แสงที่ 23 ตบยันพลตรี..
ณ เมืองเฮร่า..
หลังจากที่ลาซิสพาผมเข้ามาภายในเมืองเขาก็รีบมุ่งหน้าพาผมมาส่งยังจุดคัดแยก โดยทันทีที่มาถึงภาพที่ปรากฏให้เห็นนั่นก็ลานกว้างขนาดใหญ่
ทางเบื้องหน้าสุดมีอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ตั้งตระหง่านอยู่ อีกทั้งภายใต้อาคารยังมีร่างของทหารที่ได้รับหน้าที่คัดเลือดนั่งในลักษณะแถวหน้ากระดานเรียงยาวกันอยู่บนเก้าอี้กว่าหลายสิบคน..
ซึ่งเท่าที่ผมได้ฟังข้อมูลมาจากลาซิส ลานกว้างแห่งนี้คือสถานที่ๆเอาใช้เดินสวนสนาม อีกทั้งยังเป็นจุดรวมพลของกองทัพคีทารัส..
โดยที่ภายในลานกว้าง ณ ตอนนี้ปรากฏให้เห็นเป็นร่างของทหารเกณฑ์กว่าหลายร้อยชีวิตที่กำลังยืนเข้าแถวกันอยู่อย่างเป็นระเบียบ อีกทั้งที่ตรงบริเวณขอบของลานกว้างรอบๆจะปรากฏให้เห็นเป็นทหารจำนวนมากจากเหล่าทัพต่างๆที่มายืนดูการจำแนกของทหารเกณฑ์ในวันนี้..
ตัดกลับมาที่หน้าทางเข้าของสนามจะมีทหารกว่าหลายนายที่มีหน้าที่คอยจัดการเรื่องเอกสารนั่งกันอยู่บนโต๊ะยาว ให้ความรู้สึกเหมือนกับนายทะเบียน ซึ่งขั้นตอนแรกจะต้องมาติดต่อที่ตรงนี้ก่อน จึงจะสามารถเข้าไปจับฉลากจำแนกตัวได้
“ชื่อ..?”เสียงของทหารนายทะเบียนที่เอ่ยถาม หลังจากที่ลาซิสพาผมมายังจุดรายงานตัว..
“สตาร์..ศูนย์ฝึกอบรมทหารทางทิศใต้เมืองโรเซ่ รหัส 112 “ลาซิสที่ตอบแทนผม เมื่อทหารนายทะเบียนที่นั่งอยู่บนโต๊ะได้ยินก็หยิบเอกสารขึ้นมาเปิด พร้อมทั้งตรวจสอบ..
“สตาร์..ไม่มีนามสกุลงั้นเหรอ..?”ทหารนายเบียนที่ดูเอกสาร ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยถามผม..
“เจ้านี่เป็นเด็กกำพร้าจากโบสถ์มิลเทลน่ะ..”ลาซิสที่ตอบแทน เมื่ออีกฝ่ายได้ยินก็พยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหยิบตราปั้ม มาปั้มลงบนแขนของผม ดูเหมือนว่าเด็กกำพร้าจะไม่มีนามสกุล..
“ไปจำแนกได้..”นายทะเบียนที่บอกกับผม..
“อะ..เออคือแล้วคิวล่ะครับ ผมคิวที่เท่าไหร่..?”ผมที่ถามกับนายทะเบียน เพราะเห็นว่าไม่ได้เอกสารหรือคิวอะไรเลย.
“คิว..? ไม่มีหรอก แกพร้อมเมื่อไหร่ก็ไปบอกผู้ดูแลที่จุดจับฉลากจำแนกได้เลย..”สิ้นคำตอบของนายทะเบียน ผมถึงกลับต้องชะงักไปด้วยความงุนงง..
“ไม่มีคิว..?”
“ก็เออน่ะสิ..แกงงอะไร..?”
“ไปได้แล้วฉันจะรอฟังข่าวดีอยู่ข้างนอกนะ..”ลาซิสที่ผลักไหล่ของผมให้เดินไป ก่อนที่สุดท้ายผมจะยอมจำใจเดินไปรวมแถว
“แกมาใหม่สินะ ถ้างั้นไปขึ้นแถวใหม่..”เสียงของทหารคาดว่าน่าจะเป็นผู้ดูแลที่ตะโกนบอกกับผม..
โดยที่ตามจุดต่างๆของเหล่าทหารเกณฑ์ที่กำลังนั่งเข้าแถวกันอยู่ จะมีผู้ดูแลที่ยืนอยู่..
ซึ่งทันทีที่ผมเดินมาก็ดูเหมือนว่าท้ายแถวสุดท้ายมันจะเต็มพอดี ผมจึงต้องเดินไปขึ้นแถวใหม่ที่ทางด้านหน้าสุดหรือตรงบริเวณหน้าอาคาร..
ฟุบ..!
ซึ่งทันทีที่ผมเดินมาถึง สิ่งที่เห็นนั่นก็คือร่างของทหารห้านายที่กำลังยืนถือโหลใบใหญ่อยู่ข้างหน้าสุดของแถว โดยที่ทหารทั้งห้านายจะยืนเว้นระยะห่างกันประมาณ 2 ช่วงตัว
ถัดไปอีกที่ทางเบื้องหลังของทหารทั้งห้าจะมีร่างของทหารยศสูงกว่า 15 คนที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายใต้อาคารที่สูงจากระดับพื้นขึ้นไปกว่า 3 เมตร
และถ้าผมเดาไม่ผิดทหารยศสูงทั้งสิบห้าคน นั่นก็คือผู้ที่ได้รับหน้าที่ให้มาคัดเลือกทหารเกณฑ์เข้ากองทัพ โดยทั้งสิบห้าคนจะนั่งอยู่ภายใต้อาคารที่ถูกแบ่งเป็นล็อกๆ หนึ่งล็อกจะมีอยู่สามคนที่นั่งอยู่ใกล้กัน ทั้งสามคนน่าจะเป็นผู้คัดเลือกของทารอน เอทารอสและคีทารัส
นั่นก็เท่ากับทั้งสิบห้าคน จะถูกแบ่งเป็นกลุ่มละสามคนกว่า 5 กลุ่ม เท่ากับจำนวนผู้ที่จะเข้าจับฉลากพอดี..
สีแดง:ทหารที่มาชม สีเหลือง:ทหารเกณฑ์ สีเขียว:ผู้คัดเลือกมี 15 คน สีขาว:นายทะเบียน สีน้ำเงิน:ทหารที่ดูแลกองฉลาก สีชมพู:สตาร์&จ้อน
“ต่อไป..!”เสียงตะโกนของผู้ดูแลที่ตะโกนดังขึ้น เมื่อผมหันไปมองก็พบว่าทหารเกณฑ์แต่ละคนที่กำลังยืนตัวเกร็งไม่กล้าก้าวออกมาจับฉลากกันอยู่..
“อึก..ถ้าออกไปจับตอนนี้มีหวังจบเห่แหงๆ..”
“นะ..นั่นสิ คะ..คนที่ออกไปจับก็ถูกคัดรายชื่อออก แถมยังถูกส่งไปที่ค่ายทหารสามัญตั้งร้อยกว่าคนแล้ว..”
เสียงพูดคุยสนทนาของทหารเกณฑ์ที่ยืนอยู่ข้างๆผม ซึ่งพอได้ยินก็พยายามตะแคงหูฟัง..
“ใครมันจะคิดกันละว่าอาคัสจะเปลี่ยนระบบการจับฉลาก แถมระบบใหม่ยังมีการตัดรายชื่อออกและส่งไปที่ค่ายทหารสามัญด้วย แบบนี้ก็เท่ากับ..ไม่ว่าเราจะจับได้เหล่าทัพไหน ถ้าผู้คัดเลือกไม่เลือกเรา เราก็จะถูกคัดชื่อออกและส่งไปที่ค่ายทหารสามัญอยู่ดี..”
อ้าว..เวรแล้วไง ผมที่ได้ฟังเรื่องราวจากเหล่าทหารเกณฑ์ ดูเหมือนว่าตอนนี้อาคัสจะมีระบบคัดคนออกที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งก็ดูเหมือนว่าตาลุงลาซิสจะยังไม่รู้เรื่องนี้..
“แกใจเย็นๆก่อน ยังไงกำหนดของการตัดรายชื่อออกก็สามารถตัดได้แค่ 200 จาก 600 คนเท่านั้น แต่ละเหล่าทัพได้สิทธิ์ในการตัดรายชื่อออกแค่ทัพละ 66 คน ตอนนี้ทั้งสามเหล่าทัพก็ใช้ไปจนเกือบหมดแล้ว แต่ละเหล่าทัพ เหลือสิทธิ์อีกเพียงแค่ 6 คนเท่านั้น เราก็แค่รอจังหวะเท่านั้..น..”
“เฮ้ย..ทหารเกณฑ์สองนายที่กำลังคุยกันอยู่นั่นน่ะ ออกมานี่เดี๋ยวนี้..”
แต่แล้วในขณะที่ทหารเกณฑ์สองนายซึ่งกำลังยืนอยู่ข้างๆผมกำลังพูดคุยกันอยู่ จู่ๆผู้ดูแลที่สังเกตเห็นก็ได้ตะโกนเรียกพวกเขา..
“เฮือก..ขะ..ขอโทษครับ ตะ..แต่ ผมขอรออีกสักเดี๋ยว..”
“ผะ..ผมก็ด้วย..”
เสียงของทหารเกณฑ์ทั้งสองที่ตอบกลับผู้ดูแล ในระหว่างนั้นก็มีทหารเกณฑ์อีกสามคนที่ออกไปยืนรอเพื่อจับฉลาก..
“ฉันสั่งว่าให้ออกมา..!!”ผู้ดูแลที่ตวาดเสียง เมื่อทหารเกณฑ์ทั้งสองได้ยินก็ถึงกับหน้าเสีย ก่อนจะต้องจำใจพากันเดินออกมา..
“หึ..ดูไอ้พวกอ่อนหัดนั่นสิ แต่ละคนกลัวจะถูกส่งไปค่ายทหารสามัญกันทั้งนั้น น่าสมเพช..!”เสียงของชายวัยกลางคนอายุประมาณ 50 กว่าๆที่เอ่ยดังขึ้น โดยจุดที่เขาคนนี้นั่งอยู่ นั่นก็คือเก้าอี้ตัวซ้ายสุดตั้งอยู่ภายในล็อกที่สามหรือระหว่างกึ่งกลางของล็อกอื่นๆ
ซึ่งชายคนนี้มีร่างกายที่กำยำสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มที่แตกต่างจากทหารทั่วๆไป จากการที่ชุดของเขามีผ้าคลุมสีแดงที่ติดเชื่อมกับบ่า อีกทั้งที่ไหล่ของชุดผ้าคลุมยังมียศที่ประดับติดเอาไว้ โดยแท้ที่จริงแล้วเขานั้นคือพลตรีแห่งกองทัพคีทารัสนามว่าเปเนส..
“หึ..นั่นสิ ปีนี้มีแต่พวกขี้ขลาดทั้งนั้น ไอ้พวกที่พอจะใช้การได้หน่อยก็มีไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ..”เสียงอีกเสียงที่ตอบกลับ ต้นเสียงนั้นเป็นหญิงวัยกลางคนที่มีอายุไล่เลี่ยกันกับเปเนส อีกทั้งเธอยังใส่ชุดผ้าคลุมแบบเดียวกันกับอีกฝ่าย แต่แค่คนละสีเท่านั้น ซึ่งเธอคนนี้ก็คือพลตรีแห่งกองทัพเอทารอส นามว่าซาช่า..
ซาช่าเธอเป็นผู้หญิงที่มีอายุ เธอมีเส้นผมเป็นสีเงิน มีดวงตาเป็นแดง ถึงผิวของเธอจะไม่ได้เต่งตึง แต่เธอกลับมีใบหน้าที่สวยในแบบฉบับตามอายุวัยของผู้หญิงที่มีอายุ..
“ใช่..แล้วไอ้พวกที่พอจะใช้การได้ก็ถูกไอ้เวรสองตัวแถวนี้มันแย่งไป แถมพวกมันยังคิดที่จะรวมหัวกันโยนแต่ขยะมาให้ฉันอีก..”เสียงสุดท้ายของชายวัยกลางคนที่กล่าวออกมา
โดยที่เจ้าของเสียงนั้นเป็นชายวัยกลางคนที่มีอายุไล่เลี่ยกับเปเนสและซาช่า เขามีใบหน้าที่ดุดันและมีร่างกายที่สูงใหญ่ เส้นผมสีแดงเปลวเพลิงที่ปกคลุมลงมาประบ่าให้ความรู้สึกเหมือนกับราชสีห์ดุ ซึ่งชายคนนี้ก็คือพลตรีแห่งกองทัพทารอน นามว่าเลอัส..
“เลอัส..ระวังปากหน่อย พวกฉันไปรวมหัวกันแกล้งแกตอนไหน..? แกแค่โชคไม่ดีเองต่างหาก..”ซาช่าที่กล่าวกับเลอัส
“หึ..ก็ตามที่ยัยนี่มันบอกนั่นแหละ ทหารเกณฑ์ที่พอจะมีแววดันจับได้กองทัพของฉันหรือไม่ก็กองทัพคีเอทารอสของยัยนี่ มันก็ช่วยไม่ได้นี่หว่า ดวงใครดวงมัน..ฮ่าๆ..”เปเนสที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา..
ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น ทหารเกณฑ์ที่จับฉลากผ่านเข้ามายังล็อกของพลตรีทั้งสาม ส่วนใหญ่ที่พอมีแวว..ไม่จับฉลากได้กองทัพเอทารอสก็จับได้กองทัพคีทารัส แต่พอเป็นคนที่ไร้ฝีมือเข้าหน่อยก็ดันจับได้กองทัพทารอน มันจึงทำให้เลอัสเริ่มที่จะรู้สึกไม่พอใจ..
โดยตั้งแต่ที่การคัดเลือกได้เริ่มต้นขึ้น ผู้คัดเลือกในล็อกอื่นๆก็ได้เริ่มทำหน้าที่ของตัวเอง แต่ละล็อกต่างคัดเลือกและจำแนกทหารเกณฑ์เข้าภายในกองทัพ
ทางด้านผู้คัดเลือกของกองทัพทารอนในล็อกอื่นๆก็ไม่ได้มีการคัดรายชื่อทหารเกณฑ์ที่จับฉลากได้เหล่าทัพทารอนออกแต่อย่างใด..
แต่ทว่าทางด้านล็อกของเหล่าพลตรี กลับมีเลอัสที่ใช้สิทธิ์คัดรายชื่อทหารเกณฑ์ออกอยู่ตลอด จนทำให้ภายในล็อคของเขา ยังไม่มีทหารเกณฑ์คนใดเลยที่ได้สังกัดเข้าร่วมกับกองทัพทารอน..
และในทางกลับกันเปเนสและซาช่าเองก็แทบจะไม่ได้ใช้สิทธิ์คัดคนออกเลย เพราะเหล่าทหารเกณฑ์ที่จับได้เหล่าทัพของคนทั้งสองและได้เข้ามายังล็อกนี้ แต่ละคนก็ล้วนแล้วแต่พอมีแวว ต่างจากทหารเกณฑ์ที่เลอัสได้เจอ
สถานการณ์มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ที่การจำแนกได้เริ่มต้นขึ้น มันจึงสร้างความไม่พอใจให้แก่เลอัสเป็สอย่างมาก..
แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว..ในตอนนี้เหล่าทัพทั้งสามก็ต่างเหลือสิทธิ์คัดรายชื่อออกเท่ากัน ถึงเปเนสกับซาช่าแทบจะไม่ได้ใช้สิทธิ์ แต่ผู้คัดเลือกในล็อกอื่นๆก็ต่างที่จะใช้มันไปในการจำแนกเลือกเอาแต่ทหารเกณฑ์ที่มีคุณสมบัติเข้ามา..
“เดริก..สังกัดทัพทารอน..!”หนึ่งในทหารกองฉลากที่ตะโกนดังขึ้น ก่อนที่ร่างของคนที่ถูกขานชื่อจะเดินมาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าของพลตรีทั้งสาม..
“ไม่รับ..!”เลอัสที่ทำการตรวจสอบร่างของทหารเกณฑ์ที่เดินมาหยุด ก่อนจะบอกกับนายทะเบียนที่ยืนอยู่ข้างล่าง..
“มะ..ไม่นะ เดี๋ยวก่อนสิครับ..”ทหารเกณฑ์ที่กล่าวออกมา..
“หึ..คริสตัลมานาระดับ 4 ดาวขาว แกมันไม่มีคุณสมบัติ อย่างน้อยๆถ้าจะเข้าทัพทารอนอย่างต่ำก็ต้องเป็น 1 ดาวเขียว..”เลอัสที่กล่าวออกมา ดวงตาคู่สีแดงกำลังจับจ้องมองไปยังร่างของทหารเกณฑ์ ถึงกับทำให้มันหวาดกลัวจนตัวสั่น..
“คีทารัสก็ไม่เอาเหมือนกัน เจ้านี่มันขยะเกินไป ฉันล่ะสงสัยจริงๆในการทดสอบรอบแรก ไอ้ผู้คุมสอบมันตาถั่วหรือยังไงกันวะ…”เปเนสที่กล่าว พลางสบถบ่นออกมา..
“เอทารอสของฉันยิ่งไม่ต้องพูดถึง นายทะเบียนส่งมันไปที่ค่ายทหารสามัญ..”ซาช่าที่กล่าวออกมาเป็นคนสุดท้าย ซึ่งเมื่อถูกปฏิเสธจากทั้งสามเหล่าทัพ ชะตากรรมที่ทหารเกณฑ์นายนี้จะต้องเผชิญคือค่ายทหารสามัญ..
“ฮึก..ไม่จริง..”เสียงของทหารเกณฑ์ที่ร้องไห้ออกมา ก่อนที่เขาจะถูกทหารผู้ดูแลพาตัวออกไป..
ซึ่งท่ามกลางการคัดเลือกทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ล้วนแล้วแต่อยู่ในสายตาของสตาร์..
“ฟู้ว..โชคดีจริงๆที่ไม่ได้ล็อกกลาง ถ้าไปตกล็อกของพวกท่านพลตรีมีหวังได้ถูกส่งไปที่ค่ายทหารสามัญแหงๆ..”
“นั่นดิ..ว่าแต่แกได้สังกัดเหล่าทัพไหน ฉันได้คีทารัส..?”
“ฉันก็ได้คีทารัส แจ๋ว..~”
เสียงการสนทนาของทหารเกณฑ์สองนายที่กำลังเดินผ่านหน้าของสตาร์ไป ซึ่งทหารทั้งสองนายนี้คือสองคนเดียวกันกับที่ถูกเรียกตัวออกไปในตอนแรก ดูเหมือนว่าทั้งสองจะได้เข้าร่วมกับกองทัพคีทารัส..
[สตาร์]
“อึก..”ผมที่ได้แต่ยืนสะอึก ผมในตอนนี้เริ่มที่จะรู้สึกกดดันขึ้นมา เท่าที่ผมเห็นมีทหารเกณฑ์ที่ไม่ถูกเลือกกำลังยืนรอต่อแถวขึ้นไปบนรถม้า ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทหารเหล่านั้นจะถูกส่งไปที่ไหน นอกเสียจากค่ายทหารสามัญ..
สิ่งที่ผมจะต้องทำในตอนนี้คืออยู่นิ่งๆ และรอจนกว่าที่สิทธิ์การคัดคนออกของแต่ละเหล่าทัพจะหมด โดยที่ทหารเกณฑ์ที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดเริ่มที่จะแอบเดินเนียนๆถอยกลับไปข้างหลัง..
“เฮ้ย..! พวกแกน่ะมาจับฉลาก..!”เสียงของผู้ดูแลที่กล่าวออกมา เขายืนชี้นิ้วเลือกด้วยตัวเอง ซึ่งทหารเกณฑ์ผู้โชคร้ายก็มีแต่ต้องจำใจยอมรับชะตากรรม สำหรับคนที่มั่นใจในตัวเองก็ก้าวเดินออกมาอย่างไม่ลังเล แต่สำหรับคนที่รู้ว่าจุดจบของตัวเองจะลงเอยแบบไหนก็ได้แต่ยืนหน้าซีดปากสั่น..
“เฮ้ย..แกน่ะ..!”
แต่แล้วร่างของผมก็ต้องกระตุกวูบ เมื่อผู้ดูแลคนหนึ่งจู่ๆก็ส่งเสียงเรียกผม ซึ่งเมื่อผมหันไปมองใบหน้าของผมก็พลันต้องซีดไปในทันที เพราะอะไรน่ะเหรอ..? นั่นก็เพราะว่าล็อกจับฉลากของผมมันคือล็อกที่สาม ถ้าเกิดจับฉลากที่ล็อกนั้น จุดที่ผมจะต้องไปลงเอยนั่นก็คือ..
“อึก..!”ผมที่ได้แต่ยืนหน้าชา จากร่างของพลตรีทั้งสามที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้..
“เวรเอ้ย..! ชิบหายแล้วไง..!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา เดี๋ยวนี่แกยังมีชีวิตอยู่เหรอเนี่ย..?
“เฮ้ย..แกหูหนวกเหรอ..? ถ้าแกไม่ออกมาฉันจะส่งแกไปที่ค่ายทหารสามัญ..!”เสียงของผู้ดูแลที่ตวาดใส่ผม เมื่อผมเห็นเช่นนั้นก็ไม่มีทางเลือก ได้แต่สวดภาวนาอ้อนวอนอยู่ภายในใจต่อ..
‘ไอ้จ้อนช่วยฉันด้วย..’
“จู๋ก็ช่วยแกไม่ได้โว้ย..!”เสียงของไอ้จ้อนที่กู่ร้อง เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ผมจะเดินก้มหน้าไปหยุดยืนอยู่ตรงทหารผู้มีหน้าที่ควบคุมกองฉลาก..
“จับสิ..”เสียงของทหารตรงหน้าที่กล่าวออกมา เมื่อผมเงยหน้าขึ้น สิ่งที่พบนั่นก็คือหญิงสาวผมสีบลอนด์ เธอสวมใส่ชุดยูนิฟอร์มทหารของเหล่าทัพเอทารอส อีกทั้งยังมีขนาดหน้าอกที่ใหญ่ทะลักเสื้อ เดี๋ยวๆไม่เกี่ยว..
โดยที่ในตอนนี้ทหารหญิงตรงหน้าของผมกำลังชูกล่องที่บรรจุฉลากขึ้นเหนือหัว จึงทำให้เสื้อที่เธอสวมใส่มันดูรัดติ้วจนกระดุมแทบปริ และสามารถมองเห็นเรือนร่างของเธอได้อย่างชัดเจน..
“อู้ววววว เบิ้มๆเลย..เดี๋ยวๆ สถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมา..แต่ใหญ่จริงว่ะ..”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา แรกๆก็เหมือนจะดึงสติกลับมาได้ แต่สุดท้ายจู๋ก็ยังเป็นจู๋..
“นี่..ทหารเกณฑ์ รีบๆจับสักทีสิ ฉันเมื่อยแล้วนะ..”ทหารหญิงตรงหน้าที่กล่าวเร่งผม จึงทำให้ผมตะแคงมือเอื้อมขึ้นไป ก่อนจะสอดมือล้วงลงไปภายในกล่อง พร้อมทั้งควานฉลากที่อยู่ภายใน..
ฟุบๆ ๆ ๆ ๆ
ปึก..!
แต่แล้วในขณะที่ผมกำลังแกว่งแขนควานมืออยู่ภายในกล่อง จู่ๆข้อศอกของผมก็ดันบังเอิญไปชนเข้ากับหน้าอกของทหารหญิงตรงหน้า และก็ดูเหมือนว่ามันจะบังเอิญไปชนเข้าตรงจุดสำคัญ จนทำให้เธอเผลอตัวส่งเสียงร้องแบบแปลกๆออกมา..
“อ๊าส์..!~”
[ชาร์จพลัง 20 หน่วย]
ภายในชั่วพริบตาเดียว ผมที่ยืนอยู่ก็สัมผัสได้ถึงอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่าน แม้ว่ามันจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่ผมก็กลับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของตัวเองที่ถูกกระตุ้น..
“อ้าว..ซะงั้น..”เสียงของไอ้จ้อนที่ร้องดังออกมา ดูเหมือนว่ามันจะได้ความทรงจำคืนกลับมาแล้ว..
ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ไอ้จ้อนเพียงแค่คนเดียว ตัวของผมเองในตอนนี้ก็ได้รู้แล้ว..ผมได้รู้ถึงเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น จากความทรงจำที่ถูกปลุกขึ้นมา..
“หึ..”ผมที่กระตุกรอยยิ้ม พร้อมกับหยิบฉลากออกมาหนึ่งใบ ทันทีที่ผมมองไปยังทหารหญิงก็พบว่าเธอกำลังยืนหน้าแดงอยู่..
ฟุบ..!
“ขอโทษครับ มันก็แค่อุบัติเหตุ ผมหวังว่ารุ่นพี่จะไม่ถือสานะ..”ผมที่เสยผมขึ้นมา ก่อนจะขยิบตายื่นส่งฉลากให้กับทหารหญิงตรงหน้า ซึ่งเมื่อเธอได้เห็นใบหน้าของผม ใบหน้าของเธอก็พลันต้องแดงแจ๋ไปในทันที..
เอาจริงๆไม่ว่าจะเป็นผมในโลกก่อนหรือโลกนี้ พวกเราก็ต่างมีใบหน้าที่หล่อเหลาเหมือนกัน เหตุการณ์ที่ผ่านมาผมก็แค่ไม่ได้โฟกัส ซึ่งถ้าจะให้สาธยายจริงๆ ขนาดสี่สาวอย่าง ชิออน เอลซ่า ฟอร์เน่และมีน่าก็ยังแอบหวั่นไหวเมื่อได้เห็นใบหน้าของผม แต่แค่ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเธอแค่แสร้งทำเป็นเก็บอาการเอาไว้ก็เท่านั้น
ประกอบกับการที่ส่วนใหญ่ผมมักจะเอาผมข้างหน้ามาปรกตาเอาไว้ จึงทำให้คนรอบข้างไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของผมได้ชัดนัก ยกเว้นก็แต่เพียงแค่เจ๊เจมิสเท่านั้นแหละที่ไร้หัวใจ..~
“อะ..อืม..”ทหารหญิงที่ตอบกลับ พร้อมกับเอื้อมมือมาหยิบฉลากไปจากผม แต่แล้วทันทีที่เธอเปิดมันออก ดวงตาของเธอก็พลันต้องเบิกกว้างขึ้น..
“ชื่อของนายล่ะ..?”ทหารหญิงที่เอ่ยถาม..
“สตาร์ครับ..”ผมที่กล่าวออกมา พออีกฝ่ายได้ยินก็หันหลังกลับ ก่อนที่จะ..
“สตาร์.. ฉลากพิเศษเลือกสังกัด..!”สิ้นเสียงของทหารหญิงที่ประกาศออกมา ทุกๆคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็ต่างต้องพากันหยุดชะงัก ก่อนจะหันมาจับจ้องผมเป็นสายตาเดียวกัน
‘หึ..ให้มันได้อย่างงี้สิ จากที่ง่ายอยู่แล้วมันก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่..~’ผมที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา
“มีแผนเหรอ..?”
‘แน่นอน..ก็เหมือนเดิม แกรอชมการแสดงของฉันได้เลย ไอ้จ้อนเพื่อนยาก..’
“จะกี่ทีกี่ทีฉันก็ชอบแกโหมดนี้โว้ย..!”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องเสียงดังลั่น..
“ว่ายังไงนะ..? ฉลากพิเศษ..!?”
“เฮ้ย..มันจะโชคดีเกินไปแล้ว..!”
เสียงของเหล่าทหารเกณฑ์ที่ต่างพากันกู่ร้องออกมา แตทว่า..
“หึ..พวกแกบ้าหรือเปล่า จะตื่นตระหนกไปทำไม ในเมื่อมีระบบคัดรายชื่อออก ไม่ว่าเจ้านั่นจะเลือกเข้ากองทัพไหน สุดท้ายถ้าผู้คัดเลือกตัดรายชื่อของมันออก มันก็จะถูกส่งไปค่ายทหารสามัญอยู่ดี ยกเว้นว่าแต่มันจะมีคุณสมบัติเพียงพอ..”เสียงของผู้ดูแลที่กล่าวอธิบาย ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ฉลากพิเศษอาจจะดูเป็นของมีค่าที่สามารถใช้เป็นตั๋วขอเลือกเข้าสังกัดได้ทุกเหล่าทัพ แต่ทว่าในภายหลังเมื่อมีระบบคัดรายชื่อออกที่เพิ่มเข้ามา มันก็แทบจะไม่ต่างอะไรกับเศษกระดาษธรรมดาๆใบหนึ่ง..
ฟุบ..!
ผมที่ไม่สนใจเสียงนกเสียงกาพลันก้าวเดินตรงเข้าไปหาพลตรีทั้งสามที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงจากระดับพื้นที่ผมยืนอยู่ขึ้นไปสามเมตร..
“เฮ้ย..แบบนี้ชักไม่ใช่แล้ว แม่งไม่มีคริสตัลมานา ไอ้พวกผู้คุมสอบมันมัวทำอะไรกันอยู่..?”เสียงของเปเนสที่กล่าวออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะทำการตรวจระดับคริลตัสมานาของผม..
“หึ..นี่ไง ตัวอย่างของไอ้พวกสวะติดสินบน เอทารอสไม่รับไอ้เจ้าสวะนี่..!”เสียงของพลตรี รู้สึกว่าจะชื่อซาช่าสินะถ้าผมได้ยินมาไม่ผิด เธอพลันบอกกับนายทะเบียนในทันที เมื่อทำการตรวจสอบระดับคริสตัลมานาของผม..
“คีทารีสก็ไม่รับ..! ขอคัดรายชื่อมันออก..!”พลตรีของคีทารัสที่บอกกับนายทะเบียน ซึ่งการที่มันเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่าคนสุดท้ายที่นั่งอยู่ก็คือพลตรีของเหล่าทัพทารอน..
“ทารอนเองก็..”
“เออคืออนุญาตินะครับ..”ผมที่ยกมือขึ้น ก่อนจะเหลี่ยวหลังกลับไปมองซ้ายมองขวาทำท่าเหมือนกับกำลังหันไปมองทหารกองฉลากหรือทหารหญิงผมบลอนด์เมื่อสักครู่..
“เมื่อกี้ผมได้ฉลากพิเศษใช่ไหม..?”ผมที่เอ่ยถามต่อทหารหญิงผมบลอนด์ ซึ่งเธอพยักหน้าเบาๆ
“แล้วผมมีสิทธิ์ที่จะเลือกเข้าเหล่าทัพใช่ไหม..?”ผมที่ถามต่อ โดยที่อีกฝ่ายก็พยักหน้าอีกครั้ง..
“อ้าว..แล้วผมบอกตอนไหนว่าจะเข้าเหล่าทัพคีทารัสหรือเอทารอส..?”ผมที่แสยะยิ้มเพียงชั่ววูบ ก่อนจะหันหน้ากลับมา ซึ่งคำพูดของผมก็ได้ไปตอกกระแทกหน้าของพลตรีทั้งสองเข้าอย่างจัง..
โดยที่คำพูดนี้มันก็คงจะสื่อประมาณว่าผมไม่ได้พูดสักหน่อย แต่อีกฝ่ายดันคิดไปเองว่าผมจะเข้าเหล่าทัพของพวกเขา ซึ่งก็แน่นอนว่ามันทำให้ผู้ที่โดนเข้าไปถึงกับหน้าแตกเป็นเสี่ยงชนิดที่หมอไม่รับเย็บ..
ซึ่งหลังจากที่สิ้นเสียงของผม พลตรีทั้งสามรวมไปถึงทุกๆคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็ต่างพากันช็อคค้างและเงียบกริบไปตามๆกัน ก่อนที่ต่อจากนั้นจะ..
“พวกผมอ่ะ..อื้มมมม~”เสียงของไอ้จ้อนที่เอ่ยขึ้น อารมณ์ของมันในตอนนี้คงจะประมาณว่ากำลังยืนกอดอกทำหน้าแอ็คอยู่..
ไรท์:คอมเม้นหน่อยงื้อออ พลังหมด
MANGA DISCUSSION