The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 46 A Slow Progress
หลังจากแน่ใจว่าเธอขยับไม่ได้แล้ว ผมเลยพูดขึ้น
“เธอชื่ออะไร?”
“ทำไมถึงอยากรู้หล่ะ?”
แม้ว่าเธอจะอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ แต่สการ์เล็ตก็ยังไม่ยอมจำนน ผมถอนหายใจก่อนจะปล่อยมือตัวเองที่จับเธอไว้อยู่
หลังจากเป็นอิสระแล้วเธอก็มองมาที่ผมอย่างระแวดระวัง
“นายต้องการอะไร?”
“ผมไม่สนหรอกนะที่เธอพยายามจะปล้นผม แต่ผมสามารถช่วยเธอเรื่องเงินได้นะ”
“นายหมายความว่ายังไงกัน?”
สการ์เล็ตเพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นพร้อมกับมองมาที่ผม ใครมันจะบ้ามาช่วยคนที่พยายามปล้นตัวเองกันนั่นคือสิ่งที่เธอคิด
โดยไม่ได้ตอบอะไรผมหยิบเหรียญทองเล็กๆ 2 เหรียญขึ้นมาไว้ในมือ เหรียญนี้เป็นสกุลเงินของอาณาจักรนี้
เมื่อเห็นเหรียญทองดวงตาของเธอก็เป็นประกาย เนื่องจากเงินในมือของผมเพียงพอที่จะรักษาแม่ของเธอเป็นเวลาหนึ่งปีเลย
“ถ้าเธอช่วยผม 2 เหรียญนี้จะเป็นของเธอ”
“นายต้องการอะไร?”
“ก็ไม่มีอะไรมาก ผมแค่ต้องการให้เธอช่วยนำทางผมเที่ยวรอบเมืองหน่ะ”
เมื่อได้ยินคำขอของผม เธอก็มองมาที่ผมเหมือนกำลังมองคนโง่อยู่ แต่ผมไม่สนใจหรอกนะ
“นายว่าไงนะ?”
“แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่านายจะไม่คืนคำ”
“นายสามารถสาบานในนามของเทพธิดาให้เธอได้ แค่นั้นก็พอแล้วหนิ”
สการ์เล็ตลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายเธอก็พยักหน้าตกลง
“ดี…ฉันชื่อออสติน แล้วเธอหล่ะ?”
“เคน”
สการ์เล็ตตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
ผมขยับเข้าไปใกล้เธอให้มากขึ้นเพื่อขอจับมือกับเธอ
เมื่อเห็นมือที่ขาวเนียนของผมแล้ว สการ์เล็ตก็มองกลับไปยังมือที่สกปรกของตัวเอง เธอกำลังลังเลที่จะจับมือกับผมอยู่ แต่ผมไม่สนใจและจับมือของเธอมากำแน่น
“ยินดีที่ได้ร่วมงานด้วยนะเคน”
หลังจากนั้นเราสองคนก็เริ่มเดิน เธอเริ่มเดินนำหน้าผมในขณะที่อธิบายเกี่ยวกับพื้นที่บางส่วน เราเดินชมรอบๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนที่เธอจะบอกผมว่าเธออยากกลับแล้ว
ก่อนที่เธอจะกลับไปผมได้โยนเหรียญทองให้เธอและบอกให้เธอไปพบผมที่โรงแรมของผมในวันรุ่งขึ้น หลังจากนั้นเธอก็จากไป ในขณะที่ผมเองก็เดินไปยังโรงแรมที่พูดถึงเพื่อจองห้องและเข้าไปล้มตัวลงนอนที่เตียง
‘ดูเหมือนส่วนแรกจะผ่านไปได้ด้วยดี’
ผมรู้ว่าตัวเองยังไม่สามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตของเธอและเป็นส่วนหนึ่งของมันได้ ผมแค่ต้องใช้เวลาค่อยๆ ให้เธอยอมรับ การเปิดใจของเธอนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
1 สัปดาห์ต่อมา∼∼∼∼
ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ใกล้ตัวเมือง โดยมีสการ์เล็ตนั่งอยู่ข้างๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเริ่มได้รับความไว้วางใจจากเธออย่างช้าๆ ตอนนี้ผมน่าจะถูกเธอพิจารณาว่าเป็นคนรู้จักได้แล้ว
“นี่ นายเป็นใครกันแน่?”
ในช่วงเวลาที่กำลังสงบ สการ์เล็ตก็ถามขึ้นมา
“เธอหมายความว่ายังไง?”
“ฉันมั่นใจว่านายต้องเป็นขุนนางแน่ๆ ไม่ว่านายจะปกปิดมันยังไง ฉันก็เห็นได้ว่านายได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีมาก แต่ถึงกระนั้นนายก็ไม่สนใจสถานะหรือรูปลักษณ์ที่สกปรกของฉันเลย ทำไมนายถึงช่วยฉันมากขนาดนี้หล่ะ?”
สการ์เล็ตหันมาทางผมพร้อมกับดวงตาสีทองของเธอที่เต็มไปด้วยคำถาม
ผมเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบเธอกลับไป
“อย่างที่เธอพูดผมเป็นขุนนาง เหตุผลที่ผมมาที่นี่ก็เพราะผมมีบางอย่างต้องทำ ส่วนทำไมผมถึงจ่ายเงินให้เธอมากขนาดนั้นก็เพราะผมชอบดวงตาของเธอ”
“ห้ะ?”
สการ์เล็ตทำเสียงตกตะลึง
ผมไม่ปล่อยให้เธอมีเวลาคิดมากไปกว่านี้
“ในตอนที่ผมเจอเธอครั้งแรกและเห็นดวงตาของเธอมันมีทั้งความภาคภูมิใจ, ความแข็งแกร่งและความเชื่อมั่นในตัวเองอยู่ ผมชอบสายตานั่น ดังนั้นผมเลยคิดว่าอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอ”
แน่นอนว่าสิ่งที่ผมพูดคือเรื่องไร้สาระทั้งหมด
“นายไม่สนใจสถานะของฉันเหรอ?”
“ทำไมผมต้องสนหล่ะ?”
ว่าจบผมก็ถอดหน้ากากออกและนำเสื้อฮู้ดลง ผมสีเงินของผมปลิวไปตามสายลม ใบหน้าของผมเปล่งประกายจากแสงสว่างของดวงอาทิตย์
ในตอนที่เธอเห็นหน้าผมครั้งแรกผมสามารถเห็นสีแดงเล็กๆ ปรากฏขึ้นบนแก้มของเธอได้ก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็ว
ในชีวิตนี้หน้าตาของผมถือเป็นข้อดีอย่างมาก
“นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีผู้ชายเป็นเพื่อน ผมดีใจมากเลย”
ผมพูดจบแล้วก็เข้าไปใกล้เธอพร้อมกับโอบไหล่ของเธอ โดยทำเป็นไม่สนใจเพศที่แท้จริงของเธอ
ในตอนที่ผมวางมือลงบนไหล่ของเธอ เธอก็ดันผมออก
“ท -ทำอะไรของนายเนี่ย?”
เธอกรีดร้องด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ
ผมทำเพียงมองเธออย่างไร้เดียงสา
“หมายความว่ายังไงกัน? เรา 2 คนเป็นผู้ชายหนิ ทำไมเธอต้องกรี๊ดเหมือนผู้หญิงด้วยหล่ะ?”
“ม -ไม่มีอะไร”
พูดจบเธอก็วิ่งหนีผมไป
ขณะที่ผมมองดูเธอวิ่งหนีไป ผมก็ได้แต่ส่ายหัวก่อนจะยืนขึ้นเพื่อยืดร่างกายและหายตัวไป
มุมมองของสการ์เล็ต :
‘ให้ตายเถอะ ทำไมเขาถึงทำแบบนั้นกัน?’
ตอนนี้ฉันกำลังวิ่งกลับไปที่บ้าน ออสตินคนโง่ เขาจะบื้อไปถึงไหนกัน เขาไม่สามารถบอกได้ว่าฉันเป็นผู้หญิง
หลังจากวิ่งไปได้นิดหน่อยฉันก็หยุดวิ่งก่อนจะหันกลับไปก็ไม่เห็นเขาอีกแล้ว
‘บางทีฉันไม่น่าไปผลักเขาออกเลยเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด’
เมื่อคิดถึงออสตินฉันก็ถอนหายใจกับตัวเอง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วฉันได้พบคนเดินผ่านในสลัม ฉันคิดว่าบางทีฉันอาจจะปล้นเขาได้ แต่ใครจะไปคิดว่าฉันจะถูกเขาจับกัน ตอนนั้นฉันคิดว่าชีวิตของตัวเองได้จบลงแล้ว ฉันกลัวมากเลยในตอนที่คิดว่าแม่จะถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง แต่แล้วชีวิตของฉันก็ผลิกผันอีกครั้ง
ผู้ชายที่จับฉันได้เขาปล่อยฉัน ไม่เพียงเท่านั้น เขายังได้ให้เหรียญทองฉันอีกด้วยเพียงแค่ฉันต้องพาเขาเที่ยวรอบเมืองเท่านั้นเอง! ตอนแรกฉันคิดจะใช้ประโยชน์จากเขา แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาฉันได้รู้ 2 สิ่งเกี่ยวกับเขา
อย่างแรกคือเขาอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน อย่างที่สองคือเขาพยายามปกปิดว่าตัวเองเป็นขุนนาง
ประเด็นคือเขาแตกต่างจากขุนนางคนอื่นที่ฉันรู้จัก เขาไม่ได้วางท่าและเรียกฉันว่า…เพื่อน เขาไม่สนใจสถานะของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
ขณะที่เดินผ่านถนนฉันก็นึกถึงใบหน้าที่เขาโชว์ให้ฉันดูเมื่อกี้ขึ้นมา ฉันจินตนาการถึงใบหน้าที่หล่อเหล่าของเขาพร้อมกับหัวใจของฉันที่เต้นแรงขึ้นเล็กน้อย
‘แต่เขาบื้อมาก!’
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันเป็นผู้หญิง! ฉันมองไปยังมือและชุดของตัวเอง ฉันเดาว่าตัวเองคงไม่สวยเหมือนผู้หญิงคนอื่น แล้วใครจะมามองว่าฉันเป็นผู้หญิงได้กัน
ฉันทำได้เพียงถอนหายใจกับตัวเองในขณะที่เดินกลับบ้านไป เมื่อฉันมาถึงบ้านหลังเล็กๆ ที่ทรุดโทรมแล้วก็เห็นว่ามีกลุ่มคนยืนอยู่หน้าบ้านของฉัน ฉันรีบวิ่งไปหาพวกเขาทันทีที่ฉันเห็น
เมื่อเข้าไปใกล้แล้วฉันก็เห็นว่ามีผู้ชาย 5 คนและอีก 1 คนที่แต่งตัวเหมือนขุนนางยืนอยู่ พวกเขากำลังจับผมของแม่ฉันอยู่
“แม่!!”
ฉันกรีดร้องก่อนจะวิ่งไปทางพวกเขาพร้อมกับหยิบมีดออกมาจากชุด
ในตอนนั้นเองฉันก็รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมากระแทกเข้าที่ท้องของฉัน ก่อนที่ฉันจะทันได้ตอบโต้ฉันก็กระเด็นออกไปและล้มลงบนพื้นแล้ว ฉันจับหัวของตัวเองในขณะที่นอนอยู่ด้วยความเจ็บปวด
ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉันและบังคับฉัน
“ปล่อยแม่ฉันไปนะ พวกนายต้องการอะไรกัน?”
“โอ้วว งั้นแกจำข้าได้ไหมไอ้หนู?”
คนที่แต่งตัวเหมือนขุนนางปรากฏตัวต่อหน้าฉัน
เมื่อเห็นหน้าของเขาชัดๆ ดวงตาของฉันก็เบิกกว้างขึ้นมา
“น -นาย”
“ใช่แล้ว ข้าคือคนที่แกขโมยไปเมื่อคราวก่อน แกคิดว่าข้าจะหาแกไม่เจอรึไงกัน?”
“แกควรจะระวังคนที่แกจะขโมยให้ดีนะไอ้เด็กเวร ตอนนี้ข้าจะให้แกดูสิ่งที่ข้าจะทำกับแม่ของแก”
“ไม่นะ อย่าบังอาจมาแตะต้องแม่ของฉันนะ!”
ฉันกรีดร้องและพยายามขัดขืนแล้ว แต่คนที่จับฉันอยู่นั้นไม่ขยับเลย ฉันเห็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของพวกมันได้
ความสิ้นหวังกำลังจ้องมองมาที่ฉัน ในตอนที่ฉันคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้วนั้นเองก็ได้ยินเสียงของคนที่คุ้นเคยดังขึ้นมา
“ขอผมดูด้วยสิครับว่าคุณจะทำอะไร”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต\