The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 313 Time To Bag The Elven Princess
“รู้สึกยังไงบ้างที่เป็นที่รู้จักไปทั่วทุกที่?”
อเล็กซ์ถามด้วยรอยยิ้มพอใจจนทำให้ผมอยากจะต่อยเข้าไป แต่ผมจะทำอะไรได้หล่ะในเมื่อมีคนอื่นกำลังมองมาหลายร้อยตาขณะที่ผมเดินผ่าน?
ตอนนี้ผมกำลังมุ่งหน้าไปพบกับเจ้าหญิงเอลฟ์ ซึ่งมีเพียงเจค็อบและอเล็กซ์เท่านั้นที่เดินอยู่เคียงข้างผม แต่ปัญหาหลักตอนนี้คือดวงตาหลายร้อยดวงที่กำลังจ้องมองผมอยู่ต่างหาก
สายตาที่มองมาที่ผมส่วนใหญ่นั้นเป็นของเอลฟ์ต่างๆ ที่ที่ผมกำลังเดินอยู่ตอนนี้เป็นของกลุ่มของซาบรีน่า เจ้าหญิงเพียงหนึ่งเดียวในอาณาจักรที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกและที่สำคัญกว่านั้นคือเธอเป็นเป้าหมายใจการจีบ
พื้นที่กลุ่มทั้งหมดของซาบรีน่าได้รับการออกแบบใหม่เพื่อตอบสนองรสนิยมและความปรารถนาของเธอ นั่นจึงทำให้พื้นที่ทั้งหมดดูเหมือนสถานที่แฟนตาซีที่สวยงาม
อาคารและสไตล์แต่ละหลังมีความประณีตพร้อมกลิ่นอายของเสน่ห์ตามธรรมชาติ อาคารทุกหลังทันสมัยและถูกสร้างขึ้นมาอย่างดี และมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติเพียงเล็กน้อย ทำให้สถานที่ทั้งหมดดูน่าทึ่ง ซึ่งถูกเพิ่มเสน่ห์ด้วยเอลฟ์งดงามสวยงามที่กำลังเดินอยู่รอบๆ อาณาจักรเอลฟ์ทั้งหมดนั้นใหญ่โตมากและมีเอลฟ์หลายชนิดเช่น
มูนเอลฟ์ (Moon Elf)
ซันเอลฟ์ (Sun Elf)
วู้ดเอลฟ์ (Wood Elf)
ดาร์กเอลฟ์ (Dark Elf)
กรีนเอลฟ์ (Green Elf)
เรนเจอร์เอลฟ์ (Ranger Elf)
และอื่นๆ อีกมากมาย ชนเผ่าเอลฟ์ที่แตกต่างกันหลายเผ่านี้ทำให้อาณาจักรเอลฟ์ทรงพลัง และเหนือพวกเขายังมีราชวงศ์เอลฟ์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเพียงกลุ่มเดียวที่สามารถใช้เวทมนตร์แห่งธรรมชาติได้อยู่อีก พวกเขาปกครองเหนือเอลฟ์คนอื่นๆ โดยยึดมงกุฎไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีใครสามารถท้าทายพลังของพวกเขาได้และไม่มีใครกล้า มีคำกล่าวหนึ่งกล่าวว่าเชื้อสายของราชวงศ์เอลฟ์ทุกคนนั้นได้รับพรจากเทพธิดาแห่งชีวิต
ผมได้ถามเรื่องนี้กับออร์เฟียสแล้วซึ่งเธอบอกว่าไม่มีสิ่งนั้นอยู่ ด้วยเหตุนี้เลยดูเหมือนว่าผมจะกำลังกุมหนึ่งในความลับที่ปลอดภัยที่สุดของราชวงศ์เอลฟ์ไว้ในมืออยู่
แม้ว่าเพราะสิ่งที่เรียกว่าพรจึงไม่มีใครกล้าท้าทายพลังของพวกเขา แต่การบูชาที่เอลฟ์มีต่อเทพธิดาแห่งชีวิตนั้นอยู่ในอีกระดับหนึ่ง
แค่คิดถึงผลของสถานะบุตรชาย ‘ศักดิ์สิทธิ์’ ที่รั่วไหลออกมาก็ปวดหัวแล้ว ตอนนี้ช่างเรื่องพวกนั้นไว้ก่อน ผมได้แต่ยิ้มในขณะที่เดินตามหลังเอลฟ์ชายตรงหน้า บางครั้งผมก็พยักหน้าให้คนอื่นๆ เพื่อพยายามจะทำให้ไม่ถูกมองว่าเย่อหยิ่งโดยที่ในขณะที่ทำเช่นนั้น ผมก็เพลิดเพลินไปกับสภาพแวดล้อมโดยรอบที่ทำให้จิตใจสงบ
หลังจากเดินได้ไม่กี่นาทีผมก็มาถึงคฤหาสน์ที่มีลักษณะคล้ายพระราชวังขนาดมหึมาที่มีการออกแบบที่สวยงามน่าทึ่ง สถานที่ทั้งหมดถูกตกแต่งด้วยสวนสวยที่มีผีเสื้อหลายตัวบินไปมา
ผมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ขณะเดินเข้าไปในสวนพร้อมกับสังเกตเห็นได้ว่าเอลฟ์ที่นี่ทุกคนแข็งแกร่ง พวกเขาส่วนใหญ่คอยเฝ้าระวังและพร้อมสำหรับการต่อสู้ทุกประเภท
“องค์หญิงอยากคุยกับออสตินคนเดียว”
ในที่สุดเอลฟ์ชายก็หยุดก่อนจะพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแล้วผมก็ยิ้มขณะที่ตอบไป
“ได้”
เมื่อพูดเช่นนั้นจบแล้วผมก็ส่งสัญญาณให้ทั้งเจค็อบและอเล็กซ์ ซึ่งทั้งคู่ก็เข้าใจในขณะที่พวกเขาถอยไปข้างหลัง
ผมพยักหน้าให้เอลฟ์ตรงหน้าก่อนจะเริ่มเดินไปข้างหน้า ไม่กี่วินาทีต่อมาผมก็เข้าไปในพื้นที่เปิดโล่งที่น่าทึ่งมากขึ้น ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยผีเสื้อและธรรมชาติมากมายก่อนจะสังเกตเห็นเอลฟ์แสนสวยที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ ผมสีแพลตตินั่มของเธอปลิวไปตามสายลมที่เบาบาง ขณะที่ดวงตาสีมรกตของเธอกำลังอ่านหนังสือในมืออยู่
ข้างๆ เธอนั้นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งความน่ารักของเธออาจทำให้คุณละลายไปยืนอยู่ด้วยความเคารพ ส่วนสูงของเธอแทบจะไม่ถึงหน้าอกของผมเลย แต่ ‘ทรัพย์สิน’ ของเธอทั้ง 2 นั้นกลับใหญ่โตและอุดมสมบูรณ์ทำให้ดูแข็งแกร่งแต่น่าหลงใหล ผมหางม้าทั้งสองของเธอปลิวไปตามสายลม ขณะที่ดวงตาสีเขียวของเธอเป็นประกายเมื่อจ้องมองมาที่ผม
เมื่อเห็นเธอแล้วผมก็ยิ้มให้กับเด็กสาวที่น่ารักแต่อันตรายคนนั้นไป
“ยินดีที่ได้พบครับ องค์หญิงซาบรีน่า”
“กรุณาเรียกฉันว่าซาบรีน่าเถอะค่ะ”
ซาบรีน่าที่กำลังอ่านหนังสืออยู่วางหนังสือลงบนโต๊ะตรงหน้าเธอ ขณะที่ดวงตาสีมรกตของเธอจ้องมองมาที่ผมด้วยท่าทีสนใจ
“ได้สิ ผมไม่รังเกียจอยู่แล้วครับซาบรีน่า”
ผมพูดขณะนั่งลงตรงข้ามกับเธอ และสายตาของผมก็พยายามมองเอมิลี่ในขณะที่พูด
“ดีใจที่ได้พบเธออีกครั้งนะครับเอมิลี่ ผมดีใจมากเลยที่เธอผ่านเรื่องทุกอย่างมาได้ด้วยดี”
“ขอบคุณค่ะและฉันก็คิดถึงคุณเช่นกันนะคะ!”
เอมิลี่ยิ้มแก้มป่องพร้อมกับตอบด้วยรอยยิ้มน่ารักขณะที่ผมหางม้าของเธอส่ายไปมา การกระทำของเธอนั้นเพียงพอที่จะละลายแม้แต่หัวใจเหล็ก แต่น่าเสียดายสำหรับเธอที่ผมนั้นรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอและผมจะไม่ตกหลุมรักสิ่งนี้
“ดูเหมือนเธอ 2 คนจะเป็นเพื่อนสนิทกันสินะ”
ซาบรีน่าพูดกับเอมิลี่โดยที่เอมิลี่ ‘หน้าแดง’ ขณะที่เธอตอบด้วยรอยยิ้มเขินอาย
“ออสตินเป็นเพื่อนที่ดีของฉันจริงๆ ค่ะ เขาช่วยฉันไว้มากเลย!”
เอมิลี่ตอบขณะกระโดดขึ้นไปในอากาศ 2 ครั้งด้วยความตื่นเต้น เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็หัวเราะเบาๆ
“ดีใจที่ได้เห็นเธอมีความสุขดีเอมิลี่ และใช่ครับ เราทั้งคู่เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันครับ”
ผมพูดคำพูดสุดท้ายโดยเอียงไปทางซาบรีน่าซึ่งพยักหน้า เธอหรี่ตาลงเล็กน้อยขณะพูด
“คุณยึดโลกโดยพายุจริงๆ นะคะท่านออสติน”
“กรุณาเรียกผมว่าออสตินเถอะครับ”
ผมคืนคำพูดของเธอเองพร้อมกับยิ้มหน้าด้าน
“ได้สิ ฉันไม่รังเกียจอยู่แล้วค่ะออสติน”
เธอตอบโดยโยนคำพูดของผมกลับมาซึ่งผมก็ยิ้ม
“ทุกคนต่างก็มีความลับของตัวเองครับซาบรีน่า โปรดจำเอาไว้นะครับ?”
คำพูดสุดท้ายของผมเต็มไปด้วยความลึกลับเล็กน้อย และมันจุดประกายคำตอบจากเธอ
“แน่นอนค่ะ ฉันจะจำเอาไว้”
ซาบรีน่าตอบ ซึ่งผมก็ยิ้มให้เธอ
“แท้จริงแล้วการจำอยู่เสมอนั้นยาก”
คราวนี้ผมทำให้เธอมีสมาธิเต็มที่ ในขณะเดียวกันผมก็เห็นเอมิลี่ที่กำลังสับสน คราวนี้มันเป็นเรื่องจริง เธอไม่รู้ว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ พวกเธออาจเป็นเพื่อนรักกัน แต่ก็มีความลับบางอย่างของซาบรีน่าที่เอมิลี่เองก็ไม่รู้
“โม่วว~ พวกคุณพูดเรื่องอะไรกันเนี่ยคะ!”
เอมิลี่ที่ไม่สามารถหาคำตอบได้เปลี่ยนไปเป็นด้านที่น่ารักของเธอ โดยหวังว่าจะได้คำตอบบ้าง แต่เธอก็ต้องตกใจเพราะไม่ได้สิ่งที่ต้องการ
“เอมิลี่ ฉันอยากคุยกับออสตินเป็นการส่วนตัว”
ซาบรีน่าพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เมื่อได้ยินน้ำเสียงนี้เอมิลี่ก็ดูจะสงบลง แต่ในไม่ช้าเธอก็มีตัวตนที่ ‘ร่าเริง’ กลับคืนมาอีกครั้งในขณะที่ตอบ
“ได้สิจ๊ะ”
พูดจบแล้วเธอก็เริ่มเดินจากไปแต่ก่อนที่จะไป เธอกลับทิ้งผมไว้ด้วยคำพูดบางอย่าง
“จริงสิ! ไว้หลังจากนี้เจอกันนะคะคุณออสติน!”
“โอเค”
ผมตอบและรอยยิ้มของเธอก็กว้างขึ้นขณะที่เธอเริ่มกระโดดออกไปอย่างน่ารัก และในไม่ช้าเธอก็หายไปจากสายตา
ทันทีที่เอมิลี่จากไป รอยยิ้มของซาบรินาก็หายไปก่อนจะมองผมอย่างสงสัย
“คุณรู้ได้ยังไงคะ?”
“ไม่เจ็บงั้นเหรอครับ?”
แทนที่จะตอบคำถามของเธอ ผมกลับตอบไปด้วยคำถาม
“คุณรู้สินะคะ”
ซาบรีน่าตอบด้วยใบหน้าขมวดคิ้ว ผมแค่ยิ้มให้ขณะเอนตัวลงบนเก้าอี้ก่อนจะพูดอย่างสบายๆ
“มันไม่เจ็บเหรอครับ? แต่ละช่วงเวลาที่แล่นเข้ามาในหัวเพื่อพยายามจะทำลายคุณ ความเจ็บปวดอันแสนสาหัสเหล่านั้นอัดแน่นอยู่ในตัวคุณและไม่เต็มใจที่จะหายไป”
ยิ่งผมพูดมากเท่าไร ใบหน้าของซาบริน่าก็ขมวดคิ้วมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เสียงของเธอมีร่องรอยของความโกรธ
“ฉันไม่รู้ว่าคุณรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ซึ่งแม้แต่พ่อของฉันเองก็ยังไม่รู้ แต่ฉันจะระมัดระวังคำพูดต่อไปของคุณให้มากค่ะ”
“ถ้าผมบอกคุณว่าผมรู้ว่าปัญหามาจากอะไรหล่ะ?”
“!!”
ครั้งนี้ฉันทำให้เธอสนใจฉันจริงๆ แล้วนะ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต\