The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - ตอนที่ 494 จอมโจรปราชญ์ไป๋หยิน

“250,000 เหรียญจิ้นหยิน!”

มีคนในฝูงชนยกแขนขึ้น เขาคือเซว่หลิง ลูกชายของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมและกัปตันกองทัพเมืองเซเว่นซีส์ เขาเป็นรองแม่ทัพและถือเป็นแม่ทัพชั้นสูง

“280,000 เหรียญจิ้นหยิน!”

เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทหารรับจ้างที่มีเครายาว ไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากไหน แต่การฝึกฝนของเขาไม่สูงนัก ดังนั้นโล่จึงไม่มีประโยชน์สำหรับเขา

“500,000 เหรียญจินหยิน!”

ทันใดนั้น ก็มีใครบางคนในฝูงชนตะโกนขึ้น ดึงดูดความสนใจของทุกคน ผู้ที่ตะโกนคือจี้ซ่าง นายน้อยแห่งบ้านจี้ของศาลาหนังสือสวรรค์ ผู้ที่รู้จักเขาจะจำชายชราที่อยู่ข้างเขาได้ทันทีว่าเป็นจี้หลิน ผู้จัดการของศาลาหนังสือสวรรค์ หนึ่งในบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในจักรวรรดิ

จินเสี่ยวถังก็จำจี้ซ่างได้เช่นกันและยิ้ม “ตกลง นายน้อยจี้ซ่างเสนอราคา 500,000 เหรียญจินหยิน มีข้อเสนอที่สูงกว่านั้นอีกไหม?”

“600,000 เหรียญจินหยิน!”

เสียงนั้นมาจากผู้เฒ่าผู้สวมชุดปักลาย นั่นคือ โอวหยางเป่า บุตรชายคนที่สามของตระกูลขุนนางแห่งหนังสือสวรรค์ ตระกูลโอวหยาง

“โอวหยางเป่า?” จี้หลินอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขณะที่เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “ดูเหมือนว่าตระกูลโอวหยางก็สนใจตราประทับปกครองศักดิ์สิทธิ์นี้มากเช่นกัน … เฉิงเอ๋อ ประมูลต่อไป อย่าแพ้พวกเขา เราต้องได้โล่นี้มา!”

“ครับคุณปู่!”

จี้ซ่างรีบตะโกนเสียงดังขึ้นทันที “700,000 เหรียญจินหยิน!”

ตระกูลขุนนางทั้งสองเริ่มท้าทายกัน และที่เหลือทำได้เพียงแต่นิ่งเงียบ ท้ายที่สุดแล้ว จักรพรรดินีได้ใช้เงินจำนวนมากในการเชิญบ้านจี้และตระกูลโอวหยางมาที่เมืองหลานหยาน กระทรวงรายได้ได้จัดสรรเงินทั้งหมด 8,000,000 เหรียญจินหยินให้กับบ้านจี้ ในขณะที่ตระกูลโอวหยางได้รับเพียง 4,000,000 เหรียญจินหยินเท่านั้น เพื่อที่จะชนะตระกูลขุนนางหนังสือสวรรค์เหล่านี้ ฉินหยินได้ใช้เงินจำนวนมาก นอกจากนี้ เธอยังมอบเงินและยศศักดิ์ให้แก่พวกเขาอีกด้วย

โอวหยางเป่าหรี่ตาลง คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ มองมาที่เขาและดูเหมือนจะคิดว่าราคานั้นสูงเกินไป อย่างไรก็ตาม โอวหยางเป่าเพิกเฉยต่อสายตาของคนรับใช้และยกแขนขึ้นต่อไป “หนึ่งล้านเหรียญจินหยิน!”

“ประมูลต่อ” จี้หลินหรี่ตาและกำมือแน่น

“ใช่.”

จี้ซ่างตะโกนสุดเสียงต่อไป “เหรียญจินหยิน 1,500,000 เหรียญ!”

ไม่ว่าจะมองอย่างไร จี้ซ่างก็เป็นลูกที่หลงทาง อย่างไรก็ตาม จี้หลินเพียงแค่หรี่ตาลงและไม่พูดอะไร ราคานี้ยังอยู่ในขอบเขตที่ยอมรับได้ของเขา หากเขาสามารถเข้าใจอะไรบางอย่างจากผนึกศักดิ์สิทธิ์ เขาอาจจะสามารถก้าวข้ามหนังสือแห่งโลกและเขียนหนังสือแห่งสวรรค์ได้ เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ต้องพูดถึง 1.5 ล้าน หรือแม้แต่สามล้านก็ยังคุ้มค่า!

ในที่สุด เมื่อมีคนตะโกนว่า 1.5 ล้าน โอวหยางเป่าก็รู้สึกผิดเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อ หลังจากเช็ดด้วยแขนเสื้อ เขาก็กัดฟันและตะโกนว่า “1.6 ล้าน!”

เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้นอีกแล้ว การตะโกนครั้งนี้ก็เพียงเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจของเขาเท่านั้น

จี้ซ่างหัวเราะเยาะและยกแขนขึ้น “สองล้านเหรียญจินหยิน!”

ฉากนั้นเงียบสงัด ทุกคนต่างหวาดกลัว ไม่ว่าค่าของตราประทับศักดิ์สิทธิ์ระดับ 6 จะสูงเพียงใด มันก็ไม่น่าจะสูงขนาดนั้นได้ ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นเพียงการแกะสลักความสามารถติดตัวเท่านั้น หากสามารถขายได้ในราคา 1 ล้าน ก็เท่ากับราคาจริงแล้ว หากสามารถขายได้ในราคา 2 ล้าน ก็เท่ากับราคาที่พุ่งสูงเกินจริงไปแล้ว

คราวนี้ โอวหยางเป่าไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับนั่งลงด้วยความหดหู่

จินเสี่ยวถังรอสักครู่แล้วยิ้มอย่างมีความสุข “เรียบร้อยแล้ว ท่านชายจี้ซ่างแห่งบ้านจี้เสนอราคา 2 ล้าน โปรดตามฉันไปที่หลังเวทีเพื่อทำธุรกรรม!”

จี้ซ่างพยักหน้าและเดินตามจินเสี่ยวถังด้วยความร่าเริง

อย่างไรก็ตาม ห้องประมูลกลับเต็มไปด้วยเสียงโห่ “ใช้เงิน 2 ล้านเหรียญซื้อโล่ห่วยๆ ฉันคิดว่าเขารวยหรือโง่กันแน่!” คนอิจฉาคนหนึ่งกล่าว

“ตามที่คาดไว้สำหรับที่อยู่อาศัยของ Ji ในศาลาสวรรค์แห่งดวงใจ พวกเขาร่ำรวยและเผด็จการ ว่ากันว่าหัวหน้าตระกูล Ji Lin สามารถได้รับเงิน Jin Yin หลายหมื่นเหรียญจากจักรพรรดินีเพียงแค่เขียนหนังสือ นายน้อย Ji Shang คนนั้นยังหนุ่มและหล่อเหลา และเขาสามารถเขียนหนังสือจิตวิญญาณได้จริงๆ จะดีมากหากฉันสามารถแต่งงานกับเขาได้”

“หอการค้าดอกไม้จื่อหยินนั้นทรงพลังจริงๆ พวกเขาสามารถได้งานของราชาผู้ปิดผนึกด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าหอการค้าค้นหามังกรจะพ่ายแพ้ เฮ้อ… หน้าอกของจินเสี่ยวถังดูโตขึ้นเรื่อยๆ ฉันอยากสัมผัสมันจริงๆ …”

–

ในช่วงบ่าย สมาชิกกลุ่มหนึ่งจากหอการค้าขี่ม้าเร็วเข้าไปในค่ายทหารหลงตาน จินเสี่ยวถังลงจากหลังม้าและเข้าไปในห้องของหลินมู่หยูอย่างมีความสุข เสียงหัวเราะของเธอดังก้องกังวาน “พี่หยู เดาสิว่าโล่ผนึกศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิถูกขายไปในราคาเท่าไร”

“เท่าไหร่” หลิน มู่หยูถามด้วยรอยยิ้ม

“คุณเดาสิ!”

“500,000?”

“นั่นต่ำเกินไป!”

“หนึ่งล้านเหรอ?!”

“มันยังต่ำเกินไป!”

“1.5 ล้าน?” หลิน มู่หยูไม่สามารถปิดปากของเธอได้

“สูงกว่านั้น” จินเสี่ยวถังกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“อย่าบอกนะว่า 2 ล้าน?” หลิน มู่หยูรู้สึกประหลาดใจอย่างยินดี

“คุณเดาถูกแล้ว มันคือ 2 ล้าน!” จินเสี่ยวถังหัวเราะคิกคัก

หลินมู่หยูลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างมีความสุขและโยนจินเสี่ยวถังเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ เด็กสาวกลัวมากจนหัวใจของเธอสับสน เมื่อหลินมู่หยูจับเธอได้สำเร็จ เธอก็กระโดดลงมาจากอ้อมแขนของหลินมู่หยูและพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่หยู วันนี้เราจะชนะการต่อสู้ในห้องประมูลอย่างแน่นอน ว่ากันว่าห้องประมูลของหอการค้าค้นหามังกรร้างผู้คนไปในวันนี้ ไม่ค่อยมีคนเลย!”

“นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดโดยธรรมชาติ” หลิน มู่หยูหรี่ตาและกล่าวว่า “ปัญหาตอนนี้คือ … จี้หลินเป็นผู้จัดการของศาลาหนังสือสวรรค์ และที่อยู่อาศัยของจี้เป็นที่อยู่อาศัยที่มีชื่อเสียงในมณฑลเซเว่นซี จี้หลินและถังหลานก็สนิทกันมากเช่นกัน ด้วยมิตรภาพระหว่างถังหลานและจี้หลิน บางทีหอการค้าค้นหามังกรจะขายตัวอ่อนเครื่องมือของการจารึกหนังสือสวรรค์ในไม่ช้านี้”

“ใช่ ฉันก็กังวลเรื่องปัญหานี้เหมือนกัน”

จินเสี่ยวถังนั่งบนที่นั่งข้างๆ ไขว่ห้างขาขาวของเธอและพูดว่า “ประตูกองทัพสวรรค์เปิดอีกครั้งและพลังของสวรรค์และโลกได้กลับคืนสู่อาณาจักรหม้อต้มที่แตกสลาย ตระกูลขุนนางเหล่านั้นของหนังสือสวรรค์เปรียบเสมือนต้นกล้าที่แห้งเหี่ยวไปนับพันปี โหยหาฝนและน้ำค้างของจักรพรรดินี กระตือรือร้นที่จะฟื้นคืนชีพ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ ราคาของตัวอ่อนเครื่องมือของหนังสือสวรรค์จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เราต้องตุนสินค้าบางส่วนโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ฉันได้ซื้อผงทองคำลึกลับ ผงเงินลึกลับ ผงเหล็กลึกลับ และผงทองแดงลึกลับที่ใช้สำหรับวัสดุของหนังสือสวรรค์ไปแล้วจำนวนมาก สำหรับตัวอ่อนเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับหนังสือสวรรค์ ฉันได้ซื้อสินค้าชุดหนึ่งตั้งแต่ตัวอ่อนเครื่องมือระดับต่ำไปจนถึงตัวอ่อนเครื่องมือระดับสูง บางที พี่หยู… “

เธออยากจะพูดบางอย่างแต่ก็หยุดไป

หลิน มู่หยู อดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ถ้าคุณมีไอเดียอะไร ก็แค่พูดมาเลย”

จินเสี่ยวถังเม้มริมฝีปากสีแดงของเธอ ราวกับว่าเธอได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ และพูดว่า “บางทีเราอาจจะเอาเงินก้อนโตไปฝึกฝนผู้เชี่ยวชาญการจารึกหนังสือสวรรค์ ให้พวกเขาจัดหาตัวอ่อนเครื่องมือที่เสร็จสมบูรณ์ของหนังสือสวรรค์ให้กับหอการค้าดอกไม้จื่อหยิน จากนั้นก็ขายในราคาสูง อย่างไรก็ตาม … ตอนนี้ ใครก็ตามที่สามารถเขียนหนังสือมนุษย์และหนังสือจิตวิญญาณได้ก็จะรีบไปที่ศาลาหนังสือสวรรค์ และมันจะเป็นเรื่องยากสำหรับหอการค้าที่จะดึงดูดผู้มีความสามารถ”

“นี่…ไม่เร่งด่วน”

หลิน มู่หยู่ นั่งลงและพูดอย่างสบายๆ “ไม่ว่าจะอย่างไร เงินทุนทั้งหมดของหอการค้าดอกไม้จื่อหยินก็อยู่ในมือของคุณแล้ว และฉันได้มอบอำนาจเต็มให้คุณจัดการเรื่องนี้แล้ว คุณทำตามที่เห็นสมควร ฉันเชื่อในความสามารถของคุณ”

จินเสี่ยวถังเบ้ปากเล็กของเธอ ราวกับว่าเธอกำลังทำท่าเจ้าชู้ และพูดว่า “แต่ฉันอายุยังไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ ฉันยังเป็นเด็กอยู่เลย … ฉันต้องการใครสักคนที่จะพึ่งพาได้เสมอ และฉันต้องการกำลังใจ … “

หลิน มู่หยูพูดไม่ออกชั่วขณะหนึ่ง “ถ้าอย่างนั้น … ก็พยายามทำอย่างดีที่สุด พยายามอย่างเต็มที่เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถเพิ่มเติมที่สามารถเขียนหนังสือสวรรค์มาเข้าร่วมหอการค้าดอกไม้จื่อหยิน ฉันเชื่อว่าเซียวหยินก็จะเห็นด้วยกับเราเช่นกัน”

“ใช่ ใช่ ฉันเข้าใจ” จินเสี่ยวถังยืนขึ้นอย่างมั่นใจและพูดด้วยรอยยิ้ม “งั้นฉันจะกลับไปที่หอการค้าเพื่อทำงานของฉันต่อไป โอ้ ใช่แล้ว พี่หยู คุณยังจารึกต่อไหม? เสี่ยวถังรู้ว่าคุณเป็นอัจฉริยะ … ถ้าคุณสามารถจารึกการสังหารเทพระดับเจ็ดได้ เสี่ยวถังรับรองได้ว่าคุณสามารถขายได้ในราคาสูงลิบลิ่วมากกว่า 5 ล้าน ดังนั้น … จงทำดีที่สุด!”

“ใช่ ฉันจะไป”

“ตกลง.”

เมื่อมองดูร่างของจินเสี่ยวถังที่กำลังจากไป หลินมู่หยูก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขในใจ ดังนั้นจารึกนี้จึงมีค่ามากจริงๆ!

น่าเสียดายที่อัตราความสำเร็จในการจารึกของเขาต่ำมาก อัตราความสำเร็จของตราประทับจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ประมาณ 5% เท่านั้น และมีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเพียงชิ้นเดียวจากทั้งหมด 20 ชิ้น อัตราความสำเร็จของการจารึกการสังหารเทพเจ้ายังคงเป็น 0% และไม่มีผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปแม้แต่ชิ้นเดียว แต่ข่าวดีก็คือความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับการจารึกนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น และการตอบสนองของยี่ไห่ของเขาต่อการสร้างจารึกนั้นแข็งแกร่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสองวันนี้ เขามีลางสังหรณ์อันแข็งแกร่งว่าเทคนิคการจารึกนั้นจะมีความก้าวหน้า!

–

ดึกๆแปรงก็ยังไม่หยุด…

“ชาชา…”

เศษผงเครื่องมือหล่นลงมาจากปากกาจารึกของหลินมู่หยู ใบหน้าที่มุ่งมั่นของเขาเต็มไปด้วยความสงบและเยือกเย็น และเขาจารึกคำจารึกการสังหารพระเจ้าลงบนชุดเกราะอย่างพิถีพิถัน ระหว่างนิ้วของเขามีเปลวไฟแห่งการต่อสู้ของราชาอันเลือนลาง และในอี้ไห่ของเขา มีปากกาจารึกขนาดใหญ่ลอยขึ้นและลง ปากกาแห่งจิตออกไปสู่ท้องทะเล นี่คือพลังจิตวิญญาณที่คัมภีร์สวรรค์ของฟู่ซีกลั่นไว้ในหัวใจของเขา

เหงื่อหยดลงมาอาบแก้มของเขา และกระจายไปที่เครื่องมืออย่างอ่อนโยน

หลิน มู่หยูหยุดกะทันหัน เขารู้สึกถึงพลังอันทรงพลังที่พุ่งขึ้นมาจากอี้ไห่ของเขา ทันใดนั้น เขาก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า และเห็นเพียงแสงสีน้ำเงินครามที่ส่องลงมาจากท้องฟ้า!

บนท้องฟ้า มีพู่สีทองขนาดยักษ์ตกลงมาจากท้องฟ้า แทรกซึมเข้าไปในยี่ไห่ของเขาโดยตรง ส่องสว่างไปทั่วมหาสมุทรของยี่ไห่ และกระบวนการนี้ก็เสร็จสิ้นภายในไม่กี่วินาที

“อาจารย์ ท่านสบายดีไหม” ข้างนอกมีเสียงของเว่ยโจวดังขึ้น เขาเข้าเวรวันนี้ ส่วนไป๋หยินก็เข้านอนไปแล้ว

“ฉันสบายดี” หลิน มู่หยูตอบ

เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข สัญญาณนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาก้าวข้ามผ่านมันไปได้จริงๆ และเข้าสู่ “แปรงศักดิ์สิทธิ์อามาเทราสึ” ของมนต์หนังสือสวรรค์ของฟูซี!

–

เขานั่งลงอย่างช้าๆ และหยิบโล่อีกอันออกมาเพื่อจารึก

ไม่นานหลังจากนั้นโล่ก็แตก และเขาไม่ประสบความสำเร็จ

ดำเนินการจารึกอีกครั้ง.

มันพังอีกแล้วเขาเลยเปลี่ยนอันใหม่

ในที่สุดพู่กันศักดิ์สิทธิ์สีทองในอี้ไห่ของเขาก็ดูเหมือนจะถูกเรียกออกมา และค่อยๆ ควบแน่นระหว่างนิ้วของหลิน มู่หยู ทันใดนั้น ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน และฉากประหลาดก็ปรากฏขึ้นในอี้ไห่ของเขา ร่างของปรมาจารย์ระดับเทพจำนวนนับไม่ถ้วนบินผ่านจิตใจของเขา และครั้งนี้พู่กันเคลื่อนไหวเหมือนมังกร ในชั่วพริบตา จารึกการสังหารเทพที่สมบูรณ์แบบก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา และด้วย “ฮวา” แสงจางๆ ก็พุ่งขึ้น สำเร็จ!