The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 361 Sickness
สิ่งที่มองไม่เห็นดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนแคทเธอรีนจำไม่ได้ หลังจากวันแรก อีกวันก็ผ่านไปอย่างเรียบง่าย ดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นใคร ชื่อเล่นของแม่ผู้เปี่ยมด้วยความรักเข้ามาแทนที่ตัวเธอในขณะที่เธอใช้เวลาทั้งวันเช่นนี้ ออสตินก็ไม่ต่างอะไร โดยที่เขาใช้เวลาเหมือนพ่อ เพียงแค่ 2 วันก็เพียงพอที่จะทำให้เด็กๆ ฝังลึกลงไปในหัวใจของทั้ง 2 คนแล้ว
ทุกอย่างดูเหมือนเทพนิยาย ยกเว้นความจริงที่ว่าแคทเธอรีนเริ่มอ่อนแอลง ด้วยเวลาที่ผ่านไปทำให้พิษที่อยู่ในตัวของเธอแข็งแกร่งขึ้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีความหมายสำหรับแคทเธอรีนที่จมอยู่ใต้น้ำในสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย
วันรุ่งขึ้นผ่านไปโดยไม่มีปัญหาใดๆ แคทเธอรีนตื่นขึ้นมาด้วยการที่ดูเหมือนจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นใคร ขณะที่เธอสวมบทบาทเล่นกับลูกๆ อย่างสนุกสนาน และเพลิดเพลินกับวันแห่งความรักอันแสนสุขของครอบครัว หลังจากนั้นในตอนกลางคืนเธอก็จะหลับไปภายใต้กอดอันอบอุ่นของออสติน
และแล้ววันที่ 3 ก็เริ่มต้นขึ้น คราวนี้เมื่อแคทเธอรีนลุกขึ้นด้วยความรู้สึกไม่สบายร่างกาย ร่างกายส่วนใหญ่ของเธอรู้สึกอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรง เธอรู้สึกว่าตัวเองช้าลงแต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรในขณะที่รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอ
เมื่อมองไปที่ออสตินแล้วเธอก็ยิ้มกว้างขึ้นก่อนที่เธอจะพยายามยืนขึ้นด้วยอาการสั่นเทาเพื่อลุกจากเตียงแล้วเริ่มเดินไปที่ห้องของเด็กๆ
แต่แล้วความหวาดหวั่นที่ไม่รู้จักกลับก่อตัวขึ้นในใจของแคทเธอรีนขณะที่เธอเดินไปที่ห้องฝาแฝด
เธอก้าวเท้าเร็วขึ้นก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไปพบกับเด็ก 2 คนนอนที่เหยียดยาวอยู่บนพื้น
“ไม่นะ!”
เสียงร้องของเธอดังก้องไปทั่วทั้งบ้าน ซึ่งใช้เวลาไม่นานออสตินก็รีบเข้ามาในห้อง
ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่แคทเธอรีนผู้โศกเศร้าที่กำลังอุ้มฝาแฝดทั้ง 2 ไว้บนตักของเธอ โดยที่พวกเด็กๆ นั้นดูซีดเซียวและมีเส้นเลือดดำอันน่าสะอิดสะเอียนแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย
“เกิดอะไรขึ้น?!”
ออสตินถามด้วยน้ำเสียงกังวลขณะรีบเข้าไปหาแคทเธอรีน
เขาวางมือลงบนเด็กสีน้ำตาลแดงก่อนจะตรวจสอบร่างกายของเธอด้วยสีหน้าที่ดูน่าเกลียด
“พลังชีวิตของเธอลดลง”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้แคทเธอรีนหน้าซีดกว่าเดิม
“ทะ-ทำไมหล่ะ? กะ-เกิดอะไรขึ้นกะ-กับพวกเธอกัน?”
แคทเธอรีนถามด้วยริมฝีปากที่สั่นเทา ดวงตาของเธอสั่นเทาจนอยู่ห่างจากการเป็นลมเพียงไม่กี่นิ้ว
ออสตินส่ายหัวขณะที่เขาอุ้มเด็กผู้หญิงขึ้นไปบนเตียงพร้อมกับดวงตาที่สั่นไหวของเขาที่จับจ้องเด็กสาว 2 คนที่ดูอ่อนแอเกินกว่าจะรู้สึกอะไรรอบตัวพวกเธอ
“ระ-เราควรทำยะ-ยังไงกันดี?”
แคทเธอรีนถามขณะนั่งอยู่บนเตียงข้างฝาแฝดโดยอุ้มพวกเธอไว้ราวกับเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในโลก
ดวงตาของออสตินดูเหมือนจะเป็นประกายด้วยการต่อสู้ที่ดูเหมือนจะพยายามยึดติดกับตัวตนที่กำลังดิ้นรนที่หายวับไป แต่นั่นก็อยู่ได้ไม่นาน หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็กลายเป็นขุ่นมัวพร้อมกับไหล่ของเขาที่ทรุดตัวลงขณะพูดด้วยน้ำเสียงที่พ่ายแพ้
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน.…”
ออสตินพูดพร้อมกับกัดริมฝีปากขณะนั่งอยู่อีกฟากหนึ่งของเตียง โดยที่ท่าทางของเขาเหมือนเป็นผู้ชายที่อ่อนแอ ในขณะที่เสียงร้องมากมายตอนนี้เริ่มร่วงหล่นจากใบหน้าของแคทเธอรีน
“อะ-อะ..…”
มีเพียงเสียงพูดติดอ่างเท่านั้นที่ออกมาจากปากของแคทเธอรีนขณะที่เธอมองไปที่ออสติน
หลังจากนั้นไม่นานนักก็มีเสียงร้องไห้ของเด็กทารกดังไปทั่วห้อง ทำให้ดวงตาของแคทเธอรีนเบิกกว้าง
เธอไม่ได้พูดอะไรเลยขณะที่รีบวิ่งไปยังที่ห้องของทารก ก่อนจะกลับมาที่ห้องหลังจากนั้นไม่นาน โดยที่ลูกน้อยดูสบายดีและมีสุขภาพดี
“พ่อคะ?….”
เสียงแผ่วเบาดังขึ้นทำให้ร่างกายของออสตินสั่นไหวก่อนเขาจะเอื้อมมือไปข้างเตียง
ตอนนี้ดวงตาของเด็กหญิงทั้ง 2 คนลืมขึ้นมาแล้ว แต่ทั้ง 2 คนไม่สามารถขยับร่างกายทำให้พวกเธอต้องนอนอยู่บนเตียง ดวงตาของพวกเด็กๆ มองไปที่พ่อของตัวเองซึ่งตอนนี้อยู่ข้างๆ พวกเธอด้วยรอยยิ้มอันอ่อนแอ
“วันนี้เจ้าหญิงน้อยของพ่อรู้สึกอย่างไรบ้าง?”
เขาถามด้วยรอยยิ้มหวานฝืน ซึ่ง 2 สาวก็ตอบกลับมาพร้อมกัน
“พ่อคะ หนูเจ็บ…”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เสียงร้องไห้อู้อี้ของแคทเธอรีนก็ดังขึ้นมาจากด้านหลังขณะที่ออสตินกำหมัดแน่น
“เจ็บตรงไหนงั้นเหรอ?”
เขาถามขณะจับมือฝาแฝดแน่น
“มะ-มันเจ็บทุกที่เลยค่ะ”
ทั้ง 2 ตอบขณะที่แฝดผมสีน้ำตาลแดงหันหน้าไปทางออสติน
“พ่อคะ หนูกำลังจะตายเหรอคะ?”
เธอถามขึ้นมา
คำถามของเธอทำให้สีหน้าของออสตินบิดเบี้ยวเกินกว่าจะวัดได้ แต่เขาก็ยังคงพยายามรักษาความสงบในขณะที่ตอบกลับไป
“ตายงั้นเหรอ? ไม่หรอก เจ้าหญิงตัวน้อยของพ่อจะต้องมีอายุยืนยาว”
ออสตินตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ขณะที่เขากอดเด็กทั้ง 2 คนไว้แน่น
เด็กผมสีเงินยังคงยิ้มอ่อนๆ ขณะที่เธอพูด
“พ่อคะ ทำไมหนูถึงขยับตัวไม่ได้เหรอคะ?”
“ไม่มีอะไรหรอก มันเป็นแค่ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ พวกหนู 2 คนจะหายดีเร็วๆ นี้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทั้ง 2 ก็พยักหน้าก่อนที่เด็กหญิงผมสีเงินยังคงพูดต่อไป
“พ่อคะหนูหิว”
“ไม่ต้องห่วง พ่อจะทำของโปรดของพวกลูกให้เอง”
ออสตินตอบกลับไป ซึ่งทำให้รอยยิ้มของฝาแฝดกว้างขึ้น
เขาหันไปหาแคทเธอรีนที่อ่อนแอลงก่อนจะพูดขึ้นมา
“ฝากดูพวกลูกหน่อยนะ”
หลังจากพูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็เดินไปที่ห้องครัว
เพียงครึ่งชั่วโมงต่อมาออสตินก็กลับมาพร้อมกับอาหารร้อนๆ ซึ่งกลิ่นของมันอบอวลไปทั่วห้อง
ออสตินยิ้มเป็นประกายขณะเดินไปหาเด็กๆ พร้อมกับมองไปทางแคทเธอรีนที่ดูเหมือนเกือบจะเสียสติไปแล้ว
เพียงแค่การมองหน้ากันของทั้ง 2 คนก็เกินพอแล้วที่แคทเธอรีนจะเข้าใจความปรารถนาของออสติน
แคทเธอรีนวางทารกไว้บนเปลก่อนจะเดินไปหาออสตินและหยิบอาหารจากเขา
รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอเมื่อเธอหันไปหาเด็กๆ ที่ดูเหมือนจะผล็อยหลับไปแล้วอีกครั้ง
มันต้องใช้เวลาสักพัก แต่ในที่สุดฝาแฝดก็ลุกขึ้นจากการหลับไหล
ด้วยรอยยิ้มอันเปี่ยมด้วยความรัก ทั้งออสตินและแคทเธอรีนก็คอยดูแลเด็กๆ อย่างระมัดระวังในขณะที่พวกเขาเริ่มป้อนอาหารพวกเธอด้วยความรักและความเอาใจใส่
“อร่อยไหม?”
ออสตินถามขึ้นมา
“ที่สุดเลยค่ะ!”
เด็กหญิงทั้ง 2 ตอบด้วยพลังที่เหลืออยู่ในคำพูดของพวกเธอ
เมื่อเห็นดังนั้นออสตินจึงลูบหัวพวกเธอ
“ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนเยอะๆ นะ”
เขาพูดแล้ววางเด็กๆ ไว้บนเตียงอย่างสบายๆ ก่อนจะจูบหน้าผากของพวกเธอ
แคทเธอรีนก็ทำเช่นเดียวกัน ทั้งคู่นั่งอยู่ข้างฝาแฝดและจับมือกันขณะรอให้พวกเธอหลับไป
ใช้เวลาไม่นานเด็กที่อ่อนแอก็หลับไปในไม่ช้าพร้อมกับการขมวดคิ้วที่ทำลายใบหน้าที่น่ารักของพวกเธอ
“ออกไปกันเถอะ”
ออสตินพูดเงียบๆ ขณะชี้ไปที่ประตูด้านนอก
แคทเธอรีนพยักหน้าก่อนจะจูงมือกับเขาออกไปนอกห้อง
ทันทีที่ออกไปข้างนอกแล้ว แคทเธอรีนก็หมดความอดทนและกระโดดเข้าไปกอดออสตินก่อนจะเริ่มร้องไห้ออกมา
น้ำตาของเธอเปื้อนเสื้อและร่างกายของออสติน แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรและทำเพียงกอดเธอกลับและลูบหลังเธอขณะที่เธอระบายความกลัวอันลึกล้ำออกมา
“ออสติน..…ฮือ.…ละ-ลูกๆ….ฮือ..…ของพวกเรา…”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งจนออสตินทำได้เพียงกอดเธอแน่นขึ้น นี่ทำให้เธอได้รับคำตอบทั้งหมดที่เธอต้องการในขณะที่เสียงร้องของเธอรุนแรงยิ่งขึ้น
“อย่าร้องไห้สิ เราต้องเข้มแข็งเพื่อพวกลูกๆ นะ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมแต่แหลกสลายในขณะที่น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากดวงตาของเขา
ด้วยความโชคร้าย ดูเหมืิอนความเจ็บปวดของพวกเขาจะเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต\