The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 505 Sabrina Fishing For Information
“เป็นไงบ้างโอลิเวีย?”
ฉันถามทันทีที่โอลิเวียตอบรับสาย ช่วงเวลาหนึ่งของความเงียบเกิดขึ้นระหว่างเรา ก่อนที่โอลิเวียจะพูดขึ้นในที่สุด
“ฉันต้องการหารือเรื่องสำคัญและฉันอยากจะพูดคุยแบบเห็นหน้ากันด้วย”
“ได้สิ เธออยากคุยเมื่อไหร่หล่ะ?”
ผมตอบกลับ โดยรู้อยู่แล้วว่าเธอต้องการคุยเรื่องอะไร
“ตอนนี้ฉันกำลังยุ่งอยู่ เรามาเจอกันคืนนี้เป็นไง~”
ท้ายที่สุด น้ำเสียงซุกซนของโอลิเวียก็เผยออกมา
“ได้สิ แล้วเจอกัน”
ผมตอบก่อนที่จะตัดสายไป ขณะพิงเก้าอี้สมองของผมก็เริ่มปั่นป่วนจากความคิดต่างๆ มากมายที่แล่นผ่านเข้ามาในหัว ตอนนี้ผมมีผู้หญิงหลายคนรอคิวให้จัดการและรอให้พวกเธอจัดการกับผมอยู่ สิ่งที่ผมทำต่อจากนี้ไปควรอยู่ในการควบคุมจนทุกอย่างไปถึงจุดสุดท้ายที่ผมต้องการ
“พ่อจ๋ากังวลอยู่เหรอคะ?”
อยู่ๆ อาเรียก็ถามขึ้นมาขณะดึงเสื้อผม
เมื่อเห็นใบหน้าที่กังวลของเธอ ผมก็หัวเราะเบาๆ อีกครั้งด้วยความรู้สึกตลกที่ตัวเองต้องกังวลเรื่องการจัดการกับผู้หญิงหลายคนแบบนี้
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เจ้าหญิงน้อยของพ่อ ฉันแค่กำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ อยู่หน่ะค่ะ”
ผมตอบพร้อมกับอุ้มอาเรียขึ้นมานั่งบนตัก กอดเธอเบาๆ แล้วจั๊กจี้เธอ ทำให้อาเรียหัวเราะเสียงดังเหมือนเสียงเครื่องดนตรี
ขณะที่ผมกำลังเล่นกับเธอ คลาร่าก็เดินเข้ามาในห้องโดยถือลูกแก้วสื่อสารที่กลุ่มของผมใช้
คลาร่าพูดออกมาด้วยท่าทางที่ดูเป็นมืออาชีพ
“ออสตินคะ เจ้าหญิงซาบริน่าติดต่อกลุ่มเรามาอีกครั้งว่าต้องการพบคุณค่ะ”
ขณะที่เธอพูดเช่นนั้น ผมก็เห็นรอยยิ้มหยอกล้อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคลาร่า
‘อืม…คงต้องปิดบังเรื่องนี้ไว้ก่อน’
ผมยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย แล้วตอบกลับคลาร่า
“ส่งมาให้ฉัน”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม คลาร่าก็เดินเข้ามาหาผมเพื่อส่งลูกแก้วสื่อสารให้
“เธอต้องการพบฉันใช่ไหม?”
ผมถามกับอุปกรณ์สื่อสาร
“ใช่”
ซาบริน่าตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ผมก็ถามด้วยน้ำเสียงเย้าแหย่
“คิดถึงฉันแล้วเหรอ?”
“เปล่า ฉันแค่อยากคุยเรื่องงาน”
ซาบริน่าตอบกลับโดยไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ในน้ำเสียง
“อ้าว ฉันก็นึกว่าเราสนิทกันแล้วซะอีก”
“เราสนิทกันเท่าที่คน 2 คนที่ไม่มีอะไรต่อกันจะเป็นได้”
เมื่อได้ยินคำตอบของซาบริน่า ผมก็หันไปทางคลาร่าที่ดูเหมือนจะพยายามไม่หัวเราะใส่ผม
“ดูเหมือนว่าการช่วยชีวิตเธอจะไม่มีค่าอะไรเลยสินะ”
“มันมีค่า ฉันจะชดใช้ และเริ่มต้นด้วยการนำเอกสารเหล่านี้มาให้นาย”
ผมหยุดพูดไปชั่วครู่ ไม่พูดอะไรก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“แหม่ๆ นี่คือวิธีพูดกับเจ้านายของเธอเหรอ เมดของฉัน?”
พอผมพูดแบบนั้นออกไป ด้านของซาบริน่าก็หยุดชะงักไป
ผมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะรอคำตอบจากเธอ ในขณะที่คลาร่ามองผมด้วยสายตาแวววาวขณะที่ริมฝีปากของเธอขยับปากพูด
<ฉันฝึกเธอได้ไหมคะ?>
ผมส่งยิ้มตามธรรมชาติให้กับคำถามนั้น ขณะที่เสียงของซาบริน่าดังขึ้นอีกครั้ง
“ขอฉันเจอนายท่านหน่อยได้ไหมคะ?”
“ไม่ใช่ว่ามันยังไม่ดีขึ้นอยู่เหรอ?”
ผมเย้าแหย่ แต่เธอไม่ตกหลุมพรางและพูดอีกครั้ง
“เราจะได้เจอกันแล้วใช่ไหมคะนายท่าน?”
‘ต้องยอมรับเลยว่าเธอควบคุมอารมณ์ได้ดีมาก’
“ได้สิ มาที่ที่พักของฉัน เราจะทำการพบกันแบบลับๆ แบบนี้พอจะทำให้หัวใจของเธอเต้นบ้างไหม?”
“ฉันขอวางสายเลยได้ไหมคะนายท่าน? ฉันจะไปหาคุณที่นั่นเร็วๆ นี้ค่ะ”
“โอเค”
ผมตอบกลับเนื่องจากการเร่งรีบไปมากกว่านี้อาจไม่เป็นผลดีสำหรับผม
เมื่อเธอพยักหน้ายืนยัน ผมก็ตัดการเชื่อมต่อไปแล้วมองไปที่คลาร่าก่อนจะส่งลูกแก้วสื่อสารให้เธอ ซึ่งถามผมกลับมาด้วยน้ำเสียงปรารถนา
“ฉันขอฝึกเธอได้ไหมคะ?”
“ฉันจะคิดดู แล้วเธอรู้ใช่ไหมว่าต้องทำอะไรต่อ”
ผมตอบหลังจากนั้น ซึ่งคลาร่าก็พยักหน้าและเดินออกจากห้องไป
พอเห็นแบบนั้นผมก็กลับมาให้ความสนใจกับอาเรียเพื่อพยายามชดเชยเวลาให้เธอ ด้วยจิตใจเด็กที่เปราะบางของเธอ หากไม่เอาใจเธอซักหน่อยอาจก่อให้เกิดหายนะได้
‘ดูเหมือนกำหนดการของวันนี้จะถูกกำหนดแล้ว’
คิดถึงเช่นนั้นแล้วผมก็มองไปยังอาเรียก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ลูกรัก เดี๋ยวจะมีผู้หญิงพิเศษมาที่นี่ และในตอนที่เธอมาถึง ลูกต้องซ่อนตัวเองเอาไว้นะ โอเคไหม?”
“โอเคค่ะปะป๊า!”
อาเรียตอบตกลงทันที หลังจากนั้นผมก็กลับมาเล่นกับเธออีกครั้ง
…..
“เธอดูแข็งแรงดีนะ”
ผมพูดเมื่อเห็นซาบริน่ายืนอยู่ตรงหน้า
เธอดูงดงามเสมอด้วยผมสีแพลตินั่มที่เปล่งประกายและดวงตาสีมรกตสวยงาม พลังธรรมชาติที่อบอุ่นห่อหุ้มรอบตัวเธอ ขณะที่ร่างกายที่สลักเสลางดงามของเธอฉายแสงอยู่ในชุดของเธอ หูเอลฟ์ที่ยาวทำให้เธอดูมีเสน่ห์แบบแปลกใหม่
“นายท่านก็เช่นกันค่ะ”
ซาบริน่าตอบด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เพื่ออย่างเต็มที่ที่จะทำเหมือนว่าสิ่งที่เธอทำอยู่ไม่ส่งผลกระทบต่อเธอเลย แต่ผมรู้ดีว่าในฐานะคนที่เคยเล่นตัวละครของเธอ ผมรู้ดีว่าการทำเช่นนี้มันทำร้ายเธอขนาดไหน
“นี่คือเอกสารที่อนุมัติทุกอย่างที่นายท่านขอมาค่ะ”
พูดจบเธอก็เดินมาหาผมและวางเอกสารที่เธอเอาออกมาบนโต๊ะตรงหน้าผมก่อนจะเตรียมตัวนั่งลง แต่ผมก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นซะก่อน
“ไม่ใช่ตอนนี้คุณเมดคนสวย ทำไมเธอไม่มานวดไหล่ให้เจ้านายก่อนหล่ะ?”
ผมได้ยินเสียงเธอกัดฟัน แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธ
ด้วยสายตาที่ดุร้ายที่มองมาที่ผม เธอเดินมาข้างหลังผมก่อนจะเริ่มนวดไหล่ช้าๆ ด้วยนิ้วของเธอ มันไม่มีเทคนิคอะไรเลย แต่แค่ได้เจ้าหญิงเอลฟ์แห่งอาณาจักรเอลฟ์มาอยู่ภายใต้การควบคุมของผมก็ดีขนาดไหนแล้ว
“ทุกอย่างอยู่ตรงนี้แล้วค่ะ ตั้งแต่นี้ไปคุณจะได้รับการปฏิบัติแบบราชวงศ์จากธนาคารหลวง และคุณจะสามารถเข้าถึงเอกสารที่ไม่ได้กรองที่นั่นได้ค่ะ”
ซาบริน่าพูดขณะนวดไหล่ของผมต่อไป
หลังจากเพลิดเพลินกับมันไม่กี่วินาที ผมก็หยิบเอกสารและเริ่มอ่านผ่านมัน เมื่อเห็นตราประทับของราชวงศ์เอลฟ์ผมก็ยิ้มและหันไปสนใจส่วนหลังของเอกสาร ซึ่งเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติผมก็ตอบกลับเธอไป
“ทำได้ดีมาก งั้นบอกฉันหน่อยสิว่าเธอได้อะไรจากเขาบ้าง?”
คำพูดของผมทำให้ซาบริน่าหยุดไปครู่หนึ่ง แต่แล้วเธอก็ยังคงนวดไหล่ต่อไปโดยที่แรงกดจากมือของเธอเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งเธอและผมต่างรู้ดีว่าผมกำลังถามถึงเอลฟ์ที่เป็นเป้าหมายของเธอ หนึ่งในผู้ถือครองแหวนและถูกจับกุมโดยอาณาจักรเอลฟ์ ชายผู้โชคร้ายคนนั้นที่ต้องตายอย่างโหดร้าย
“เราได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากการพูดคุยกับเขา แต่เขาเสียชีวิตในตอนที่เราพยายามจะได้ถามข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ”
ซาบริน่าพูดโดยไม่อธิบายเพิ่มเติมว่า ‘การพูดคุย’ หมายถึงอะไร
“เพราะแบบนี้มันทำให้เธอเพิ่มความระมัดระวังต่อทุกสิ่งรอบตัวสินะ?”
“ใช่ค่ะ นายท่าน”
ซาบริน่าตอบตามคำพูดของผม การเคลื่อนไหวของเธอเร็วขึ้นเล็กน้อยขณะที่เธอพูดต่อไป
“สิ่งที่ฉันได้มามันเป็นเพียงแค่ชิ้นส่วนของปริศนา แต่มันไม่ได้ให้ทุกอย่างที่ฉันต้องการ มันเหมือนกับการมองภาพว่างเปล่า ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกรำคาญค่ะ”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ผมก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ
‘ดูเหมือนเธอจะเริ่มเปิดใจให้ฉันบ้างแล้ว’
ซึ่งถือเป็นเรื่องดี หมายความว่าผมอยู่กลางทางที่จะได้หัวใจของซาบริน่ามาครองโดยไม่ต้องเปิดเผยความเชื่อมโยงของผมกับนักเขียนคนโปรดของเธอ ดูเหมือนว่าเศษขนมปังที่ผมทิ้งไว้ให้เธอติดตามได้ทำให้เธอมีความประทับใจที่ดีกับผมแล้ว
ท้ายที่สุด ผู้ชายที่ลึกลับยิ่งทำให้ผู้หญิงที่ชาญฉลาดเช่นเธอต้องการที่จะค้นหา และยิ่งเธอตกอยู่ในความต้องการไม่รู้จบต่อผมมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ดีต่อผมเท่านั้น
“เธออยากรู้เรื่องอะไรอีกหล่ะ?”
ผมถามขณะที่ยังคงหลับตาอยู่
“คุณช่วยบอกหน่อยได้ไหมว่าฉันควรมองหาที่ไหนจริงๆ ดีคะ?”
ซาบริน่าตอบกลับ
‘นี่เธอล้อฉันเล่นใช่ไหม?’
“อะไรทำให้เธอคิดว่าฉันจะมีข้อมูลที่อาณาจักรเอลฟ์ไม่มีกันหล่ะ?”
ผมถามอีกครั้ง
“ก็แค่ลางสังหรณ์หน่ะค่ะนายท่าน”
ซาบริน่าตอบอีกครั้ง
“นั่นเป็นลางสังหรณ์ที่ทรงพลังมากเลยนะ”
ผมหัวเราะเบาๆ ขณะที่พูดคำเหล่านั้นก่อนที่จะหยุดพูดและปล่อยให้ความเงียบสงบเกิดขึ้นซึ่งยาวนานประมาณ 1 นาทีก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ถ้าเธอต้องการบางสิ่ง เธอต้องจ่ายเพื่อมันนะเจ้าหญิง”
“นายท่านต้องการอะไรคะ?”
ซาบริน่าถามออกมาในทันที
ด้วยเหตุนี้รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จึงเริ่มปรากฏบนใบหน้าของผมขณะที่ผมตอบเธอไป
“เอาเป็นเดทกันดีไหม?”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต\