Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. - ตอนที่ 58
แสงที่ 58 เลือกม้าก่อนเข้าหน่วย (2)
“นั่นมันม้าอะไรกัน..?”
“ขนสีดำ ตาสีแดง หรือว่าจะเป็นเจ้าอาชาทมิฬ..!?”
เสียงของเหล่าบรรดานักเรียนที่ต่างพากันกล่าวออกมาด้วยความตกตะลึง จากร่างของอาชาทมิฬอันแสนน่ายำเกรงที่ยืนอยู่..
“อาชาทมิฬงั้นเหรอ..มันคืออะไร..?”ไมค์ที่สบถกล่าวออกมา ก่อนจะหันไปถามกับหนึ่งในนักเรียนที่เหมือนจะรู้ถึงข้อมูลของม้าตัวดังกล่าว..
“ฉันเคยได้ยินเรื่องเล่าของอาชาทมิฬมาจากพวกทหารที่จบไป เจ้านั่นคืออาชาคลั่งที่ถูกจับขังเอาไว้ในอาคัสมาเป็นเวลากว่า 7 ปี มันมีความดุร้ายกว่าม้าทั่วๆไป ไม่เคยมีนักเรียนคนไหนที่เคยได้ขี่มันมาก่อนจากขนแผงหลังของมันที่ลุกโชดช่วงไปด้วยเปลวเพลิง..”นักเรียนที่บอกเล่าให้ไมค์ได้ฟัง..
“อึก..เออเห็นด้วย ขืนขี่มีหวังถูกไฟเผาไข่ตายแน่..”นักเรียนอีกคนที่กล่าวออกมา
“ขี่ไม่ได้..? ม้าเชี้ยอะไรวะ ไม่เห็นจะน่าสนใจเลย..”ไมค์ที่สบถออกมา ก่อนจะละความสนใจและหันกลับไปหาม้าตัวขาว..
“เจ้านั่นดูน่าสนใจดีนะครับ..”ผมที่บอกกับเดรส..
“หึ..เจ้านั่นคือม้าป่าที่ถูกจับได้เมื่อ 7 ปีก่อน เจ้าม้าตัวนั้นมีกำลังวังชาที่มหาศาล แถมการจะจับมันยังไม่สามารถที่จะใช้เชือกธรรมดาได้ เพราะจะถูกเปลวเพลิงของมันเข้าแผดเผา จึงจำเป็นที่จะต้องใช้โซ่ทำเป็นบ่วงในการจับ..
ซึ่งหลังจากวันที่มันถูกจับก็มีทหารมากมายจากทั้งสามเหล่าทัพที่ต้องการจะเอามันไปครอบครอง และก็มีอยู่กว่าหลายคนที่สามารถจะสยบมันได้ แต่ทว่ากลับไม่มีใครเลยที่จะสามารถขึ้นไปขี่บนแผ่นหลังของมันได้..”
“หืม..? สยบได้แต่ขี่ไม่ได้ มันหมายความว่ายังไงเหรอครับ..?”
“ก็คือการใช้กำลังทำให้มันยอมจำนนไง แต่พอจะขึ้นขี่ไอ้เจ้านั่นมันก็ระเบิดเปลวเพลิงที่แผ่นหลังออกมา อีกทั้งยังดิ้นพยศจนทำให้คนที่คิดจะขี่ต้องตกลงมาจากแผ่นหลังของมัน
นอกเหนือจากนี้ไอ้เจ้าม้าตัวนั้นยังพิเศษกว่าม้าตัวอื่นๆ มันมีสติปัญญาที่สามารถจะเข้าใจภาษาของมนุษย์ได้ ถึงมันจะพูดตอบโต้ไม่ได้ก็เถอะ..”เดรสที่อธิบายให้ผมได้ฟัง..
“แล้วคุณลุงพอมีวิธีที่จะขี่มันไหมครับ..?”ผมที่ถามกับเดรส..
“หึ..ก็บอกอยู่ว่าอย่างเธอน่ะไม่ไหวหรอก แต่ถ้าอยากจะลองก็แล้วแต่ วิธีที่จะขี่มัน..คือต้องทำให้มันยอมรับในตัวของเธอ จนมันยอมทำพันธสัญญา. หืม..แบบนั้นไง..”เดรสที่บอกกับผม ก่อนจะชี้นิ้วไปยังไอ้ไมค์ที่ตอนนี้กำลังสั่งให้นักเรียนกว่าห้าคนรุมจับเจ้าม้าตัวขาวอยู่ แถมนักเรียนพวกนั้นยังเปิดวงจรเพื่อเสริมกำลังกายอีกด้วย
“จับให้ดีๆล่ะ..ฉันสัญญาว่าจะจ่ายให้พวกแกทุกๆคน..”ไมค์ที่บอกกับเหล่านักเรียนทั้งห้าที่กำลังรุมกดร่างของม้าตัวสีขาวให้นอนระนาบลงกับพื้น..
“เปิดวงจร..”ไมค์ที่กล่าวออกมา ทันใดนั้นที่กลางหน้าอกของมันก็ส่องแสง มันพลันใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างแงะปากของม้าตัวนั้น ก่อนจะสอดมือเข้าไปในปากของมัน..
วิ๊ง..!
ทันใดนั้นก็มีแสงกระพริบที่เกิดขึ้น ไอ้ไมค์พลันกระตุกรอยยิ้ม ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นยืน เป็นช่วงจังหวะที่นักเรียนทั้งห้าคนจะผละออกจากม้าตัวนั้น
“ลุกขึ้นมา..”ไมค์ที่ออกคำสั่งกับม้าตัวสีขาว ก่อนที่มันจะชันตัวลุกขึ้นยืนตามคำสั่ง..
ฟุบ..!
ร่างของไอ้ไมค์ที่กระโดดขึ้นไปขี่หลังของม้าตัวสีขาว โดยที่ม้าตัวนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืนใดๆ จนผมที่เห็นต้องรู้สึกประหลาดใจ..
“เมื่อกี้เจ้านั่นมันทำพันธสัญญาเหรอครับ..?”
“ใช่..การจะทำพันธสัญญาคือการยื่นมือออกไปให้มันเลีย แต่ถ้าเกิดมันไม่เลีย เราก็สามารถที่จะบีบบังคับมันด้วยกำลัง ทำให้มันอ้าปากและสอดมือเข้าไปแตะที่ลิ้นของมัน พันธสัญญาก็จะถือว่าเป็นอันเสร็จสมบูรณ์..”
“รวมถึงม้าตัวอื่นๆด้วยเหรอครับ..?”
“ใช่แล้ว..”
“แล้วทำไมถึงต้องเป็นลิ้นด้วยล่ะครับ..?”
“ลิ้นคือจุดสื่อกลางที่เชื่อมโยงกับคริสตัลมานา เมื่อมนุษย์สัมผัสมัน คริสตัลมานาของม้ากับมนุษย์ก็จะเชื่อมโยงเข้าหากัน..”เดรสที่อธิบาย ถึงมันจะฟังดูประหลาดๆ แต่ก็เอาเถอะ..ยังไงก็โลกแฟนตาซี คงต้องตัดสามัญสำนึกเดิมๆทิ้งไป..
“เดี๋ยวก่อนนะครับ ถ้ามีวิธีบีบบังคับอยู่ แล้วทำไมถึงไม่มีใครเอาเจ้าอาชาทมิฬนั่นมาเป็นของตัวเองได้ล่ะครับ..?”ผมที่ถามกับเดรสด้วยความสงสัย..
“หึ..ก็นั่นสินะ ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน สิ่งเดียวที่รู้คือวิธีนั้น…..”เดรสที่กล่าวออกมา ในระหว่างนั้นเขาก็พลางถอดถุงมือออก เพื่อที่จะแสดงอะไรบางอย่างให้ผมเห็น..
“มันใช้กับไอ้เจ้านั่นไม่ได้ผล..”สิ้นคำพูดของเดรส พร้อมกับถุงมือที่ถูกถอด ภาพที่ปรากฏให้เห็นถึงกับทำให้ผมเบิกดวงตากว้างขึ้นเล็กน้อย จากภาพของรอยแผลเป็นจำนวนมาก แถมรอยแผลเป็นดังกล่าวยังเป็นรอยฟันที่ถูกกัด..
“ฉันลองมาทุกวิธีแล้ว ชั่วชีวิตของฉันมีเพียงไอ้เจ้านั่นที่ฉันไม่สามารถจะครอบครองได้ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมในทุกๆปีที่อาคัสเปิดคอกม้า ฉันถึงชอบมานั่งเล่นอยู่ที่นี่บ่อยๆ..”เดรสที่กล่าวออกมา ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นยืน..
“แต่ก็นะ..ฉันน่ะแก่มากแล้ว หลังจากที่ปลดประจำการ ฉันก็พยายามหางานอดิเรกมาทำ เจ้านั่นคือความท้าทายสุดท้ายที่ฉันอยากจะพิชิตให้ได้ หรือไม่ก็ขอแค่ได้เห็นใครสักคนที่ได้ขี่มันก็เพียงพอแล้วล่ะ..”เดรสที่กล่าวกับผม..
“น่าสนใจดีหนิ..!”เสียงของรันต้าที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม..
“ลิซ่า..เดี๋ยวฉันมานะ แล้วอย่าหนีฉันอีกล่ะ..”รันต้าที่หันไปกล่าวกับลิซ่า แต่ทว่าเธอกลับทำสีหน้าเมินเฉย สายตาคู่สีทองของเธอกำลังจับจ้องมองไปยังอาชาทมิฬอย่างเปล่งประกาย..
“ย้ะ..!”รันต้าที่ควบอาชาของตัวเองตรงเข้าไปหาอาชาทมิฬที่กำลังยืนใช้ขาหน้าเขี่ยพื้นดินอยู่ท่ามกลางกองไฟ ทันทีที่มันควบม้ามาถึง มันก็กระโดดลงสู่พื้น ก่อนจะค่อยๆก้าวเดินตรงเข้าไปหาเป้าหมาย..
“ฮี๋..!~”
“ชู่..~ ใจเย็นๆ..”
อาชาทมิฬที่พยศและทำท่าจะยกขาหน้า แต่ทว่ารันต้าที่ย่อเข่าย่องเดินเข้าไปหามันกลับส่งเสียงออกมาเบาๆหมายจะให้มันสงบ พร้อมทั้งหยิบเอาผลซันซันออกมา..
“เฮ..ใจเย็นนะ ดูสิว่าฉันเอาอะไรมาให้แก..”รันต้าที่กล่าวออกมา เมื่อเห็นว่าอาชาทมิฬกำลังสะบัดหัวฟึดฟัด แต่ทันทีที่มันเห็นว่าอีกฝ่ายเอาอาหารมาให้มันก็หยุดชะงักไป..
ซึ่งจากการกระทำของรันต้า มันก็ทำให้ผมเข้าใจได้ในทันทีว่ามันจับม้าด้วยวิธีไหน..
“ฉลาดดีหนิ..เอาอาหารมาล่องั้นเหรอ..? แต่จะว่าไปแล้วเท่าที่ฉันได้ยินมา ดูเหมือนว่าเมื่อวานจะมีคนยัดเงินให้กับกลุ่มของพวกคนดูแลม้า เพื่อไม่ต้องให้อาหารม้าทุกตัว หรือว่าอันที่จริงแล้วจะเป็นฝีมือของไอ้เจ้าเด็กคนนั้นกันนะ..?”เดรสที่กล่าวออกมา จึงทำให้ผมเข้าใจได้ในทันทีว่าเจ้ารันต้าเองก็ดูเป็นคนที่ฉลาดพอตัว
“มามะ..เด็กดี..”รันต้าที่ย่องเข้าไปหาอาชาทมิฬอย่างระวัง ส่วนฝ่ามือก็ยื่นผลซันซันออกไปให้ แต่ทว่า..
ฟุบ..!
“ฮี๋..!!!~”
“เฮ้ย..!!”
ตู้ม..!!!!
ภายในชั่วพริบตาเดียว จู่ๆอาชาทมิฬก็เกิดพยศ มันพลันหมุนตัวหันหลังกลับ ก่อนจะใช้ขาหลังดีดเข้าสู่หน้าของรันต้าอย่างแรงจนร่างของมันปลิวกระเด็นออกไป
“อั่ก..!!”
ฟุบ..
ตุบๆ ๆ ๆ ๆ
ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกๆสายตา ร่างของรันต้าที่ยืนอยู่ได้กระเด็นตัวลอยถอยออกมากว่า 10 เมตร ก่อนจะกลิ้งไถลไปกับพื้นกว่าหลายตลบ..
“อั่ก..ถุ้ย”รันต้าที่ค่อยๆชันตัวลุกขึ้นมา พร้อมกับถุ้ยเลือดที่กลบปาก แต่ทว่ามันกลับมีฟันหน้าที่หลุดกระเด็นออกมาด้วยจำนวนสองซีก..
“เฮือก..”รันต้าที่ช็อคไปชั่วขณะ มันพลันใช้นิ้วสำรวจฟันภายในปากของตัวเอง และก็ได้พบว่าตอนนี้มันได้กลายเป็นหลอลี่ไปแล้ว..
“นะ..นี่ กะ..แก อะ..ไอ้ม้าเวร กูจะฆ่ามึง..!!!!!!!”รันต้าที่แผดเสียงตวาดด่าออกมาด้วยความโกรธ..
“เปิดวงจร..!”รันต้าที่ทำการเปิดวงจร ทันใดนั้นเองจู่ๆที่กลางหน้าอกของมันก็เปล่งแสงสว่าง
“จงออกมา..ดูคาเอ..ล..”
หมับ..!
“หนุ่มน้อย..ฉันว่าเธอใจเย็นๆก่อนจะดีกว่า ถ้าไม่อยากจะมีปัญหา..”เดรสที่จู่ๆก็เดินเข้าไปจับบ่ารั้งรันต้าเอาไว้..
“อะไรของแก..? แกเป็นใคร..?!”รันต้าที่หันไปมองเดรส ทันทีที่มันเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่คนดูแลม้า มันก็ตวาดเสียงใส่ในทันที..
“ฉันเป็นใครมันไม่สำคัญ แต่ม้าที่แกกำลังจะฆ่า แกรู้หรือเปล่าว่าแม้แต่พลตรีเรติสพ่อของแกก็ยังไม่กล้าที่จะแตะต้อง ม้าตัวนั้นตอนนี้ยังคงเป็นม้าที่อยู่ภายใต้การดูแลของอดีตจอมทัพแห่งเอทารอส มหาอินทรีเหล็กดารัน ถ้าแกกล้าลงมือก็เชิญได้เลย ที่ฉันเข้ามาเตือนก็แค่หวังดีเท่านั้น..”เดรสที่กล่าวกับรันต้า ซึ่งจุดที่เขาอยู่ห่างไกลจากสตาร์พอสมควร จึงทำให้ชายหนุ่มไม่ได้ยินว่าเขากำลังพูดอะไรกับอีกฝ่าย..
“อะ..อึก โถ่เว้ย..!!”รันต้าที่ถึงกับใบหน้าบิดเบี้ยว มันได้แต่ยืนขบฟันแน่น ก่อนที่สุดท้ายแล้วจะจำใจปิดวงจร พร้อมทั้งแผดเสียงตวาดออกมา..
“ตาลุงเข้าไปคุยอะไรกับไอ้เจ้านั่นกันนะ..?”ผมที่สบถออกมาด้วยความสงสัย ทั้งๆที่ไอ้เจ้ารันต้าอะไรนั่นน่าจะโกรธจนสามารถฆ่าไอ้เจ้าม้าตัวนั้นได้ แต่สุดท้ายกลับยอมที่จะวางมือ แถมในตอนที่เดรสพูดอะไรสักอย่างกับมัน ผมก็สังเกตเห็นว่าใบหน้าของมันกำลังบิดเบี้ยวจนแทบจะดูไม่ได้..
“เอาล่ะ..ไหนขอลองเข้าไปดูหน่อยดิ่..”ผมที่ชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินเข้าไปหาไอ้เจ้าม้าตัวนั้น..
“อย่าๆ ๆ ถึงต่อให้แกจะจับมันได้ แต่ฉันไม่ให้แกขี่มันแน่ ถ้าแกขี่มันมีหวังฉันกับไอ้เจ้าไข่นุ้ยสุกแน่ๆ..”ไอ้จ้อนที่ร้องห้ามผมเอาไว้ แต่ผมกลับดื้อรั้นไม่ฟัง..
ทันทีที่เดินเข้ามาจวนจะถึง ไอ้ม้าเวรมันก็หันมาทำท่ากระฟัดกระเฟียดใส่ผม..
“ฮี๋..~”
“อ้าวๆ ไอ้ม้าเวร เดี๋ยวก็ตบหน้าสั่นหรอก ฉันไม่ได้เดินมาหาแก แค่จะเดินไปหาม้าตัวนู้นก็เท่านั้น..”ผมที่ทำท่าจะง้างมือตบไอ้ม้าเวร พร้อมกับตวาดเสียงใส่มัน พอมันได้ยินแบบนั้นก็ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะกลับมาฟึดฟัดใส่ผม..
“เฮ้ย..! สตาร์ม้าพูดได้ว่ะ..”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา ทำให้ผมหยุดชะงัก..
“แกว่าอะไรนะ..?”ผมที่ถามกับไอ้จ้อน..
“เอ้า..แกไม่ได้ยินเหรอ..? ก่อนหน้านี้ไอ้ม้าเวรนี่มันบอกว่าอย่าเข้ามายุ่งนะเว้ยไอ้มนุษย์ ถ้าไม่อยากจะถูกถีบปลิวเหมือนกับไอ้เจ้านั่น..”ไอ้จ้อนที่บอกกับผม..
“แกกวนตีนหรือพูดจริง..?”
“จริงๆเว้ย ฉันได้ยินจริงๆนะ หะ..หืม..มันพูดอีกแล้ว..? รอบนี้มันด่าแกบ้าด้วยแหละ มันบอกว่าไอ้เจ้ามนุษย์นี่ท่าจะบ้ายืนคุยคนเดียวก็ได้..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา นี่เอาจริงดิ..
‘ตอนนี้มันพูดว่าอะไร..?’
“ยัง..มันยังไม่พูด..”
[แม่งเอ้ย..ทำไมไฟถึงเผาไอ้เหล็กเวรนี่ไม่ได้วะ ข้าอยากจะอึ้บจนทนไม่ไหวแล้วนะ หู้ว ดูเธอตัวนั้นสิ ขาวชะมัด จะทนไม่ไหวแล้วโว้ย..!]
“เอิ่ม..สตาร์..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
‘ว่าไง..? มันพูดอะไร..?’
“แกจะต้องไม่เชื่อแน่ๆ มันบอกว่ามันอยากจะอึ้บม้าตัวเมียอ่ะ แถมมันยังบ่นว่าไฟทำไมถึงทำอะไรเหล็กที่ครอบกระปู๋ของมันไม่ได้เลย..”สิ้นคำพูดของไอ้จ้อน ผมที่ได้ยินก็ถึงกับสตั๊นไปชั่วขณะ ก่อนจะชำเลืองตาลงไปมองเหล็กทรงกระบอกที่ครอบกระปู๋ของเจ้าม้าเอาไว้..
‘อุ๊บ..คิ๊กๆ ๆ เชี้ย..เอาจริงดิ..?’ผมที่ได้ยืนกลั้นขำจนตัวสั่น..
[หืม..? ไอ้มนุษย์เวรนี่มันขำอะไรกัน..? ไหนบอกว่าจะเดินไป หรือว่ามันกำลังวางแผนเล่นสกปรกอะไรอยู่ คิดจะขี่หลังของเราอย่างงั้นเหรอ อย่าได้หวัง..]
“มันว่างั้นแหละ..”ไอ้จ้อนที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางแปลภาษาม้า..
“เอ๋..จะว่าไปแกเองก็น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะ แถมยังปล่อยไฟได้ด้วย..”ผมที่หันกลับมายังไอ้ม้าดำ ก่อนจะกล่าวออกมา..
[นั่นไง..มันเผยธาตุแท้ออกมาจนได้ อย่าหวัง ไสหัวไป..!]
“มันว่างั้นแหละ..”ไอ้จ้อนที่บอกผม ในมุมมองของมันม้าตัวนี้อาจจะพูดเหมือนคน แต่ในมุมมองของผมแล้ว..
“ฮี๋..~”ไอ้ม้าเวรที่พ่นลมหายใจขู่ผม..
“หืม..? เจ้าหนูนั่นคิดจะทำอะไรกันนะ ทั้งๆที่ก็เตือนไปแล้วแท้ๆ..”เดรสที่กล่าวออกมา สายตาของเขากำลังจับจ้องมองไปที่สตาร์ด้วยความสนอกสนใจ ส่วนทางด้านของเหล่าบรรดานักเรียนบางส่วนก็ต่างให้ความสนใจกับชายหนุ่มผู้นี้ โดยเฉพาะลิซ่า..
“แต่ก็นะ..เจ้าม้านี่ก็ยังไม่ถูกใจฉัน การจะเลือกม้าต้องเลือกม้าที่สรีระที่เหมาะสมกับเรา ร่างกายผ่าน ขนาดลำตัวผ่าน รูปร่างสง่างามผ่าน..”
[หึ..คิดจะมาชมให้ข้าตายใจล่ะสิ ลูกไม้กระจอก..เคยมีไอ้พวกมนุษย์มันใช้กับข้ามาแล้ว ไม่ได้ผลหรอกเว้..ย..]
“แต่ติดอยู่อย่างเดียว กระปู๋มันเล็กไปหน่อย นี่ขนาดของม้าแน่เหรอ..? ขนาดฉันเป็นมนุษย์ยังเล็กกว่าของมันแค่นิดเดียวเอง ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่าพวกคนดูแลม้าจะครอบเหล็กนี่ไปทำไมกันนะ..”
[เจ้าว่ายังไงนะไอ้มนุษย์เวร..!!!]
“ฉันพูดว่ากระปู๋แกเล็ก แกไม่ได้ยินหรือยังไงกัน..?”ผมที่กล่าวสวนกลับ ทันทีที่ไอ้จ้อนทำการแปลภาษา..
[ไม่เล็กโว้ย..ในบรรดาไอ้พวกม้าเลี้ยงที่อยู่ที่นี่ ข้าใหญ่ที่สุ..ด ดะ..เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เจ้าคุยกับข้างั้นเหรอ..?]
“ก็เออน่ะสิ..ตรงนี้ยืนอยู่กันหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตัว ถ้าไม่ใช่ว่าคุยกับแกจะให้ฉันคุยกับหญ้าหรือไง..?”ผมที่ตอบกลับ พอไอ้ม้าได้ยินก็ถึงกับผงะถอยหลัง..
“เฮ้ย..ดูไอ้เจ้านั่นดิ มันคุยกับม้าว่ะ..”
“ฮ่าๆ ๆ มันกำลังเล่นอะไรของมันอยู่วะนั่น..?”
เหล่าบรรดานักเรียนที่ต่างพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เมื่อได้เห็นการกระทำของสตาร์..
“เฮ้อ..”เดรสที่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่..
“ไร้สาระ..”ลิซ่าที่สบถออกมาและทำท่าจะควบม้าออกไป..
[ดะ..ได้ยังไงกัน ทำไมมนุษย์ถึงคุยกับข้าได้ล่ะ..?]
“เรื่องนั้นแกไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ เอาเป็นว่าฉันไม่ได้สนใจแก เพราะฉะนั้นแล้วขอตัวล่ะ..”ผมที่ตอบกลับไอ้ม้าเวร พร้อมทั้งหมุนตัวเดินจากไป..
[เฮ้ย..หยุดนะ เจ้ากลับมาถอนคำพูดก่อนเลย..]
“หืม..? นี่..ไอ้เจ้าม้า แกเป็นม้าจะมาสนใจอะไรกับเรื่องไร้สาระแบบนี้ ทำตัวเป็นคนไปได้..”ผมที่พูดกับไอ้ม้า..
[ไม่..เจ้าต้องถอนคำพูดเดี๋ยวนี้ เจ้าบอกว่าข้าเล็กกว่าม้าตัวอื่นมันไม่เท่าไหร่ แต่เจ้าบอกว่าขนาดของข้ามันไร่เรี่ยกับขนาดของมนุษย์แบบเจ้า นี่คือสิ่งที่ข้ารับไม่ได้ ข้าไม่มีวันยอมแพ้มนุษย์..!]
“หืม..? ก็มันเรื่องจริงอ่ะ ฉันเล็กกว่าของแกไม่เท่าไหร่เอง แก 13 นิ้ว ฉัน 9 นิ้ว..”
[ไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ มนุษย์ไม่มีทางที่จะใหญ่ขนาดนั้นได้แน่ ข้าเคยเห็น เจ้าอย่ามาหลอกข้านะ ไหนขอข้าดูหน่อยดิ่..!]
“เดี๋ยวๆ นี่พวกแกทะเลาะกันเรื่องอะไรวะเนี่ย..? แค่คุยกับม้าก็บ้าพอแล้ว นี่ยังมาทะเลาะกับม้าเรื่องขนาดลำตัวของฉันเนี่ยนะ..?”ไอ้จ้อนที่แทรกเข้ามา..
‘หุบปากแล้วก็แปล..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..
“อ่ะๆ มันบอกว่าขอดูฉันหน่อยว่าใหญ่จริงหรือเปล่า..”
“เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องให้แกดู..”
[หึ..กะแล้วเชียว ไอ้มนุษย์จอมหลอกลวง]
“หึ..ความจริงมันก็ยังเป็นความจริง ถ้าแกอยากดูก็เลียมือฉันก่อนสิ แล้วฉันจะเปิดให้ดู ของแบบนี้มันต้องมีข้อแลกเปลี่ยน..”ผมที่ยื่นข้อเสนอกับไอ้ม้า..
[เหอะ..เจ้าคงคิดจะหลอกให้ข้าทำพันธสัญญาสินะ ก็เอาซิ..ถึงต่อให้เลียไปพันธสัญญามันก็ไม่เกิดขึ้นหรอก ถ้าตัวข้าไม่ยินยอม..]
“แล้วใครบอกว่าฉันจะทำพันธสัญญากับแก ฉันก็แค่ยื่นข้อเสนอออกไปมั่วๆ มาขอดูของคนอื่น ถ้าเป็นมนุษย์เขาไม่ให้ดูฟรีๆหรอกนะ เอาไง..จะดูไม่ดู..?”ผมที่ถามกับไอ้ม้า พร้อมกับยื่นมือออกไป..
[เหอะ..]
ไอ้ม้าที่ส่งเสียง พร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่มันจะยื่นหน้าเข้ามาตวัดลิ้นเลียฝ่ามือของผม ซึ่งเหตุผลที่ทำไมผมถึงอยากให้มันเลีย นั่นก็เพราะ.
“เฮ้ย..!!!!!!!!!”เสียงของเหล่าบรรดานักเรียนที่ต่างพากันร้องตะโกนแหกปากออกมาเสียงดังลั่น
“บะ..บ้าน่า..! ปะ..เป็นไปไม่ได้..”เดรสที่ช็อคจนตาค้างพลันสบถออกมา ร่างกายของเขากำลังสั่นระริก
“หืม..? อะไรกัน..?”ลิซ่าที่หันกลับมามองพลันต้องหยุดชะงัก ก่อนจะบังคับม้าให้หันตัวกลับไป..
[ตามสัญญา ไหนดูดิ่..]
“ได้..ฉันมันคนพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว..”ผมที่ตอบกลับไอ้ม้า ก่อนจะปลดเข็มขัด แหวกกางเกงในโชว์ไอ้จ้อนให้มันดู..
“ไอ้เจ้านั่นมันทำอะไรนะ มันโชว์อะไรให้เจ้าม้านั่นดู..?”
“มันทำอะไรของมันวะนั่น หรือว่าเป็นวิธีจับม้าแบบใหม่..?”
เสียงของเหล่านักเรียนที่ยังคงตื่นตระหนกจากการกระทำของสตาร์ ทางด้านของลิซ่าที่เห็นแบบนั้นก็ถึงหน้าแดงความขยะแขยง..
[หะ..หืม..? ฮะ..เฮ้ย บะ..บ้า บะ..บ้าน่า..!!!]
ไอ้ม้าที่ชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะแหกปากร้องตะโกนออกมา ทันทีที่มันได้เห็นไอ้จ้อนของผมที่พองขยายตัวขั้นสุด..
“ไงล่ะมึง สะพรึงดิ..ในย่านนี้พี่ใหญ่สุด..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ส่วนไอ้ม้าเวรก็ถึงกับทรุดฮวบลงไปในทันที..
“เฮ้ย..! มันคุกเข่าให้ด้วย..!”
“ดะ..ได้ยังไงกัน..?”
เหล่าบรรดานักเรียนที่ยังคงตกตะลึง ซึ่งส่วนใหญ่คือนักเรียนที่ได้รับรู้ถึงประวัติและวีรกรรมของม้าตัวนี้..
“อะ..อึก จะ..เจ้านั่น..”เดรสที่ถึงกับสะอึกและทำท่าจะวิ่งตรงเข้าไปหาสตาร์ แต่ทว่าเขากลับต้องหยุดชะงัก เมื่อจู่ๆสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิด..
“ไปล่ะนะ..?”ผมที่บอกกับไอ้ม้าเวรและเดินจากไป..
“เฮ้อ..แถวนี้มีม้าหนุ่มดีๆสักตัวไหมนะ ถ้าเกิดฉันหาได้สักตัวละก็ หลังจากได้ออกไปทำภารกิจฉันจะดูแลมันเป็นอย่างดี ให้ข้าวให้น้ำสามเวลา คอยให้คนขัดขนให้..”ผมที่กล่าวออกมาลอยๆ โดยที่ไอ้เจ้าม้าก็ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งผมเอ่ยประโยคถัดไปออกมา..
“และที่สำคัญที่สุด..ฉันจะจัดม้าสาวเด็ดๆให้มันได้อึ๊บแบบไม่อั้น..!”สิ้นคำพูดของผม ไอ้ม้าเวรที่ได้ยินก็ถึงกับหูกระดิก..
[หืม..!!]
ไอ้ม้าเวรที่ชันตัวลุกพรวดขึ้น มันพลันก้าวเดินตามหลังผมมา..
[นี่เจ้าน่ะ..ที่เจ้าพูดเมื่อกี้..~]
“อะไรของแก ฉันไม่ได้หมายถึงแก ฉันหมายถึงม้าตัวอื่น..”ผมที่หันกลับมากล่าวตัดบท ก่อนจะหันกลับมากล่าวลอยๆต่อ..
“เอ้..~ แต่จะว่าไปถ้ามันทำผลงานได้ดี ฉันว่าฉันเปิดฮาเร็มให้มันได้ควบแบบสี่ตัวเลยน่าจะดีกว่า..”
[อะ..อึก สะ..สี่ตัว นะ..นี่เจ้า ไม่สิ..มนุษย์คนนั้นน่ะ สนใจมาทำพันธสัญญากับข้าไหม..?]
ไอ้เจ้าม้าที่กล่าวออกมา หึ..ติดกับผมล่ะ ถึงจะเป็นม้าแต่ก็มีของที่อยากได้อยู่สินะ แถมมันยังเป็นม้าขี้หื่นด้วย..
“เอ๊ะ..นี่แก ฉันบอกว่าไม่ไง..!”ผมที่หันไปตวาดใส่ไอ้ม้า ก่อนจะรีบเดินหนีไปหาม้าตัวอื่น แต่ทว่าแม่งกลับเดินตามผมต้อยๆ..
“นะ..นั่นมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ทำไมเจ้านั่นถึงเดินตามเจ้าหนูนั่นล่ะ..?”เดรสที่สบถออกมาด้วยความสงสัย..
“อืม..ตัวนี้ก็ดูไม่เลวนะ..”ผมที่เดินมาหยุดอยู่ที่ม้าตัวหนึ่ง แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรม้าตัวนั้นก็วิ่งหนีหางจุดตูดไป จากรังสีอำหิตของไอ้ม้าเวรตัวข้างหลังผมที่ส่งตรงไปข่มขู่..
“นี่แก..คิดจะเล่นตลกอะไรกับฉันวะ..? ไสหัวไป..!”ผมที่หันไปตวาดใส่ไอ้ม้าและทำเป็นหงุดหงิดใส่มัน..
[อึก..ข้าขอโทษที่ก่อนหน้านี้ข้าพยศใส่เจ้า ข้าขอโทษจริงๆ จะ..เจ้าจะอภัยให้ข้าได้ไหม ลองตรวจสอบข้าดูใหม่นะ ข้าจะต้องทำประโยชน์ให้เจ้าได้แน่ๆ..]
ไอ้ม้าที่บอกกับผม มันพลันทรุดตัวหูตกลงไป แถมเปลวเพลิงที่ปกคลุมกายยังสลายหายไปด้วย..
“อื้ม..ก็ได้ แต่ฉันไม่อยากจะรีบตัดสินใจ ยังไงขอฉันเดินดูม้าที่อยู่รอบๆนี้ก่อนล่ะกัน..”ผมที่บอกกับไอ้ม้า แต่พอมันได้ยินมันกลับชันตัวลุกขึ้นยืน..
[เรื่องนั้นคงไม่จำเป็น..เฮ้ย ไอ้พวกสวะ ไสหัวไปซะ..!!]
ไอ้เจ้าม้าที่แผดเสียงตวาดพร้อมทั้งปลดปล่อยพลังงานอะไรบางอย่างออกมา ส่งผลทำให้ม้าที่ยืนอยู่โดยรอบต่างพากันวิ่งหนีออกไปด้วยความตื่นตระหนก..
“เห๋..น่าสนใจดีหนิ ก็ได้..ถ้างั้นฉันเลือกแก..”ผมที่ส่งเสียง ก่อนจะบอกกับไอ้เจ้าม้า..
[สำเร็จ..! ถ้างั้นมาทำพันธสัญญากัน..]
ไอ้เจ้าม้าที่บอกกับผม ก่อนจะรีบวิ่งลุกลี้ลุกลนตรงเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าของผม..
[ต่อจากนี้..ข้าจะขอถวายหัวใจและร่างกายให้แก่มนุษย์ผู้นี้ ข้าจะเป็นพาหนะและเป็นข้ารับใช้ที่ซื่อสัตย์ จวบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต..]
ไอ้เจ้าม้าที่กล่าวคำสัตย์สาบาน พร้อมกับแล็บลิ้นออกมา ก่อนที่มันจะเผยให้เห็นตัวอักษรปริศนาบางอย่างที่กำลังกระพริบอยู่บนลิ้นของมัน
ซึ่งเมื่อผมได้เห็นแบบนั้นก็พลันกระตุกรอยยิ้ม ก่อนจะยื่นมือออกไป และก็แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนที่ผมวางเอาไว้ตั้งแต่ต้น..!
“เหลือจะเชื่อ แม่ง..!! เหลี่ยมยันม้า..!”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
ไรท์:คอมเม้น..!!!!