The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - ตอนที่ 393 การปะทะ
EP.393 การปะทะ
“หากพูดตรงเกินไป จะทำให้ผู้คนรู้สึกแย่ได้นะ”
ใบหน้าหล่อเหลาของเฟิงจี้สิงประดับด้วยรอยยิ้ม ดาบสะบั้นวาโยถูกชักออกมาพร้อมวิญญาณยุทธ์หมาป่าเพลิงสายฟ้าสีม่วงลอยวนรอบกาย เมื่อปลดปล่อยปราณยุทธ์ขึ้นสู่ขั้นสูงสุด วิญญาณยุทธ์พลันปกคลุมฝ่ามืออย่างรวดเร็วก่อเกิด ‘ปราณเพลิงวายุ’ ซึ่งเป็นความสามารถพิเศษของขอบเขตปราชญ์ชั้นที่หนึ่ง และมีพลังทำลายล้างมหาศาล
เซี่ยงอวี้ปลดปล่อยปราณยุทธ์พร้อมแผ่เขตแดนพลังรอบกาย ทำให้เรือทั้งสองลำหยุดนิ่งทันที ขณะเดียวกันระดับน้ำกลับลดลงอย่างรวดเร็วก่อตัวเป็นกระแสน้ำวน
หลินมู่อวี่ยังไม่ได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตปราชญ์ แต่พลังของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเฟิงจี้สิงและเซี่ยงอวี้ ทันใดนั้น! แสงจากกระบี่วิญญาณมังกรทะยานขึ้นท้องนภาพร้อมโซ่เทวะปกคลุมรอบใบดาบ จากนั้นยกมือซ้ายเรียกกำแพงน้ำเต้าสีทองขนาดใหญ่ขึ้นป้องกันด้านหน้าเรือรบและกระซิบ “พี่เฟิงไปกันเถิด ส่วนเซี่ยงอวี้ไปช่วยสองคนนั้น”
“ตกลง”
หลินมู่อวี่ผลักกำแพงน้ำเต้าพร้อมเดินไปด้านหน้า แสงดาวปรากฏขึ้นกลมกลืนกับรัศมีกระบี่ ก่อนจะแยกออกอย่างรวดเร็ว
เฉียนเฟิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ข้าจะจัดการกับเฟิงจี้สิง แม่ทัพซ้ายจัดการเซี่ยงอวี้ ส่วนแม่ทัพขวาจัดการหลินมู่อวี่”
แม่ทัพขวาเป็นอสูรระดับสี่ดาว เขาสวมชุดเกราะอ่อนพร้อมใช้ผ้าปิดบังทั้งใบหน้า มีเพียงดวงตาสีม่วงอ่อนที่โผล่ออกมาซึ่งเต็มไปด้วยความดุร้ายราวกับกำลังรอฉีกหลินมู่อวี่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ดาบในมืออสูรตนนั้นหมุนเล็กน้อยและมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมา ขณะเดียวกันพายุปราณสีแดงเลือดลอยวนรอบใบดาบ ก่อนที่เขาจะพุ่งตวัดดาบใส่หลินมู่อวี่อย่างรวดเร็ว
“เปรี้ยง!”
แสงดาวปรากฏขึ้นรับการโจมตีจิตวิญญาณแห่งอสูรก่อนจะระเบิดขึ้นฉับพลัน หลินมู่อวี่กระโดดขึ้นบนท้องฟ้า ขณะที่แม่ทัพขวาถอยห่างไปหลายก้าวพร้อมร่องรอยความตกตะลึงในดวงตา เขาคงไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้ในหมู่มนุษย์
“เข้ามา!”
ความเกลียดชังฉายบนดวงตามากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมส่งดาบยาวพุ่งเข้าใส่รวดเร็วปานสายฟ้า หลินมู่อวี่สกัดการโจมตีด้วยกำแพงน้ำเต้าและกระบี่ทันที เพลงดาบของแม่ทัพขวาผู้นี้ว่องไวและแข็งแกร่งมาก ซึ่งเปรียบได้ดังแม่น้ำที่ไหลเชี่ยวกราก หลังจากถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การป้องกันของหลินมู่อวี่ลดน้อยลง
“กลืนกิน!”
แม่ทัพขวาคำรามก้อง ด้วยพลังอสูรระดับสี่ดาวของเผ่าปีศาจ เขาไม่รีรอที่จะส่งดาบพุ่งตรงไปยังซี่โครงหลินมู่อวี่ราวกับอสรพิษ
หลินมู่อวี่มองเห็นการโจมตีที่พุ่งเข้ามา เขาพลันหมุนตัวหลบอย่างรวดเร็วพร้อมสะบัดกระบี่วิญญาณมังกรเข้าที่ด้ามดาบศัตรู ขณะเดียวกันก็รวบรวมพลังแก่นเพลิงมังกรพร้อมกลยุทธ์ดวงดาราที่หมัดซ้าย และปล่อยหมัดกระแทกแผ่นหลังแม่ทัพขวาอย่างรุนแรง
เมื่อรู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งเข้ามาจากด้านหลัง แม่ทัพขวาจึงรีบป้องกันตนเองทันที เขาจับด้ามดาบด้วยสองมือพร้อมเหวี่ยงตัวเองออกจากการควบคุมอีกฝ่ายก่อนจะตะโกนเสียงดัง ทันใดนั้น! พายุปราณสีเลือดควบแน่นที่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นจิตวิญญาณแห่งอสูรที่ทรงพลังยิ่ง!
“เปรี้ยง!”
พายุปราณสีเลือดปะทะแก่นเพลิงมังกรและกลยุทธ์ดวงดารารุนแรงจนก่อตัวเป็นคลื่นเพลิง ความเจ็บปวดแล่นผ่านแขนหลินมู่อวี่ทันที อสูรระดับสี่ดาวแข็งแกร่งมาก เช่นนั้นพลังของเฉียนเฟิงซึ่งเป็นอสูรระดับห้าดาวจะน่าเกรงขามเพียงใด…
เมื่อเงยหน้ามองก็พบว่าดาบของเฟิงจี้สิงและเฉียนเฟิงกำลังปะทะกันจนทำให้ปราณเพลิงวายุและจิตวิญญาณแห่งอสูรระเบิดออกอย่างรุนแรงทันที “เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!” แรงระเบิดส่งผลให้แผ่นไม้ของเรือรบแตกออกจากกัน ทำให้เว่ยโฉวและคนอื่นๆ ตกลงไปในน้ำพร้อมปีศาจระดับสูงที่ซ่อนอยู่ในเรือของเฉียนเฟิง
“เว่ยโฉวฆ่ามันซะ!” หลินมู่อวี่ออกคำสั่งเสียงดัง ก่อนจะตกจากเรือ แต่เขารีบควบแน่นปราณยุทธ์ใต้ฝ่าเท้าเพื่อทรงตัวไม่ให้ตกลงไปในน้ำ
ไม่ไกลออกไป แม่ทัพขวาเหยียบลงบนผืนน้ำพร้อมดวงตาเป็นสีแดงเลือดและปลดปล่อยเขตแดนโลหิต
“ตูม!”
พลังเก้าโกลาหลอันทรงพลังของเซี่ยงอวี้ระเบิดขึ้นท่ามกลางเผ่าปีศาจ ขณะเดียวกันศรเศวตรมณีของเว่ยโฉวและคนอื่นๆ บินเข้าสังหารปีศาจหลายตัวร่วงลงน้ำ เซี่ยงอวี้รีบวิ่งไปคว้าตัวถังลู่และถังเทียนอย่างไม่รีรอพร้อมตะโกนดัง “ส่งทั้งสองกลับขึ้นฝั่งก่อน”
สิ้นเสียง เขาหันกลับและโยนถังลู่และถังเทียนราวกับโยนกระสอบทรายไปทางฝั่งตะวันตก ทั้งคู่ลอยไกลเกือบร้อยเมตรและตกลงบนน้ำตื้น
“จับองค์ชายสามของเผ่าปีศาจ!” เว่ยโฉวตะโกน
แต่เฉียนเฟิงไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น จิตวิญญาณแห่งอสูรร่วงหล่นจากท้องนภากลายเป็นตาข่ายโลหิตไร้ลักษณ์พร้อมฉีกร่างทหารกองทัพมังกรผงาดหลายสิบนายทันที เขารีบคว้าองค์ชายสามจากน้ำและกล่าวเสียงดัง “ปกป้ององค์ชายสามและพากลับฝั่งเร็วเข้า!”
ทันใดนั้นมีแสงสว่างจากด้านหลัง ซึ่งมาจากระบำดาบของเฟิงจี้สิง ก่อนที่ดาบนับพันร่วงหล่นจากท้องนภา
เฉียนเฟิงตกตะลึง เนื่องจากดาบสะบั้นวาโยคมมาก อีกทั้งปราณเพลิงวายุยังเป็นพลังพิเศษที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเขาจะต้องป้องกันมันให้ได้ ทันใดนั้นพายุหมุนลอยขึ้นจากปลายเท้าพร้อมเสียงคำรามก้องปลดปล่อยพลังปราชญ์แห่งปีศาจปกคลุมใบดาบอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นพลังที่ยากจะต้านทาน
“เปรี้ยง!”
พลังทั้งสองปะทะกันพร้อมไฟลุกโชนขึ้นสู่ท้องนภา เฟิงจี้สิงเลือดไหลกบปากขณะที่มีแผลยาวจากคมดาบบนแขน เขาถูกพลังกระแทกจนลอยตกน้ำราวกับว่าว เฉียนเฟิงแข็งแกร่งอย่างแท้จริง…แม้แต่เฟิงจี้สิงก็ไม่อาจสู้ได้ตามลำพัง
โชคดีที่ยังมีทหารกองทัพมังกรผงาดอีกหลายสิบนายพร้อมเว่ยโฉว พวกเขายืนบนแผ่นไม้จากเรือที่แตกและยิงศรเศวตรมณีออกไปอย่างรวดเร็ว! เฉียนเฟิงรีบหันกลับพร้อมปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งอสูร พลังนี้สร้างความปั่นป่วนให้แก่ลูกศรอย่างมาก ในพริบตาทั่วทั้งแผ่นดินและท้องนภาแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด จิตวิญญาณแห่งอสูรกลายเป็นม่านขนาดใหญ่ปิดกั้นศรเศวตรมณีทั้งหมด
ขณะเดียวกัน มีพลังสายหนึ่งพุ่งตรงมาจากด้านหลัง!
เฉียนเฟิงหันกลับด้วยความตกตะลึงและพบว่าทวนนองเลือดพุ่งแหวกอากาศมาอย่างรวดเร็ว
“เปรี้ยง!”
เฉียนเฟิงรีบใช้ดาบยาวสกัดหอกทวนเลือดพร้อมเหลือบมองแววตาที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของเซี่ยงอวี้ ทันใดนั้นเปลวเพลิงที่ลุกโชนบนเท้าก็พุ่งตรงมา
“แย่แล้ว…”
เฉียนเฟิงสั่นสะท้านไปทั้งตัวและไม่มีเวลาที่จะโต้ตอบอีกฝ่าย เขาทำได้เพียงมองดูศีรษะองค์ชายสามถูกเซี่ยงอวี้เตะเต็มแรงจนระเบิด
“เปรี้ยง!”
สมองและเลือดเนื้อสาดกระจายทั่วทิศพร้อมจิตวิญญาณแห่งอสูรแตกสลาย
เฉียนเฟิงถือร่างไร้วิญญาณขององค์ชายสามและยืนนิ่งงันบนผิวน้ำราวกับรูปปั้นหิน ทันใดนั้นดวงตาพลันฉายแววดุร้ายพร้อมคำรามเสียงดังก้อง “บังอาจปลงพระชนม์องค์ชายแห่งทวยเทพ เจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
เขาโยนร่างองค์ชายสามขึ้นฝั่งตะวันออก ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เซี่ยงอวี้อย่างไม่รีรอ พลังปราชญ์แห่งปีศาจพวยพุ่งปกคลุมร่างกายพร้อมพายุปราณ ในที่สุดจอมพลปีศาจก็เริ่มเอาจริง…
…
“เปรี้ยง!”
หมัดของแม่ทัพขวาถูกกำแพงน้ำเต้าขวางไว้ เขาเช็ดเลือดจากมุมปากก่อนจะพุ่งเข้าใส่หลินมู่อวี่อีกครั้ง อสูรระดับสี่ดาวตัวนี้ระเบิดพลังอย่างบ้าคลั่ง บางทีหากสังหารหลินมู่อวี่ได้คงสามารถปลดปล่อยเขาจากสภาพเช่นนี้…
แต่แน่นอนว่าหลินมู่อวี่ไม่ต้องการถูกฆ่า เขาเฝ้ามองดูเหตุการณ์ระยะไกลขณะต่อสู้ หลังจากเซี่ยงอวี้เตะศีรษะขององค์ชายสาม เฉียนเฟิงก็ระเบิดโทสะออกมา ส่งผลให้เขาพุ่งต่อสู้กับเฟิงจี้สิงและเซี่ยงอวี้อย่างดุเดือด กระนั้นก็เห็นได้ชัดเจนว่าพลังของเฉียนเฟิงแข็งแกร่งกว่าอีกสองคน
ขณะเดียวกันแม่ทัพซ้ายกวัดแกว่งดาบยาวใส่เกราะเกล็ดมังกรของฉินเหยียน กระนั้นยังคงมีทหารกองทัพมังกรผงาดอย่างเว่ยโฉวคอยช่วยยิงธนูสนับสนุน เช่นนั้นคงทำให้ฉินเหยียนสามารถต้านทานได้อีกระยะหนึ่ง สิ่งสำคัญกว่านั้นคือตัวเขาเอง เมื่อใดที่สามารถจัดการกับแม่ทัพขวาได้ เขาจะสามารถเข้าร่วมต่อสู้กับทั้งสองเพื่อสังหารเฉียนเฟิง
เป็นเรื่องน่าละอายใจที่ต้องใช้ผู้บัญชาการแห่งจักรวรรดิถึงสามคนในการเอาชนะคู่ต่อสู้ ช่างเป็นความพ่ายแพ้ของจักรวรรดิฉินอย่างแท้จริง เนื่องจากพลังของเฉียนเฟิงนั้นแข็งแกร่งแบบที่ไม่มีใครเทียบได้
หลินมู่อวี่เช็ดเลือดออกจากมุมปากและเงยหน้าขึ้นมองแม่ทัพขวาที่อยู่ในสภาพน่าสังเวช มีบาดแผลบนหน้าอกสองแห่งและบนแขน แม้เพลงดาบจะดีกว่าเขา แต่การป้องกันนั้นอ่อนแอกว่ามาก เขามีกระดองเต่าทมิฬ เกราะปราณยุทธ์ และปราการเกล็ดมังกรซึ่งสามารถป้องกันการโจมตีได้เป็นอย่างดี ขณะที่อีกฝ่ายมีเพียงจิตวิญญาณแห่งอสูรเท่านั้น โชคร้ายสำหรับแม่ทัพขวาที่กระบี่วิญญาณมังกรคมมาก อีกทั้งยังมีโซ่เทวะถึงแปดชั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จิตวิญญาณแห่งอสูรจะสามารถต้านทานได้
“เคร้ง!”
ใบดาบกระทบกันอีกครั้ง ขณะที่แม่ทัพขวาพลันตะโกนดังพร้อมเกิดแรงดูดที่มองไม่เห็นบนใบดาบ ซึ่งเป็นเพลงดาบอีกรูปแบบหนึ่ง
หลินมู่อวี่ตัดสินใจเร่งปราณยุทธ์อย่างรวดเร็ว “ฟิ้ว!” กระแสลมปราณยุทธ์ก่อตัวหมุนวนรอบกระบี่วิญญาณมังกร ซึ่งเป็นทักษะกระบี่ดึงดูดเช่นเดียวกัน “เคร้ง!” ดาบสองเล่มบิดเข้าหากันอย่างรุนแรงพร้อมเสียงดังกังวาน ทั้งสองยังคงยื้อยุดไม่ยอมถอย กระทั่งหลินมู่อวี่กวาดแขนซ้ายส่งกลยุทธ์ดวงดารากระแทกหน้าอกอีกฝ่ายเต็มแรง
“ไอ้สารเลว!”
ในที่สุดแม่ทัพขวาก็อ้าปากพูด ก่อนจะคำรามเสียงดังพร้อมปล่อยหมัดที่ปกคลุมไปด้วยจิตวิญญาณแห่งอสูรเข้าปะทะ กระนั้นเขาไม่คาดคิดว่าฝ่ามือของหลินมู่อวี่จะแข็งแกร่งมาก ดวงดารารวมตัวกันบนฝ่ามือก่อนจะระเบิดขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ดวงดาราขั้นที่สาม…ภูผาดารา!
“เปรี้ยง!”
ฝ่ามือทรงพลังปะทะหมัดแม่ทัพขวาจนเลือดสาดกระเซ็น หลินมู่อวี่ไม่รอช้าส่งกำปั้นเข้าใบหน้าอีกฝ่ายจนจมูกหักและเลือดไหลอาบ ผ้าที่พันไว้หลุดออกเผยให้เห็นเคราขาว เมื่อเห็นเช่นนั้นก็รู้ได้ว่าแม่ทัพขวาค่อนข้างชราสำหรับเผ่าปีศาจ กระนั้นกลับพ่ายแพ้อย่างน่าอดสูด้วยน้ำมือนายพลอายุน้อยกว่าเช่นหลินมู่อวี่
“แล้วเจ้าจะเสียใจ!”
แม่ทัพขวาชักดาบยาวกลับพร้อมส่งจิตวิญญาณแห่งอสูรใต้ฝ่าเท้าและวิ่งหนีไปทางฝั่งตะวันออก
…
หลินมู่อวี่ยืนมองศัตรูด้วยท่าทางสงบนิ่ง ทันใดนั้นมุมปากข้างหนึ่งยกขึ้น
“ฉัวะ!”
ศีรษะแม่ทัพขวาหลุดกลิ้งออกจากบ่า ภายใต้แสงแดดปรากฏเงาของมีดสะท้อนบนน้ำ มีดเสียงปีศาจไร้ลักษณ์ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง มิเช่นคงเป็นเรื่องยากที่จะสังหารแม่ทัพปีศาจผู้มีจิตวิญญาณแห่งอสูรที่แข็งแกร่ง…
………………………………….