The Demon Prince goes to the Academy - ตอนที่ 2
The Demon Prince goes to the Academy
ตอนที่ 2
ในนิยายแนวชีวิตประจำวันนี้ที่ฉันเขียน ฉันกำลังประสบกับเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดในฐานะบุคคลที่เกี่ยวข้อง หรือจะพูดให้ถูกก็คือในฐานะเหยื่อ
ตัวอักษรแปลกๆ ที่ฉันไม่รู้จักถูกสลักไว้ที่ผนังเหนือทางเข้าแต่ละห้องของปราสาทราชาปีศาจ อย่างไรก็ตามฉันสามารถอ่านได้
แม้ว่ามันจะเป็นฉากทั่วไปในนิยาย แต่ก็ยังรู้สึกน่าอึดอัด อาจเป็นเพราะฉันประสบกับมันด้วยตัวเอง
คุณไม่รู้หรอกว่ารู้สึกยังไงที่จู่ ๆ ก็สามารถอ่านตัวอักษรที่คุณไม่คุ้นเคยได้ จนกว่าคุณจะได้สัมผัสด้วยตัวเอง
ฉันผ่านห้องต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นห้องอาหาร ห้องครัว คลังอาวุธ ที่เก็บอุปกรณ์เวทมนตร์ ห้องทดลองเล่นแร่แปรธาตุ คุก และคอกสัตว์
แน่นอนว่าไม่มีป้ายบอกทางลับหรืออะไรสักอย่าง
มันคงจะแปลกถ้าพวกเขาแสดงอะไรแบบนั้นเอาไว้บนป้าย แต่อย่างน้อยพวกเขาทำเครื่องหมายว่ามันเป็นทางออกฉุกเฉินหน่อนไม่ได้เหรอ?
ฉันต้องบอกว่ารู้สึกแปลกจริงๆ ที่สามารถอ่านภาษาที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่พออ่านไปซักพักก็รู้สึกชินกับมันไปแล้ว
โดยปกติแล้ว เค้าโครงของปราสาทของราชาปีศาจซึ่งไม่เคยปรากฏอีกเลยหลังจากอารัมภบท จะไม่ปรากฏขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ในหัวของฉัน!
ในเรื่องอื่นๆ เมื่อนักเขียนหรือนักอ่านตัวยงเข้าสู่โลกของหนังสือ พวกเขารู้ทันทีว่าต้องมองหาอะไร
ช่างน่าขันซะจริง!
ฉันไม่มีเงื่อนงำเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้เลย แม้ว่าฉันจะเป็นคนเขียนมันก็ตาม!
ฉันไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องแบบนั้นเลย ทำไมฉันจต้องอธิบายหรือจินตนาการถึงสถานที่ที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องหลักด้วย?!
ถึงมีฉันก็ค่อนข้างแน่นอนเลยล่ะที่ฉันจะจำไม่ได้อยู่ดีแม้ว่าฉันจะออกแบบอย่างละเอียดตอนเขียนก็ตาม!
สิ่งที่ฉันสวมใส่อยู่ก็เป็นเพียงชุดแฟนซีที่ราชวงศ์ปีศาจสวมใส่ ไม่ใช่ของวิเศษพิเศษแม้แต่ชิ้นเดียว
ที่นี่ซับซ้อนราวกับเขาวงกต… ฉันไม่รู้ว่าฉันจะหาทางออกได้ไหม แต่ในสถานการณ์นี้ ฉันไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่เดินเตร็ดเตร่ไปทั่วปราสาทแห่งนี้ แม้ว่าฉันจะเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรปีศาจ
มาคิดกันก่อน
ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าฉันหวังให้อะไรเกิดขึ้น แต่ฉันต้องคิด
ไม่มีทางที่จะค้นพบแผนผังของปราสาทของราชาปีศาจได้ไม่ว่าฉันจะคิดถึงเรื่องนี้นานแค่ไหน เพราะฉันไม่รู้มันตั้งแต่แรกแล้ว
ฉันไม่เห็นแม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ภักดีที่จะช่วยฉันหรือบอกว่าควรไปที่ไหน
มันควรมีคนแบบนั้นข้างๆฉันเหรอ?
พวกเขาจะให้คำอธิบายเกี่ยวกับสามัญสำนึกของโลกนี้และสถานการณ์ปัจจุบันโดยไม่ต้องถามเลย
อย่างเช่น: “โอ้ นี่คือสิ่งนี้และสิ่งนั้น แต่ในสถานการณ์นี้และนี่คือที่ที่คุณจะต้อง บลา บลา!”
พวกเขาอาจจะตายทันทีหลังจากที่ทำหน้าที่สำเร็จหรือไม่ก็มาเป็นที่ปรึกษาของฉัน!
ทำไมฉันไม่มีคนแบบนั้นบ้าง!
แค่เพราะฉันเป็นคนเขียนนิยายเรื่องนี้ พวกเขาคิดว่าฉันไม่ต้องการคนแบบนั้นเหรอ?
ราชาปีศาจจะตายในการต่อสู้วันนี้
ฉันไม่รู้ว่ามีนิยายแนวนั้นมั้ย แต่ฉันพยายามเขียนนิยายเรื่องนี้ในรูปแบบของเรื่องราวหลังตอนจบ
โลกอันสงบสุขหลังเรื่องราวดำเนินมาถึงบทสรุป
โลกที่ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขตลอดไปหลังจากเอาชนะราชาปีศาจ
โลกหลังจากการเดินทางของเหล่าผู้กล้าเพื่อเอาชนะราชาปีศาจมาถึงบทสรุปหลังจากการตายของพวกเขา
นั่นคือฉากของ [ราชาปีศาจตายแล้ว]
ผู้กล้าและพรรคพวกของเขาซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องราวดั้งเดิมจะตายที่นี่เช่นกัน
ที่เดียวที่พวกเขาจะถูกกล่าวถึงในเรื่องนี้คือเมื่อพวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้โลก ยกเว้นในอารัมภบท พวกเขาไม่ได้ปรากฏตัวอื่นอีกเลย
ฉันต้องคิดอะไรซักอย่าง
ฉันต้องคิดหาทางเอาตัวรอดให้ได้
มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยที่ราชาปีศาจซึ่งเป็นพ่อของฉันจะตายที่นี่
ถ้าฉันมาเร็วกว่านี้ 1 วันฉันอาจจะทำอะไรบางอย่างได้บ้าง แต่ทุกอย่างได้เริ่มขึ้นแล้ว
ฉันต้องการใครซักคนมานำทาง จะคนรับใช้ ราชาปีศาจ หรือใครก็ได้ แต่ฉันไม่เห็นแม้กระทั่งเส้นผมของคนเหล่านั้นเลย
พวกเขาอาจตายไปแล้วหรือติดอยู่ในการต่อสู้กับกองกำลังมนุษย์ที่พยายามปิดล้อมปราสาทด้านนอก
และกลุ่มผู้กล้าที่แทรกซึมผ่านชั้นใต้ดินของปราสาทน่าจะต่อสู้กับราชาปีศาจในห้องโถง
ฉันสามารถหลบหนีโดยใช้ทางเดินใต้ดินนั้น แต่ฉันไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
สถานการณ์ตอนนี้ แม้แต่ผู้กล้าก็รู้จักปราสาทนี้ดีกว่าฉันซึ่งเป็นเจ้าชายปีศาจ!
– ตู้มมมมมม!
แค่เสียงที่มาจากเวทีหลักน่ากลัวจริงๆ
หลังจากที่ราชาปีศาจตาย ปราสาทก็จะพังทลายลง
บาเรียเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมานาของราชาปีศาจจะหายไป และทหารมนุษย์จะพุ่งเข้ามาที่นี่ราวกับคลื่นที่ซัดสาด
ไม่มีกระจกให้ส่องตอนนี้ แต่ฉันรู้สึกถึงเขาคู่หนึ่งบนหัวของฉัน
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองดูแตกต่างจากมนุษย์แค่ไหน แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าฉันเป็นปีศาจ
ฉันควรจะเอาตัวรอดยังไงในสถานการณ์แบบนี้?
ไม่ว่าคุณจะรู้ว่าอะไรจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่ถ้าตายซะก่อนมันจะไปมีประโยชน์อะไร
ฐานะเจ้าชายปีศาจและข้อได้เปรียบที่ฉันมีมันมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อฉันยังมีชีวิตอยู่เท่านั้น!
ฉันได้รู้ว่าฉันตายเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน แต่ตอนนี้ฉันใกล้จะตายอีกครั้งแล้ว
“ฮะ…. แฮก แฮ่ก…”
ฉันหายใจแทบไม่ทัน เพราะฉันวิ่งไปรอบ ๆ ปราสาทของราชาปีศาจ โดยไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน
ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับสายเลือดของราชาปีศาจบ้างเหรอ?
หรือเป็นเพราะฉันยังเด็กเกินไป?
ไม่สิ ร่างกายนี้อ่อนแอเกิน
ฉันจะอายุ 17 ปีอ่อนแอขนาดนี้ได้อย่างไร ร่างกายนี้มันควรจะอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดสิ!
ฉันไม่รู้ว่าสายเลือดนี้มีพรสวรรค์อะไร แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่ามันไร้ประโยชน์
หลังจากวิ่งไปซักพัก ในที่สุดฉันก็เห็นใบหน้าของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในหน้าต่าง
จากที่ดูเหมือนไม่แตกต่างจากของมนุษย์มากนัก
แต่ฉันมีเขาอยู่บนหัว
เขาเหล่านี้เป็นสิ่งเดียวที่แตกต่าง นอกจากนี้…
ฉันดูหล่อมาก
“โอ้โห…. โอ้!”
หล่อ
ไม่สิ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับเรื่องนี้ ไม่ใช่แน่นอน.
ถ้าฉันตายก็จบ!
เมื่อคิดว่าฉันจะรู้สึกมีความสุขแม้เพียงเล็กน้อยในสถานการณ์แบบนี้….
ฉันรู้สึกอนาถใจขึ้นมาเลย ฉันพยายามอดกลั้นที่จะไม่ตะโกนด้วยความกลัวหรือดีใจ
ถ้าฉันรอดจากที่นี่ได้ ฉันจะดูแลร่างกายนี้อย่างดีเลย ฉันอยากจะอวดร่างนี้ให้แฟนเก่าของฉันดูจริงๆแม้ว่าฉันจะไม่ได้เจอเธออีกแล้วก็ตาม…
ตอนนี้สงบสติอารมณ์กันก่อน
ประการแรกเขา
เขาบนหัวของฉันเป็นปัญหา
ถ้ากองทัพมนุษย์จับฉันได้ ฉันควรจะขอบคุณถ้าพวกเขาตัดหัวฉันอย่างเงียบๆ
มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะทำสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้น
ถ้าฉันรู้วิธีใช้เวทมนตร์ บางทีอาจเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาด้วยเวทมนตร์ได้
เดี๋ยวนะ?
ฉันหยุดวิ่งกะทันหัน
“ที่นั่นไงล่ะ!”
ฉันรีบหันหลังวิ่งกลับไป
วิธีการนั้นง่ายอย่างน่าประหลาดใจ ง่ายจนเรียกได้ว่าไร้สาระ
แม้ว่าฉันจะไม่มีเงื่อนงำเกี่ยวกับแผนผังปราสาทของราชาปีศาจแต่ฉันก็จำสถานที่ที่ฉันเพิ่งผ่านไปได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามีอะไรหรือทำอะไรได้บ้างในห้องพวกนั้น
ในที่ที่ฉันเพิ่งผ่านไป อาจมีบางอย่างที่ช่วยฉันได้
-โครมมมม….
แรงสั่นสะเทือนเริ่มลดลง
เหมือนว่าการต่อสู้จะจบลงแล้ว
ถ้าราชาปีศาจตาย ปราสาทจะพังทันที
ฉันไม่มีเวลาให้เสีย
* * *
“เร็ว…. เร็วเข้า….”
ที่แรกที่ฉันเข้าไปคือคลังเก็บอุปกรณ์เวทมนตร์
ฉันไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง แต่ต้องมีบางอย่างในนั้นที่ช่วยฉันได้
มีอุปกรณ์เวทมนตร์เกลื่อนกลาดอยู่มากมาย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ
ฉันไปที่ที่เก็บม้วนคัมภีร์ซึ่งมีม้วนกระดาษเรียงกันจนถึงเพดาน แต่โชคดีที่มีชื่อคาถาที่เขียนเอาไว้
สิ่งที่ฉันมองหาไม่ใช่อะไรเลยนอกจากม้วนกระดาษเทเลพอร์ต
การออกไปจากที่นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของฉัน
ฉันไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไป แต่นั่นเรื่องที่ต้องคิดหลังจากออกจากที่นี่ทั้งเป็นให้ได้ก่อน
[ไฟนรก]
[กลาเซียสไตรค์]
[พายุหิมะ]
[พายุที่เพลิง]
.
.
.
มีตู้เลื่อนที่ครั้งหนึ่งเคยเต็มไปด้วยม้วนคัมภีร์เวทมนตร์อันทรงพลัง แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า
ในฐานะนักเขียน มีหลายสิ่งที่ฉันไม่รู้ แต่ฉันรู้เกี่ยวกับสามัญสำนึกและมุมมองของโลกนี้
ม้วนกระดาษที่ทำให้ง่ายต่อการร่ายเวทมนตร์นั้นมีราคาแพงและยากที่จะสร้าง
ม้วนกระดาษที่มีเวทมนตร์โจมตีที่ทรงพลังนั้นได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นอาวุธเชิงกลยุทธ์ที่ทรงพลังตามมาตรฐานสมัยใหม่
แม้แต่ผู้ที่ไม่รู้วิธีใช้เวทมนตร์ก็สามารถใช้ม้วนคัมภีร์ได้โดยการเปิดมัน
ดังนั้นมันจึงคุ้มค่ากับราคา
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ ตู้ม้วนเวทมนตร์ที่บรรจุคัมภีร์เวทมนตร์อันทรงพลังเหล่านั้นกลับว่างเปล่า
ตอนนี้อยู่ในสถานะของสงคราม พวกเขาคงเอาทุกสิ่งที่ใช้ได้ไปกับพวกเขา
ให้ตายเถอะ ถ้าพวกเขาเอาคัมภีร์เทเลพอร์ตทั้งหมดไปด้วยล่ะ? ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะใช้มันทำอะไร แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้
ฉันค้นหาคลังม้วนกระดาษขนาดใหญ่และดูม้วนกระดาษจำนวนนับไม่ถ้วน
ฉันมีเวลาไม่มาก
ม้วนเวทมนตร์โจมตีส่วนใหญ่ถูกนำออกไปแล้ว แต่คลังเก็บของยังคงเต็มไปด้วยม้วนคัมภีร์
มีบางอันที่เล็กมาก ฉันบอกไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพวกมันมีเวทมนตร์อะไรอยู่
คัมภีร์ประเภทอื่นที่ถูวทิ้งไว้ เช่น หลงใหล ลุ่มหลง ภาพลวงตา เป็นต้น
เห็นได้ชัดว่าเทเลพอร์ตเป็นหนึ่งในเวทย์มนตร์ระดับสูงสุดของโลกนี้
ม้วนกระดาษเทเลพอร์ตจึงไม่ใช่ของสามัญ แต่นี่คือปราสาทของราชาปีศาจที่เลื่องชื่อ
พวกเขามีม้วนคาถาระดับสูงดังนั้นพวกเขาควรจะมีม้วนกระดาษเทเลพอร์ตเหมือนกัน
“เจอแล้ว!”
ในกองม้วนกระดาษนับไม่ถ้วน ในที่สุดฉันก็หามันเจอ
[เทเลพอร์ต]
ฉันไม่รู้ว่าจะมันจะพาไปที่ไหน
ฉันแค่คิดว่าจะไปที่ไหนสักแห่งหลังจากใช้งานเวทย์มนตร์แล้ว
ตราบใดที่ไม่ใช่ที่นี่ ฉันก็พอใจแล้ว
แม้แต่ที่ไหนสักแห่งในอาณาจักรมนุษย์ก็ยังดี
ฉันอาจใช้เวลา 10 นาทีหรือ 1 ชั่วโมงในการค้นหาสิ่งนี้ แต่ความตายก็เข้าใกล้ทุกวินาทีที่ผ่านไป ดังนั้นฉันจึงใช้งานคัมภีร์อย่างรวดเร็ว
ทว่า
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
[การเทเลพอร์ตเป็นสิ่งต้องห้ามในพื้นที่นี้]
“โอ้พระเจ้า!”
บาเรียทำให้ไม่สามารถใช้ทักษะเกี่ยวกับอวกาศหรือเวทมนตร์ที่เคลื่อนที่ผ่านช่องว่างภายในได้
แม้ว่าราชาปีศาจจะตายไป แต่บาเรียที่ขัดขวางการเดินทางในอวกาศยังคงทำงานอยู่?
เพราะถ้าไม่อย่างงั้น พวกผู้กล้าคงแค่เทเลพอร์ตเข้ามาและคงไม่ใช้ทางลับ
ผู้กล้าไม่เทเลพอร์ต พวกเขาแค่เข้าไปในปราสาทของราชาปีศาจผ่านทางลับ
มันไม่ชัดอีกเหรอ? ถ้าพวกเขาเทเลพอร์ตได้ ทำไมพวกเขาต้องลำบากใช้ทางลับกัน?
น่าจะมีความคิดเห็นแบบนั้นจากผู้อ่านแน่ๆ
ถ้ามีคนแสดงความคิดเห็นแบบนั้นตอนฉันยังมีชีวิตอยู่ ฉันคงไม่พาดแบบนี้หรอก
ฉันไม่รู้เกี่ยวกับประตูวาร์ป แต่ตอนนี้ม้วนกระดาษเทเลพอร์ตมันใช้ไม่ได้แล้ว
อาจมีประตูแบบนั้นอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ถึงมี ฉันก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
-เฮเฮเฮ!
เสียงโห่ร้องดังก้องมาแต่ไกล
กองทัพมนุษย์จะต้องผลักดันกองทัพปีศาจให้ล่าถอนได้สำเร็จ หลังจากที่ขวัญกำลังใจของพวกเขาลดลงราวกับใบไม้ในฤดูใบไม้ร่วง
ฉันจะตายแบบนี้เหรอ?
ถ้าฉันมีคัมภีร์เวทโจมตีที่นี่ ฉันคงซื้อเวลากับพวกนั้นได้อยู่
แต่ว่าที่นี่มีเพียงม้วนเวทมนตร์ที่ไม่มีประโยชน์ในสงคราม
ฉันเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรปีศาจ แต่ฉันกลับเป็นเพียงสุนัขขี้แพ้ที่ไม่มีพลัง
มีเพียงเสื้อผ้าแฟนซีที่อยู่บนร่างกายของฉันเท่านั้นที่บ่งบอกว่าฉันเป็นคนสำคัญของอาณาจักรปีศาจ ……
หนึ่งนาทีต่อมา
เสื้อผ้าแฟนซี
การปรากฏตัวของฉันในฐานะปีศาจ
และ
ม้วนเวทมนตร์กระจัดกระจายไปทั่วพื้น
ยังมีฟางเส้นหนึ่งที่ฉันสามารถคว้าไว้ได้
* * *
ฉันไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือเปล่า แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้
อาจมีวิธีทางอื่นอยู่ แต่เพื่อความอยู่รอด ฉันก็ต้องลองเดิมพัน
ในสถานการณ์ที่ฉันถูกล้อมอย่างสมบูรณ์และไม่รู้ตำแหน่งของทางลับน ฉันมีเพียงทางนี้เท่านั้น เพื่อความอยู่รอด
ที่ฉันมาถึงก็คือ
“แฮ่ก…. แฮ่ก….”
[คุก]
เมื่อฉันลงมายังที่ที่มืดมิดและมีกลิ่นอับชื้นนี้ ฉันก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดทิ้วและเข้าไปแบบเปลือยเปล่า
คงจะดีถ้ามีม้วนกระดาษติดตัวไปด้วยสักสองสามม้วน แต่ฉันต้องเดิมพันและโยนทุกอย่างทิ้งไป
ถ้าฉันมีอะไรแบบนั้นคงจะน่าสงสัยเกินไป
เวทมนตร์ที่ฉันใช้กับแผนการคือเวทมนตร์ระดับต่ำ
อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์นี้ฉันมันเป็นคาถาที่เหมาะสมที่สุด แผนของฉันคงพังถ้าไม่มีมัน
[เวทมนตร์พรางตัว]
ฉันเปลี่ยนรูปลักษณ์ของฉัน
ฉันปลอมตัวเป็นนักโทษมนุษย์ที่ถูกจับโดยปีศาจ
ถ้ามีติดขัดตรงไหนเรื่องคำแปลสามารถชี้แนะได้เลยติดต่อพูดคุยกับผู้แปลได้ที่เพจ Lemon FT ได้เลยนะครับ