The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - ตอนที่ 467 ระเบิดเขื่อน
EP.467 ระเบิดเขื่อน
แสงดาบตัดผ่านอากาศ แมงดาทะเลที่ถูกจับได้พลันขาดออกจากกัน ขณะที่ผิวน้ำสะเทือนไหวอย่างบ้าคลั่งจนส่งผลให้เส้นทางเรือผิดเพี้ยน ในพริบตาเหล่าแมงดาทะเลถือหอกและอาวุธอื่นๆ นับไม่ถ้วนได้โผล่พ้นผิวน้ำและเข้าล้อมเรือรบ เสียงหอกกระแทกท้องเรือดังก้อง
“แม่ง!”
ซือตู่เซินกัดฟันกล่าว “ต้องเป็นเฉียนเฟิงที่เป็นคนส่งแมงดาทะเลมาแน่ พวกมันพยายามจมเรือและฝังเราลงก้นแม่น้ำอย่างนั้นรึ?!”
ขณะเดียวกัน “ฟุ่บ ฟุ่บ!” ทหารกองทัพมังกรผงาดช่วยกันยิงธนูลงน้ำ แมงดาทะเลไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเหมือนอสูรเกราะ แต่พวกมันเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่วในน้ำ ทันใดนั้นแมงดาทะเลก็กระโดดลงน้ำเพื่อหลบหลีกลูกธนูที่ยิงเข้ามาพร้อมโจมตีท้องเรืออย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกห่อหุ้มด้วยแผ่นเหล็ก แต่ก็ไม่อาจต้านทานได้นาน
“พรึ่บ”
หลินมู่อวี่เปิดแผนที่พร้อมเอ่ยถาม “ตอนนี้เราอยู่ที่ใด?”
ซือตู่เฉว่โน้มตัวไปด้านหน้าพร้อมกล่าวว่า “ที่นี่เจ้าค่ะ ตราบใดที่สามารถขึ้นฝั่งได้ เราจะสามารถเข้าไปในทุ่งอัคนี”
“ยอดเยี่ยม”
“แต่ผู้บัญชาการ...ดูนั่น”
ซือตู่เฉว่เหลือบมองบนฝั่ง มีอสูรเกราะถืออาวุธวิ่งเข้ามาอย่างเริงร่าพร้อมตะโกนเสียงดัง “$#*^@!$&) ^(#!&@)” ซึ่งคงมีความหมายราว “อาหารมาแล้ว อาหาร!”
เว่ยโฉวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสะท้านในใจ “เฉียนเฟิงกำลังจะเข่นฆ่าเราทั้งหมด…”
บนแม่น้ำต้าวเจียง หน้าผาด้านซ้ายมีเผ่าคนเถื่อนราวหนึ่งหมื่นคน ส่วนด้านขวาเป็นทุ่งอัคนีที่เต็มไปด้วยอสูรเกราะ เหล่าอสูรปีกบินโฉบไปมา อีกทั้งมีแมงดาทะเลจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ใต้น้ำ ทุกคนต่างรู้สึกสิ่งเดียวกัน…ไม่มีทางที่จะขึ้นฝั่งโดยไม่สูญเสีย
“อย่ากังวล”
หลินมู่อวี่ตะโกนเสียงทุ้มต่ำ “ทำตามแผนเดิม เรือรบทั้งหมดจะไปทางขวา และเหล่าคนเถื่อนจะหาทางไปยังทุ่งอัคนีเอง”
“ขอรับ!”
…
ทุกคนช่วยกันยกใบเรือขึ้นก่อนที่เรือจะหันไปอีกทางและแล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกเขาอยู่บนแม่น้ำต้าวเจียงสายหลักที่มีความกว้างถึงสองพันเมตร ซึ่งแตกต่างจากสาขาย่อยมากโขที่มีความกว้างเพียงสามร้อยเมตร เรือรบของจักรวรรดิแล่นออกไปด้วยความเร็วสูงสุด ขณะที่ยังไม่ทันได้เทียบท่าดี หลินมู่อวี่ควบท่าเฉว่ออกไปฟาดฟันอสูรเกราะห้าตัวทันที
แต่ขณะเดียวกันอสูรเกราะพุ่งเข้ามาเรื่อยๆ จากระยะไกล
“เปรี้ยง!” หวงซีกระแทกหอกลงพื้นพร้อมคำราม “นักรบเผ่าคนป่าออกไปโจมตีศัตรูพร้อมข้า!”
ในพริบตานักรบหลายพันคนก็ยกโล่ทรงกรวยขึ้น ภายใต้การนำของหวงซี พวกเขาบุกทะลวงฝ่ายตรงข้ามอย่างดุเดือด
แต่ไกลออกไป เรือรบทั้งสามลำค่อยๆ จมลงก่อนจะได้เทียบท่า เสากระโดงหัก ขณะที่ทหารเกือบพันนายกำลังดิ้นรนอยู่ใต้น้ำและกลายเป็นอาหารของแมงดาทะเลในท้ายที่สุดจนย้อมแม่น้ำเป็นสีเลือด
“ไอ้พวกปีศาจ!”
หลินมู่อวี่มองไปยังแม่น้ำด้วยดวงตาแดงก่ำ
ซือตู่เซินเอ่ยถามอย่างเฉยเมย “ผู้บัญชาการ เราควรทำอย่างไรต่อ?”
“อย่าตกหลุมพรางและรุดหน้าเข้าทุ่งอัคนีต่อ”
“ขอรับ”
หลินมู่อวี่หยิบกรงนกขึ้นพร้อมปล่อยเสี่ยวไป๋ มันรู้ว่ามีกองทัพอสูรปีกอยู่บนท้องฟ้าจึงบินออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพ้นระยะของศัตรู เสี่ยวไป๋กางปีกบินไปยังทิศทางที่ตั้งของเมือง
…
ทหารม้ากองทัพมังกรผงาดบุกเข้าไปในทุ่งอัคนี ตามด้วยพลโล่ทรงกรวยของเผ่าคนเถื่อน หลังจากออกจากชายฝั่ง พวกเขาก็มาถึงทุ่งที่เต็มไปด้วยหญ้าสีแดงเพลิง ก่อนรุดหน้าไปทางทิศเหนือ “ตึง ตึง ตึง!” กลองสงครามดังกึกก้องพร้อมกองทัพอสูรเกราะสีดำทมิฬกำลังรอเผชิญหน้า ขณะเดียวกันพวกมันปรากฏตัวขึ้นจากอีกสามทิศทาง ก่อนจะเข้าล้อมราวกับกับดักตาข่าย
แต่น่าเสียดายที่เฉียนเฟิงใช้กลอุบายอย่างหน้ามืดตามัวจนไม่ได้สังเกตว่าระดับแม่น้ำลดลงไปราวแปดเมตร ดังนั้นรอบบริเวณกองทัพมังกรผงาดจึงเต็มไปด้วยโคลน เดาได้ว่าขณะนี้เฟิงจี้สิงกำลังกักเก็บน้ำที่ต้นทางไว้เป็นจำนวนมาก
กองทัพอสูรเกราะคืบคลานเข้ามาทีละก้าว ขณะที่กองทัพมังกรผงาดค่อยๆ ถอยหนี
ทันใดนั้นกองทัพมังกรผงาดเกือบแปดพันคนแปรทัพอย่างรวดเร็วภายในใจกลางของทุ่งอัคนี พลโล่ของเผ่าคนเถื่อนอยู่ด้านนอก ขณะที่ทหารม้าหนักของกองทัพมังกรผงาดถือคันศรอยู่ตรงกลาง หากกองทัพเผ่าปีศาจเข้าโจมตี พวกมันจะต้องแลกด้วยเลือดเนื้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่พวกมันกลับไม่มีท่าทีว่าจะโจมตี
“เอี๊ยด!” เสียงเครื่องยิงดังขึ้นจากที่ไกลๆ ก่อนอสูรเกราะจะช่วยกันใส่ถังน้ำมันบีชสีดำลงไป
เว่ยโฉวดมกลิ่นที่ลอยโชยมา เขาขมวดคิ้วพร้อมกล่าวว่า “มันเป็นกลิ่นน้ำมันบีชสีดำ พวกเผ่าปีศาจต้องการโจมตีด้วยไฟ!”
“อืม”
หลินมู่อวี่เงยหน้ามองด้านบน มีกองทัพอสูรปีกบินวนอยู่มากมายพร้อมถือคบเพลิงในมือ พวกมันคงจู่โจมทันทีที่น้ำมันบีชสีดำตกลงสู่พื้น สมควรแล้วที่เฉียนเฟิงเป็นจอมพล เขาต้องการสังหารกองทัพมังกรผงาดโดยได้รับความเสียหายน้อยที่สุด ซึ่งเป็นการนำทัพที่ยอดเยี่ยมมาก
“พี่เฟิง รีบลงมือเร็วเข้า…”
หลินมู่อวี่พึมพำในใจ ขณะที่กระชับกระบี่ในมือ
…
เขื่อนเมืองลี่เฉิงกักเก็บแม่น้ำต้าวเจียงเกินกว่าครึ่งจนระดับสูงเพิ่มขึ้นสูงเหนือเส้นเตือน ทางด้านตะวันออกของเขื่อน ถังไม้บรรจุน้ำมันบีชสีดำถูกนำไปวางในหลุมลึกที่ขุดไว้ เฟิงจี้สิงคาดการว่า คงมีเพียงการจุดน้ำมันให้ระเบิดเท่านั้นที่จะสามารถสร้างคลื่นขนาดใหญ่ได้ ไม่เช่นนั้นการปล่อยน้ำจะกลายเป็นการโจมตีที่เปล่าประโยชน์
“จุดไฟได้”
เฟิงจี้สิงพึมพำ “หวังว่ามันจะได้ผล”
ด้านข้างฉู่เหยา เซี้ยโหวซาง และคนอื่นๆ เฝ้ามองทุกสิ่งอย่างตรงหน้าอย่างเงียบงัน
ทหารหลายสิบนายจุดไฟพร้อมกัน ท่อไม้ไผ่ค่อยๆ ลุกไหม้และลามเข้าไปในเขื่อน ทันใดนั้น! “ตูม ตูม ตูม!!” เสียงถังน้ำมันนับร้อยระเบิดดังกึกก้อง แต่…เขื่อนหนาราวสิบเมตรกลับไม่สั่นสะเทือนและยังคงกักเก็บน้ำดังเดิม
“พระเจ้า…” เซี้ยโหวซางประหลาดใจ “ละ…แล้วทีนี้จะโจมตีด้วยน้ำได้อย่างไร?”
“ข้าจะไปเอง”
เฟิงจี้สิงกัดฟันแน่นก่อนจะกระโดดลงน้ำพร้อมมีดเล่มยาว เขากลั้นหายใจว่ายตรงไปยังก้นแม่น้ำ เมื่อลืมตาขึ้น ปราณเพลิงวายุพลันพวยพุ่งรอบกาย ขณะที่หมาป่าเปลวอัสนีม่วงเกาะอยู่บนไหล่ เขาคำรามพร้อมกวัดแกว่งกระบี่อย่างรวดเร็วจนผิวน้ำสั่นสะเทือนและเกิดเป็นพายุหมุน
“ตูม!!”
ฉู่เหยา เซี้ยโหวซาง และคนอื่นๆ ต่างตกตะลึงกับมวลน้ำที่พุ่งขึ้น
“ตูม!”
มีดเสียงปีศาจกลืนกินนภา!
แสงดาบพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภาพร้อมระเบิดเขื่อนนาเป็นผุยผง ทำให้แม่น้ำต้าวเจียงไหลทะลักออกมาอย่างบ้าคลั่ง
แต่เฟิงจี้สิงรู้ว่ากระแสน้ำเท่านี้ไม่เพียงพอที่จะโจมตีเผ่าปีศาจได้ ทันใดนั้นเขาพลันปลดปล่อยพลังและว่ายลึกลงไปก้นแม่น้ำอย่างยากเย็น มีดเสียงปีศาจอีกเล่มพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“ตูม!”
เขื่อนที่สองพังทลายจนแม่น้ำไหลเชี่ยวกราก
“อึก...”
เฟิงจี้สิงกระอักเลือดอยู่ใต้น้ำ
เฟิงจี้สิงถือมีดเล่มยาวด้วยมือที่สั่นเทาก่อนจะส่งออกไปเป็นครั้งที่สาม เขารู้ดีว่าทั้งหลินมู่อวี่และจักรวรรดิกำลังต้องพลังขอบเขตปราชญ์ของตน อีกทั้งหากเขาไม่ลงมือเอง แล้วใครจะสามารถทำลายเขื่อนหนานี้ได้อีก?
เมื่อโจมตีด้วยมีดเสียงปีศาจครั้งที่เจ็ด ปราณยุทธ์ในกายเฟิงจี้สิงก็ถูกเค้นออกมาจนเกือบหมด เขาจึงถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดพาออกไป
“แย่แล้ว”
ฉู่เหยาที่ริมฝั่งจ้องมองด้วยดวงตาคู่งามพร้อมกล่าวว่า “ผู้บัญชาการเฟิงบาดเจ็บ รีบไปช่วยเขา”
เซี้ยโหวซางรีบวิ่งออกไป แต่น้ำท่วมไหลเชี่ยวกรากไปยังทิศทางของทุ่งอัคนี เช่นนั้นเขาจะหาเฟิงจี้สิงเจอได้อย่างไร…
…
“ตึง ตึง ตึง!”
กลองสงครามดังขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่กองทัพปีศาจเคลื่อนพลออกไปจนเกือบถึงแม่น้ำอีกหนึ่งร้อยเมตร แต่กลับยังไม่มีวี่แววของมวลน้ำ หลินมู่อวี่ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับฝั่งของเฟิงจี้สิง
“พวกมันกำลังจะโจมตี” เว่ยโฉวกล่าวเสียงแผ่วเบา
ซือตู่เซินกำดาบในมือแน่นพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่คาดคิดเลยว่าข้าจะต้องติดตามบรรพบุรุษรวดเร็วเพียงนี้ หวังว่าพวกเขาจะไม่เสียใจที่มีลูกหลานอย่างซือตู่เซิน”
“ไม่อยู่แล้ว”
ซือตู่เฉว่กระชับมีดคู่
หลินมู่อวี่หันมองทุกคนพร้อมกล่าวว่า “ทุกคนอย่าตื่นตระหนกและรักษาตำแหน่งตัวเองไว้ ข้าจะออกไปยั่วยุพวกมันและถ่วงเวลาเอง”
“ท่านผู้บัญชาการ โปรดอย่าออกไปเสี่ยง” ซือตู่เซินประสานหมัด
“รับคำสั่งและอย่าพูดสิ่งใดอีก”
เสียงของหลินมู่อวี่สงบลง เขากระตุ้นท่าเฉว่ให้ควบออกไปอย่างรวดเร็ว กำแพงน้ำเต้าทองส่องว่างสว่างพร้อมปรากฏขึ้นรอบกาย กระบี่เล่มยาวในมือยกสูงขึ้นขณะพุ่งเข้าใส่กองทัพปีศาจ
…
“พระเจ้า…หลินมู่อวี่เสียสติไปแล้ว!” เลี่ยนหยานกล่าวอย่างตื่นตระหนก “ให้ข้าออกไปจัดการหรือไม่?”
“อย่าหุนหันพลันแล่น”
เฉียนเฟิงบนกลังม้ากล่าวคำเบา “แม้แต่ผู้อาวุโสเลี่ยนไห่ยังถูกหลินมู่อวี่จัดการ พลังของเขาก้าวกระโดดไปมาก คงเพราะกลั่นลูกประคำวิญญาณของผู้อาวุโสเป็นแน่ ปล่อยเขาไป ดูสิว่าจะสังหารอสูรเกราะได้สักกี่ตัว พวกเจ้ากลับไปเตรียมน้ำมันบีชสีดำให้พร้อม”
“ขอรับ”
“เปรี้ยง!” กระบี่วิญญาณมังกรฟันโล่หนักพร้อมตัดอสูรเกราะด้านหลังอย่างรุนแรง หลินมู่อวี่พุ่งตัวไปด้านหน้ารับการโจมตีของอสูรเกราะจนกำแพงน้ำเต้าแตก ก่อนจะยกฝ่ามือขนมาอย่างเชื่องช้า…สี่ประทีปเทพมารโศกา! พลังทำลายล้างสังหารศัตรูหลายสิบตัวในพริบตา!
กระบี่กวัดแกว่งในสนามรบอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่กำแพงน้ำเต้าจะหายไป แต่มันกลับถูกแทนที่ด้วยชุดเกราะรบบัวดารา และมีความสามารถในการป้องกันไม่ด้อยไปกว่ากำแพงน้ำเต้าเลย แม้จะถูกหอกแทง แต่กลับไม่รู้สึกเจ็บปวด กระนั้นหลังจากเขาสังหารอสูรเกราะไปเกือบร้อยตัวตั้งแต่บุกเข้ามา ทั้งกายอาบไปด้วยเลือดจึงตัดสินใจถอยกลับ
พวกปีศาจไม่ได้ไล่ตาม และเพียงปล่อยออกไป
“ตึง ตึง ตึง!”
เสียงกลองสงครามดังขึ้นทางทิศตะวันตก เมื่อพวกเว่ยโฉวหันไปก็พบอสูรเกราะกว่าหนึ่งหมื่นตัวกำลังเข้าล้อม บนปลายหอกมีศีรษะของเหล่าทหารกองทัพมังกรผงาดที่เสียชีวิตในสนามรบ ขณะที่บางศีรษะดวงตายังคงเปิดกว้าง บ่งบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะตาย
“ไอ้พวกปีศาจ!!”
ร่างกายเว่ยโฉวสั่นเทาด้วยความโกรธ
……….……….……….……….