The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - ตอนที่ 02 ราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีป 2
ราชันย์ปีศาจร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดราวกับเสียงครวญครางของภูตผี แต่มันยังกางแขนทั้งสองข้างออก
รังสีสังหารจากทุกสารทิศพุ่งเข้าหาราชันย์ปีศาจในขณะที่มันคำรามเสียงต่ำ
“ ห้าประทีปทะลายแปดทิศ!”
“ ตู้ม ตู้ม ตู้ม…” เสียงระเบิดของรังสีโลหิต ยอดฝีมือระดับเทพอีกสองสามคนร่างระเบิดเป็นจุณเพราะต้านพลังของราชันย์ปีศาจไม่ไหว
แต่กระบี่คมกริบในมือของฉินอี้ได้พุ่งออกไปกลางอากาศแล้ว “ฉึก” เสียงกระบี่พุ่งทะลุหน้าอกของราชันย์ปีศาจ โลหิตทะลักออกจากบาดแผล ในขณะที่ราชันย์ปีศาจสังหารศัตรู อาการบาดเจ็บของมันก็รุนแรงขึ้นเท่าทวี
“ หกประทีปชิงโลกา!”
เสียงคำรามโกรธเกรี้ยวของราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีปสั่นสะเทือนไปทั้งขุมนรก ฟ้าดินพลิกผัน จักรวาลบิดเบี้ยว ยอดฝีมือระดับเทวะสิบกว่าคนนอกจากฉินอี้ ร่างกายระเบิดเป็นจุณ แต่ก่อนตายได้ใช้พลังเทวะเฮือกสุดท้ายสร้างคันศรโลหิตห่อหุ้มกระบี่ของพวกเขาแล้วพุ่งเข้าใส่ราชันย์ปีศาจ
“ ฝุบ ฝุบ ฝุบ…”
ร่างของราชันย์ปีศาจเต็มไปด้วยรูพรุน พลังทั้งร่างใกล้จะไม่มีเหลือแล้ว เลือดทะลักออกมาจากปากไม่หยุด มันหัวเราะเสียงดัง “ฉินอี้ ไอ้คนชั่ว เพื่อที่จะแย่งชิงพลังของข้าแล้ว เจ้าถึงกับยอมสูญเสียยอดฝีมือทั้งแผ่นดิน แต่ข้าไม่ยอมให้เจ้าสมหวังหรอก พลังเจ็ดประทีปไม่มีทางตกเป็นของคนต่ำต้อยอย่างเจ้าหรอก!”
ฉินอี้หน้าตาบิดเบี้ยวทันที ท่าทีมุ่งร้าย มือซ้ายชูขึ้นสู่ท้องฟ้า ลูกบอลโลหิตสีแดงขนาดใหญ่ลอยอยู่เหนือฝ่ามือเขา พูดเสียงต่ำ “พลังวิญญาณยุทธ์โซ่เทวะสิบเจ็ดชั้น ผนวกกับพลังเทวะที่ข้าสะสมมาทั้งชีวิต ข้าไม่เชื่อว่าจะตัดหัวของปีศาจใกล้ตายอย่างเจ้าไม่ได้!”
เขากระโจนเข้าใส่ราชันย์ปีศาจ พุ่งพลังทั้งหมดใส่ฝ่ายตรงข้าม
ร่างของราชันย์ปีศาจสั่น ประกายแสงจากดาราบนฟากฟ้ารายล้อมร่างของมัน สองแขนชูขึ้น เปล่งเสียงเด็ดขาด “เจ็ดประทีปพลิกดารา!”
“ ฟิ้ว!”
ลำแสงจากดวงดารารวมกันกลายเป็นกระบี่พุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม โซ่เทวะที่ใช้ป้องกันการโจมตีจากพลังเจ็ดประทีปของฉินอี้ขาดกระจุย ตามด้วยร่างที่เริ่มปริแตกของเขา ร่างระเบิดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่ว่าพลังเทวะบนฝ่ามือได้ถูกส่งออกไป และกระแทกใส่หน้าอกของราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีป!
ก่อนที่ฉินอี้จะสิ้นลมนั่นเอง ใบหน้าเขากลับปรากฏความกระหยิ่มขึ้น “ราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีป ถึงแม้เจ้าจะฆ่าข้าได้ แต่ว่าร่างเทวะของเจ้าถูกทำลายแล้ว เจ้าต้องตายแน่นอน!”
พูดจบร่างของฉินอี้ก็ระเบิดออกเป็นชิ้นๆ กลายเป็นฝุ่นธุลีลอยไปกับสายลม
“ เอื้อก…”
เลือดสดๆ ทะลักออกมาจากปากของราชันย์ปีศาจอีกครั้ง แต่ด้วยความทรนงของความเป็นราชันย์ทำให้มันยืนหยัดอยู่บนเกลียวคลื่นไม่ล้มลงไป และหัวเราะเสียงดัง “ฉินอี้ เจ้าอยากได้พลังเจ็ดประทีปของข้ามาตลอด อย่าฝันไปเลย ตอนนี้เจ้าก็ตายไปแล้ว สะใจข้าจริง ฮ่าๆๆๆ…แค่กๆ…”
มันไออย่างรุนแรง เลือดในร่างเริ่มทะลักออกมา
ในจังหวะนี้เอง ราชันย์ปีศาจมองเห็นหลินมู่อวี่ที่อยู่บนหินก้อนยักษ์ มันอดยิ้มออกมาไม่ได้ “เจ้าหนู เด็กอ่อนแออย่างเจ้ากลับมาอยู่นรกขุมที่สิบเจ็ดได้ รนหาที่ตายชัดๆ ”
หลินมู่อวี่ตกตะลึง แต่เขากลับขยับตัวไม่ได้ เขาตกอยู่ใต้แรงกดดันของราชันย์ปีศาจ ราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ วินาทีไหนก็ได้ ทรมานอย่างที่สุด
ราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีปมีสีหน้ามุ่งร้าย แม้ร่างกายกำลังจะสลายไปก็ตาม มันมองหลินมู่อวี่ด้วยสายตาราวกับมองเหยื่อ พูดเสียงดัง “ไอ้เจ้าหนู โชคดีที่เจ้าอยู่ที่นี่! ร่างเทวะของข้ากำลังจะแตกสลาย ไม่สามารถแบกรับพลังเทวะของข้าได้ หึ ถือว่าเจ้าโชคดี ข้าขอร่างของเจ้าก็แล้วกัน!”
ราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีปตะคอกออกมา พลังสายหนึ่งเข้าปะทะจิตวิญญาณในร่างของหลินมู่อวี่!
“ อะไรน่ะ ?!”
หลินมู่อวี่ตกใจ รู้สึกเหมือนตกนรกในฉับพลัน จิตวิญญาณกำลังแผดเผา หรือพูดอีกอย่างก็คือ วิญญาณของเขากำลังถูกกำจัด พลังวิญญาณของราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีปกำลังกลืนกินเขา มันคิดจะครอบครองร่างของเขา!”
“ ฮ่าๆ เจ้าอย่าเปลืองแรงต่อต้านเลยดีกว่า!” ราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีปหัวเราะชั่วร้าย “ได้กลายมาเป็นร่างให้ข้า ถือเป็นเกียรติยศของเจ้าเลยนะ หายไปซะเถอะ วิญญาณต่ำต้อยอย่างเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้!”
ในหัวของหลินมู่อวี่ร้อนเหมือนมีไฟแผดเผา รู้สึกเหมือนอยู่ในนรกขุมที่ลึกที่สุด ความทรมานระดับนั้นไม่ใช่คนธรรมดาจะแบกรับได้ เขาแหกปากร้องเจ็บปวด คุกเข่าลงบนแผ่นหิน ร่างสั่นเทิ้ม วิญญาณกำลังถูกกัดกร่อน!”
แต่ขั้นตอนนี้ผ่านไปแล้วครึ่งนาทีก็ยังไม่สิ้นสุด
“ หืม ?” ราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีปสงสัย “ทำไมกัน ?”
ในตอนนี้หลินมู่อวี่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ถึงแม้ร่างกายจะถูกตรึงด้วยพลังของราชันย์ปีศาจ แต่นัยน์ตาของเขากลับยิ่งเปล่งประกายขึ้นเรื่อยๆ เขากัดฟันแน่น จิตใจที่แน่วแน่ไม่ยอมแพ้ลุกโชติช่วง คำรามด้วยความโกรธ “มีสิทธิ์อะไร! ! เจ้าถือสิทธิ์อะไรมากำจัดข้า ราชันย์ปีศาจเจ็ดประทีปบ้าบออะไร…เจ้าคิดว่าสูงส่งนักหรือไง เลิกคิดที่จะกลืนกินวิญญาณของข้า ข้าเกิดมาเพื่อเป็นราชันย์!”
หลินมู่อวี่ตะโกนออกมา เขาอดกลั้นต่อความเจ็บปวดสาหัสราวกับวิญญาณถูกฉีกทึ้ง และค่อยๆ ลุกขึ้นยืนบนแผ่นหิน
สองสามวินาทีต่อมา ผู้ที่ต้องตกตะลึงกลับกลายเป็นราชันย์ปีศาจ ร่างกายของมันแตกสลายไปแล้ว ส่วนดวงวิญญาณก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ที่ทำให้มันประหลาดใจยิ่งกว่าก็คือ ความบ้าระห่ำของเด็กหนุ่มเบื้องหน้า
ความต้องการมีชีวิตรอดทำให้พลังของเด็กหนุ่มไม่ด้อยไปกว่ามัน เรื่องนี้ทำให้ราชันย์ปีศาจตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก พลังเจ็ดประทีปของมันเข้าสู่ร่างกายของเด็กหนุ่มผู้นี้ไปแล้ว แต่ว่าจิตวิญญาณของมันกลับถูกดวงจิตที่ต้องการมีชีวิตอยู่ของเด็กหนุ่มกำจัดออกไป!
“ ไม่นะ…”
ราชันย์ปีศาจแผดเสียงด้วยความโกรธแค้น ร่างทั้งร่างระเบิดออกเป็นจุณ แม้แต่จิตวิญญาณก็สลายไปกับสายลม
“ ปึง…”
หลินมู่อวี่เข่าทรุดลงกระแทกพื้นหิน อวัยวะภายในถูกแผดเผา ดวงวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บ มือทั้งสองข้างกุมหัวส่งเสียงร้องโหยหวน ทันใดนั้นคลื่นพลังก็ระเบิดขึ้นมาเบื้องหลังเขา พัดร่างของเขาหายไปจากตรงนั้น ขณะที่กำลังทะลุอุโมงค์มิติ หลินมู่อวี่เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง
เขารู้สึกตัวขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนและเวลาใด ตอนที่เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ก็ได้ยินเสียงดีใจของเด็กสาวดังขึ้นที่ข้างหู “ท่านปู่! ท่านปู่! เขารู้สึกตัวแล้ว!”
แสงเทียนที่กำลังส่ายไหวเบาๆ ปรากฏเข้าสู่ม่านตาเขา ส่วนตัวเขานอนอยู่บนเตียงที่ดูธรรมดาๆ
ประตูเปิดออก ชายชราเคราขาวในชุดยาวสีเทาเดินเข้ามา ร่างกายเขาเต็มไปด้วยกลิ่นของยา แต่สีหน้ากลับแดงเปล่งปลั่ง เขายิ้ม “เจ้าหนุ่ม ในที่สุดเจ้าก็ตื่นเสียที ข้านึกว่าเจ้าจะไม่รอดเสียแล้ว!”