Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. - ตอนที่ 77
แสงที่ 77 จ้อนผู้อบอุ่น
ท่ามกลางรถม้าที่กำลังขับเคลื่อน สไปร์สในตอนนี้กำลังเบิกดวงตากว้างขึ้น เธอกำลังอึ้งจากคำขอของผม..
“ได้ไหมครับ..”ผมที่ถามกับสไปร์สซ้ำอีกครั้ง จึงทำให้เธอตั้งสติ ก่อนจะก้มหน้าลง..
“ได้สิ..แต่หลังจากที่แกทำภารกิจสำเร็จนะ..”สไปร์สที่เงยหน้าขึ้นมาให้คำตอบ เธอพลันคลี่รอยยิ้มออกมา..
“อู้วววววววววววว~ เดี๋ยว..ฮึก เวเดอร์..พ่อขอโทษ..”ไอ้จ้อนที่ส่งเสียงออกมา ก่อนจะดึงสติกลับมานึกถึงเจ้าเวเดอร์ต่อ..
“งั้น..ถ้าสมมุติว่าผมทำได้ดี ผมอยากจะขอรางวัลเพิ่มได้ไหมครับ คิดซะว่าเป็นแรงผลักดันให้มีกำลังใจในการทำภารกิจ..”ผมที่บอกกับสไปร์ส จึงทำให้เธอขมวดคิ้วแน่น..
“อะไรล่ะ..?”สไปร์สที่ถามผม..
“ผมอยากจะขอจูบท่านสักครั้ง..”ผมที่บอกกับสไปร์ส เมื่อเธอได้ยินความต้องการของผม เธอก็อึ้งไป..
“เห็นทีว่ารางวัลนี้คงจะไม่ได้ สำหรับฉันจูบคือสัญลักษณ์ของความรัก พวกเราไม่ใช่คนรักกัน ไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำมัน..”สไปร์สที่ให้เหตุผล เพราะครั้งก่อนเธอก็ไม่ยอมให้ผมจูบ..
“อีกอย่างหนึ่งฉันเองก็เป็นผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาแล้ว จูบของฉันมันไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้นหรอก..”
“ผมไม่ได้คาดหวังว่าผู้หญิงที่ผมจะจูบหรือมีอะไรด้วยจะบริสุทธ์ทุกคนหรอกนะ ทุกคนย่อมที่จะมีอดีตเป็นของตัวเอง มันไม่ใช่ความผิดพลาด มันก็แค่ช่วงเวลาช่วงเวลาหนึ่ง สำหรับผมถ้าเป็นผู้หญิงที่ผมรู้สึกดีด้วย ผมก็ไม่รังเกียจหรอกครับ..”ผมที่ให้เหตุผลกับสไปร์ส เมื่อเธอได้ยินก็ต้องอึ้งไปอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะหยุดคิดด้วยความลังเลใจ..
“ก็ได้..ถ้าแกอยากที่จะได้มัน ฉันก็จะให้..”สไปร์สที่บอกกับผม แต่ตอนที่พูด..หน้าของเธอกลับดูแดงนิดๆ แม้เธอจะพยายามเก็บอาการเอาไว้ แต่ก็เก็บได้ไม่มิด ภายในใบหน้าที่เคร่งขรึมนั่น ผมดูออกว่าเธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง..
“แต่ก็นะ แกต้องสร้างผลงานให้ได้ด้วย ไม่งั้นก็อย่าหวังว่าจะได้รางวัลจากฉัน..”สไปร์สที่บอกกับผม..
“ครับ..”ผมที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา
“แล้วนี่พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหนเหรอครับ..?”ผมที่ถามกับสไปร์ส..
“ฐานที่มั่นจุดที่ 80 ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ..”สไปร์สที่บอกกับผม ก่อนที่รถม้าจะแล่นตัวออกเดินทาง..
“อย่างงั้นเองสินะครับ ในเมื่อมีเวลามากขนาดนั้นก็..”ผมที่บอกกับสไปร์ส ก่อนจะปลดเข็มขัดถอดกางเกง..
“เดี๋ยวๆ เจ๊เขาบอกว่าหลังจบภารกิจไม่ใช่เหรอ..?”ไอ้จ้อนที่เอ่ยถามกับผม ส่วนสไปร์สก็ถึงกับผงะ ก่อนที่เธอจะชักสีหน้า..
“แกคิดจะทำอะไร..?”สไปร์สที่ถามกับผม..
“อ้อ..เงื่อนไขเอมพาสน่ะครับ นอกจากจะมีเงื่อนไขหลังใช้แล้ว ผมยังมีเงื่อนไขแบบพิเศษที่จะต้องทำด้วย เอมพาสของผมจำเป็นที่จะต้องใช้พลังที่เรียกว่า X ฟอร์ส อารมณ์ก็เหมือนกับมานานั่นแหละ ส่วนวิธีที่จะใช้เติมพลัง X ฟอร์ส นั่นก็คือการทำเรื่องอย่างว่า หรือไม่ก็ช่วยตัวเอง ระดับพลัง X ฟอร์สที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับอารมณ์ทางเพศที่ได้รับ เอาเป็นว่าท่านทำเป็นมองไม่เห็นไปก็แล้วกัน..”
“อะ..อึก เงื่อนไขเอมพาสของแกนี่มัน น่าขยะแขยงชะมัด..”สไปร์สที่ดูเหมือนจะขยะแขยงจนรับไม่ได้พลันข่มตาหันหน้าไปทางอื่น ส่วนผมน่ะเหรอก็จัดการสาวแหนต่อหน้าของเธอ
“12 นาฬิกา ฟาเรนไฮต์ อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส แรงลมปกติคงที่ ระยะหวังผล 1 เมตร เล็งไปที่หน้า..ถ้าพร้อมแล้ว ยิงได้..!”เสียงของไอ้จ้อนที่คำนวนแรงลม ยังไม่เสร็จโว้ย..!
12 ชั่วโมงต่อมา..
หลังจากที่ผมกับสไปร์สเดินทางออกมาจากศูนย์บัญชาการ ช่วงเวลาก็ล่วงเลยผ่านพ้นมานานถึง 12 ชั่วโมงเต็มๆ ตลอดการเดินทางผมก็ได้เติมพลัง X ฟอร์ส ด้วยการใช้ใบหน้าสวยๆของสไปร์สที่นั่งอยู่ในการจินตนาการ อีกทั้งเธอยังยอมที่จะช่วยให้ผมเสร็จภารกิจง่ายขึ้นด้วยการปลดกระดุมแหวกเสื้อออก จนเผยให้เห็นชุดชั้นในสีดำลายลูกไม้สุดเซ็กซี่กับหน้าอกคัพ C
แต่ถึงอย่างนั้นสไปร์สก็ไม่ได้เข้ามาช่วยอะไรผม เธอเพียงแต่นั่งเป็นเป้านิ่งให้ผมปากระป๋องนมขนหวานใส่ โดยที่ผมก็ปาไปกว่าหลายสิบกระป๋องจนไอ้จ้อนต้องร้องขอชีวิต..
《ชาร์จพลัง X ฟอร์ส 100 หน่วย》
“เอื้อ..ยะ..ยอมแล้ว มะ..มือของแกมันไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน ขะ..ข้าไม่ชอบมือ มะ..มันร่วนและหยาบ..!”ไอ้จ้อนที่ร้องขอชีวิต แหม..พอเจออะไรนุ่มๆนี่ลืมเมียเก้าอย่างพระนางทั้งห้าไปเลยนะ
“จะพอได้หรือยัง..?”สไปร์สที่ถามผม พร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบหน้าและเนินอกที่เปียกชุ่มไปด้วย…เหงื่อละกัน (เดี๋ยวบิน)
“พอแล้วครับ..ช่วยได้มากเลย..”ผมที่ทำความสะอาดฝ่ามือ พร้อมกับใส่เข็มขัด..
“ท่านพันตรี..พวกเราผ่านศูนย์บัญชาการชายแดนเหนือที่ 3 มาแล้ว อีกไม่เกิน 2 กิโลเมตรจะถึงฐานที่มั่นแล้วครับ..”เสียงของทหารยศจ่าสิบตรีที่รับหน้าที่เป็นพลขับตะโกนขึ้น..
“เข้าใจแล้ว..”สไปร์สที่หันไปตอบกลับ ในระหว่างนั้นเธอก็พลางติดกระดุมเสื้อ..
“เตรียมตัวให้พร้อม พวกเรากำลังจะถึงที่หมายแล้ว..”สไปร์สที่หันมาบอกกับผม..
“ได้ยินแล้วครับ..”
ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานนัก ในท้ายที่สุดรถม้าก็ได้แล่นตัวมาถึงฐานที่มั่นจุดที่ 80 ทันทีที่มาถึงสไปร์สก็เอื้อมมือไปเปิดประตู ก่อนจะกระโดดลงจากรถไป..
แอ๊ดดดดดด
ฟิ้ว..~
“อะ..อึก..!”
ทันทีที่ประตูถูกเปิดออก สายลมเย็นยะเยือกก็ซัดเข้ามากระทบร่างของผม ภาพที่ปรากฏคือทั่วทั้งบริเวณถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน..
ฟุบ..
“เอาไปใส่ซะ แล้วก็เอาอินทนูไปติดเอาไว้ที่เสื้อกันหนาวด้วย..”สไปร์สที่เอาเสื้อกันหนาวขนสัตว์สีดำมาให้ โดยที่เธอเองก็สวมใส่มันด้วยเช่นกัน โดยที่เสื้อกันหนาวตัวนี้ไม่ได้ดูใหญ่จนเทอะทะ แต่กลับให้ความอบอุ่นเป็นอย่างดี..
“หนาวโว้ย..!!!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา มันกำลังหดตัวจากสภาพอากาศที่ติดลบ ผมเองก็ไม่ได้คิดเอาไว้ว่าจะต้องมาเจอกับสภาพอากาศแบบนี้
ฟุบ..!
ผมที่ถอดอินทนูและนำไปติดเอาไว้บนบ่าของเสื้อกันหนาว ก่อนจะติดกระดุมเสื้อ ส่วนเหรียญกล้าหาญ ผมไม่ได้ถอดมันออก มันยังคงติดอยู่ในยูนิฟอร์มที่สวมทับอยู่ข้างใน..
ในตอนนี้ผมกำลังยืนอยู่ภายในฐานที่มั่น ทั่วทั้งบริเวณมีเต็นส์และกระโจมที่ปลูกเอาไว้กว่าหลายหลัง อีกทั้งยังมีทหารที่ประจำการอยู่ในฐานที่มั่นกว่าหลายร้อยนาย ซึ่งแต่ละนายกำลังทำกิจวัตรประจำวันของตัวเอง..
โดยที่รอบๆบริเวณฐานที่มั่นจะถูกปกคลุมไปด้วยพื้นหิมะ ส่วนภายในอาณาเขตของฐานที่มั่นหิมะก็ได้ถูกกวาดออกไปจนเห็นเป็นพื้นดิน..
“เดี๋ยวฉันจะเข้าไปหาพันตรีพอล ในระหว่างนั้นแกก็ไปหาที่นั่งรอก่อนก็ได้ ส่วนกองกำลังของพวกเราและเอทารอสที่ออกทำภารกิจจะร่วมตัวกันอยู่ตรงลานนั่น..”สไปร์สที่บอกกับผม ก่อนจะชี้ไปยังพวกเหล่าทหารกว่าร้อยนายที่กำลังกระจายตัวกันอยู่ภายในลานดิน ณ จุดๆหนึ่งของฐานบัญชาการ โดยที่ทหารเหล่านั้นกำลังนั่งกันอยู่เป็นกลุ่มๆ บางกลุ่มกำลังนั่งผิงไฟ ส่วนบางกลุ่มก็หาเครื่องดื่มมาดื่ม พลางพูดคุยสนทนากัน
“ครับ..”ผมที่ขานรับสไปร์ส..
“อ้อ..ถ้าไม่รู้ว่าจะไปนั่งตรงไหนก็ไปหาจ่าสิบเอกเซนินก็ได้ เขาคือทหารภายใต้บังคับบัญชาของฉัน ส่วนพวกจ่าสิบตรีและจ่าสิบโทคนอื่นๆจะถูกส่งคละมาจากกองพันอื่น..”สไปร์สที่บอกกับผม ซึ่งถ้าจำไม่ผิดทหารส่วนใหญ่ที่ถูกส่งมาถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ทหารยศจ่า แต่กลับเป็นทหารที่เคยติดลำดับหัวกะทิ ต่างจากทหารยศจ่าทั่วๆไปที่ผมเคยเจอ..
“ครับ..”ผมที่ตอบกลับ ก่อนจะหันไปมองยังกองกำลังทหารที่อยู่ทางเบื้องหน้า โดยที่กองกำลังจากทั้งสองเหล่าทัพในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทารอนหรือเอทารอสกำลังปะปนอยู่ด้วยกัน
แต่เท่าที่ผมจำได้ กองทัพทารอนกับเอทารอสไม่ค่อยที่จะลงรอยกันสักเท่าไหร่ไม่ใช่หรอกเหรอ แล้วไหงถึงได้ดูสนิทกันจังล่ะ..
เฟี้ยว..!~
ตุม..
ในขณะที่ผมกำลังเดินไปยังกองกำลังที่อยู่ทางเบื้องหน้า จู่ๆก็มีเสียงของระเบิดที่ดังขึ้น การระเบิดที่ว่าเป็นเพียงแค่การระเบิดแบบเล็กๆ เมื่อผมหันไปมองก็พบว่าในตอนนี้ทหารทารอนกับเอทารอสกลุ่มหนึ่งกำลังดวลยิงเป้ากันอยู่
ซึ่งการดวลยิงเป้าที่ว่าก็คือการเอาถ่านสีดำไปวาดเป็นเป้าบนลำต้นของต้นไม้ต้นใหญ่ ใครยิงเข้าเป้ามากที่สุดก็จะถือว่าชนะ
“ว่าไง..~ ฉันยิงเข้ากลางเป้าเลยนะ โชว์ของหน่อยสิอินทรี..”เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตะโกนดังขึ้น มันเป็นชายหนุ่มผมสีเงินหน้าตาหล่อเหลา ส่วนระดับยศของมันคือจ่าสิบตรี สังกัดอยู่เหล่าทัพทารอน..
“แม่นชิบหายเลยนะแกน่ะ ขอยอมแพ้วะ..”เสียงของทหารยศจ่าสิบตรีจากเอทารอสที่ตอบกลับ เมื่อชายผมสีเงินได้ยินแบบนั้นก็ยักไหล่..
“พวกอินทรีก็ไม่เห็นว่าจะเท่าไหร่เลยนี่หว่า..?”เสียงของชายหนุ่มผมเงินที่กล่าวออกมา เมื่อทหารของเอทารอสได้ยินแบบนั้นก็พลันชักสีหน้า ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะตวาดออกมาด้วยความโกรธ..
“นี่แก..!!!”
“เจ้าหนู..เบื้องบนสั่งมาว่ายังไง..?”
แต่แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงของชายอายุประมาณ 40 ต้นๆที่เอ่ยถามต่อชายหนุ่มผมเงิน เขาเป็นชายที่มีหน้าตาค่อนข้างดุดัน มีเส้นผมกับดวงตาเป็นสีแดงเลือดนก อีกทั้งเขายังนั่งสูบบุหรี่ดูการดวลยิงเป้า โดยใช้ก้อนๆหนึ่งเป็นที่นั่ง ส่วนระดับยศของเขาคือจ่าสิบเอก
“อะไรกันจ่า..ผมก็แค่พูดไปตามความจริงก็เท่านั้น..”ชายผมเงินที่ตอบกลับ..
“แต่คำพูดของแกมันจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเหล่าทัพที่กำลังฟื้นฟูต้องกลับมาพังลงอีกครั้ง และมันจะส่งผลกระทบไปถึงภารกิจที่พวกเรากำลังจะทำ เวลาจะพูดอะไรก็หัดระวังปากซะบ้าง พวกอินทรีมันแพ้แก มันก็ยังยอมรับความพ่ายแพ้ แต่แกกลับทำตัวหยิ่งผยองใส่พวกมั..น..”
“หนวกหูชะมัด..”
ในขณะที่ชายผมแดงกำลังว่ากล่าว ชายผมเงินก็กล่าวแทรกเข้ามา พร้อมกับชักสีหน้าไม่พอใจ แสดงออกให้เห็นทั้งการกระทำและคำพูดว่าเขาไม่ได้ให้เกียรติชายผมแดงที่ยศสูงกว่าเลย
“เมจ..ฉันว่านายควรจะขอโทษพวกอินทรีนะ อย่าสร้างปัญหาจะดีที่สุด เดี๋ยวก็ซวยกันยกกลุ่มอีกหรอก คราวก่อนโดนท่านพันตรีสวดไปแกยังไม่เข็ดอีกเหรอ..?”เสียงของชายหนุ่มผมสีทองหรือทหารยศจ่าสิบตรีอีกคนที่ตะโกนบอกกับชายผมเงินตัวการที่ชื่อว่าเมจ ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะอยู่กลุ่มเดียว..
“ใช่ๆ..!~”เสียงของหญิงสาวภายในกลุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆกับชายผมทอง พลันชูแขนกล่าวออกมาอย่างร่าเริง โดยที่หญิงสาวคนนั้นมีหน้าตาที่ค่อนข้างที่จะน่ารักไว้ผมทรงโมจิ..
“ซีเนียว แองจี้ อะไรของพวกแกสองคนเนี่ย ฉันอยู่กลุ่มเดียวกับพวกแกนะเว้ย..?”เมจที่กล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ โดยที่คนทั้งสองก็ได้แต่กลอกตามองบน พลางถอนหายใจออกมา..
“แต่ฉันเห็นด้วยกับซีเนียวแล้วก็แองจี้..นายน่ะหยุดสร้างปัญหาให้กลุ่มสักทีเถอะ..”
แต่แล้วจู่ๆหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างๆกับชายหนุ่มที่ชื่อซีเนียวและหญิงสาวที่ชื่อแองจี้ก็เอ่ยดังขึ้น
แต่ทว่าน้ำเสียงของเธอคนนั้นมันกลับทำให้ดวงตาของผมพลันต้องเบิกกว้าง ผสานกับหัวใจที่กระตุกวูบไปชั่วขณะ ผมรู้สึก..รู้สึกคุ้นเคยกับน้ำเสียงแบบนั้น..
“อาเซีย..นะ..นี่เธอก็เอากับพวกมันด้วยอย่างงั้นเหรอ..?”สิ้นเสียงของเมจที่เอ่ยชื่อของหญิงสาวคนนั้น มันก็ทำให้ภาพความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมพลันไหลเข้ามา..
[ฉันจะอยู่เคียงข้างนายเองสตาร์]
[ฉันเชื่อใจนายนะ นายไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอก..]
[ไปซะ..คงมีเพียงแค่เรื่องนี้ที่ฉันรับไม่ได้]
[พรุ่งนี้ฉันจะสมัครเข้าอาคัส แล้วก็จะไปเป็นทหาร ส่วนคนอย่างนายที่ไม่มีเอมพาส ฉันขอเสนอให้จงหนีไปซะ หนีไปที่ไหนก็ได้ นี่คงเป็นความหวังดีสุดท้ายที่คนอย่างฉันจะบอกกับนาย..]
ภาพความทรงจำที่ไหลเข้ามาภายในหัว แต่ผมกลับโฟกัสไปที่เหตุการณ์สำคัญๆ ซึ่งเอาจริงๆมันก็ทำให้ผมแอบเจ็บอยู่นิดๆ
โดยผู้หญิงที่ชื่ออาเซียนั้นก็คืออดีตเพื่อนสนิทและคนรักของสตาร์ในโลกนี้ เท่าที่ผมตรวจดูจากความทรงจำ เธอก็ถือว่าเป็นผู้หญิงที่นิสัยดีมากๆคนหนึ่ง เธอไม่ได้หักหลังสตาร์ เพียงแต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เธอเข้าใจผิด จนทำให้ความรู้สึกของเธอต้องแปรเปลี่ยนไป
แต่ถึงอย่างนั้นหลังจากที่อาเซียเปลี่ยนไปแล้ว เธออาจจะไม่รู้ตัวว่าเธอเองก็ทำร้ายความรู้สึกของสตาร์ซะจนป่นปี้ อีกทั้งเธอยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุและแรงจูงใจหลักที่ทำให้สตาร์ตัดสินใจที่จะปลิดชีวิตของตัวเอง..
“ขอโทษพวกเขาไปซะ..”อาเซียที่บอกกับเมจ เธอเองก็เป็นทหารยศจ่าสิบตรีเหมือนกัน
โดยอาเซียนั้นเธอเป็นผู้หญิงที่มีหน้าตาสวยคมเข้มเอามากๆ แถมจมูกยังโด่งเป็นสัน เธอมีเส้นผมเป็นสีดำ มีดวงตาเป็นสีทองอำพันคู่สวยที่ดูน่าหลงไหล อีกทั้งเธอยังมีสัดส่วนและรูปร่างที่ดีมากๆ อ้างอิงจากความทรงจำเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน.
ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดอาเซียออกมาจากโบสถ์มิสเทลก่อนผมแค่ 2 ปี เธอน่าจะจบหลักสูตรของอาคัสได้ในระยะเวลาอันสั้น พอบรรจุเข้ากองทัพเธอก็น่าจะได้ข้อเสนอให้ติดยศสิบโทหรือไม่ก็สิบเอก ก่อนจะไต่เต้าจนได้ติดยศจ่าสิบตรี..
ตามปกติแล้วเท่าที่ผมสังเกตเห็น ทหารยศจ่าสิบตรีจนถึงจ่าสิบเอกส่วนมากจะเป็นทหารที่มีอายุเลยเลขสามไปแล้ว มีทหารเพียงน้อยคนที่ผมเห็นว่าจะสามารถติดยศจ่าได้ตั้งแต่อายุยังน้อย..
ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะว่าทหารบางคนเลือกที่จะทำภารกิจง่ายๆอย่างภารกิจระดับ 1 และภารกิจระดับ 2 มันจึงทำให้ผลงานของพวกเขาดูไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก จนทำให้เลื่อนระดับยศได้ช้ากว่าทหารบางคนที่เลือกจะทำภารกิจที่มีความเสี่ยง..
“อึก..ก็ได้ๆ..”เมจที่กล่าวออกมา ถึงท่าทีของเขาจะดูไม่ค่อยที่จะพอใจสักเท่าไหร่ แต่ก็ยอมที่จะทำตามคำสั่งของอาเซีย..
“เฮ..พวกนายน่ะ ที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ฉันขอโทษด้วยนะ ฉันก็แค่ได้ใจไปหน่อย..”เมจที่ตะโกนบอกกับพวกทหารของเอทารอส..
“เออ..ทีหลังก็ระวังคำพูดด้วย พวกฉันเองก็พยายามปฏิบัติตัวดีๆกับพวกแกเหมือนกัน ทั้งหมดก็เพื่อเหล่าทัพของพวกเรา..”ทหารจากเอทารอสที่กล่าวออกมา..
“หึ..”เมจที่หันหลังและแอบเบะใส่พวกเอทารอส นิสัยตอแหลเหมือนกับผู้หญิงเลยแหะ..
“อ่อ..และที่สำคัญจ่าคนนั้นน่ะ ผมขอเตือนด้วยความหวังดี ทีหน้าทีหลังก็อย่าสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องคนอื่นจะดีกว่า อย่าคิดว่ายศสูงกว่าผมแค่ขั้นสองขั้นแล้วจะเหนือกว่าผม..”เมจที่หันไปกล่าวกับชายผมแดงที่นั่งอยู่ ทั้งๆที่ยศของมันกับอีกฝ่ายก็ห่างกันถึงสองขั้น แต่มันกลับทำตัวหยิ่งผยอง ชัดเลย..ไอ้พวกมีแบ็ค..
แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับสัมผัสได้ว่าเจ้านี่มันไม่ใช่ตัวประกอบกระจอกๆ อย่างไอ้ไมค์หรือไอ้รันต้า มันดูมีออร่าที่พิเศษกว่านิดหน่อย แค่นิดหน่อยจริงๆ..
“เข้าใจแล้ว ขอบคุณที่เตือน ทางฉันก็ผิดเองที่เสนอหน้าเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น..”ชายผมแดงที่ตอบกลับ พร้อมกับดับบุหรี่ลงกับผืนหิมะ..
“หึ..รู้ตัวก็ดีแล้ว อยู่มาตั้งอายุขนาดนั้นแต่กลับเป็นได้แค่ยศจ่าสิบเอก ตลอดเวลาที่ผ่านมาคงเอาแต่คอยหลบอยู่แนวหลังและเกาะเอาความสำเร็จของคนอื่นจนได้เลื่อนขั้นสินะ เอาเถอะ..ผมเข้าใจดี คนแบบจ่ามีอยู่ตั้งถมเถไป แต่ส่วนใหญ่จะตายในสมภรภูมิ..”เมจที่กล่าววาจาเสียดสีชายผมแดง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับทำเป็นเมินไม่สนใจ..
“ชิ..มีอินทรีตัวไหนอยากจะมาดวลกับฉันต่อไหม..? รอบนี้มาเดิมพันกันหน่อยเป็นไง..”เมจที่เดาะลิ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนจะละความสนใจจากชายผมแดงและหันกลับไปตะโกนถามกับทหารของเอทารอส..
“เดิมพัน..? ด้วยอะไรล่ะ..”ทหารจากเอทารอสที่เอ่ยถาม ถึงฝีมือของเมจจะเป็นของจริง แต่ก็ใช่ว่าจะแพ้ไม่ได้..
“น้ำยามานา 5 ขวดกับบุหรี่ 10 ม้วน ใครยิงเข้ากลางเป้าครบสามครั้งคือผู้ชนะ..”เมจที่กล่าวออกมา พร้อมกับหยิบนำน้ำยามานาจำนวน 5 ขวด และบุหรี่จำนวนหนึ่งกล่องออกมาวางลงบนตอไม้ที่ถูกตัดจนมีลักษณะเหมือนกับที่นั่ง
“น่าสนุกดีหนิ ถ้างั้นเอาด้วย..”เสียงของทหารจากเอทารอสที่กล่าวออกมา บางคนหยิบน้ำยามานากับบุหรี่เอาออกมาวาง..
“หึๆ ฉันจะหลอกแดกให้เกลี้ยงเลยคอยดู..”เมจที่หัวเราะอยู่ภายในลำคอ พร้อมกับแสยะรอยยิ้มชั่วร้าย ส่วนทางด้านเพื่อนภายในกลุ่มก็พลันส่ายหน้าไปมาด้วยความเอื้อมระอา..
“ไร้สาระ..”
แต่แล้วทันใดนั้นจู่ๆก็มีเสียงของใครบางคนที่ดังเอ่ยดังขึ้น เมื่อทุกๆคนหันไปมองยังทิศทางของต้นเสียงก็พบเข้ากับ..
“เชี้ยยยยยยยยย…”เสียงของไอ้จ้อนที่กู่ร้องตะโกนแหกปากออกมา
“อึก..”ผมที่ถึงกับสะอึกพูดอะไรไม่ออก ดวงตาของผมค่อยๆเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกตะลึงแบบยกกำลังแปด จากภาพของหญิงสาวในชุดผ้าคลุมสีขาวที่กำลังยืนอยู่
โดยที่หญิงสาวคนนั้นมีใบหน้าที่โครตจะสวย สวยแบบจนไม่สามารถบรรยายได้ เธอมีเส้นผมเป็นสีขาว มีดวงตาเป็นสีน้ำทะเล อีกทั้งยังมีผิวกายที่ขาวดุจดังหิมะ จนแทบจะแยกไม่ออกว่าอันไหนผิวคนหรืออันไหนพื้นหิมะ ส่วนขนาดหน้าอก..
“อ้าวเฮ้ย..! ผ้าคลุมอย่าบังดิ..!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องตะโกนแหกปากอย่างต่อเนื่อง จากผ้าคลุมสีขาวที่คลุมปิดร่างกายท่อนบนครึ่งตัวเอาไว้..
“อึก..อะไรของเธอ ไอริน..ฉันไม่สนใจผู้หญิงที่สวย แต่แตะตัวไม่ได้อย่างเธอหรอกนะ..”เมจที่ตอบกลับหญิงสาวรูปงามที่ปรากฏตัวออกมา โดยที่พวกทหารชายก็ต่างพากันจ้องมองเธอจนตาค้าง ไม่เว้นแม้แต่เมจที่อยากจะหลบสายตาไม่มองหน้าของเธอแต่ก็ทำได้เพียงแค่ชำเลืองสายตามองไปทางอื่น..
“ฉันบอกว่ามันดูไร้สาระ แทนที่จะเอานำยามานามาเล่นอะไรไร้สาระแบบนี้ ฉันว่าเก็บเอาไว้ใช้ตอนออกรบไม่ดีกว่าเหรอ..?”ไอรินที่กล่าวออกมา แต่ทว่าตอนที่พูดน้ำเสียงกับสีหน้าของเธอกลับดูเย็นชาและไร้ซึ่งอารมณ์..
“สตาร์..!!!! สาวคลู..!!!!!”
‘เออโว้ย..! เห็นแล้ว แกจะแหกปากทำไมฟะ..?!’ผมที่ตวาดใส่ไอ้จ้อนที่เอาแต่ร้องตะโกนแหกปาก..
“งั้นเหรอ..? ถ้างั้นมาลองเดิมพันกับฉันดูไหมล่ะ..?”เมจที่ท้าทายไอริน แต่แล้วจู่ๆเธอที่เดินมาหยุดยืนประจันหน้ากับอีกฝ่ายก็ได้กางฝ่ามือข้างขวาออกไปข้างลำตัว ก่อนที่ทันใดนั้น..
ฟ้าว..!!!!!!!
ฉึก..!!!!!!!
ทันใดนั้นจู่ๆที่ฝ่ามือของไอรินก็มีหอกน้ำแข็งที่โผล่ออกมา ก่อนจะพุ่งทะยานไปเสียบเข้ายังกลางเป้า โดยที่การโจมตีของเธอ เธอไม่แม้แต่จะหันไปมองมันเลยสักนิด ส่งผลทำให้ทุกๆคนที่ยืนอยู่โดยรอบต่างต้องพากันอึ้ง..
“ก็งั้นๆ..”เมจที่กล่าวออกมา พร้อมกับกางฝ่ามือเล็งไปยังเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร
โดยผมที่ยืนดูอยู่ก็รู้สึกหนาวๆขึ้นมา จนต้องเดินไปยังชายผมแดงที่นั่งอยู่บนก้อนหิน..
“เออคื..อ..”
ฟุบ..!
ภายในชั่วพริบตาที่ผมเดินเข้าไปหาชายผมแดงจากทางด้านหลัง พร้อมส่งเสียงเอ่ยปากเรียกขาน จู่ๆเขาก็หันขวับกลับมาจ้องหน้าของผม อีกทั้งยังปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา จนทำให้ผมถึงกับเหงื่อตก ตาลุงนี่..ไม่ใช่คนธรรมดา ไหงมีแต่พวกชอบแฝงตัวฟะ..
“อะ..อึก มีอะไรหรือเปล่า..?”ชายผมแดงที่ตั้งสติ ก่อนจะเอ่ยถามผม..
“พอดีผมเห็นว่าคุณมีเหล้าอยู่ ผมอยากจะขอกินสักอึกเพื่ออบอุ่นร่างกายหน่อยน่ะครับ..”ผมที่ตอบกลับชายผมแดง จากการที่ผมสังเกตเห็นว่าก่อนหน้านี้เขาหยิบขวดเหล็กเล็กๆหรือกระบอกใส่เหล้าที่น่าจะบรรจุเหล้าขึ้นมาดื่ม..
“อะ..อ้อ ดะ..ได้สิ..”ชายผมแดงที่ตอบกลับ ก่อนจะหยิบขวดเหล็กแบบพกพาโยนส่งมาให้ สีหน้าของเขาดูอึ้งเล็กน้อย ไม่แน่ว่าอาจจะกำลังอึ้งเพราะว่าผมเข้ามาข้างหลังของเขาโดยที่เขาไม่รู้สึกตัว..
หมับ..
“ขอบคุณครับ..อึก..”ผมที่เปิดฝาขวด ก่อนจะยกมันขึ้นมากระดกดื่มหนึ่งอึก เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น และจึงปิดฝาเตรียมที่จะคืนมันให้กับชายผมแดง..
“เก็บเอาไว้เถอะฉันยกให้..”ชายผมแดงที่บอกกับผม พลางยกมือขึ้นมา..
“หืม..จะดีเหรอครับ..?”ผมที่ถามกับชายผมแดง..
“เอาไปเถอะ..ฉันรู้สึกสนใจในตัวนายก็เลยยกให้..”ชายผมแดงที่ตอบกลับ โดยที่ผมก็แสร้งทำเป็นหรี่ตา..
“ถ้างั้นก็ขอบคุณครับ หะ..หืม..? พอดีเลย..”ผมที่ตอบกลับชายผมแดง แต่จู่ๆสายตาของผมก็เหลือบมองไปเห็นอะไรบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนลำต้นของต้นไม้ที่ใช้เป็นเป้ายิง
ซึ่งผมนั้นก็ไม่รอช้ารีบก้าวเดินไปยังทิศทางของเมจกับไอริน ก่อนจะเดินไปหยุดยืนแทรกกลางอยู่ระหว่างร่างของคนทั้งสอง ทำให้เมจที่กำลังจะยิงกระสุนแรงดันเวทต้องหยุดชะงัก..
“หะ..หืม..? อะไรของแก ถ้าคิดจะเดิมพันไปต่อแถว ตอนนี้ฉันกำลังดวลกับยัยนี่อ..ยู่..”
ฟุบ..!!!
ชิ้ง..!!!!
ฟ้าวว..!!!!
ฉึก..
ในขณะที่เมจมันกำลังพูดกับผม ผมที่ยืนอยู่ก็ได้สะบัดข้อมือปามีดสั้นออกไป ก่อนที่มันจะพุ่งทะยานไปปักลงยังต้นไม้ทางเบื้องหน้า แต่ทว่ากลับไม่ได้ปักโดนเป้า..
“อุ๊บ..ฮ่าๆ ไม่ได้เฉียดเลย..”ซีเนียวที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ส่วนทางด้านของเมจกับไอรินก็เอาแต่ยืนจ้องมองมาที่ผม โดยที่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรใครทั้งนั้นพลันออกตัวเดินตรงไปยังต้นไม้ต้นตรงหน้า..
ฟุบ..
“ฮะ..เฮ้ย คิดจะทำอะไรของแกวะ..? เดี๋ยวนะ..สิบเอกงั้นเหรอ ไอ้เวรนั่นมันมาทำอะไรที่นี่วะ..”เมจที่กล่าวออกมา แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสังเกตเห็นดาวที่ประดับอยู่บนอินทนูของสตาร์..
“….”อาเซียที่หรี่ตาลง ตั้งแต่ที่ชายหนุ่มปริศนาปรากฏตัวออกมา เธอก็รู้สึกว่าเขาดูคุ้นๆ สายตาคู่สีทองในตอนนี้กำลังจับจ้องมองไปยังแผ่นหลังของร่างที่กำลังเดินไปหยุดอยู่ตรงต้นไม้..
“เจ้าสิบเอกนั่นมันก็แค่อยากจะเล่นด้วยหรือเปล่า คงเป็นทหารที่ประจำการอยู่ยังฐานที่มั่นแห่งนี้ล่ะมั้ง..”เสียงของทหารจากเอทารอสนายหนึ่งที่กล่าวออกมา
“แต่ถึงอย่างนั้นฝีมือของมันก็กากชะมัด แถมยังปามีดแทนที่จะใช้กระสุนแรงดันเวทด้วย มันสติดีอยู่หรือเปล่าวะ..?”เสียงของทหารอีกนายที่กล่าวออกมา..
“ดะ..เดี๋ยวสิ ดูให้ดีๆ..”
แต่แล้วจู่ๆทหารนายหนึ่งก็เอ่ยดังขึ้น เมื่อสตาร์ที่เดินไปถึงต้นไม้ได้ทำการดึงมีดออกมา แถมมีดที่เขาปาออกไปยังเสียบเข้ากับหัวของงูพิษ..
“พอดีเลย..~ ถึงจะงงๆก็เถอะว่าทำไมงูเห่าถึงมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหิมะแบบนี้ได้ แต่แบบนี้ก็ถือว่าประจวบเหมาะ..”ผมที่บอกกับตัวเอง ในระหว่างนั้นผมก็เดินกลับมาทางพวกทหาร โดยที่ในตอนนี้ทุกๆกำลังยืนอึ้งกันอยู่..
ฟุบ..
ปึดๆ ๆ
ผมที่เดินมาหยุด พร้อมกับก้มหน้าก้มตาใช้มีดชำแหละควานเอาถุงดีงูออกมา ก่อนจะโยนศพของมันทิ้งไป..
“นะ..นั่นมันงูไฟทมิฬหนิ พิษของมันรุนแรงมากๆเลยนะ ถ้าถูกพิษของมันเข้าไป ร่างกายจะเหมือนกับถูกไฟเผา..”เสียงของทหารนายหนึ่งที่กล่าวออกมา แต่ทว่าผมที่ยืนอยู่กลับนำถุงดีงูบีบของเหลวใส่เข้าไปในขวดเหล็กผสมกับเหล้า ต่อหน้าต่อตาของเมจกับไอรินที่กำลังจ้องมองมาด้วยความงุนงง..
ฟุบ..
“อึก..!”
“ฮะ..เฮ้ย..!”เสียงของทหารบางนายที่กู่ร้องออกมา เมื่อจู่ๆผมก็ทำการกระดกเหล้าที่ผสมกับของเหลวบางอย่างภายในตัวของงูเข้าไป สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือร่างกายที่ร้อนผ่าวจากภายใน ก่อนจะกลายเป็นความอบอุ่น..
“มะ..มันกินอะไรในตัวของงูไฟทมิฬเข้าไป เดี๋ยวก็ตายหรอก..? มันบ้าหรือเปล่าวะ..”เสียงทหารของเอทารอสที่ตะโกนกู่ร้อง ซึ่งทุกๆคนก็เอาแต่ยืนอึ้ง ..
“มะ..ไม่จริง ทำไมกันล่ะ ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่..”อาเซียที่กล่าวออกมา ดวงตาของเธอกำลังเบิกกว้างขึ้น จากภาพของชายหนุ่มที่กำลังสะท้อนอยู่ภายในแววตา จนทำให้ภาพในอดีตเก่าๆพลันหวนคืนกลับมาบีบคั้นหัวใจของเธอ…
ฟุบ..
“เอาหน่อยไหม..? มันช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นนะ ถึงรสชาติจะแหวะๆก็เถอะ…”ผมที่เดินไปหยุดแทรกกลางระหว่างเมจกับไอริน พลันหันไปหาไอริน ก่อนจะยื่นส่งขวดเหล็กให้
ซึ่งไอรินที่เห็นแบบนั้นก็จ้องมองไปที่ขวดเหล็กสลับกับจ้องมองมาที่หน้าของผม เธอกำลังดูสับสนและงุนงง โดยที่ผมก็แค่แกล้งยื่นไปให้เธอเล่นๆก็เท่านั้น แต่ทว่าเธอกลับ..
หมับ..
“ขอบคุณ อึก..”
ท่ามกลางเหล่าบรรดาทหารที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ทุกๆคนต่างพากันอ้าปากช็อคค้าง เมื่อจู่ๆไอรินก็ทำการรับขวดเหล็กในมือของผม ก่อนจะเอาไปกระดกดื่มหนึ่งอึก..
“อึก รสชาติแย่จริงๆด้วย แต่..ระ..ร้อน มะ..ไม่สิ อุ่นแล้ว..เจ้าสิ่งนี่มันคืออะไรกัน..?”ไอรินที่หยุดชะงักไปชั่วขณะ ก่อนที่เธอจะเบิกดวงตากว้างขึ้น สีหน้าของเธอดูตกตะลึงกับผลลัพธ์ของเหล้าผสมดีงู..
“ก็แค่เหล้าผสมกับพิษงู คนกินตาย คนคายรอด..”
“อุ๊บ..!”
สิ้นคำตอบของผม ไอรินก็เอามือปิดปากทำท่าเหมือนจะอ้วกออกมา..
“อย่าไปแกงเธอเซ้..! จะว่าไปแล้วตัวของพี่ก็อุ่นเหมือนกันนะน้อง ถ้าน้องชอบอะไรอุ่นๆก็ต้องพี่เนี่ยแหละ..!!!!!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องพร้อมกับเสนอตัว ก็นะ..ตัวของมันก็อุ่นจริงๆนั่นแหละ..
ดูเหมือนว่าภารกิจในครั้งนี้มันจะดูน่าสนุกขึ้นมาแล้วล่ะสิ..
ไรท์:คอมเม้น.!!!