แสงที่ 13 รีดข้อมูล (1)
ภายในกระโจมของผู้บังคับบัญชา..
ซึ่งหลังจากเจมิสพักผ่อนจนหายเหนื่อย สามชั่วโมงให้หลังเธอก็มารายงานความจริงทั้งหมดให้ซิลเวียได้รับรู้
“ร้อยตรีเจมิส เธอกำลังจะบอกว่าทหารนายนั้นได้สังหารกองร้อยของเมลันเทีย อีกทั้งยังจัดการกับผู้นำของพวกมันด้วยตัวเพียงคนเดียว ทั้งๆที่พึ่งจะปลุกเอมพาสได้เนี่ยนะ..? นี่เธอจะให้ฉันทำใจเชื่อเรื่องนี้จริงๆน่ะเหรอ..”ซิลเวียที่เอ่ยถาม ซึ่งถ้าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่เจมิส เธอก็คงจะไม่เชื่อ..
“ใช่ค่ะ..ถึงมันอาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์ ไม่สิ..เขาเกิดมาเพื่อเป็นทหาร..”เจมิสที่กล่าวรายงานออกมา..
“เรื่องที่ทหารคนนั้นมีพรสวรรค์ ฉันจะไม่เถียงและเห็นด้วยกับเธอ เพราะเท่าที่ฟังจากแผนของเขาที่เธอเล่ามา มันค่อนข้างที่จะมีความเป็นไปได้สูง แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ การที่คนๆเดียวจะทำอะไรแบบนั้นได้ มันอาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อจนเกินไป
ถ้าจะให้ฉันเชื่อเรื่องนี้จริงๆ ทหารนายนั้นจะต้องมีฝีมืออยู่ในระดับห้าดาวม่วงเป็นอย่างต่ำหรือระดับดาวแดง ถึงจะสามารถจัดการกับทั้งกองร้อยได้ด้วยตัวเพียงคนเดียว แต่ถึงต่อให้จะอยู่ในระดับนั้นจริงๆมันก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่..”ซิลเวียที่กล่าวออกมา..
“ท่านร้อยเอกซิลเวีย ตั้งแต่ที่ฉันได้พบเจอกับชายคนนี้ ฉันก็ตระหนักได้ว่าระดับดาวอาจจะไม่ใช่ทุกสิ่งเสมอไป ท่านอาจจะยังไม่รู้ แต่ขนาดตัวของฉันที่อยู่ในระดับหนึ่งดาวม่วงก็ถูกเขาปลดอาวุธและจับกดลงพื้นได้ภายไม่กี่วินาที อีกทั้งเมื่อ 3 วันก่อน ร้อยตรีเซอร์เคิลแห่งกองทัพเอทารอสยังถูกชายผู้นี้จัดการจนสภาพดูไม่ได้..”สิ้นคำบอกเล่าของเจมิส ดวงตาของซิลเวียก็เบิกกว้างขึ้น..
“ทะ..ที่เธอเล่าเป็นเรื่องจริงอย่างงั้นเหรอ..?”
“ถ้าที่ฉันพูดไม่เป็นความจริงฉันยอมถอดยศร้อยเอกกลับไปเป็นทหารฝึกหัดเลย ท่านคิดว่าดิฉันจะกล้ารายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชาหรือยังไงกั..น..?”
“ขออนุญาติค่ะ..!”
ในขณะที่เจมิสกำลังจะกล่าวยืนยัน จู่ๆสิบเอกชิออนก็เดินเข้ามาภายในเต็นท์..
“สิบเอก..? ตอนนี้ฉันกำลังคุยธุระสำคัญกับร้อยตรีเจมิสอยู่ เธอมีธุระอะไร..?”ซิลเวียที่เอ่ยถามชิออน แต่ก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรอีกฝ่ายเข้ามาขัดจังหวะโดยพละการ
“ตอนนี้ว่าที่สิบตรีสตาร์ได้ส..ติ..”
“ท่านผู้บังคับบัญชา ฉันขอตัวก่อน..!”
ยังไม่ทันที่ชิออนจะได้พูดจนจบดี เจมิสที่ยืนอยู่ก็ทำความเคารพต่อซิลเวีย ก่อนจะรีบเร่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไป
“ดะ..เดี๋ยวสิ..”ซิลเวียที่ชันตัวลุกออกจากที่นั่ง พร้อมกับเอื้อมมือออกไปหมายจะรั้ง แต่อีกฝ่ายก็ได้เดินออกไปแล้ว
ภายในกระโจมแพทย์สนาม..
หลังจากที่เจมิสทำตามเงื่อนไขแบบหลอกๆที่สตาร์สร้างขึ้น ทันทีที่ทำทุกอย่างเสร็จชายหนุ่มก็ได้แสร้งทำเป็นหมดสติไป ก่อนที่เขาจะถูกอีกฝ่ายพาตัวกลับมายังศูนย์บัญชาการแห่งนี้..
แต่ทว่าในระหว่างทางที่กำลังกลับมา เมื่ออะดรีนาลีนภายในร่างของสตาร์สงบลง ชายหนุ่มก็ได้หมดสติไปจริงๆ ก่อนจะมารู้สึกตัวอีกทีในสามชั่วโมงให้หลัง ดูเหมือนว่าครั้งนี้ร่างกายจะฟื้นฟูสภาพได้เร็วขึ้น จากที่ครั้งก่อนเขาต้องหมดสติไปถึงสามวันเต็มๆ..
[สตาร์]
“อะ..อือ หะ..หัวฉัน..?”ผมที่ส่งเสียงครางออกมา ภายในหัวในตอนนี้มันตึ้บไปหมด ผมงงจนทำอะไรไม่ถูก ถึงจะฟื้นมาได้สักพัก แต่ก็ไม่สามารถเปิดเปลือกตาได้จนสุด แม้ว่าร่างกายจะสามารถขยับได้ แต่ผมก็ยังไม่อยากจะลุกไปไหน
“อะ..อึก สงคราม..!”
ฟุบ..
แต่ทันทีที่ผมรวบรวมสติกลับมาได้ ร่างที่กำลังนอนอยู่ก็เด้งตัวขึ้น ก่อนจะพบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังนั่งอยู่บนเตียงสนามภายในเต็นท์หรือกระโจมที่ไหนสักแห่ง โดยที่ภายในกระโจมแห่งนี้มีเตียงและทหารที่ได้รับบาดเจ็บนอนเรียงกันอยู่เป็นแถว..
“ฟื้นแล้วเหรอ ว่าที่สิบตรีสตาร์..?”เสียงของเอลซ่าที่เอ่ยถาม เธอกำลังนั่งอยู่ข้างๆผม นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ภาพสุดท้ายที่ผมจำได้คือตัวเองที่กำลังจับ..อึก หน่มน้มแหละ เวรแล้วไง..เอลซ่าฆ่าผมแน่..
“ขอบคุณนะที่ช่วยชีวิตของพวกเราเอาไว้..”เอลซ่าที่กล่าวออกมา เฮ้ย..เดี๋ยว นี่มันเรื่องอะไรกัน ผมไปช่วยชีวิตเธอตอนไหนเนี่ย..
“พวกเราก็ต้องขอขอบคุณ ท่าน.ผบหมู่ ไม่สิ..ต้องขอขอบคุณนายจริงๆ ที่ช่วยชีวิตของพวกเราเอาไว้..”ฟอร์เน่ที่กล่าวออกมา..
“ขอบคุณ..”มีน่าที่กล่าวออกมาสั้นๆ เดี๋ยวๆมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว..
พรึ้บ..!
“ว่าที่สิบตรีสตาร์..ตามฉันมาเดี๋ยวนี้..!”
ทันใดนั้นจู่ๆร่างของเจมิสก็เปิดม่านเข้ามาภายในกระโจม ก่อนจะตะโกนเรียกผม เสียงตะโกนของเธอนั้นดังไปทั้งกระโจมจนเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังนอนอยู่บนเตียงต่างพากันสะดุ้งเฮือก..
“คะ..ครับ..?”
“หูหนวกหรือไง..? ฉันบอกให้แก่ตามฉันมา..”เจมิสที่ตะโกนออกมาอีกครั้ง..
“คะ..ครับ..”ผมที่รีบลุกออกจากเตียง ก่อนจะวิ่งตามเจมิสไป..
ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เจมิสก็พาผมเข้ามาภายในเต็นท์แห่งหนึ่ง เท่าที่เห็นมันน่าจะเป็นที่พักส่วนตัวของเธอ..
“เรียกมาแบบนี้ อะหรือ อะหรือว่า แต่เอ๋..ทำไมฉันถึงรู้สึกสดชื่นจังนะเหมือนกับพึ่งจะได้ปลดปล่อยมาเลย..~”เสียงของไอ้จ้อนที่ตื่นจากการหลับไหล และไม่วายที่จะแสดงความหื่นกระหายออกมา แต่เพียงแค่ผมได้ยินคำพูดของมันต่อจากนั้นเท่านั้นแหละ ผมก็รีบเช็คเป้ากางเกงดูทันทีว่าแอบฝันเปียกหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีหน่า..~
“แกจำอะไรได้หรือเปล่า..?”เจมิสที่หันหน้ากลับมาเปิดประเด็นเอ่ยถามผม แล้วไหงเจ้แกถึงได้ทำหน้าแบบนั้นล่ะ น่ากลัวชิบหายเลย..
“จำอะไรได้ไหม..? ท่านผบ.ร้อยกำลังพูดถึงเรื่องอะไร..?”ผมที่กล่าวออกมาความงุนงง
“เรียกร้อยตรีเหมือนเดิมเถอะ ภารกิจสำเร็จลุล่วงไปแล้ว..”เจมิสที่กล่าวออกมา ก่อนจะเดินเข้ามากระชากคอเสื้อของผม..
“แกจำอะไรไม่ได้แน่นะ..?”เจมิสที่กัดฟันเอ่ยถาม..
“ผมไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร สาบานได้เลย..”ผมที่ตอบกลับ..
“ถ้าเกิดแกจำได้แล้วเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกใคร ฉันฆ่าแกแน่..”เจมิสที่ข่มขู่ผม สรุปแล้วมันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย..
“ดะ..เดี๋ยวสิครับ อย่างน้อยๆท่านก็น่าจะบอกผมมาเลยว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่..”ผมที่บอกกับเจมิส เมื่อเธอได้ยินก็ชะงักไป เธอมองหน้าของผมอยู่ขณะ..
“ดูเหมือนแกจะจำไม่ได้จริงๆสินะ ถ้างั้นฉันจะบอกก็ได้ แกน่ะมีพลังประหลาดที่ซ่อนเอาไว้อยู่ พลังที่ว่าถ้าเกิดมันถูกปลุกขึ้นมาเมื่อไหร่ มันจะทำให้แกเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน แต่ถ้าเกิดว่าระยะเวลาของพลังหมดลง แกก็จะหมดสติและจำเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้..”สิ้นคำอธิบายของเจมิส ผมก็ถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก จะให้บอกว่าเธอล้อเล่นมันก็ไม่น่าที่จะใช่..
“แล้วพลังของผมมันทำอะไรได้เหรอครับ..?”ผมที่ถามกับเจมิส เมื่อได้ยินก็เหมือนจะหยุดคิด..
“มันจะทำให้แกกลายเป็นคนที่แข็งแกร่ง..”เจมิสที่กล่าวออกมา
“เอาจริงดิ..?”ไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา มันเองก็ดูเหมือนจะอึ้งไม่ต่างจากผม..
“ถะ..ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แล้วต้องทำยังไงพลังของผมถึงจะถูกปลุกอย่างงั้นเหรอครับ..?”ผมที่ถามกับเจมิส แต่พอเจ๊แกได้ยินก็ชักสีหน้าอีกครั้ง
“เรื่องนี้ฉันว่าฉันไม่บอกแกก็น่าจะพอเดาได้นะ แกลองนึกถึงช่วงก่อนที่จะจำอะไรไม่ได้ดูสิ ไอ้เวร..”เจมิสที่กัดฟันบอกกับผม ก่อนจะทิ้งทวนคำสบถด่าเอาไว้ ซึ่งเมื่อผมนึกย้อนดูดีๆ ผมก็ถึงเบิกดวงตากว้างขึ้น
“อึก..จะ..จับหน้าอกเนี่ยนะ..?”
“ก็เออน่ะสิ การปลุกพลังของแกแม่งน่าจับเชือดคอชิบหาย..”เจมิสที่กล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิด เธอดูเหมือนจะโกรธไม่น้อย..
“และอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญในระหว่างที่พลังของแกไม่ได้ถูกปลุก..ห้ามแกนำเอมพาสออกมาเล่นสุ่มสี่สุ่มห้าโดยเด็ดขาด ไม่งั้นแกได้ตายของจริงแน่..”เจมิสที่กล่าวออกมา อะไรว้า..~ เอะอะเธอก็จะฆ่าผมอย่างเดียวเลย..
“แกเข้าใจที่ฉันสั่งไหม..?”
“ครับท่าน .”ผมที่ตอบกลับเจมิส..
“เข้าใจก็ดี..ยังไงพรุ่งนี้ตอนเช้าแกจะต้องไปจัดการธุระบางอย่างกับฉัน และเพื่อความแน่ใจฉันจะขอสั่งกักบริเวณห้ามแกออกไปพบใครเป็นขาด..”เจมิสที่ออกคำสั่งของผม เวรเอ้ย..นี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย อยู่ๆก็โดนสั่งกักบริเวณเฉยเลย..
“ถะ..ถ้างั้นเต็นท์ที่กักบริเวณของผมมันอยู่ตรงไหน..?”
“ถามอะไรของแก ก็ที่นี่ยังไงล่ะ..”
“อะ..อ่อ ครับ..”
“ทำไม..? แกไม่ชอบที่นี่งั้นเหรอ..?”
“ปะ..เปล่าครับ แค่ตอนแรกผมนึกว่าที่นี่คือที่พักของท่านร้อยตรี..”
“ก็ใช่ไง..”เจมิสที่ตอบกลับ ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียง พร้อมทั้งยกแขนขึ้นมากอดอก ในระหว่างนั้นเธอก็จ้องหน้าของผมตาเขม็ง..
“อะ..เออคือ ผมจะต้องพักอยู่กับท่านร้อยตรีอย่างงั้นเหรอครับ..? ผมว่ามันดูไม่เหมาะนะครับ ถ้าเกิดทหารนายอื่นรู้เข้า ท่านจะเป็นฝ่ายเสียหายเอาได้นะครับ..”
“ช่างหัวพวกมันสิ ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว ยังไงจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า แกห้ามโผล่หัวออกไปไหนเด็ดขาด..”เจมิสที่ตอบกลับ ทำไมผมถึงรู้สึกแหม่งๆเหมือนกับว่าผมกำลังกุมความลับอะไรบางอย่างของเธอเอาไว้
แต่ยังไงก็เถอะ..ดูเหมือนในตอนนี้ผมคงมีแต่ที่จะต้องฟังคำสั่งของเธอ ถ้าเกิดทำอะไรให้เธอไม่พอใจ มีหวังผมถูกเธออัดจนน่วมแน่ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงไปนั่งลงบนเตียงสนามอีกเตียงที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
โดยที่ภายในเต็นท์แห่งนี้มีที่เตียงสนามอยู่ด้วยกันสองเตียง อีกทั้งมันยังมีพื้นที่ๆกว้างขว้างกว่าเต็นท์ทหารปกติทั่วๆไป
ก่อนที่หลังจากนั้นจะมีคนเอาอาหารมาส่ง พอผมกินเสร็จก็ขึ้นไปนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมก็ทำเหมือนกับว่าเจมิสเป็นเพียงแค่อากาศ แม้ว่าเธอจะนั่งจ้องผมตาเขม็งจนตาแทบจะปลิ้นออกจากเบ้าก็ตาม..
“จับกดเลย..!”เสียงของไอ้จ้อนที่พยายามพูดยุ แต่มันก็แค่พูดขำๆไปงั้นแหละ..
‘จะเอาไหมล่ะ แต่พนันได้เลยถ้าฉันไม่ถูกฆ่าแกก็ถูกตัดล่ะวะ..’
“เฮือก..!”ไอ้จ้อนที่หดลงในทันที ไม่บอกก็รู้ว่ามันกำลังหวาดผวา
เช้าวันต่อมา..
“เฮ้ย..ตื่นได้แล้ว..”
หลังจากเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ผมก็ได้คล้อยหลับไป รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงของเจมิสที่มาปลุก..
“อื้อ..~”
หมับ..!
ผมที่ส่งเสียงครางออกมาแน่นอนว่าการนอนหลับกับการสลบมันแตกต่างกัน ด้วยความที่สะลึมสะลือ ผมจึงเผลอเอื้อมมือออกไป โดยไม่ทันได้ยั้งคิด ก่อนจะจับสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่างที่มันดูนุ่มนิ่ม..
“หืม..?”ผมที่เผลอบีบสิ่งที่กำลังจับอยู่ พอลืมตาขึ้นมาเท่านั้นแหละ ใบหน้าของผมก็พลันต้องบิดเบี้ยวไปในทันที พร้อมกับเสียงแจ้งเตือนหรืออะไรสักอย่างที่ดังขึ้นมาอยู่ภายในหัว..
《ชาร์จพลังงาน 5 หน่วย》
“อะ..อึก ทะ..ท่าน..ระ..ร้อยตรี มันเป็นอุบัติเหตุนะครับ..”ผมที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว และตื่นตาสว่างขึ้นมาในทันที จากภาพของเจมิสที่กำลังยืนหน้าแดงก่ำไปด้วยความโกรธ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่ามือของผมในตอนนี้กำลังจับหน้าอกของเธออยู่ยังไงกันล่ะ..
“นี่แก..รอบนี้ฉันสุดจะทนแล้วโว้ย..!”เจมิสที่แผดเสียงคำราม เธอพลันง้างหมัดซัดลงมายังใบหน้าของผมที่กำลังนอนอยู่บนเตียงในทันที..
“อึก..!”ดวงตาของผมที่เบิกกว้าง ภายในชั่วพริบตาสิ่งที่สัมผัสได้คืออะดรีนาลีนที่กำลังพลุ่งพล่าน พร้อมกับภาพความทรงจำที่หวนกลับคืนมา..
ฟุบ..!!
หมับ..!
ในช่วงจังหวะที่หมัดของเจมิสกำลังเคลื่อนตัวเข้ามายังใบหน้าของผม ผมก็ได้เอื้อมมือออกไปคว้ากำปั้นของเธอเอาไว้ได้ทัน ใช่แล้วล่ะ..ความทรงจำของผมกลับมาแล้ว
“จำได้แล้วโว้ย..!!!!! โห้ยย..เมื่อวานนี้มันสุดยอดโครตๆเลย..!!”เสียงของไอ้จ้อนที่ตะโกนกู่ร้องออกมา โดยที่เมื่อวานมันเองก็เอาแต่กู้ร้องด้วยความสดชื่นมาตลอดทางที่ผมแกล้งทำเป็นหมดสติ..
‘ไอ้จ้อน..แกหดกลับเดี๋ยวนี้เลยนะ..’ผมที่บอกกับไอ้จ้อนก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายมากไปกว่านี้..
“เธอใจเย็นๆก่อนนะ มันเป็นอุบัติเหตุ..”ผมที่บอกกับเจมิส เธอในตอนนี้กำลังก้มหน้านิ่ง สิ่งที่ผมได้ยินมีเพียงแค่เสียงขบฟัน ผสานกับกำปั้นที่กำลังสั่นอยู่ภายในฝ่ามือของผมด้วยความโกรธ
จะว่าไปแล้วตั้งแต่ที่ผมได้เจอกับเจมิส ผมนั้นปฏิเสธไม่ลงและพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าผู้หญิงคนนี้แม่งโครตจะดุเลย..
“รีบลุกขึ้นมา ฉันให้เวลาแกจัดแจงตัวเอง 15 นาที..”เจมิสที่ชักมือกลับ ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้และเดินออกจากเต็นท์ไป ผิดคาดแหะ..ตอนแรกผมก็แอบคิดว่ายังไงเธอก็คงจะไม่ยอมเลิกราจนกว่าจะได้ซัดหน้าของผมสักหมัด สงสัยเช้านี้ธุระที่เธอบอกคงจะสำคัญจริงๆ..
ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ไปล้างหน้าและใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว ก่อนจะเปลี่ยนมาใส่ชุดลำลอง โดยชุดลำลองที่ว่าก็คือเสื้อยืดคอกลมสีดำและกางเกงทหารขายาว ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าบูทสีดำ..
เมื่อจัดแจงตัวเองเสร็จ ผมก็จัดการกับทรงผมนิดหน่อย ก่อนจะเดินออกไปข้างนอกเต็นท์และก็ได้พบกับเจมิสที่กำลังยืนดักรออยู่ข้างหน้า..
ซึ่งพอความทรงจำกลับคืนมามันก็ทำให้ผมได้รู้ เจมิสคงกลัวว่าผมจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานไปป้าวประกาศ เธอถึงได้สั่งกักบริเวณของผม อีกทั้งยังทำตัวเป็นวิญญาณตามติด
“ตามฉันมา..”
“ครับๆ..~”ผมที่ตอบกลับแบบลากเสียงด้วยน้ำเสียงหน่ายๆ แม้ว่าเจมิสจะได้เห็นผมในบุคลิกนี้มาแล้วถึงสองครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงแสดงสีหน้าไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าผมไม่เคารพเธอ..
“ผมจะพูดแค่สั้นๆ และจะไม่พูดเรื่องนี้อีก ท่านร้อยตรีเป็นเพราะท่านผมถึงยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ผมจะอุทิศมันให้แก่เอลเดียและท่านตลอดไป..”ผมที่กล่าวออกไป ส่วนหนึ่งก็แค่อยากจะพูดประจบเอาใจเจมิสเท่านั้น แม้ว่ามันอาจจะทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองที่ผมพูดถึงเรื่องที่เธอสั่งว่าห้ามพูดก็ตาม..
“ขอบคุณนะครับ..”
สิ้นคำพูดของผม ร่างของเจมิสที่กำลังเดินก็หยุดชะงักฝีเท้า ถ้าเป็นตามปกติเธอจะต้องหันมาเกรี้ยวกราดใส่ผมอย่างแน่นอน แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น ร่างของเธอที่ยืนอยู่ค่อยๆก้าวเดินนำต่อไป ถึงเธอจะไม่ได้ตอบกลับอะไร แต่ผมก็พอจะเดาได้ว่าเธออาจจะรู้สึกดีอยู่ลึกๆ
ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นาน เจมิสจะนำทางผมมาหยุดอยู่หน้าคอกที่ใช้เก็บม้า..
“ท่านร้อยตรี..พวกเรามาตามที่เรียกแล้วค่ะ..!”เสียงของชิออนกับเอลซ่าที่เอ่ยดังขึ้น ร่างของทั้งสองได้เดินตรงเข้ามาทำความเคารพต่อเจมิส..
“ท่านร้อยตรีจะให้พวกเราทำอะไรเหรอคะ..?”เสียงของเอลซ่าที่เอ่ยถาม..
“ตอนนี้ไม่ต้องแล้วพวกเธอจะไปไหนก็ไป..”เจมิสที่ตอบกลับ สีหน้าของเธอกำลังหงุดหงิดแบบสุดๆ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าก่อนหน้านี้เธอเรียกชิออนกับเอลซ่ามาทำไม..
ซึ่งพอชิออนกับเอลซ่าได้ยินเช่นนั้น พวกเธอก็หันมามองหน้ากัน ก่อนจะทำความเคารพเจมิสและเดินกลับไปแบบงุนงง
“อะ..อ้าว เดี๋ยวสิ..ไหนๆก็มาแล้ว สตาร์ทำอะไรสักอย่างสิ โถ่..ไม่น่าเลย จากที่จะได้สอง..”ไอ้จ้อนที่โวยวายออกมา..
‘เออๆ งอแงเป็นเด็กไปได้..’ผมที่ตอบกลับมัน ก่อนจะทำเป็นร่างกระตุก ยกมือขึ้นมาจับหน้าอก..
“อึก..”
“เป็นอะไรของแกอีก..?”เจมิสที่เอ่ยถาม..
“พลังฉันกำลังจะหมดเวลาน่ะสิ ดูเหมือนว่าระยะเวลามันจะหมดเร็วกว่าครั้งก่อนๆ..”ผมที่บอกกับเจมิส เมื่อเธอได้ยินก็ถึงกับเส้นเลือดปูดขึ้นขมับด้วยความยั้ว..
“ช่วยรออีกสักสามชั่วโมงได้ไหม เดี๋ยวพอฉันฟื้นค่อยว่ากัน..”ผมที่บอกกับเจมิส..
“สิบเอกชิออน สิบเอกเอลซ่า พวกเธอกลับมานี่ก่อน..!”เจมิสที่ตะโกนเรียกคนทั้งสอง ทันทีที่ได้ยินชิออนกับเอลซ่าก็เดินกลับมา..
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว พอดีว่าฉันต้องการจะให้พวกเธอช่วยปลุกพลังของว่าที่สิบตรีสตาร์หน่อยน่ะ รู้นะว่าต้องทำยังไง..?”เจมิสที่บอกกับทั้งสอง เมื่อชิออนกับเอลซ่าได้ยินก็ต่างพากันกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะ..
“หะ..เห๋..~×2″ชิออนกับเอลซ่าที่ร้องลากเสียงออกมา พวกเธอทั้งสองพลันยกแขนขึ้นมาปิดหน้าอกของตัวเอง..
“นี่คือคำสั่ง..ตอนนี้ฉันจำเป็นที่จะต้องใช้พลังของไอ้เวรนี่ เพราะฉะนั้นยอมๆมันไป แล้วเดี๋ยวถ้าเสร็จภารกิจป้องกันชายแดนในครั้งนี้ ฉันจะส่งเรื่องขอเลื่อนขั้นให้พวกเธอ..”เจมิสที่ยื่นข้อเสนอ เมื่อชิออนกับเอลซ่าได้ยินก็หูผึ้ง..
“ถะ..ถ้าแค่นิดหน่อยก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ทำเพื่อกองทัพแหละเนาะ..”ชิออนที่หันไปกล่าวกับเอลซ่า..
“อะ..อืม..”เอลซ่าที่ตอบกลับ ท่าทีของคนทั้งสองเปลี่ยนไปทันที ระดับยศนี่ทำได้ทุกอย่างจริงๆ..
“หึ..ยัยพวกนี่..”เจมิสที่จ้องมองคนทั้งสองอย่างหน่ายๆ
“ถ้างั้นก็..ชะ..เชิญเลย..×2″ชิออนกับเอลซ่าที่กล่าวออกมา พร้อมกับปลดถอดกระดุมเสื้อ แก้มของพวกเธอพลันขึ้นสีแดงระเรื่อ จากความประหม่าและเขินอาย เออ..มันต้องอย่างงี้เซ้ ไม่ใช่อีเจ๊เจมิสที่พอโดนเข้าหน่อยก็จะฆ่าจะแกงกันอย่างเดียว
“จะกินล่ะน่ะครับ..~”
หมับ..!!!
“อ๊ะ..!×2”
《ชาร์จพลังงาน 5 หน่วย》
《ชาร์จพลังงาน 10 หน่วย》
“อู้ว..มีเสียงซาวด์ประกอบด้วย..”ไอ้จ้อนที่ร้องออกมาจากเสียงประกอบที่ดังขึ้น หลังจากที่ผมเอื้อมมือไปจับ
โดยแต้มที่ได้มาดูเหมือนว่ามันจะน้อยลงไปจากเดิม คงเป็นเพราะว่าเคยจับไปแล้วเลยไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับครั้งแรกที่ได้จับ รวมไปถึงค่าของอะดรีนาลีนภายในร่าง แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับรู้สึกว่ายิ่งผมปลุกความทรงจำบ่อยเท่าไหร่ ระยะเวลาที่ผมจะอยู่ในโหมดนี้ยิ่งนานขึ้น
“พะ..พอหรือยัง..?”ชิออนที่ส่งเสียงเอ่ยถาม หน้าของเธอในตอนนี้กำลังแดงแจ๋..
“อืม..เสร็จแล้ว ขอโทษด้วยที่ต้องทำแบบนี้..”ผมที่ชักมือกลับมา ก่อนจะบอกกับชิออนและเอลซ่า ผมพยายามพูดเพื่อไม่ให้พวกเธอเสียความรู้สึก
“ไม่เป็นไร..ถ้ามันคือหน้าที่ พวกฉันก็พร้อมที่จะทำ ส่วนหนึ่งก็อยากจะชดเชยกับเรื่องที่ฉันทำไม่ดีกับนายคราวก่อนด้วย..”..”เอลซ่าที่กล่าวออกมา ก่อนที่เธอจะก้มหน้าเหมือนกับกำลังรู้สึกผิด
“ฉันไม่ได้ติดใจอะไร..”ผมที่พูดออกมา เมื่อเอลซ่าได้ยินก็เหมือนจะสบายใจขึ้น
“เอาล่ะ..พวกเธอไปแล้ว..”เจมิสที่บอกกับหญิงสาวทั้งสองหลังจากที่เสร็จธุระหน้าที่
“งั้นพวกเราขอตัว..”เอลซ่ากับชิออนที่ทำความเคารพ ก่อนที่พวกเธอจะเดินจากไป..
“เอาล่ะ..ที่นี่ถึงตาของแกแล้ว สาเหตุที่ฉันเรียกแกมา นั่นก็เพราะจะให้แกมาสะสางเรื่องที่พวกเราเคยคุยกันเอาไว้..”
“อ้อ..เรื่องรีดข้อมูลสินะ แจ๋ว..ฉันกำลังรู้สึกคันมืออยู่พอดี เดี๋ยวฉันจัดการเอง..”ผมที่แสยะรอยยิ้มบอกกับเจมิส..
“อืม..แต่ถึงอย่างนั้นฉันมีเรื่องสำคัญที่จะขอกับแกอยู่..”เจมิสที่กล่าวออกมา..
“เรื่อง..?”
“ตอนนี้ร้อยเอกซิลเวียหรือผู้บัญชาการของศูนย์บัญชาการแห่งนี้ก็มาดูด้วย ถ้าเป็นไปได้เรื่องคำพูดคำจาของแก ฉันอยากจะขอให้..”
“เข้าใจแล้ว ฉันรู้ว่าปกติเธอก็ทำเป็นมองข้ามมันมาโดยตลอด ถึงฉันในตอนที่ถูกปลุกพลังจะพูดจาแบบนี้ แต่ฉันก็มองว่าเธอเป็นผู้บังคับบัญชาของฉันนะ..”ผมที่กล่าวแทรกเข้ามา และพอจะรู้ความต้องการของเจมิส
ซึ่งเมื่อเจมิสได้ยิน เธอก็เบิกดวงตากว้างขึ้น ก่อนจะกลับมาปั้นสีหน้าเรียบนิ่ง..
“ตามมา..”
“เดี๋ยวก่อน..พอดีฉันจำเป็นที่ต้องมีอุปกรณ์ในการรีดเอาข้อมูล เธอช่วยจัดหาให้หน่อยได้ไหม..? หลักๆเลยฉันต้องการเก้าอี้หนึ่งตัวกับเชือกหนึ่งเส้น..”ผมที่บอกกับเจมิส ก่อนจะกระตุกรอยยิ้มสุดเหี้ยมออกมา ในระหว่างนั้นความสามารถเรื่องการล้วงข้อมูลก็ไหลเข้ามาภายในความรู้สึก บอกได้เลยว่า..ไอ้โล้นนั่นแม่งโครตจะซวยที่ดันมาเจอกับผม..
ไรท์:เออคือ..คอมเม้นงับ ต้องการมาก สำหรับคนที่ต้องการ NC แบบของดีย์ ไรท์ได้เอาไปลงไว้ที่นั่นหมดแล้ว..!
MANGA DISCUSSION