แสงที่ 27 ความผิดปกติที่เกิดขึ้น..
ณ คุกใต้ดินทาทารัส..
[สตาร์]
หลังจากที่ไอ้จ้อนแม่งร้องไห้จนทำให้ผมหน้าแตกต่อหน้าผู้คุมเรือนจำ ผมก็พยายามหาข้อแก้ตัวมาบอกกับพวกเขาว่าผมนั้นอั้นฉี่มาตั้งแต่บนรถม้าแล้วก็เลยทนไม่ไหวเผลอปล่อยออกมา..
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าพวกผู้คุมจะยอมเชื่อ เพราะไม่อย่างงั้นแผนการทุกอย่างที่วางมามีหวังต้องพังทลายลงแน่ๆ ถ้าเกิดอีกฝ่ายเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟัง..
ซึ่งหลังจากที่ผมถูกผู้คุมทั้งสองและเฮลเดิลพาตัวเข้ามาภายในปราสาท พวกเขาก็พาผมลงมายังห้องใต้ดิน ในเวลานี้ผมกำลังเดินลงบันไดอยู่บนทางเดินแคบๆ ทั้งสองฝั่งข้างทางมีคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง..
ผมเดินลงบันไดแบบนี้มานานกว่าสามนาที ซึ่งก็แอบสงสัยว่าห้องใต้ดินมันลึกขนาดไหน
สิ่งที่ผมเป็นกังวลอยู่อย่างเดียวในตอนนี้คือกลัวว่าอะดรีนาลีนภายในร่างจะสงบลง ซึ่งตั้งแต่ที่ผมเดินทางออกมาจากพิธีจำแนก ช่วงเวลามันก็ได้ล่วงเลยผ่านพ้นมานานกว่าหลายชั่วโมง
อันที่จริงผมควรจะต้องหมดสติไปตั้งนานแล้ว แต่โชคยังดีที่ก่อนจะออกมา ผมก็ได้ใช้เจมิสในการเติมพลังเพื่อต่อเวลา..
ฟุบ..!
และแล้วหลังจากที่ใช้เวลาเดินอยู่นานก็ดูเหมือนว่าผมจะลงมาจนถึงคุกใต้ดินแล้ว ทันทีที่ลงมาถึงบันไดขั้นสุดท้าย สิ่งที่ผมนั่นก็คือบานประตู ทันทีที่เปิดมันออกก็จะพบเข้ากับทางเดินแคบๆ ทั้งสองฝั่งข้างทางจะมีห้องขังที่ปรากฏอยู่เป็นล็อกๆ..
ซึ่งลักษณะของห้องขังเท่าที่ผมมองเข้าไปในช่องประตู มันจะเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่ค่อนข้างกว้างทั้งสี่มุมของห้องถูกปิดตายด้วยผนังที่สร้างมาจากคอนกรีต..
ตุบๆ ๆ ๆ
แก็คๆ ๆ
ผู้คุมที่พาผมเดินเข้ามาจนสุดปลายของทางเดิน ก่อนจะไขประตูห้องทางฝั่งซ้ายมือให้ แต่ทว่า..ก่อนที่จะเดินเข้ามาจนถึงตรงนี้ ตลอดทางผมก็ได้สังเกตเข้าไปในห้องขังทุกๆห้อง และก็ได้พบว่าไม่มีนักโทษที่ถูกคุมขังอยู่เลยแม้แต่ห้องเดียว ยกเว้นอยู่เพียงแค่ห้องขังห้องหนึ่ง..
ซึ่งห้องขังที่ว่านั้นก็คือห้องที่ติดอยู่กับห้องของผม ในตอนที่ผมมองเข้าไปก็พบเข้ากับร่างๆหนึ่งที่กำลังนั่งก้มหน้าคอตกอยู่ภายในห้อง
แต่ทว่าจู่ๆร่างๆนั้นก็กลับเงยหน้าขึ้นมา สิ่งที่ผมได้เห็นภายในชั่วพริบตานั้น นั่นก็คือเจ้าของดวงตาคู่สีแดงเลือดที่กำลังจ้องเขม็งมาที่ผม จะรออะไรล่ะครับก็จ้องตอบไปสิ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันก็เป็นเพียงแค่ไม่กี่เสี้ยววินาที ก่อนที่ผมจะถูกพาตัวมายังห้องขังของตัวเอง
“เดี๋ยวจะให้คนเอาอาหารมาส่งสามเวลา ถ้าต้องการอะไรก็บอกตอนนั้นละกัน เพราะถ้าไม่มีธุระจำเป็นพวกฉันจะไม่ลงมาที่นี่ ถึงต่อให้ตะโกนเรียกไปยังไงก็ไม่ได้ยิน..”เฮลเดิลที่บอกกับผม..
“ขอบคุณมากครับ..”ผมที่ตอบกลับ ก่อนจะเดินกระเผลกๆเข้าไปภายในห้องขัง ทันทีที่เข้ามาผู้คุมก็ทำการปิดประตูลงกลอนในทันที..
แกร๊กๆ..
“อ่อ..แล้วถ้าเป็นไปได้อย่ารบกวนคนที่อยู่ห้องข้างๆนะ ท่านผู้นั้นชอบอยู่เงียบๆ..”เฮลเดิลที่ยื่นหน้าเข้ามากระซิบบอกผมผ่านช่องว่างตรงประตูเหล็ก..
“ครับ..ผมจะระวัง..”ผมที่ตอบกลับ เมื่อเฮลเดิลได้ยินเช่นนั้นก็เดินจากไป ก่อนที่ผมจะเริ่มกวาดสายตาสำรวจห้อง..
ซึ่งเท่าที่เห็นจะมีรางน้ำเอาไว้สำหรับอาบน้ำและหลุมที่เอาไว้ใช้สำหรับในการขับถ่าย ภายในห้องแห่งนี้มีเตียงนอนเล็กๆ และตะเกียงไฟ อีกทั้งยังมีพื้นที่ๆค่อนข้างกว้างกว่าห้องขังแบบปกติทั่วไป กว้างพอจะสามารถจุคนได้ถึง 5-6 คนเลยด้วยซ้ำราวกับว่ามันเป็นห้องขังรวม..
“ฮือ..จู๋รับไม่ได้ ไม่เอา..~ พาออกไปที..”เสียงของไอ้จ้อนที่ยังคงงอแง ซึ่งมันก็งอแงแบบนี้มาตั้งแต่ข้างบนจนถึงตอนนี้ เพียงแค่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจมันก็เท่านั้น
“เงียบเถอะน่า..”ผมที่ตอบกลับไอ้จ้อน โดยพูดออกมาแบบปกติ เพราะยังไงก็อยู่กันสองคน ถึงห้องข้างๆจะมีคนอยู่แต่ก็คงจะไม่ได้ยินเสียงของผม..
“แกทำแบบนี้ทำไม ฮึก..”ไอ้จ้อนที่ถาม..
“หึ..ไอ้จู๋อย่างแกจะไปรู้อะไร เหตุผลที่ฉันยอมถูกจับมาเข้าคุก นั่นก็เพื่อที่จะเตรียมความพร้อม ซึ่งถ้าเกิดฉันไม่ถูกจับมาขังล่ะก็ โจทย์เก่าอย่างไอ้เวรเซอร์เคิลที่พ่อแม่งเป็นถึงพันโทหรือคู่กรณีอย่างพลตรีเปเนส แม่งคงจะไม่ปล่อยพวกเราเอาไว้แน่
สิ่งที่ฉันกลัวที่สุดคือในช่วงที่ความทรงจำของพวกเราถูกปิดผนึก ในช่วงเวลานั้นแหละคือตอนที่พวกเราอาจจะถูกพวกมันฆ่าตาย เพราะฉะนั้นแล้ว..ฉันจึงตัดสินใจที่จะมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ชั่วคราว และรอให้เรื่องมันซาลงก่อน อีกทั้งด้วยร่างกายปวกเปียกแบบนี้ ไอ้ที่รอดมาได้ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ก็คงเป็นเพราะโชคช่วยล้วนๆ สุดท้ายแล้วถ้าอยากจะได้ใจคนอื่น มันต้องใช้ใจแลก คราวนี้แกเข้าใจแล้วหรือยัง..?”ผมที่อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้ไอ้จ้อนได้เข้าใจ พอมันได้ยินก็เริ่มที่จะสงบลง..
“ถึงจะเป็นแผนก็เถอะ ฮึก..แต่ฉันเฉาตายแน่ๆ..”
“แกไม่ต้องห่วงเดี๋ยวฉันจะดูแลแกเอง ไอ้เพื่อนยาก..”ผมที่บอกกับไอ้จ้อนพลางเอามือลูบไล้สัมผัสมัน..
“ไม่ต้องมายุ่ง อย่ามาแตะตัวฉัน ยัยเมียเก่าออกไปเดี๋ยวเลยนะ..! ออกไป๊..!”ไอ้จ้อนที่ขับไล่มือซ้ายของผม ใช่ซี้..ตั้งแต่ได้เปิดโลกก็ลืมแม่นางทั้งห้าไปซะแล้ว..
“อดทนหน่อยก็แล้วกัน ถ้าออกไปได้เมื่อไหร่ ฉันรับรองว่าแกจะฟินแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน..”ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..
“ฮึก..สัญญาแล้วนะ ถ้าพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็จะอดทนก็ได้..”ไอ้จ้อนที่ตอบกลับ..
“ถ้างั้นมาชนหมัดกันหน่อยคู่หู..!”ผมที่ยื่นกำปั้นลงไป ซึ่งไอ้จ้อนก็ยืดตัวมาชนหมัด ถึงมันจะทำประโยชน์อะไรไม่ได้ แต่มันก็คือเพียงสิ่งเดียวที่ผมพอจะเรียกว่าเพื่อนได้..
“แกว่าพวกผู้คุมจะไปกันหรือยังวะ..?”
“น่าจะไปแล้วล่ะ..ทำไมวะ..?”
“ไปก็ดีแล้ว ฉันก็อดทนมาตั้งนาน..”ผมที่กล่าวออกมา พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ก่อนที่จะ
“อ๊ากกกกกกกก ไอ้เชี้ยเอ้ย เจ็บชิบหายเลย..!!!”ผมที่แหกปากร้องตะโกนออกมาเสียงดังลั่น พร้อมกับเอามือจับขาของตัวเอง พลางลงไปนอนดิ้น..
“เหอะ..ตูว่าล่ะ เห็นทำเข้มมาตั้งนาน..”ไอ้จ้อนที่ส่งเสียงเยาะเย้ย พอผมปลดปล่อยอารมณ์ออกไปจนจบก็ชันตัวลุกกลับขึ้นมา แต่แล้ว..
ครึ้ม..!!!!
ทันใดนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อจู่ๆที่ผนังกำแพงก็มีมือของใครบางคนที่เจาะทะลุคอนกรีตจากห้องข้างๆเข้ามาภายในห้องของผม ก่อนที่เจ้าของมือจะดึงมือกลับไปเหลือทิ้งเอาไว้เป็นช่องโหว่..
ฮะ..เฮ้ย คอนกรีตมันหนามากเลยนะ ไหงพี่แกถึงเอามือเสียบทะลุเข้ามาได้วะเนี่ย..
“เงียบๆหน่อย ไม่อย่างงั้นฉันฆ่าแกแน่..?”เสียงที่ดังออกมาจากรู เดี๋ยวนะ..เสียงผู้หญิงหนิ..
“ผู้หญิงเว้ย..! ผู้หญิง..!!!”ไอ้จ้อนที่ตะโกนแหกปากออกมา เออๆได้ยินแล้ว..
ผมที่เดินไปยังรู พร้อมกับใช้ตาส่องมองเข้าไป แต่กลับพบเพียงแต่ห้องที่ว่างเปล่า..
ฟุบ..!!
“เฮ้ย..!!!!!”ไอ้จ้อนที่ร้องตะโกนแหกปากเสียงดังลั่น เมื่อจู่ๆร่างของคนที่อยู่อีกฟากก็จั้มสแกร์โผล่หน้าออกมายังรู แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับไม่ได้ตกใจหรือผงะแต่อย่างใด..
“ขอโทษด้วย ต่อไปฉันจะระวัง..”ผมที่บอกกับผู้หญิงที่อยู่อีกฟาก ซึ่งถึงแม้ว่าผมจะเห็นเธอแค่ครึ่งหน้า แต่ทว่าผมกลับสัมผัสได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สวย..
เธอเป็นหญิงสาวอายุน่าจะราวๆ 30 ต้นๆ เธอมีเส้นผมเป็นสีแดงเลือดหมู มีดวงตาสีแดงเลือด อีกทั้งแววตาของเธอยังดูน่ากลัวเหมือนกับสัตว์ป่า ส่วนผิวพรรณของเธอเท่าที่ผมสังเกตเห็นคือผิวสีแทน..
ฟุบ..
ทันทีที่หญิงสาวได้รับคำตอบของผมเธอก็เดินกลับไป ก่อนจะเอาผ้ามาอุดรูเอาไว้..
“แบบนี้ค่อยน่าอยู่ขึ้นมาหน่อย..~”
“หยุดคิดไปได้เลย ฉันสัมผัสได้ว่ายัยนี่ไม่ใช่คนธรรมดา เลอัสกับเปเนสที่ฉันคิดว่าแข็งแกร่งเทียบกับเธอคนนี้ไม่ติดเลยสักนิด สัญชาติญาณของฉันมันบอกว่ายัยนี่อันตรายโครตๆ..”ผมที่บอกกับไอ้จ้อน แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่เข้าใจ..
“จะเอาง่ะ..”
“อะ..อึก เวรแล้วไง..?”ผมที่ร่างกระตุก เมื่อจู่ๆอะดรีนาลีนภายในร่างก็ค่อยๆสงบลง นี่คงจะเป็นขีดจำกัดอย่างงั้นสินะ..
ฟุบ..!
ผมที่ค่อยๆทรุดตัวลงนอน พร้อมกับเอาสมุดไดอารี่ที่จดบันทึกทุกอย่างเอาไว้แล้วออกมาวางไว้ต่อหน้า..
“เฮ้อ..แม่งเอ้ย ฉันล่ะเซงกับไอ้ความทรงจำนี่จริงๆ..”เสียงของไอ้จ้อนที่สบถออกมาอย่างเซงๆ สติของผมกับมันค่อยๆที่จะดับวูบลงไป ก่อนที่สุดท้ายแล้วทุกอย่างจะมืดดับลง..
“เริ่มทำการซ่อมแซมกระดูกและเซล์ที่เสียหาย ทำการปลูกถ่ายอวัยวะจำลองส่วนสมอง เลียนแบบอวัยวะของสิ่งมีชีวิตจากดวงดาว 64-Z สมองขนาดอะตอมถูกสร้างสำเร็จ กักเก็บเอาไว้ที่ถุงอัณฑะ ถ่ายโอนความทรงจำของสมองหลักเข้าสู่สมองรอง..”
ท่ามกลางร่างของสตาร์ที่หมดสติ จู่ๆก็มีเสียงๆหนึ่งที่มีแต่เขาเท่านั้นที่จะได้ยินดังขึ้นมา โดยที่แม้แต่เจ้าของเสียงเองก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกมา..
1 วันต่อมา..
ภายในห้องขังที่มืดสนิท หลังจากที่สตาร์หมดสติไป ช่วงเวลาก็ล่วงเลยผ่านพ้นมานานถึง 1 วันเต็มๆ ตลอด 1 วันที่ผ่านมาผู้คุมก็ได้สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำอาหารมาส่งให้ แต่กลับพบว่าชายหนุ่มยังคงนอนหลับไม่ได้สติ..
[สตาร์]
“อะ..อื้อ..?~”ผมที่ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา เอาอีกแล้วแม่งเอ้ย..คราวนี้ตูอยู่ที่ไหนล่ะเนี่ย ฮะ..เฮ้ย ที่ไหนวะเนี่ย..?
“หืม..? อ้าว..อะดรีนาลีนยังไม่สงบเหรอเนี่ย..?”เสียงของไอ้จ้อนที่เอ่ยดังขึ้นมาอยู่ภายในหัวของผม..
“ห้ะ..? อะดรีนาลีนอะไรวะ..?”ผมที่ส่งเสียงร้องออกมา จากการที่ไอ้จ้อนมันละเมอพูดอะไรออกมาก็ไม่รู้..
“ก็อะดรีนาลีนไง แกเบลออะไรเนี่ย แต่จะว่าไปแล้วก็แปลกจังฉันนึกว่าพวกเราจะหมดสติไปแล้วซะอีก..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา แม่งพูดอะไรของแม่งวะ..
“เอ๊ะ..? หรือว่าความทรงจำของพวกเราจะไม่ถูกผนึกแล้ว..?”ไอ้จ้อนที่ยังคงพูดอะไรไม่รู้เรื่อง.
“เดี๋ยวก่อนเลย..ฉันไม่เข้าใจว่าแกกำลังพูดเรื่องอะไร แล้วทำไมพวกเราถึงมาอยู่ในคุกได้..?”ผมที่กล่าวถามไอ้จ้อนและเริ่มที่จะสติแตก..
“ไม่เอาน่า..มันใช่เวลามาเล่นไหม..?”
“เล่นเชี้ยอะไรฉันพูดจริงๆ เหตุการณ์ล่าสุดเท่าที่ฉันจำได้คือตอนที่กำลังจับฉลากเลือกเหล่าทัพ และดูเหมือนว่าในตอนนั้นข้อศอกของฉันจะไปโดนหน่มน้มเข้า จึงทำให้พลังของฉันถูกปลุกจนตื่นขึ้นมา รู้สึกตัวอีกทีก็มาโผล่ที่นี่แล้ว..”ผมที่บอกกับไอ้จ้อน..
“อะ..เอาจริงดิ นะ..นี่อย่าบอกนะว่าพลังความทรงจำของแกถูกปิดผนึกไปแล้ว..”ไอ้จ้อนที่เอ่ยถามกับผม..
“ก็เออน่ะสิ..”
“เฮ้ย..แล้วทำไมฉันถึงยังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ แต่ทำไมแกถึงจำไม่ได้กันล่ะ..?”ไอ้จ้อนที่ร้องออกมา..
“ว่ายังไงนะ แกจำได้..? ฉันไม่เข้าใจ..”
“ปกติแล้วถ้าพลังของแกตื่นฉันก็จะกลับมาจำทุกอย่างได้เหมือนกันกับแก แต่ถ้าพลังถูกปิดผนึกและแกหมดสติไป พอตื่นขึ้นมาฉันก็จำอะไรไม่ได้เหมือนกัน เพราะว่าฉันใช้สมองเดียวกันกับ กะ..แก..อึก..”
“อย่างงั้นเองสินะ..”ผมที่กล่าวออกมา หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายของไอ้จ้อน แต่ไหงจู่ๆมันถึงชะงักไปกันนะ..
“สตาร์..มันอาจจะฟังดูแปลกๆนะ แต่ฉันสัมผัสได้ว่าตอนนี้ ฉันมีสมองเป็นของตัวเองว่ะ..?”
“ห้ะ..?! อะไรนะ..”ผมที่ถึงกับอุทานเสียงหลง
“ฉันเองก็ไม่เข้าใจ แต่ว่าไอ้สมองที่โผล่มาดูเหมือนว่ามันจะเชื่อมต่อกับสมองของแก ฉันยังสามารถรับรู้ถึงความรู้สึกของแกได้เฉพาะแค่ส่วนของไอ้จ้อน ไม่แน่ว่าไอ้สมองที่โผล่มามันอาจจะเก็บความทรงจำในช่วงที่พลังตื่นเอาไว้ก็ได้ และด้วยการที่มันเป็นสมองของฉันก็เลยมีแต่ฉันเท่านั้นที่จำเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้..”
“ชะ..ชักไปกันใหญ่ล่ะ พล็อตไซไฟหรือไง จู่ๆก็มีสมองงอกออกมาในจู๋ของฉันเนี่ยนะ..”ผมที่กล่าวออกมา แม่งแปลกเกินไปแล้ว..
“ไม่ได้อยู่ในตัวฉัน แต่มันอยู่ในไอ้ไข่นุ้ยน่ะ เจ๋ง..! แบบนี้ก็สวยสิ..อย่างน้อยๆแกก็ไม่ต้องไปพึ่งไอ้สมุดไดอารี่โง่ๆนั่นแล้ว เพราะตอนนี้ฉันคือเมมโมรี่ที่จะช่วยแก..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา มันดูภูมิใจที่จู่ๆตัวเองก็มีประโยชน์..
“ถ้างั้นก่อนอื่นเลย แกช่วยเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ฉันฟังทีสิ..”
“ได้..ถึงมันจะน่าเศร้าแต่ฉันจะเล่าให้แกฟังก็แล้วกัน ในคืนนั้นพวกเรายังไม่ได้มีอะไรกับเจมิส เอ๊ะ..? แต่มันก็เหมือนมีนั่นแหละ..”
“ไม่ใช่เรื่องนั้นโว้ยไอ้จู๋เวร..!”ผมที่ตะโกนออกมาด้วยความหัวร้อน..
ครึ้ม..!!
แต่แล้วจู่ๆห้องขังก็เกิดการสะเทือน ผมที่นั่งอยู่พลันหยุดชะงักไป..
“ไอ้เวร..อย่าเสียงดัง ห้องข้างๆเรามันมีตัวอันตรายอยู่..”ไอ้จ้อนที่บอกกับผม พอผมได้ยินก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากของตัวเอง..
“เล่ามาได้แล้ว..”ผมที่กระซิบบอกกับไอ้จ้อน ก่อนที่สุดท้ายแล้วมันจะเริ่มเล่าทุกสิ่งทุกอย่างให้ผมได้ฟัง..
“อะ..เอาจริงดิ นะ..นี่ฉันอีกคนทำแบบนั้นจริงๆเหรอ..?”ผมที่ถึงกับหน้าเสียพูดอะไรไม่ออก จากวีรกรรมที่ได้สร้างเอาไว้..
“ก็เออน่ะสิ..แล้วอีกอย่างที่ฉันจะบอก ตอนความทรงจำแกตื่น แกไม่ได้เปลี่ยนกลายเป็นคนอื่น แต่แค่แกจำเรื่องราวในอดีตของตัวเองได้ก็เท่านั้น..”ไอ้จ้อนที่อธิบาย..
“เรื่องราวในอดีต ก็หมายความว่ายังไง..?”
“แกอาจจะเคยเป็นทหารมาก่อนที่จะมาเป็นนีท แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างหรืออาจจะเป็นเพราะความผิดปกติของความทรงจำที่พวกเรากำลังเป็นอยู่ จึงอาจจะทำให้แกจำเรื่องราวในช่วงนั้นไม่ได้..”สิ้นคำอธิบายของไอ้จ้อน ผมก็ต้องอึ้งไปในทันที แต่ถ้าให้ลองมาคิดดูดีๆ มันก็อาจจะเป็นอย่างที่ไอ้จ้อนบอกก็ได้ เพราะผมจำเรื่องราวก่อนหน้านั้นไม่ได้เลย..
“และที่สำคัญ..ตัวของแกในตอนนี้ความทรงจำถูกปลุก แกก็ยังจำเรื่องราวในอดีตได้ไม่หมด..”ไอ้จ้อนที่อธิบายดูเหมือนความอาการของผมมันจะดูซับซ้อนกว่าที่คิดเอาไว้..
“ฉันขอตั้งชื่อมันว่าโหมดพลัง X แล้วฉันเองก็จะใช้ชื่อนี่ด้วยเหมือนกัน ต่อจากนี้เรียกฉันว่าเอ็กซ์..”ไอ้จ้อนที่พูดขึ้น แหม่..พอมีสมองเป็นของตัวเองแล้วอยากจะมีชื่อเลยนะ..
“ไม่อ่ะ..ฉันก็จะเรียกแกว่าไอ้จ้อนหรือไอ้จู๋แบบเดิม เอาไว้แกคุยกับคนอื่นได้เมื่อไหร่ค่อยแนะนำตัวกับเขาละกัน..”
“อ้าวเฮ้ย..! โถ่..”ไอ้จ้อนที่ร้องออกมา ก่อนที่มันจะจ๋อยไป..
ฟุบ..!
ผมที่เอื้อมมือไปหยิบไดอารี่ขึ้นมาเปิดอ่าน ซึ่งหลังจากที่อ่านไปก็ดูเหมือนว่าข้อมูลข้างในจะบอกเล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาอย่างที่ไอ้จ้อนมันเล่าเป๊ะๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีข้อมูลอยู่อีก..
[ถึงตัวฉัน..หลังจากที่แกเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว ภายในเวลาหนึ่งปี แกจะต้องฝึกฝนร่างกาย วิดพื้นให้ได้อย่างน้อยๆวันละหนึ่งพันครั้ง สควอชวันละหนึ่งพันครั้ง และสุดท้ายดึงข้อวันละหนึ่งร้อยครั้ง แรกเริ่มฉันจะอนุโลมให้ลดทุกอย่างลงเอาเท่าที่แกพอจะทำได้ แต่ถ้าเกิดเลยครึ่งปีไปแล้ว แกจะต้องทำทุกอย่างให้ครบตามตารางที่ฉันกำหนด..]
“คะ..ใครแม่งจะไปทำได้วะ เดี๋ยวก็ผมร่วงต่อยหมัดเดียวตายกันพอดี..”ผมที่สบถกับตัวเอง นี่ตัวของผมคิดตารางออกกำลังเองจริงดิ..
[ฉันรู้ดี..ถ้าเกิดฉันที่ไม่มีความทรงจำตื่นขึ้นมาและได้อ่านข้อความนี้ ฉันคงจะต้องบ่นออกมา แต่ถ้าเกิดไม่ทำ อีกหนึ่งปีให้หลังด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนปวกเปียกแบบนี้ มีหวังพวกเราอาจจะถูกฆ่าตายก่อนแน่ๆ เพราะฉะนั้นจงทำซะ
ส่วนสิ่งต่อไปที่ฉันอยากจะให้แกทำคือฝึกฝนสมาธิและอารมณ์ของตัวเอง พลังหรือความทรงจำของพวกเราจะถูกปลุกขึ้นมาก็ต่อเมื่ออะดรีนาลีนภายในร่างถูกหลั่งออกมา
ซึ่งฉันก็มั่นใจว่าถ้าฝึกทำสมาธิดีๆ พวกเราจะสามารถขับสารนั้นออกมาได้ โดยไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สื่อกระตุ้น อารมณ์เหมือนกับเดอะฮัคที่โกรธและสามารถแปลงร่างเมื่อไหร่ก็ได้นั่นแหละ
ส่วนเหตุผลที่ฉันอยากจะฝึกควบคุมพลังนี้ก็เพื่อกันเอาไว้ในกรณีฉุกเฉินที่ไม่มีตัวกระตุ้น เพราะทุกๆครั้งที่รอดมาก็ได้ก็เพราะว่าโชคช่วยล้วนๆ
และสิ่งสุดท้ายที่ฉันเป็นกังวลมากที่สุดและอยากจะบอกเอาไว้ ฉันกลัวว่าแกอาจจะสติแตกที่ต้องมาอยู่ในห้องมืดๆแคบๆ ยังไงก็จงเอาชนะมันให้ได้ แต่ถ้าให้เทียบกับนีทที่เก็บตัว ฉันถือว่าเรื่องแค่นี้กระจอกไปเลยล่ะ ยังไงก็ขอฝากด้วยตัวฉันเอง..~]
และนั่นก็คือข้อความของไดอารี่หน้าสุดท้าย ทั้งลายมือและลักษณะการเขียนมันคือตัวของผมจริงๆ ถึงทุกอย่างที่ข้อความระบุมามันจะดูเป็นอะไรที่ยากลำบาก แต่เพื่อที่จะมีชีวิตรอดแล้ว ไม่ว่ายังไงผมก็จะทำมัน..
“ถ้างั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า..”ผมที่บอกกับตัวเอง พร้อมทั้งชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินไปตรงกลางห้อง..
“รอให้ขาแกหายก่อนดีกว่าไห..ม หะ..หืม ฮะ..เฮ้ย ขา ขาแก..?!”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา ก่อนที่จู่ๆมันจะร้องเสียงหลง จริงสิ..ก่อนหน้านี้ที่ไอ้จ้อนมันเล่าให้ผมฟังดูเหมือนว่ากระดูกขาของผมจะแหลกละเอียดไปแล้ว แต่ทำไมมันถึงได้..
“ขาแกหายแล้วเหรอ..? นะ..นี่พวกเราหมดสติไปนานแค่ไหนเนี่ย..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา..
“นั่นน่ะสิ..ฉันว่าพวกเราจะต้องหมดสติไปนานแน่ๆ ไม่ได้การแล้ว ต้องรีบออกกำลังกาย..”ผมที่กล่าวออกมา เมื่อรู้ว่าเวลาเหลือไม่มาก..
จ๊อก..~
แต่ดูเหมือนว่าผมควรจะต้องหาอะไรกินก่อน..~
ไรท์:คอมเม้น..!!!!! เยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มันคือพลัง X ของไรท์ 1 เม้น ไรท์จะชาร์จพลัง 50 หน่วย
MANGA DISCUSSION