The Devil's Cage - ตอนที่ 186
บันทึกประจำวัน
“โจมตีถึงตาย?”
นี่เป็นสิ่งที่จีหรานเห็นเมื่อมองไปที่มัมมี่ทั้งสองหลังจากย้ายหนังสือออกแล้ว
มัมมี่ตัวหนึ่งนั้นมีกริชอยู่บนหลังของมันและปลายกริชชี้ไปทางมัมมี่อีกตัวซึ่งหน้าอกยุบลงไป
เห็นได้ชัดว่าเหยื่อจัดการสังหารฆาตกรได้สำเร็จก่อนจะตาย และการโจมตีถึงตายนั้นก็รุนแรงมาก
ไม่เพียงแค่ฆาตกรไม่มีโอกาสหลบ แต่การโจมตีถึงตายนั้นยังรุนแรงจนทำให้หนังสือทั้งหมดหล่นลงมาทับพวกมันเอาไว้ ทำให้ทั้งฆาตกรและเหยื่อถูกฝังอยู่ใต้กองหนังสือ
แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้กลายไปเป็นมัมมี่เพราะหนังสือพวกนั้นหรอก
“เป็นเพราะวงเวทย์นี่ใช่ไหม?”
จีหรานสังเกตเห็นวงเวทย์ที่ใต้ชั้นหนังสือด้านหนึ่ง
มันสร้างจากวงกลมสองวงและดูเหมือนจะให้ผลในการรักษาสภาพหนังสือเอาไว้ให้เหนือกาลเวลา และไล่แมลงต่าง ๆ ที่จะมาทำลายหนังสือ
คนที่สร้างวงเวทย์ขึ้นน่าจะไม่ได้คิดว่ามันจะสามารถรักษาสภาพศพเอาไว้ได้ด้วยเช่นกัน จึงช่วยจีหรานลดปัญหาไปได้มากทีเดียว
อย่างน้อยเขาก็สามารถบอกได้ว่าเหยื่อนั้นเป็นผู้หญิง จากเสื้อผ้าที่ตกแต่งสวยงามของเธอที่ถูกรักษาเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เธอน่าจะมีฐานะดีทีเดียว
ฆาตรกรเป็นชายในเสื้อผ้าธรรมดา ร่างกายของเขายังคงดูใหญ่โตแม้ว่าจะอยู่ในสภาพมัมมี่ก็ตาม
จีหรานคิดภาพออกว่าเขาคงตัวสูงมากหากยังมีชีวิตอยู่
เขาตรวจสอบมัมมี่ทั้งสองอย่างละเอียดและยังตรวจสอบกริชที่ใช้แทงผู้หญิงคนนั้นด้วย
แล้วจีหรานก็ต้องผิดหวัง ระบบบอกเขาว่ามันเป็นแค่อาวุธธรรมดาเท่านั้น
หลังจากอารมณ์เสียนิด ๆ เขาก็หันไปสนใจบนโต๊ะหนังสือ
มันกว้างและรก เพราะหนังสือทั้งหมดที่ร่วงลงมาจากชั้น แต่ว่า ก็มีรายละเอียดบางอย่างสะดุดตาจีหราน
มันมีหนังสือเล่มหนึ่งกางอยู่พร้อมกับปากกาขนนกที่ด้านข้าง หนังสือนั่นถูกทับอยู่ด้านล่างและปากกาขนนกน่าจะเอาไว้เขียนหนังสือเล่มนั้น
หมึกกระจายไปทั่วโต๊ะ ไม่เพียงย้อมไปบนโต๊ะแต่ยังหนังสือส่วนใหญ่ด้วย
“เหยื่อกำลังเขียนอะไรอยู่กันนะตอนที่เธอถูกฆ่า? การลอบสังหารฉับพลันน่าจะทำให้เธอปล่อยมือจากปากกาและลากมันผ่านหนังสือ หมึกจึงหกออกมาตอนที่เธอล้มลงไป
จีหรานหยิบหนังสือขึ้นมาหลังจากสันนิษฐานเล็ก ๆ
“บันทึกประจำวันงั้นเหรอ?”
เขาสังเกตเห็นว่าวันที่ที่เขียนเอาไว้นั้นใช้อักขระและสัญลักษณ์จาก [ความรู้เกี่ยวกับเวทย์มนต์] หัวใจของเขากระตุก วันที่นั้นยังนานมากแล้วด้วย
Er627.10.22
เทียบกับวันที่ปัจจุบันในดันเจี้ยนแล้ว วันที่ล่าสุดในบันทึกประจำวันนั้นก็เป็นเมื่อ370 ปีก่อนแล้ว
“นี่มันเหมือนกันอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เลย”
จีหรานมองบันทึกโบราณอย่างอึ้ง ๆ ก่อนที่จะเริ่มอ่าน
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวหลังจากเขาพลิกผ่านไปสองสามหน้า
วันที่นั้นก็เกินความคาดหมายของจีหรานอยู่แล้ว แต่เนื้อหาของบันทึกนั้นยิ่งกว่าเสียอีก
…
Er527.3.22
ไม่มีความคืบหน้าของการค้นหาด้านนอกในวันนี้ เพื่อที่จะคลี่คลายความลับโบราณ ข้าจะแต่งงานกับไอ้ขี้ขลาดที่สืบทอดตำแหน่งดยุค แต่ไม่กล้าทำอะไรด้วยตำแหน่งนั้น
Er527.5.22
ไอ้งี่เง่าเอ๊ย! ไอ้คนขี้ขลาดนั่นบอกทุกอย่างที่ข้าต้องการจะรู้ก็หลังพิธีหมั้นหมายแล้ว
Er527.12.22
พิธีแต่งงานกำลังดำเนินไปตามแผน ทุกครั้งที่ข้าเห็นรอยยิ้มน่าขยะแขยงของไอ้คนขี้ขลาดนั่นมันก็ทำให้ข้าอยากจะอาเจียน! เขาจะยิ้มอยู่ได้อีกไม่นานหรอก
Er527.12.23
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผน ไอ้คนขี้ขลาดนั่นสืบเชื้อสายมาถูกต้องจริง ๆ ใบหน้าของเขาทำให้ข้าตัวสั่น โชคดี ข้าได้เตรียมสถานที่ที่เหมาะสมกับเขาที่สุดไว้แล้ว
Er549.2.1
สิ่งต่าง ๆ ดำเนินไปไม่ดีเลย! ข้าต้องการวัตถุดิบในการทดลองมากกว่านี้เพื่อหาวิธีการที่ดีที่สุดในการสกัดสายเลือดนั่นออกมา!
Er572.10.15
เลือด! สายเลือดนั่น! ถึงแม้ว่าทุกการทดลองจะล้มเหลว ผลการทดลองที่ไม่สมบูรณ์นี้ก็มีพลังมากพอ! สายเลือดอันทรงพลังนี่จะต้องเป็นของข้า!
Er592.10.15
ตามที่ข้าคิดไว้เลย เพื่อให้ได้มาซึ่งพลัง ข้าจำต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่านี้ คนที่ใกล้เคียงและเหมาะสมกับสายโลหิตมากกว่านี้ โชคดี เขายังมีชีวิตอยู่อย่างดีและก็ดูจะตกหลุมรักข้า นี่เป็นความรักงั้นหรือ? ไม่ ความรักไม่ได้จำเป็นต่อการตั้งครรภ์
Er593.12.22
ข้ากำลังจะทำสำเร็จแล้ว ข้ากำลังจะคลอดในไม่ช้า ข้าจะได้รับพลังของสายเลือด!
Er601.1.1
ไอ้คนทรยศนั่น! เหตุใดสายเลือดนั่นถึงสามารถส่งผ่านความทรงจำได้? ไอ้สวะนั่นหนีไปแล้ว! ความพยายามทั้งหมดของข้ากำลังจะสูญสลายไป!
Er625.9.30
ปลูกถ่ายหัวใจ! ในที่สุดข้าก็พบวิธีการแก้ไขแล้ว
เหตุใดข้าจึงคิดวิธีแก้ไขง่าย ๆ เช่นนี้ไม่ออกตั้งแต่แรกกัน?
ปิศาจนั่นมีพลังชีวิตอันล้นเหลือ มันสามารถมีชีวิตอยู่ได้แม้ปราศจากหัวใจ!
Er625.10.2
ไม่ หัวใจของเจ้าปิศาจนั่นทรงพลังเกินไปสำหรับร่างกายของคนธรรมดา ข้าจำเป็นต้องมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่านี้เพื่อปลูกถ่ายหัวใจ! ไม่ ไม่ ไม่สิ… ข้าเพียงแค่ต้องมีน้ำยาอีกชนิดช่วยแล้วก็จะแก้ปัญหานี้ได้!
Er627.10.22
น้ำยานั่นเกือบจะเสร็จแล้ว! ข้าจะเป็นอมตะไปตลอดกาลนิรันดร์ เหมือนกับเท….
…
จีหรานไม่สามารถอ่านต่อได้เพราะว่ามีหมึกเปรอะเปื้อนอยู่ แต่แค่ที่เขาอ่านมาก็ทำให้สันหลังเย็นวูบแล้ว
จีหรานนึกถึงตำนานที่กัปตันราล์ฟเล่าให้เขาฟังเกี่ยวกับ [คุกบนเกาะ]
หลังจากลองเทียบดูแล้ว เขาก็แน่ใจว่าบันทึกนี่เขียนขึ้นโดยภรรยาของดยุคผู้นั้น
ตามเรื่องที่กัปตันราล์ฟเล่า ดยุคและภรรยาของเขานั้นประสบกับโศกนาฏกรรม แต่บันทึกบอกจีหรานว่ามีเพียงแค่ดยุคเท่านั้นที่ผ่านเรื่องสยองขวัญอันเกินจินตนาการได้ ไม่ใช่ภรรยาของเขา เธอคือคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง
จีหรานรู้สึกถึงสภาพจิตใจของเธอได้ผ่านทุกอย่างที่เธอบันทึกเอาไว้
เพื่อที่จะได้พลังจากสายเลือดที่ดยุคครอบครองอยู่ เธอก่อเรื่องร้ายแรงอันเกินคิดถึง เธอไม่เพียงแค่ทำการทดลองกับคนจริง ๆ แต่ยังกับลูกของเธอเองด้วย
มันเป็นการทดลองที่ใช้นับร้อยชีวิตบนอัลคาทราซ และมันเป็นเหตุผลให้ไม่มีคนกล้าย่างขึ้นมาบนเกาะนี้เกือบร้อยปี
หากไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ถูกลอบสังหารอย่างกะทันหัน การทดลองอาจจะดำเนินต่อไปนานกว่านี้
บันทึกยังยืนยันความคิดของจีหรานเรื่องถ้ำที่เขาผ่านเข้ามา มันเป็นดันเจี้ยนหนึ่งจริง ๆ
สิ่งหนึ่งที่จีหรานไม่ได้คิดเอาไว้ก็คือปิศาจในเรื่องนั้นจริง ๆ คือตัวดยุคผู้นั้น
จีหรานเบนสายตาไปทางมัมมี่ผู้ชาย ซึ่งน่าจะเป็นลูกของดยุค
หากฆาตกรไม่ได้เติบโตขึ้นมาบนเกาะและคุ้นเคยกับทุกอย่างที่นี่ เขาย่อมไม่สามารถเข้าถึงตัวภรรยาของดยุคได้อย่างเงียบเชียบและสังหารเธอได้
ขนาดตัวอันผิดปกติของเขายังยืนยันตัวตนของเขาในทุกด้าน
จีหรานไม่รู้ว่าทำไมเขาคนนี้ถึงกลับมาหาผู้หญิงเหี้ยมโหดที่ไม่ได้มีค่าพอที่จะเป็นแม่ของเขาหลังจากหนีไปได้เป็นหลายปี
อย่างหนึ่งที่แน่ใจได้ เขามีพลังมาก เขาสามารถทะลวงผ่านความสามารถในการป้องกันตัวเองของผู้มีพลังพิเศษและสังหารเธอได้ด้วยกริชธรรมดา ๆ เล่มหนึ่ง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ ทั่วไปจะทำได้ ไม่แม้กระทั่งจีหรานเอง
ภรรยาของดยุคนั้นเป็นผู้มีพลังพิเศษที่มีความมุ่งร้ายต่อเชื้อสายของดยุค
จีหรานคงจะเป็นคนโง่แล้วหากไม่รู้ถึงตัวตนที่ซ่อนอยู่ของภรรยาดยุคหลังจากอ่านบันทึกการทดลองและสูตรน้ำยาที่อยู่ในบันทึก
“พลังของสายเลือด?” จีหรานพึมพำกับตัวเองขณะมองมัมมี่บนพื้น
ที่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอกับคำนี้ แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของสายเลือดนี้เพียงแค่อ่านจากบันทึก
ไม่ใช่แค่ผู้มีพลังพิเศษเมื่อหลายร้อยปีก่อนจะวางแผนเพื่อให้ได้มาซึ่งพลัง แต่ผู้มีพลังพิเศษในทุกวันนี้ก็ยังพยายามที่จะเปิดเผยความลับนั่น
กิลเฟรน แฮทช์ น่าจะเป็นเชื้อสายของลูกของดยุค
ตามบันทึก ลูกของดยุคนั้นออกจากอัลคาทราซไปกว่ายี่สิบปี ย่อมไม่น่าประหลาดใจหากเขาจะแต่งงานและมีลูกสักคนสองคน
บันทึกยังบอกเอาไว้ ด้วยเชื้อสายของดยุค ลูกของเขานั้นยังสามารถสืบทอดความทรงจำของเขาผ่านสายเลือดได้
ดังนั้น กิลเฟรน แฮทช์ ย่อมสืบทอดความทรงจำของบรรพบุรุษมา เป็นเหตุให้เขากลับมาที่เกาะอัลคาทราซเพื่อค้นหาพลัง
ดูเหมือนว่าความทรงจำนั้นจะไม่สมบูรณ์นัก เขาเพียงรู้ว่าดันเจี้ยนนั้นอันตรายเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่รู้เกี่ยวกับห้องทดลองลับในดันเจี้ยนและปริศนาอย่างสุดท้ายที่หายไป น้ำยาที่สามารถทำให้เขาสืบทอดพลังของสายเลือดได้
ไม่อย่างนั้น กิลเฟรน แฮทช์ก็คงจะหาทางเข้ามาในห้องนี้ไม่ว่าจะต้องใช้อะไรก็ตาม เขาอยากจะได้พลังของสายเลือดแทบตายอยู่แล้ว
“หากความทรงจำไม่สมบูรณ์ กิลเฟรน แฮทช์และฟรอสทริลย่อมได้ข้อมูลมาผิด ๆ เช่นกัน! ไม่ นั่นเป็นไปไม่ได้ กิลเฟรน แฮทช์ น่าจะไม่ได้บอกฟรอสทริลทุกอย่าง เขาคงจะเก็บส่วนที่สำคัญที่สุดเอาไว้และใช้ส่วนที่เหลือล่อลวงฟรอสทริลให้ร่วมมือกับเขาเป็นการชั่วคราว! นี่น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด! ต้องขอบคุณหัวใจนั่นและข้อมูลของกิลเฟรน แฮทช์ ฟรอสทริลถึงได้มั่นใจพอที่จะไม่สนใจใครเลย!”
ในที่สุดจีหรานก็พบว่าผลประโยชน์อะไรที่ทำให้ฟรอสทริลหักหลังเซอเดนก์ และไม่สนใจตัวตนของนิโคเรอิ
จีหรานอยากจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับฟรอสทริลหากเขาปลูกถ่ายหัวใจนั่นเข้าสู่ร่างกายตัวเองโดยไม่มีน้ำยาช่วย
หากเป็นไปได้ เขาก็อยากจะปลูกถ่ายหัวใจนั่นเข้าสู่ตัวเอง หากเขารู้กระบวนการที่ต้องทำเพื่อให้ประสบความสำเร็จ
จีหรานหันไปสนใจทางด้านซ้ายของห้องที่เป็นที่ทำการทดลอง