The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต - ตอนที่ 506 When To Begin The End Game?
“เดทเหรอคะ?”
ซาบริน่าถามกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ผมแก้ไขให้
“ไม่ใช่เดทแบบที่เธอคิดหรอก ฉันจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง และมันจะดีถ้ามีเธออยู่ข้างๆ และใช้ทักษะเฉพาะของเธอที่อาจจะมีประโยชน์ แต่ถ้าเธออยากให้มันเป็นเดท ฉันก็ทำให้มันเป็นเดทได้นะ”
ซาบรินาไม่ตอบกลับในทันที แต่สิ่งที่ดีคือมือของเธอยังคงนวดไหล่ผมอยู่
“ฉันต้องทำอะไรบ้าง? และที่ไหนคะ? ฉันต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ”
ในที่สุดซาบรินาก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ
“สถานที่และสิ่งที่เธอต้องทำทั้งหมดจะเป็นความลับ แต่ฉันรับรองว่าหลังจากนั้นฉันจะให้คำใบ้กับเธอแน่นอน”
ผมตอบกลับ
“แต่นั่นไม่ได้เป็นอะไรที่จะทำให้ฉันตัดสินใจได้เลย ฉันจะรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นดีลที่ยุติธรรมคะ? และคุณควรรู้ว่ามีหลายสิ่งที่ฉันไม่สามารถเข้าไปยุ่งด้วยได้”
ซาบริน่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เพิ่มความหนักแน่นขึ้นพร้อมกับการนวดที่แรงขึ้น
ผมหยุดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ
“ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องไปก็ได้ ฉันไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกนะเจ้าหญิงซาบริน่า แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจ ขอบอกตรงๆ เลยนะว่าฉันสามารถทำเรื่องนี้ได้แม้ไม่มีความช่วยเหลือจากเธอก็ตาม…”
เมื่อผมพูดจบ ซาบริน่าก็หยุดมือของไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะเริ่มนวดต่อ
ความเงียบสงบเกิดขึ้นระหว่างเรา จนกระทั่งซาบริน่าเปิดปากพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันขอรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หน่อยค่ะว่าเราจะไปที่ไหนกันแล้วฉันจะรับเสนอนี้ แต่รู้ไว้ด้วยนะคะว่าถ้าอะไรก็ตามที่เราทำมันขัดต่อหลักการของฉัน ฉันจะถอยกลับ แม้ว่ามันจะหมายถึงความตายของฉันก็ตามค่ะ”
“เธอรู้อะไรไหม? ฉันจะตามใจเธอและรับข้อเสนอนี้ มันคงจะสนุกดีที่ได้เห็นว่ามันจะจบยังไง”
ผมตอบคำของเธอขณะที่หลับตาและพิงเก้าอี้
“รายละเอียดที่เธอขออยู่บนโต๊ะนั้น เธอสามารถเอามันไปได้หลังจากนวดให้ฉันอีก 5 นาที”
คำพูดของผมได้ผลตามที่ตั้งใจไว้เมื่อมือของซาบริน่าหยุดชั่วคราวอีกครั้ง คราวนี้มือของเธอใช้เวลาอีกเล็กน้อยก่อนจะเริ่มนวดผมอีกครั้ง
‘เดาว่าเธออาจจะโกรธอยู่ข้างใน…’
การที่ข้อมูลที่เธอขออยู่ในเอกสารแล้วหมายความว่าผมอ่านทางเธอได้อย่างสมบูรณ์ ทุกการกระทำของเธอจนถึงคำพูดสุดท้ายที่เธอต้องการ ผมควบคุมเธอให้เข้ามาในสถานการณ์นี้ ซึ่งหมายความว่าผมรู้จักเธอดีกว่าที่เธอรู้จักผม และสำหรับผู้หญิงที่พึ่งพาสติปัญญาและความสามารถในการคาดการณ์การกระทำของคนอื่นแล้ว การที่ผมเล่นกับเธอแบบนี้จะเป็นการดูถูกเธอมาก
‘แต่เธอจะผ่านมันไปได้ และเธอจะเอาคืนฉันกลับอย่างแน่นอน’
การเล่นกับผู้หญิงแบบเธอเป็นเรื่องอันตราย ต้องมีการดึงและผลักที่ถูกต้อง ถ้าไม่อย่างนั้น คุณอาจถูกผลักออกจากหน้าผาโดยที่คุณไม่รู้ตัวเลยก็ได้
‘เห้อออ…นี่สินะความผันผวนของชีวิต’
ผมคิดถึงชีวิตของตัวเองเหมือนเคยขณะเพลิดเพลินไปกับการนวดอีก 5 นาที ก่อนที่ซาบริน่าจะออกไปพร้อมกับเอกสารในมือ แต่ก่อนที่เธอจะไป คำพูดของเธอยังคงติดอยู่ในหูของผมอยู่เลย
“ดูเหมือนเอมิลี่กำลังวางแผนเรื่องใหญ่อยู่นะคะ…”
‘เธอไปตั้งแต่ตอนไหนกันนะ?’
หลังจากคำพูดดังกล่าวซาบริน่าก็จากไป ปล่อยให้ผมรำพึงอยู่กับตัวเองว่าควรเดินหน้าต่อไปอย่างไรดี ผมมีแผนการจัดการกับผู้หญิงทุกคนแล้ว แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือเวลาและระดับของการดำเนินแผนการเหล่านั้น เพราะสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปตามแผนเสมอไป และความเป็นจริงมักจะขว้างประแจเข้าไปในแผนการที่คิดไว้ดีที่สุดเสมอ
‘สงสัยคงต้องจัดการกับทั้งเจ้าหญิงเอลฟ์และฮาร์ฟเอลฟ์ในเวลาเดียวกันแล้วสิ’
มันจะดีที่สุดถ้าทั้ง 2 คนสามารถสร้างพันธมิตรกันได้ พันธมิตรเป็นเส้นทางที่ดีที่สุดที่สิ่งต่างๆ ไปสู่จุดจบ ซึ่งหมายถึงการลงทุนจากผู้หญิงและความรู้สึกผูกพัน ซึ่งน่าเสียดายที่จะสิ้นสุดในวันที่พันธมิตรแตก แต่ถ้าผมสามารถทำให้พันธมิตรนั้นอยู่รอดได้หล่ะ? ถ้าพวกเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนอยู่ด้วยกันเพื่อที่จะได้ครอบครองผมหล่ะ?
เมื่อนั้นสิ่งต่างๆ จะเป็นไปในทางที่น่าพอใจมาก แน่นอนว่าจะมีการต่อสู้และความเกลียดชัง อาจจะมีเลือดบางส่วนที่ต้องหลั่ง แต่ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าพวกเธอไม่ปลดปล่อยความอิจฉาที่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ออกมา มันจะสะสมจนเกิดเป็นสิ่งที่น่าเกลียดมากๆ
‘แต่ฉันยังอยู่ห่างจากสถานการณ์นั้นอยู่’
จุดจบที่ผมต้องการยังอยู่อีกไกล ผมยังไม่สามารถครอบครองผู้หญิงทั้งหมดที่ตัวเองตั้งใจไว้ได้ และยิ่งไปกว่านั้น โลกนี้ดูเหมือนจะขว้างตัวแปรใหม่ๆ เข้ามาในแผนของผมเสมอ เหมือนกับเซลด้า และยิ่งกว่านั้นยังมีปัญหาเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายเลือดของผมอีก
ผมมั่นใจว่าในโลกที่บ้าคลั่งนี้ยังมีผู้หญิงที่ยังไม่พบผมอยู่อีก บางคนถูกผูกพันกับผมโดยสายเลือด
‘มันคงจะง่ายกว่านี้ถ้าพวกเธอยังไม่แต่งงาน…’
ตอนนี้ผมได้พบมา 3 คนแล้ว: โลร่า, วีน่า, และนาตาเลีย โชคดีที่นาตาเลียเป็นคนที่ผมสามารถจัดการได้ แต่อีก 2 คนนี่สิคือปัญหา และถ้ามันเคยกลายเป็นว่าคนที่เหลือมีตำแหน่งเหมือนโลร่าและวีน่าหล่ะก็…ผมคงต้องเผชิญกับการผจญภัยที่แสนยากลำบากแล้วแหละ
ขณะที่ผมคิดอยู่นั้นก็รู้สึกถึงน้ำหนักบนตักพร้อมกับอ้อมกอดที่คุ้นเคย
ผมยิ้มและกอดอาเรียกลับ แต่ตาของผมยังคงปิดอยู่ขณะที่ผมเริ่มเล่นกับผมของเธอเบาๆ
‘ฉันต้องจัดการกับชีร่าเร็วๆ นี้ด้วย’
แผนการสุดท้ายสำหรับตระกูลของเธอกำลังใกล้เข้ามาแล้ว และในสัปดาห์หน้า ผมจะต้องลงมือ ซึ่งหากมันประสบความสำเร็จ ผมก็จะได้ข้อมูลชิ้นแรกที่สัญญาไว้
หลังจากนั้นผมก็ใช้เวลาที่เหลือกับอาเรียจนถึงตอนเย็นจนการฝึกปฏิบัติสำหรับชั้นเรียนของเกรซจะเสร็จสิ้น ซึ่งผมก็มุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของครอบครัว โดยเก็บอาเรียซ่อนไว้
ตอนที่เข้าไปผมก็รับร่างที่วิ่งเข้ามากอดตัวเองและกอดร่างอันบอบบางของเอลด้า
ผมจูบหน้าผากเธอเบาๆ เมื่อเห็นว่าเราอยู่ในโถงทางเดินเปิดโล่งกับคนรับใช้ ผมจึงควบคุมการแสดงความรักของเราเอาไว้
“ฮิฮิฮิ…หนูคิดถึงพี่มากเลยค่ะ!”
“เด็กโง่ พี่ไม่อยู่แค่ 2 วันเองนะ”
ผมตอบกลับด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“แต่หนูก็ยังคิดถึงอยู่ดีหนิคะ!”
เอลด้าตอบพร้อมกับหอมแก้มผมและเริ่มดึงผมเข้าห้อง
พอเข้าไปในห้องแล้วผมก็เจอกับเกรซและนอร่าที่กำลังนั่งจิบชากันอยู่ ทั้งคู่ดูเหมือนเดิมเมื่อครั้งล่าสุดที่ผมไปเจอมา
เมื่อเราเข้ามาในห้องและปิดประตูแล้ว เอลด้าก็หันมาหาผมก่อนจะกระโดดเข้ามาจูบผม
ผมอุ้มเอลด้าขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ฝ่ามือของผมเริ่มช่วยดูแลของเธอ ลิ้นของผมพบทางเข้าไปในปากเธอขณะที่ริมฝีปากของเราประกบกัน จากหางตาผมเห็นความประหลาดใจที่ระบายอยู่บนสีหน้าของเกรซและนอร่าได้
‘สาวน้อยคนนี้เริ่มเล่นแรงขึ้นแล้วสิ’
นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้ทำสิ่งที่เกินเลยนอกเหนือจากความสัมพันธ์ครอบครัว แม้ว่าความลับจะถูกเปิดเผยในหมู่ครอบครัวแล้ว แต่เอลด้าและนอร่าก็ยังคงรักษาท่าทางที่เหมาะสมอยู่
“อืมมม~ ค่อยดีขึ้นหน่อยค่ะ”
เอลด้าพูดแล้วปล่อยปากของผมออกด้วยริมฝีปากที่ดูแดงขึ้นและหยาดเยิ้ม
ผมยิ้มกับพฤติกรรมของเธอก่อนจะเคลื่อนไปดึงจูบอีกครั้งจากเธอ
“พี่คิดถึงเธอนะ”
ผมพูดพลางปล่อยจูบกับเอลด้าขณะเดินไปหานอร่า ดวงตาของเธอฉายแววด้วยความตื่นตระหนกเมื่อผมเอื้อมมือไปหาเธอและจูบริมฝีปากของเธอขณะที่เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้
เธอพยายามโต้ตอบ แต่เมื่อริมฝีปากของผมสัมผัสเธอ เธอก็ละลายเข้าสู่อ้อมกอดของผม ในไม่ช้าริมฝีปากของเราก็พันกันในสงครามแห่งความรัก ซึ่งหลังจากนั้นผมก็แยกตัวออกมาจากเธอ
“ผมรักพี่นะครับ”
ผมพูดกับเธอก่อนที่จะหอมที่แก้มของเธอ แล้วหันไปที่แกรซและหอมแก้มของเธอต่อ เนื่องจากเรื่องระหว่างเราก็ยังเป็นความลับอยู่
เมื่อพอใจแล้วผมก็นั่งลงข้างนอร่าขณะที่เอลด้ากระโดดเข้ามากอดผม
แต่ทันทีที่เธอทำแบบนั้น อาเรียก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยแก้มที่พองขึ้นขณะพูด
“ไม่! ปะป๊าของหนูนะ!”
ขณะที่พูดเช่นนั้น เธอก็โอบมือรอบตัวผมอย่างแรง
รูปร่างหน้าตาของเธอทำให้อีกสามคนประหลาดใจ แต่แล้วพวกเธอก็ทำได้แค่ส่ายหัวเท่านั้น
‘ดูเหมือนว่าอาเรีย จะสร้างปัญหาให้พวกเธอพอสมควรตอนที่ฉันไม่อยู่สินะ’
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต\