังไง?
จ้าวคณะฉิวประหลาดใจ ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างราชาปีศาจหิมะทมิฒกับหลงหวูชิง!
หลงหวูชิงพูดอย่างเคร่งเครียด
“จ้าวคณะฉิว โปรดใช้กำลังทั้งหมดค้นหาข้อมูลของราชาปีศาจหิมะทมิฬโดยเร็ว!”
ถ้าหากหนีรอดออกมาจากราชาปีศาจได้…ไม่สิ…หนีจากชายแก่ลึกลับในร่างวิญญาณนั่นได้ เขาจะต้องไม่ใช่คนธรรมดาๆเป็นแน่!