แสงที่ 8 อาการประหลาด..
3 วันก่อน..
ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าบรรดาทหารเกณฑ์ ฝ่ามือทั้งสองข้างของสตาร์ในตอนนี้กำลังจับหน้าอกของเจมิสอยู่..
‘อึก..นี่มันอะไรกัน..?!’ผมที่สบถถามกับตัวเอง จู่ๆภาพเหตุการณ์ต่างๆมากมายก็ไหลเข้ามาภายในหัวของผมเหมือนกับว่ามันคือภาพความทรงจำ แถมยังไม่ใช่ภาพความทรงจำของเจ้าของร่างนี้
โดยที่ภาพความทรงจำดังกล่าว ถึงจะบอกว่ามันเป็นความทรงจำ แต่ผมที่เห็นกลับจำอะไรไม่ได้ ภาพเหตุการณ์ที่ตัดไปตัดมามันรวดเร็วจนผมไม่มีเวลาได้ตรวจสอบมัน จนกระทั่งมาถึงภาพเหตุการณ์สุดท้าย..
[กระผมพันตรีสตาร์ลินแห่งหน่วยรบพิเศษ รหัสลับพิฆาตทมิฬ มารายงานตัวตามคำสั่งแล้วครับ ท่านจอมพล..!]
สิ้นเสียงสุดท้ายของภาพเหตุการณ์ภายในหัว จู่ๆความรู้สึกของผมก็แปรเปลี่ยนไปราวกับถูกใครคนอื่นที่เข้ามาสิงร่าง ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยว แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ..
“นี่มัน..”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
‘แกรู้อะไร ไอ้อาการที่เกิดขึ้นตอนนี้คืออะไร..?’ผมที่ถามกับไอ้จ้อน..
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ภาพที่เห็นมันตัดไวมาก แต่สิ่งที่แน่ใจคือแกในตอนนี้น่ะ แข็งแกร่งสุดๆไปเลย..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
“อะ..อึก นะ..นี่แก..!!”เจมิสที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้า เธอพลันง้างหมัดเตรียมที่จะซัดเข้ามายังเบ้าหน้าของผม เวรแล้วไง..
ฟุบ..!
“หะ..หืม..?”ผมที่เบิกดวงตากว้างขึ้น จู่ๆร่างกายก็ขยับออกไปตามสัญชาติญาณ แม้จะไม่รู้ว่าอาการที่เกิดขึ้นมันคืออะไร แต่ผมกลับสัมผัสได้ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์หรือบุคลิก มันไม่ใช่ผมคนเดิมอีกต่อไปแล้ว..
ภาพที่ผมกำลังเห็นในตอนนี้ หมัดของเจมิสมันดูเชื่องช้าเอามากๆ ผมที่ยืนอยู่ได้เอื้อมมือออกไปรับหมัดของเธอเอาไว้ราวกับเคยตอบสนองแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
หมับ..!
“สำหรับหมัดของผู้หญิง ถือว่าต่อยได้ดีหนิ..”ปากของผมที่ขยับไปเอง เฮ้ย..นี่ตูข้าพูดอะไรออกไปฟะ แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับรู้สึกว่าคำพูดที่เอ่ยออกไปนั้น มันคือตัวตนของผมจริงๆ..
“แกว่ายังไงนะ..?”เจมิสที่เบิกดวงตากว้างขึ้น เส้นเลือดพลันปูดขึ้นมาบนขมับของเธอ
“ถอยไป..การทดสอบมันยังไม่จบ..”ผมที่ปล่อยมือออกจากกำปั้นของเจมิส ก่อนจะก้าวเดินผ่านร่างของเธอไปหยุดเผชิญหน้ากับเซอร์เคิล ในตอนนี้ผมไม่รู้สึกเกรงกลัวเลยสักนิด ในทางกลับกันผมยังรู้สึกมั่นใจเอามากๆราวกับว่านี่ไม่ใช่ผม
“หืม..ไอ้ขยะนี่ สงสัยไอ้ที่ฉันต่อยแกไปเมื่อกี้จะทำให้สมองของแกได้รับการกระทบกร..ะ..”
ผลั๊วะ..!!!
“อั่ก..!”
“กระแทกหน้าสินะ..?”
เฮ้ย..ได้ไง ผมที่กู่ร้องอยู่ภายในใจ ในช่วงจังหวะที่เซอร์เคิลกำลังพูด จู่ๆผมที่ยืนอยู่ก็ปล่อยหมัดแย็บกระแทกเข้าใส่หน้าของเขาจนหน้าหงาย ถึงแม้ว่าจิตสำนึกของผมยังคงอยู่ครบถ้วน แม้ว่าภายในใจกำลังงุนงงและสับสนอยู่แค่ไหน แต่บุคลิกที่แสดงออกมันกลับไม่ใช่ผมคนเดิมอย่างที่ควรจะเป็น..
สถานการณ์ในตอนนี้ แม้ภายในใจของผมยังคงหวาดกลัว แต่ท่าทีที่แสดงออกไปมันกลับต่างกันคนละขั้ว ถ้าจะให้คิดว่าไบโพล่าร์กำเริบมันก็คงจะไม่ใช่..
“นะ..นี่แก..?”เซอร์เคิลที่เบิกดวงตากว้างขึ้น เขาดูเหมือนจะอึ้งไปชั่วขณะ หลังจากที่ถูกผมต่อย..
ซึ่งอย่าว่าแต่มันเลย เจมิสในตอนนี้รวมไปถึงทหารเกณฑ์ทั้งหลาย ต่างพากันยืนอึ้งช็อคค้าง จากการกระทำของผม..
“แกคงอยากจะตายมาสินะ..!!!”เซอร์เคิลที่โกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้พลันกระโจนเข้ามาหาผม พร้อมกับเหวี่ยงหมัดขวาซัดตรง..
ฟุบ..!
“แกช้าไปว่ะ..”ปากของผมที่ขยับไปเองอีกแล้ว ในตอนนี้ผมเริ่มที่จะชินไปกับมัน ร่างของผมที่ยืนอยู่ได้ย่อเข่า พร้อมกับสไลด์ฉีกตัวเองออกไปทางด้านข้างลอดผ่านใต้กำปั้นของเซอร์เคิลที่พุ่งเข้ามา..
ตุม..!!!!!!
ทันทีที่ผมหลบหมัดของเซอร์เคิลได้ ผมก็ปล่อยหมัดขวาเคาน์เตอร์สวนออกไป ก่อนที่หมัดนั้นจะซัดไปยังกลางใบหน้าของเป้าหมายเข้าอย่างจัง..
ซึ่งนอกจากอาการประหลาดที่ยากเกินจะอธิบายแล้ว มันยังมีความรู้เกี่ยวกับวิชาการต่อสู้ด้วยมือเปล่าหลายแขนง และวิธีการใช้อาวุธชนิดต่างๆที่แทรกซึมเข้ามาภายในหัวของผมอีกด้วย แม้จะสัมผัสได้ว่านั่นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ทั้งหมด แต่ผมกลับรู้สึกได้เลยว่าเซอร์เคิลในตอนนี้ไม่ใช่คู่มือของผม..
“อั่ก..!”เซอร์เคิลที่ถอยกระเด็นไปชนเข้ากับเชือก ก่อนจะกระเด้งกลับมา ผมที่ยืนอยู่ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดมือพลันพุ่งเข้าไปซัดหน้าของเขาอีกหมัด..
ตุม..!!!
หมัดขวาของผมที่ต่อยเข้าสู่ใบหน้าของเซอร์เคิลจนหน้าหงาย ส่งให้หลังของเขาถอยไปชนติดกับเชือก ก่อนที่หลังจากนั้นผมจะระเบิดกำปั้นซัดเข้าใส่หน้าของเขาอย่างบ้าคลั่ง..
ตุมๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ผมที่ซ้อมเซอร์เคิลอย่างบ้าคลั่ง ร่างของเขากำลังเด้งไปกับเชือกเอนเข้าเอนออกในทุกๆช่วงจังหวะที่ผมปล่อยหมัด จนในตอนนี้สภาพใบหน้าของเขาเริ่มที่จะดูไม่ได้ จากอาการบอบช้ำที่ปรากฏ..
“เปิดวงจร..!!!”
ในช่วงจังหวะสุดท้ายที่ผมกำลังจะปล่อยหมัดขวาออกไปแบบสุดกำลัง เซอร์เคิลก็ได้ทำอะไรบางอย่าง ก่อนที่จู่ๆกลางหน้าอกของเขาจะมีแสงที่ส่องสว่างออกมา พร้อมกับวงเวทที่ปรากฏขึ้นมาบนแขน..
“เซอร์เคิล ทำบ้าอะไรของแก ถึงกับใช้เอมพาสเลยเหรอ..?!”เจมิสที่ตะโกนออกมา เธอยังคงยืนอยู่บนเวที..
“หนวกหู..!!!”
ฟุบ..!!
เซอร์เคิลที่ตวาดเสียงใส่เจมิส พร้อมกับปล่อยหมัดซัดเข้าใส่ผม ในวินาทีนั้นสัญชาติญาณสั่งให้ผมต้องรีบถอยออกไป..
ฟุบ..!
ผมที่ย่อเข่าลงนั่งยองๆหลบหมัดของเซอร์เคิล ก่อนจะใช้ขาดีดตัวกระโดดถอยหลังออกมา เพื่อหลบการโจมตีของขาที่กำลังจะหวดเตะตามเข้ามา..
“กาลิอัส..!”เซอร์เคิลที่กล่าวออกมา พร้อมกับล่วงมือเข้าไปภายในช่องแสงตรงกลางหน้าอก พลันปรากฏออกมาเป็นสนับมือสองข้าง..
ซึ่งเพียงมองแค่ตาเปล่า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการโจมตีของเซอร์เคิลนับต่อจากนี้มันจะหนักหน่วงและรุนแรงมากแค่ไหน จากสัมผัสของแรงกดดัน ภาพที่ผมพอจินตนาการได้มันก็คงแรงพอๆกับกระสุนรถถังเลยก็ว่าได้..
ตุบ..!
ร่างของผมที่กระโดดถอยหลังกลับออกมาหยุดอยู่ข้างๆของเจมิส ก่อนที่ผมจะชันตัวลุกขึ้นยืน
“ถอยไป..เดี๋ยวฉันจัดการเอง..”เจมิสที่บอกกับผม แต่ทว่า..
หมับ..!
“เธอนั่นแหละที่ต้องถอยไป น่าสนใจดีหนิ..หะ..หืม..?!”ผมที่กล่าวออกมา แต่เมื่อหันไปมองยังเจมิส สิ่งที่พบนั่นก็คือมือเจ้ากรรมของผมที่ตอนแรกหมายจะเอื้อมไปสกัดขวางเธอ แต่ตอนนี้มันกลับกำลังบีบจับหน้าอกของเธออยู่ซะงั้น..
“อึก..!!”ดวงตาของผมที่เบิกกว้างขึ้น อะดรีนาลีนภายในร่างพลันพุ่งสูงยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนตอนนี้ภาพความทรงจำที่ตัดไปตัดมาก็ได้หวนกลับมาสู่สมองของผมอีกครั้ง
อีกทั้งผมยังสัมผัสได้ว่าเวลาและทุกอย่างรอบตัวมันช้าลงเหมือนกับถูกหน่วงเอาไว้..
“อีกแล้วนะ นี่แก..!!”เจมิสที่แผดเสียงตวาดออกมาด้วยความโกรธ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ทำอะไรผม จู่ๆก็..
“ฉันจะฆ่าแกไอ้สวะ..!!”
ตุม..!
ร่างของเซอร์เคิลที่ดีดตัวพุ่งเข้ามาหาผมด้วยความโกรธ แรงดีดตัวส่งผลทำให้พื้นของเวทีเกิดเป็นรอยแตกร้าว..
ฟุบ..!
ผมที่ก้าวขาออกไปหาเซอร์เคิล ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นไวมาก ร่างของอีกฝ่ายที่พุ่งตรงเข้ามาได้ง้างหมัดเตรียมที่จะปลดปล่อย แต่ทว่า..
ปัก..!!!
ผมที่ยืดขาถีบออกไปยังจุดข้อต่อเหนือหัวเข่าของเซอร์เคิลเพื่อค้ำยันเอาไว้ไม่ให้ร่างของอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ ซึ่งด้วยการโจมตีนี้มันจึงทำให้ระยะหมัดของเขาไม่มีทางที่จะต่อยถึงตัวของผมได้ อีกทั้งตำแหน่งข้อต่อที่ผมถีบไป มันยังเป็นจุดอ่อนสำคัญ เพราะถ้าถูกอะไรกระแทกเข้าแรงๆแล้วก็ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็จะ..
ตุบ..!
ร่างของเซอร์เคิลทรุดตัวลงไปนั่งชันเข่าโดยอัตโนมัติ..
“อู้ว..~ ขาอ่อนเหรอจ้ะ..?”ผมที่ส่งเสียงล้อเลียน โดยไม่สนว่าสถานการณ์มันจะบานปลายไปมากกว่านี้..
“กรอด..แก..อึก”เซอร์เคิลที่กัดฟันกล่าวออกมา เขาพลันชันตัวลุกขึ้น แต่ด้วยอาการเจ็บแปลบๆที่หัวเข่า จึงต้องล่วงกลับไปนั่งชันเข่าต่อ..
ฟุบ..!
ผมที่กระตุกรอยยิ้มและดีดตัวเข้าไปกระโดดกอดรัดแขนของเซอร์เคิล โดยทิ้งน้ำหนักตัวลงไป ก่อนจะใช้ขาพาดร่างของอีกฝ่ายให้ล้มตัวลงนอน..
ตุบ..
ซึ่งในตอนนี้เซอร์เคิลกำลังนอนอยู่ในลักษณะที่กำลังถูกผมใช้สองมือจับล็อคกอดแขนซ้ายเอาไว้ ส่วนขาทั้งสองข้างและร่างของผมกำลังนอนหงายหน้าทับพาดอยู่บนช่วงตัวของเขาในท่าอาร์มบาร์
กร็อบ..!!!!
“อ้ากกกกกกกกกก..!!!”
ผมที่ยกสะโพกขึ้น ส่งผลทำให้แขนของเซอร์เคิลที่ถูกผมบล็อคขัดเอาไว้ต้องหักไปในทันที โดยที่ผมไม่แม้แต่จะหยุดคิดหรือลังเลใดๆ ก่อนที่อีกฝ่ายจะร้องตะโกนแหกปากออกมาด้วยความเจ็บปวด..
ฟุบ..!
ผมที่ปล่อยแขนของเซอร์เคิล พร้อมกับรีบเข้าไปใช้สองแขนขัดล็อคคอของเขาจากทางด้านหลัง ก่อนจะออกแรงรัดแบบสุดกำลังหมายจะให้อีกฝ่ายขาดหายใจจนหมดสติ..
“อ่อก..กรอด..!”เซอร์เคิลที่เริ่มจะตะเกียดตะกาย มืออีกข้างที่เหลืออยู่พลันพยายามที่จะแกะแขนของผมออก อีกทั้งยังเกือบจะสามารถแกะออกได้ในทันที นี่มันพลังบ้าอะไรกันวะ..
ฟุบ..!!!
ปึด..!
แต่ถึงอย่างนั้นแล้วต่อให้เซอร์เคิลจะมีพลังเยอะมากสักแค่ไหน แต่การที่ต้องถูกล็อคคอจนขาดอากาศหายใจไปเรื่อยๆ ยังไงก็ทำให้พลังของเขาอ่อนแรงลงทุกช่วงขณะ แถมเขายังเหลือแขนเพียงแค่ข้างเดียว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องหักแขนของเขาก่อน..
หมับ..!
กร็อบ..!!
“อั่ก..!”ผมที่ถึงกับร่างกระตุก เซอร์เคิลที่พยายามใช้ง้ามนิ้วงัดแขนของผมออกในตอนแรก จู่ๆก็เปลี่ยนมาเป็นจับแขนของผม เพียงแค่เขาออกแรงบีบ กระดูกแขนของผมก็หักลงในทันที..
“ฮึบ..!!!!”ผมที่ใช้แรงทั้งหมดที่มีรัดคอของเซอร์เคิลแบบสุดกำลัง แม้ว่ากระดูกแขนจะแหลกละเอียด แต่ถ้าเกิดผมปล่อยเขาตอนนี้ คนที่จะจบเห่ก็คงจะเป็นผม..
“อ่อ..ก..!”
“หึ..ฝันดีครับน้อง..!”ผมที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา และแล้วแขนของเซอร์เคิลก็ตกกระทบลงสู่พื้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าออกซิเจนไม่ไปเลี้ยงสมอง ทำให้เขานั้นขาดอากาศหายใจจนหมดสติไปแล้ว
“แม่งเอ้ยเจ็บชิบหายเลย ร่างกายนี่กระจอกโครต..”ผมที่ชันตัวลุกขึ้นมาพลางสบถบ่น โดยที่สภาพแขนข้างขวาของผมในตอนนี้กำลังห้อยต่องแต่ง แต่แทนที่ผมจะร้องแหกปากออกมาด้วยความเจ็บปวด ก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงทำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นราวกับว่าชินชากับเรื่องพวกนี้ไปแล้ว..
“ปะ..เป็นไปได้ยังไง..?”เจมิสที่ได้แต่ยืนอึ้ง สายตาของเธอกำลังจ้องมองไปยังร่างของเซอร์เคิลที่นอนหมดสติตาเหลือกขาวอยู่ โดยที่เหล่าทหารเกณฑ์เองก็พากันช็อคไม่ต่างกัน..
“หึ..เป็นไปได้ไงงั้นเหรอ..? เธอรู้ไหมว่าถ้านี่ไม่ใช่การทดสอบ ไอ้เจ้านี่ถูกฉันฆ่าตายไปตั้งแต่สองวินาทีแรกแล้ว อีกอย่างหนึ่งมันคิดที่จะฆ่าฉัน ฉันเลยจำเป็นต้องป้องกันตัวไป..”ผมที่เผลอหลุดปากกล่าวออกมา เดี๋ยว..ไหงไปพูดกับเจมิสอย่างงั้น เธอเป็นร้อยตรีนะโว้ย..!
“สะ..สตาร์ไหงจู่ๆแกถึงได้กลายเป็นคนที่โครตเท่เลยวะ ไม่เสียแรงที่ฉันเป็นไอ้จ้อนของแกเลยจริงๆ..? ไม่สิ..เอ๊ะ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าแกก็เป็นของแกแบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่งุนงงกับบุคลิกและความรู้สึกของตัวเองในเวลานี้..
“ฆะ..ฆ่า กะ..แกเนี่ยนะจะฆ่าเซอร์เคิ..ล อึก..!”เจมิสที่กล่าวออกมา เธอนั้นไม่เชื่อว่าสตาร์จะทำได้ เหตุผลที่ชายหนุ่มชนะคงจะเป็นเพราะโชคช่วย
เจมิสคิดอย่างนั้น จนกระทั่งทันทีที่เธอจ้องมองไปยังร่างของเขา สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่ชายหนุ่มคนเดิมอีกต่อไป หากแต่เป็นปีศาจในคราบมนุษย์ดวงตาสีแดงฉานที่มีจิตสังหารรุนแรงราวกับฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน จนทำให้เธอถึงกับต้องผงะ ร่างทั้งร่างจู่ๆก็สั่นกลัวตามสัญชาติญาณ..
“จริงสิ..ฉันจะถามเธออยู่พอดี ฉันสอบผ่านแล้..ว อะ..อะไรวะเนี่..ย..?”
ตึง..!
ยังไม่ทันที่สตาร์จะได้เอ่ยถามกับเจมิส จู่ๆร่างของชายหนุ่มที่ยืนอยู่ก็หมดสติล้มลงไปหัวฟาดกับพื้นของเวที โดยเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ชายหนุ่มนั้นจดจำมันไม่ได้เลยสักนิด..
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่เนี่ย..?”เจมิสที่สบถออกมา เพียงแค่ขยะธรรมดาคนเดียวกลับสามารถเอาชนะผู้ที่ถือครองเอมพาสระดับ 2 อย่างเซอร์เคิลได้ แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นความประมาทของเซอร์เคิลก็ตาม..
“ท่านร้อยตรีเจมิส เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วครับ..!!!”
ทันใดนั้นเองจู่ๆก็มีร่างของทหารยศจ่าสิบตรีนายหนึ่งที่วิ่งหน้าตั้งตรงเข้ามายังทิศทางของเจมิส..
“เอาไว้ก่อนเถอะ ตอนนี้ฉันว่าเรื่องที่ฉันเจอมันใหญ่กว่า..”เจมิสที่ตอบกลับ..
“ท่านร้อยตรีครับ ได้โปรดฟังก่อน..นี่เป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านพันตรี ตอนนี้ที่ชายแดนทางทิศใต้ถูกทหารจากเมลันเทียเข้าจู่โจม สถานการณ์ย่ำแย่อย่างหนัก ผู้บัญชาการซิลเวียจึงได้ส่งเรื่องขอกำลังสนับสนุนจากท่านพันตรี จนกระทั่งเขาได้มอบหมายให้ผมมารายงานภารกิจด่วนนี้ให้แก่ท่านได้รับรู้ โดยเขาได้มอบอำนาจในการตัดสินใจให้ท่านว่าจะพาใครไปด้วยก็ได้..!”จ่าสิบตรีที่กล่าวรายงานออกมา เมื่อเจมิสได้ยินก็เบิกดวงตากว้างขึ้น ก่อนจะรีบกระโดดลงมาจากเวที..
“เวรเอ้ย ทำไมต้องตอนนี้ด้วย..! แล้วร้อยตรีเซร่าล่ะ..?”เจมิสที่เอ่ยถามต่อจ่าสิบตรี
“ร้อยตรีเซร่าได้ถูกท่านพันตรีส่งตัวไปทำภารกิจที่ทางทิศตะวันออกครับ..!”
“กรอด..ท่านพันตรี คิดจะเล่นตลกกับฉันหรือยังไงกัน ทำแบบนี้มันเหมือนกับส่งฉันไปตายชัดๆ..!”เจมิสที่กัดฟันกล่าวออกมา โดยร้อยตรีที่ชื่อเซร่านั้นเป็นคนสำคัญที่เธอขาดไปไม่ได้..
“ท่านร้อยตรีครับ..! ตอนนี้สถานการณ์ทางชายแดนย่ำแย่จริงๆ ถ้าขืนไปช้าแม้แต่วินาทีเดียว กระผมเกรงว่า..”
“เออๆรู้แล้วโว้ย..!”เจมิสที่ตอบกลับด้วยความหัวร้อน เธอยืนนิ่งอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้..
“แกไปอุ้มไอ้เจ้านั่นมากับฉันด้วย แกบอกเองนะว่าท่านพันตรีมอบอำนาจให้ฉัน ฉันจะให้มันติดยศเป็นว่าที่สิบตรีชั่วคราว..”เจมิสที่กล่าวออกมา..
“เดี๋ยวนะครับ เท่าที่ดูจากชุดแล้ว ทหารเกณฑ์อย่างงั้นเหรอ..? หืม..? เฮ้ย..นั่นมันร้อยตรีเซอร์เคิลหนิ ทำไมถึงได้..”จ่าสิบตรีที่กล่าวออกมา ก่อนที่เขาจะตะโกนแหกปากเสียงดังลั่น เมื่อพบเข้ากับร่างของเซอร์เคิลที่กำลังนอนหมดสติอยู่..
“อย่าถามมาก เมื่อกี้แกยังเร่งฉันอยู่เลย รีบๆไปพาตัวมันมา ฉันจะไปรออยู่ที่รถม้า..!”
“รับทราบ..!!”เสียงของจ่าสิบตรีที่ขานรับ ก่อนที่เขาจะจัดการทุกอย่างตามคำสั่งของเจมิส..
MANGA DISCUSSION