The Devil's Cage - ตอนที่ 203
ฆ่าโดยบังเอิญ
เสียงฝีเท้าเบา ๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องขังของจีหราน
มีเสียงไขกุญแจ ประตูหนาหนักถูกผลักเปิดออก เกิดเสียงครูดแหลมจากที่ด้านนอก
แสงไฟจากคบเพลิงถูกส่งเข้ามาก่อนทำให้จีหรานต้องหรี่ตา
มีคนเข้ามาในห้องขังสามคน
คนที่ถือคบเพลิงอยู่นั้นมีท่าทางดี เขาถือกุญแจเอาไว้ เขาเป็นหนึ่งในผู้คุมเรือนจำ แต่เขามีใบหน้าและเสื้อผ้าที่สะอาดกว่าปกติ
“เขาเป็นหัวหน้าผู้คุมเรือนจำเหรอ? หรือว่าเป็นพัศดี?” จีหรานพยายามคาดเดาตัวตนของชายคนนั้น
ผู้ชายอีกสองคนที่ด้านข้างเขานั้นจำแนกได้ง่ายดายกว่า
หนึ่งในนั้นสวมชุดเกราะสีน้ำเงินเข้ม และมีดาบยาวแขวนห้อยจากเอว ใบหน้าเคร่งขรึมของเขานั้นแผ่รังสีสังหารออกมา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาคือผู้คุ้มกันของชายคนที่สาม
ชายคนที่สามนั้นสวมชุดหรูหราแปลกตาและมีผ้ารัดเอว แขนเสื้อและปกเสื้อนั้นตกแต่งด้วยผ้าไหมสีดำ เขาสวมวิกผมสีขาวและมีคิ้วสีน้ำตาลคู่หนึ่ง ส่วนที่ต่ำกว่าตาลงมานั้นมีผ้าเช็ดหน้าปิดเอาไว้ บังใบหน้าที่ทาแป้งหนาจนขาวจากสายตาจีหราน
เขาเป็นคนที่ผู้คุ้มกันคอยปกป้องอยู่อย่างเห็นได้ชัด
“ที่นี่ทั้งสกปรกและเหม็นเน่า! ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ข้าคงไม่ย่างกรายลงมาที่นี่!” ชายในชุดแปลกตากร่นด่าอยู่หลังผ้าเช็ดหน้า
เสียงหยาบกร้านของเขาฟังประหลาดเพราะว่าเขาบีบจมูกเอาไว้ด้วยปลายนิ้ว เสียงฟังดูแหลมสูงกว่าชายทั่วไปเล็กน้อย และยังไม่หนักแน่น มันเหมือนการบีบเสียงให้เหมือนเป็นผู้หญิง
“ท่านมาที่นี่เพื่อตระกูลอันทรงเกียรติของท่าน ข้าแน่ใจว่าท่านดยุกจะเข้าใจความเสียสละของท่านแน่นอน!” ผู้ชายที่จีหรานเดาว่าเป็นพัสดีพูดอย่างยินดีหลังจากโค้งกายคำนับแล้วครั้งหนึ่ง
ตอนที่เขาหันมาหาจีหราน ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นน่าเกลียดและร้ายกาจ
“ท่านผู้นี้คือบุตรชายคนเล็กของแกรนด์ดยุกมอร์โก้ เหยี่ยวกล้าแห่งเขตปกครองมอร์โก้ นักดาบที่ดีที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดของที่นี่ รีดรัล! ตอนนี้บอกพวกเรามาสิ หนูสกปรกเยี่ยงพวกเจ้าซ่อนทรัพย์สมบัติเอาไว้ที่ใด?”
พัศดีเตะจีหรานซ้ำ ๆ ขณะสั่งให้เขาเผยข้อมูลที่มีออกมา
เขาไม่กังวลเรื่องการขัดขืนของจีหรานเพราะกุญแจมือเหล็กที่รอบข้อมือเขา
พัศดีพยายามทำให้ ‘เหยี่ยวกล้าแห่งมอร์โก้’ พึงพอใจด้วยการเตะจีหรานแรงขึ้นและเหี้ยมโหดกับเขามากขึ้น
แต่การเตะของเขาไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าการสะกิดจีหราน ถึงแม้ว่าพัศดีจะดูดุร้ายและแข็งแกร่งมาก
แรงเตะของเขานั้นไม่สะเทือนจีหรานเลย
ความสนใจของจีหรานนั้นไปอยู่กับ ‘เหยี่ยวกล้าของมอร์โก้’ ตั้งแต่ตอนที่ทั้งสามเข้ามาในห้องขัง
เขาคิดอะไรได้อย่างหนึ่ง เขาจะใช้คนผู้นี้เป็นตัวประกันและหลบหนีจากห้องขังนี้
ความคิดของจีหรานเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเมื่อรู้ตัวตนของผู้ชายคนนี้
เขาเป็นบุตรชายคนเล็กสุดของแกรนด์ดยุกมอร์โก้ ดังนั้นการใช้เขาเป็นตัวประกัน ผู้อื่นย่อมยั้งมือเพราะเกรงจะทำร้ายเจ้านายของตนเข้า
ความคิดของจีหรานนั้นไม่ได้จะทำตามได้โดยง่าย ผู้คุ้มกันที่ด้านข้างเขานั้นดูเป็นศัตรูที่ตึงมือ และจีหรานก็จะต้องฆ่าเขาภายในการลงมือครั้งเดียวก่อนถึงจะสามารถทำตามแผนการต่อได้
นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวที่เขามี จีหรานแอบเหยียดแขนและขาออก
รีดรัลนั้นไม่ใช่นักดาบที่แข็งแกร่งที่สุดและดีที่สุดที่นี่ ทั้งหมดนั่นก็แค่เรื่องคุยโต เป็นคำเยินยอจากพัศดี ใครเชื่อก็นับว่าโง่แล้ว จีหรานเองก็ไม่เคยเห็นนักดาบที่ไม่พกดาบเข่นกัน
และเขายังสังเกตเห็นอีกว่าร่างกายของรีดรัลนั้นดูปวกเปียก ไม่มีสัญญาณของการฝึกฝนบนร่างเขาเลยสักนิด
หากรีดรัลนั้นนับเป็น “นักดาบที่ดีที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด” อย่างนั้นจีหรานก็คือจะเป็น “เทพเจ้าดาบ” แล้ว ต่อให้เขาไม่เคยใช้ดาบมาก่อนเลยก็ตาม
“พูด! เริ่มพูดได้แล้ว! พวกเจ้าหนูโสโครกซ่อนสมบัติไว้ที่ใด?”
พัศดียังคงเค้นคำตอบจากจีหราน เขาไม่หยุดเท้าเลยถึงแม้ว่าจะหายใจหอบจากการออกแรงไปแล้ว
บุตรชายคนเล็กของมอร์โก้ยังคงถือผ้าเช็ดหน้าเอาไว้เหนือจมูกและมองลงมาที่จีหรานด้วยสีหน้าหยิ่งยะโส รีดรัลกำลังรอคำตอบ เขามั่นใจว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ในที่สุดจีหรานก็จะพูดความจริงออกมา
ด้วยความมั่นใจนี้ รีดรัลจึงหวาดกลัวที่สุดเมื่อเกิดเรื่องขึ้น
รีดรัลก้มหน้าลงและเห็นดาบยาวแทงผ่าหน้าอกเขามา ผ้าเช็ดหน้าที่ปิดหน้าเขาเอาไว้หล่นลงพื้น เผยให้เห็นปากกว้าง ๆ ของเขา
เหยี่ยวกล้าดูเหมือนต้องการจะพูดบางอย่าง แต่ถ้อยคำนั้นไม่หลุดออกจากริมฝีปากของเขาทันก่อนที่เขาจะตาย
เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ปราศจากซึ่งสัญญาณแห่งชีวิต เหมือนนกน้อยถูกบี้จนตาย
พัศดีตะลึงไป เขาอยากจะกรีดร้องออกมาตามสัญชาตญาณ แต่ก่อนที่จะได้ทำ ริมฝีปากของเขาก็ถูกมือข้างหนึ่งของผู้คุ้มกันปิดเอาไว้ และมีดสั้นก็ปรากฏขึ้นที่มืออีกข้างของผู้คุ้มกันและมันก็ถูกแทงเข้าไปในหน้าอกของเขา ทะลุเข้าหัวใจ
มีดสั้นถูกดึงออก เลือดสด ๆ เริ่มทะลักออกมา
ผู้คุ้มกันไม่หลบเลือดที่สาดกระจายไปทั่วชุดเกราะของเขา
เขาแค่หันไปอีกทางและดึงดาบยาวออกจากร่างของรีดรัล จากนั้นเขาก็เบนสายตามุ่งร้ายไปทางจีหรานโดยไม่มีทีท่าว่าต้องการพูดจาเลยสักนิด
เขาพุ่งดาบเข้าใส่ลำคอของจีหรานอย่างคล่องแคล่ว
จีหรานประหลาดใจกับดาบที่แทงเข้ามา
ทันทีที่กระต่ายป่าออกจากที่ซ่อน เหยี่ยวก็โฉบลงมาจับมัน ทั้งพัศดีและบุตรชายคนเล็กของมอร์โก้ถูกฆ่าในพริบตา
จีหรานนั้นกำลังจะใช้รีดรัลเป็นตัวประกัน แต่ก่อนที่จะได้ทำ รีดรัลก็ถูกผู้คุ้มกันของตนสังหารไปก่อน
“เกิดบ้าอะไรขึ้นเนี่ย?” จีหรานถามตัวเอง
ความสงสัยในใจของเขานั้นไม่ได้ทำให้ปฏิกริยาของเขาช้าเชื่องลง
กุญแจมือที่เดิมที่รัดอยู่รอบข้อมือของเขานั้นถูกยกขึ้นในเสี้ยววินาที ขวางปลายคมกริบของดาบเอาไว้
ปลายของดาบกระแทกเข้ากับกุญแจมือโลหะ เกิดประกายสว่างวาบขึ้น
ผู้คุ้มกันตกใจเมื่อดาบของตนถูกขวางเอาไว้ได้ เขามีสีหน้าไม่อยากเชื่อเหมือนรีดรัลตอนที่ตายโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เขาไม่เข้าใจเลยว่าจีหรานปลดกุญแจมือตัวเองเป็นอิสระได้อย่างไร
ไม่เหมือนรีดรัล เขาไม่ได้ใช้การไม่ได้ ตอนที่การโจมตีครั้งแรกของเขาถูกขวางไว้ เขาก็รีบบิดข้อมือไปรอบ ๆ เหวี่ยงดาบไปทางหน้าอกของจีหรานแล้วเตรียมแทงอีกครั้ง
ผู้คุ้มกันนั้นเผยวิชาดาบที่ยอดเยี่ยมผ่านการสะบัดดาบ แต่นี่ก็ยังไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์สุดท้าย
จีหรานไถลตัวไปด้านข้าง หลบการแทงครั้งที่สองและเตะไปที่โกร่งดาบของผู้คุ้มกัน หลังจากปลดอาวุธเขาอย่างรวดเร็ว เขาก็เตะเข้าที่หน้าอกชายคนนั้นอีกครั้ง
ผู้คุ้มกันถูกส่งปลิวถอยหลังไปก่อนที่จะกระแทกเข้ากับกำแพงที่ด้านหลังตัวเองอย่างแรง
จีหรานยื่นมือออกไปคว้าดาบของผู้ชายคนนั้นที่หล่นจากกลางอากาศเอาไว้ เขากดปลายคม ๆ ของดาบลงที่ลำคอของผู้คุ้มกัน
“อย่าขยับ!” เขาตะโกนด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พร้อมที่จะเค้นข้อมูลออกมา เขาต้องการไขความสงสัยในใจ
“ใครคือ…” ก่อนที่เขาจะทันพูดจบประโยค เลือดสีดำสายหนึ่งก็ซึมออกมาที่มุมปากของผู้คุ้มกัน ใบหน้าของเขาค่อย ๆ สูญเสียประกายชีวิตไป
“บ้าอะไรอีกเนี่ย?” จีหรานอึ้งไป
จีหรานยั้งเท้าเอาไว้แล้วตอนที่เตะเข้าที่หน้าอกของผู้คุ้มกันเพราะเขาต้องการเค้นข้อมูล มันไม่ถึงตายไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เพราะยังสงสัยในสถานการณ์ จีหรานตรงเข้าไปที่ร่างนั้นเพื่อตรวจสอบเร็ว ๆ
ทันทีที่เขาไปถึงตัวผู้คุ้มกัน กลิ่นฉุน ๆ ก็โจมตีจมูกของเขา
“พิษ?”
จีหรานรู้ว่ามันคืออะไร ถึงไม่มี [ความรู้เกี่ยวกับยาและการรักษา] ระดับผู้เชี่ยวชาญก็ตาม
ผู้คุ้มกันฆ่าตัวตายด้วยยาพิษ ทันทีที่เขาพบว่าตนทำภารกิจล้มเหลว เขาก็ฆ่าตัวตายเพื่อไม่ให้ต้องตกเป็นนักโทษ
“นักรบพลีชีพ!” คำนั้นผุดขึ้นมาในใจจีหราน ไม่มีคำอธิบายอื่นในเรื่องนี้
“นักรบพลีชีพกลับกลายมาเป็นผู้คุ้มกันบุตรชายคนเล็กของแกรนด์ดยุกและยังเลือกเวลาแบบนี้ลอบสังหารเขา?” จีหรานพูดเบา ๆ
ความคิดน่ากลัวหนึ่งก่อตัวขึ้นในใจเขา ปัญหานั้นมุ่งมาที่พวกเขาสามคน
ความยากของภารกิจหลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“ฉันต้องติดต่อฮานส์และอู๋ฝ่าอู๋เทียนเดี๋ยวนี้!”
จีหรานเก็บมีดสั้นและกุญแจขึ้นจากพื้นแล้วออกจากห้องขังของตัวเองไป