บทที่ 10 ยุทธการต้นไม้กินคน..
“ยิงไป อย่าหยุดยั้ง..!!!”เสียงตะโกนของทหารจากเมลันเทียที่ดังขึ้น ภาพที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในแนวหน้าคือกองกำลังจากเมลันเทียที่กำลังโจมตีกองกำลังทหารของเอลเดียจากทางระยะไกล..
เฟี้ยวๆ ๆ
ร่างของทหารเมลันเทียนที่กระจายกำลังอยู่ภายในป่าตามจุดต่างๆยังคงระดมยิงกระสุนพลังเวทใส่กองกำลังของเป้าหมาย..
ฟุบ..!
หมับ..!
“อุ๊บ..?!”
แต่แล้วจู่ๆก็มีร่างของใครบางคนที่แอบลอบโจมตีโผล่พรวดออกมาจากภายในพุ่มไม้ทางด้านหลังของหนึ่งในทหารจากเมลันเทีย ก่อนที่คนๆนั้นจะจัดการล็อคคอปิดปากกระชากร่างของทหารเมลันเทียนายนั้นกลับเข้าไปในพุ่มไม้..
ทางด้านของเจมิส..
เคร้งๆ ๆ ๆ ๆ
ท่ามกลางสมรภูมิรบในแนวหน้า ภาพที่ปรากฏให้เห็นคือร่างของเจมิสที่กำลังเข้าห่ำหั่นกับผบ.ร้อยของเมลันเทียแบบตัวต่อตัวบนพื้นราบ..
ร่างทั้งสองที่พุ่งเข้าหาได้ปะทะคมอาวุธในมือเข้าใส่กัน เพียงการเสียดสีของดาบและขวานใหญ่ มันก็ก่อให้เกิดเป็นการสั่นไหวของอากาศ..
โดยที่เจมิสและผู้นำของเมลันเทียนั้นได้ใช้พลังของเวทเสริมกำลัง จนร่างกายของทั้งสองถูกปกคลุมไปด้วยออร่าสองสี..
แต่ทว่ายิ่งปะทะกันนานเท่าไหร่ ฝ่ายที่เสียเปรียบก็ดูเหมือนจะเป็นทางด้านของเจมิส..
“อะไรกัน..? ร้อยตรีของเอลเดียมีดีแค่นี้เองอย่างงั้นเหรอ..?”เสียงผู้นำของเมลันเทียที่กล่าวออกมาด้วยความดูถูก ในขณะที่คมขวานของมันก็กำลังเข้าเสียดสีกับคมดาบของเจมิส..
เคร้ง..!!!!
เจมิสที่ใช้ดาบผลักขวานของอีกฝ่ายออก พร้อมกับดีดตัวถอยออกมาตั้งหลัก สภาพของเธอดูเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก อีกทั้งทหารของเอลเดียที่กำลังปะทะกับเมลันเทียอยู่ในแนวหน้าก็เริ่มที่จะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ..
ซึ่งท่ามกลางการปะทะกันแบบตัวต่อตัวระหว่างเจมิสและผู้นำของเมลันเทีย ณ ตรงใจกลางของสมรภูมิ ทหารทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีโอกาสที่จะสอดมือเข้ามายุ่งกับการต่อสู้ของคนทั้งสอง เพราะต่างฝ่ายต่างต้องระวังกันเองอยู่ตลอด..
“เปิดวงจร สกิลเวทมนตร์ระดับ 4 คลื่นดาบเพลิงทำลาย..!”เจมิสที่เปิดการใช้งานของวงจรเวท ทันใดนั้นวงแหวนเวทสีม่วงที่ปกคลุมแขนของเธอก็ส่องแสง พร้อมกับการปรากฏตัวของวงเวทสีฟ้าอีกห้าวงที่ใบดาบ ก่อนที่ใบดาบจะลุกโชดช่วงไปด้วยเปลวเพลิง
ฟุบ..!
ชิ้ง..!!!!!
ครืน..!!!!
เจมิสที่ใช้สองมือจับกระชับด้ามดาบพร้อมกับง้างมันขึ้นสูงเหนือหัว ก่อนที่เธอจะฟาดฟันมันออกไปยังทิศทางของศัตรู ก่อกำเนิดเป็นคลื่นคมดาบเปลวเพลิงลูกใหญ่ที่พุ่งทะยานตรงออกไป..
“เปิดวงจร เวทมนตร์ระดับ 4 ขวานยักษ์บุกทะลวง..!!”ผบ.ร้อยของเมลันเทียที่เปิดวงจรเวท ก่อนที่เขาจะใช้เวทมนตร์ระดับเดียวกันกับเจมิสโจมตีสวนกลับไป ก่อกำเนิดเป็นคลื่นพลังขนาดใหญ่ที่พุ่งทะยานออกไปทางด้านหน้า..
ตู้ม..!!!!!!
เสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหว การปะทะกันของคลื่นพลังทั้งสองอุบัติเป็นการระเบิดที่ตรงบริเวณกึ่งกลาง..
“หึ..สกิลเอมพาสระดับห้าดาวฟ้า เวทมนตร์ระดับ 4 งั้นเหรอ..? คิดจะเล่นตลกก็ให้มันน้อยๆหน่อย เวทมนตร์ระดับระจอกฆ่าฉันไม่ได้หรอก..”ผบ.ร้อยของเมลันเทียที่กล่าวออกมา ก่อนที่ร่างของมันจะปรากฏออกมาสู่สายตาของเจมิสทันทีที่ฝุ่นควันจากแรงระเบิดกระจายตัวจางหายไป..
ฟุบ..!
“หึๆ ยัยร่าน เท่าที่ฉันสังเกตเห็น มานาของเธอนั้นเหลือไม่มากแล้ว แต่ว่าฉันน่ะ..ยังสามารถเติมได้อีกครั้งหนึ่ง..”
ผบ.ร้อยของเมลันเทียที่กล่าวออกมา ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงไปใช้มือหยิบเศษดินขึ้นมา พร้อมกับนำมันมาเลีย..
“เงื่อนไขเอมพาสของแกโกงจนอุบาถเลยว่ะ น่าอิจฉาจังแค่กินดินก็สามารถเลื่อนระดับดาวได้แล้ว..”เจมิสที่กล่าวออกมา .
“ฮ่าๆ จะถือซะว่านั่นเป็นคำชมก็แล้วกัน ตายซะ..!”ผบ.ร้อยของเมลันเทียที่ระเบิดเสียงหัวเราะ ก่อนจะดีดตัวกระโดดพุ่งเข้ามาหาเจมิส ซึ่งหลังจากที่ผบ.ร้อยของเมลันเทียเลียดินเข้าไป จู่ๆมานาภายในร่างของเขาก็ถูกฟื้นฟูขึ้นมา..
ฟุบ..!
ตู้ม..!
ร่างผบ.ร้อยของเมลันเทียที่เข้ามาประชิดตัวของเจมิส ขวานสองคมที่ถูกง้างเอาไว้พลันเหวี่ยงฟาดลงไปยังร่างของเธออย่างรุนแรง..
เคร้ง..!!!!!!!
“กรอด..”เจมิสที่ยกดาบขึ้นมาตั้งรับเอาไว้ แรงกดทับอันแสนหนักหน่วงเกือบจะทำให้เธอต้องทรุดตัวลงไป..
เฟี้ยว..!!!
ตรึ้บ..
“อั่ก..แม่งเอ้ย..!!”เจมิสที่สบถเสียงดังลั่น เมื่อจู่ๆก็มีทหารจากเมลันเทียนายหนึ่งที่แอบซุ้มโจมตียิงกระสุนพลังเวทเข้ามาที่สีข้างของเธอ ถ้าไม่ติดว่าเธอนั้นได้สร้างบาเรียเวทกันเอาไว้และใช้เวทเสริมกำลัง เธออาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีนี้.
ฟุบ..!!!!
ตู้ม..!!!!!!
“อ่อก..!!!”ดวงตาของเจมิสที่เบิกถล่น จากฝ่าเท้าของร่างตรงหน้าที่ถีบอัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนเธอกระเด็นตัวลอยออกไป..
ตุม..!!!
ร่างของเจมิสที่กระเด็นมาชนเข้ากับต้นไม้ที่อยู่ทางด้านเบื้องหลัง เธอพลันกระอักเลือดออกมา ก่อนจะทรุดตัวลงไปนั่งชันเข่า ดาบที่อยู่ในมือพลันปักลงดิน เพื่อพยุงตัวเองเอาไว้..
“แม่งเอ้ย..ผบ.หมู่ ปีกซ้ายทุกกอง สั่งถอนกำลังพล..เดี๋ยวนี้..!!!”เจมิสที่ตัดสินใจสั่งถอนกองกำลังปีกซ้าย หลังจากที่ก่อนหน้านี้พึ่งจะสั่งถอนกำลังทางปีกขวาไป
ซึ่งเมื่อเหล่าผบ.หมู่ จากเอลเดียได้ยินเช่นนั้นก็สั่งเหล่าทหารให้ถอนกำลังพล..
“ถอย..!!!”
“พวกเราต้านมันเอาไว้ไม่ไหวแล้ว..!!!”
เสียงของผบ.หมู่ที่ตะโกนออกมา ก่อนที่เหล่าทหารจะตัดสินใจถอยร่น การต่อสู้ในครั้งนี้แม้กำลังพลจะเท่ากัน แต่ทว่ากองกำลังจากฝ่ายเมลันเทียนั้นได้เปรียบในเรื่องของภูมิศาสตร์
ตำแหน่งที่กองกำลังทหารของเมลันเทียอยู่นั้นคือเนินที่ราบสูง อีกทั้งยังมีต้นไม้และพุ่มหญ้าที่ขึ้นรกอยู่เต็มไปหมดไม่ต่างอะไรจากป่ารกทึบ จนทำให้กองกำลังโจมตีทางระยะไกลของพวกมันได้เปรียบ จากสภาพแวดล้อมที่ปกปิดทัศนวิสัยการมองเห็นของทหารจากเอลเดีย..
(วงสีแดง)
และแม้ว่ากองกำลังทหารจากเอลเดียจะส่งกองกำลังโจมตีระยะประชิดเข้าไปจนเกือบจะพลิกสถานการณ์ได้ แต่ก็ดูเหมือนว่ายุทธวิธีของเมลันเทียจะดีกว่า อีกทั้งพวกมันยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี จึงเป็นสิ่งที่ใช้ยืนยันว่าคนที่อยู่เบื้องหลังในการวางกลยุทธ์นั้นจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถสูง..
ซึ่งผลลัพธ์ของการปะทะกันในครั้งนี้ จากกำลังพล 100 นาย ของฝ่ายเอลเดีย ตอนนี้กลับรอดชีวิตไปเพียงแค่ 40 กว่านาย ยังไม่นับรวมกับคนที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนกองกำลังของเมลันเทีย จาก 120 นาย ตายไปทั้งหมด 60 นาย รอดชีวิต 60 นาย ไม่รวมกับคนที่ได้รับบาดเจ็บ..
ซึ่งถึงแม้ว่าจำนวนจะดูไม่แตกต่างกันเสียเท่าไหร่ แต่ถ้าขืนยังคงดึงดันที่จะปะทะต่อไป กองกำลังของฝ่ายเอลเดียจะต้องตายไม่เหลืออย่างแน่นอน จึงทำให้เจมิสตัดสินใจสั่งถอนกำลัง..
“ท่านผบ.ร้อย..!”เสียงของกองกำลังทหารจากเอลเดียกลุ่มหนึ่งที่วิ่งตรงเข้ามาหาเจมิส..
“ไปซะไม่ต้องห่วงฉัน..!”เจมิสที่กล่าวกับเหล่าทหาร..
“ถ้าท่านเป็นอะไรไป แล้วใครจะคุมกองร้อยล่ะครับ..?”
“มอบหน้าที่ให้จ่าสิบเอก..ใครก็ได้ ถ้าไม่มีก็มอบให้จ่าสิบโท สิ่งที่สำคัญที่สุด จงนำเรื่องนี้ไปรายงานให้ร้อยเอกซิลเวียได้รับรู้ว่ากองกำลังพวกเราพ่ายแพ้แล้..ว..”
ตู้ม..!!!!!!
“อ้ากกกกกก..!!”
ในขณะที่เจมิสกำลังจะฝากฝังหน้าที่ให้ทหารกลุ่มตรงหน้า จู่ๆก็มีเวทกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงตกลงมายังทิศทางของกลุ่มทหารจากเอลเดีย จนทุกๆคนถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นไปกันคนละทิศคนละทาง ต่อหน้าต่อตาของเจมิส..
“ไอ้พวกโง่..!!”เจมิสที่ร้องตะโกนออกมา แรงระเบิดได้ฉีกกระชากร่างของทหารทั้งกลุ่ม จนบางคนถึงกับแขนและขาขาดกระเด็นออกไป
“ไล่ตามพวกมันไป บุกทะลวงและฆ่าทิ้งให้หมด..!”ผบ.ร้อยของเมลันเทียที่ตะโกนออกมา ทางด้านของเจมิสที่นั่งอยู่ก็ได้กัดฟันด้วยความเจ็บใจ..
“แม่งเอ้ย..!!!”เจมิสที่ชันตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะดีดตัวพุ่งทะยานออกไปหาผู้นำของเมลันเทีย เธอได้กระชับดาบภายในมือเอาไว้อย่างแนบแน่น..
“เปิดวงจร เวทมนตร์ระดับ 5 เพลิงผลานนร..ก..!”
ตึกๆ..!
“อ่อก..พรวด..!!”
ในขณะที่เจมิสเปิดวงจรเวทและกำลังจะใช้เวทมนตร์ที่รุนแรงที่สุดของเธอ จู่ๆหัวใจของเธอก็กระตุกวูบ ร่างทั้งร่างพลันทรุดฮวบลงไปกระอักเลือด จากการที่เธอใช้มานาจนถึงขีดจำกัดแล้ว และถ้าเกิดเธอยังฝืนใช้มันต่อไป คริสตัลมานาที่ไม่มีมานาหลงเหลืออยู่เลยก็จะต้องแตกสลายออกมาอย่างแน่นอน..
“แฮกๆ ๆ..”เจมิสที่หายใจออกมาด้วยความอ่อนแรง ดวงตาของเธอพร่ามัวและพร้อมที่จะปิดลงทุกเมื่อ..
“หึๆ มานาหมดแล้วล่ะสิ ยัยร่าน..!”ผบ.ร้อยจากเมลันเทียที่ส่งเสียงหัวเราะอยู่ภายในลำคอ ก่อนที่เขาจะเดินไปหยุดอยู่ต่อหน้าของเจมิส พร้อมกับยกขวานสองคมขึ้นสูงเหนือหัวเตรียมที่จะผ่าร่างของหญิงสาวตรงหน้าให้แยกขาดออกเป็นสองซีก..
ฟุบ..!
ตู้ม..!
แต่ในช่วงจังหวะที่ผู้นำของเมลันเทียกำลังจะลงขวาน ชั่วพริบตาเดียวจู่ๆก็มีร่างของใครบางคนที่พุ่งตรงเข้ามาโฉบพาร่างของเจมิสอุ้มออกจากรัศมีของคมขวาน..
โดยที่ร่างๆนั้นสามารถที่จะเข้าช่วยชีวิตของเจมิสเอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียดแบบเส้นยาแดงผ่าแปด..
“นะ..นี่แก..?”ดวงตาของเจมิสที่เบิกกว้างร่างของเธอได้กำลังถูกสตาร์อุ้มในท่าเจ้าหญิง ก่อนที่ชายหนุ่มจะพาเธอไปส่งลงที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง..
[สตาร์]
“เกือบไปแล้วนะครับ ท่าน ผบ.ร้อย..”ผมที่กล่าวออกมา แต่น้ำเสียงแม่งเหมือนกับกำลังเยาะเย้ยเจมิส..
“แกมาที่ทำไม ฉันสั่งถอนกำลังพลไปแล้วไม่ใช่เหรอ..?”
“หืม..? ท่านพูดเรื่องอะไรผมไม่เห็นจะรู้เรื่อง..”
“แกอย่ามาทำเป็นไขสือ ถึงแกจะช่วยฉันเอาไว้ แต่แกขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชา..”เจมิสที่ต่อว่าผม ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังโกรธผมจริงๆ เธอคงจะเคร่งกับเรื่องอะไรแบบนี้..
“เฮ้อ..ถ้างั้นกลับไปเธอจะลงโทษฉันยังไงก็เชิญเลย..”ผมที่ถอนหายใจออกมา พร้อมกับชันตัวลุกขึ้นยืน โดยสรรพนามที่ใช่เรียกเจมิสได้กลับมาเป็นแบบห้วนๆ
“นี่อย่าบอกนะว่าพลังนั่นของแกจะ..”เจมิสที่กล่าวออกมา เธอพึ่งจะดูออกจากท่าทีและคำพูดที่ผมแสดงออกมา..
“ก็ตามนั้น สิบเอกชิออนทำหน้าที่ๆได้รับมอบหมายจากเธอได้ดีมาก..”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะเสยผมที่ปรกตาขึ้น เผยให้เห็นแววตาที่แข็งกร้าว ซึ่งผมก็ลืมบอกไป ตั้งแต่ที่ผมถูกส่งมายังโลกใบนี้ ผมมักจะเอาผมข้างหน้ามาปิดดวงตาเอาไว้ จึงทำให้ไม่มีใครที่จะสังเกตเห็นแววตาของผม..
“ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะ แกแค่คนเดียวไม่สามารถทำให้ผลลัพธ์มันเปลี่ยนไปได้หรอก ยังไงก็รีบถอยไปซะ..ตอนนี้ยังทัน..”เจมิสที่กล่าวออกมา ดูเธอจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับพลังของผม หึ..แต่อีกเดี๋ยวก็ไม่แน่..
“หืม..? ฉันไม่เข้าใจในคำสั่งของเธอ ฉันพึ่งจะทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จ ตอนนี้ฉันได้ปลดอาวุธของข้าศึกทั้งหมดแล้ว เธอลองมองไปที่เนินนั่นดูสิ..”ผมที่ชี้นิ้วออกไปยังเนินดินภายในป่ารกทึบที่ก่อนหน้านี้พวกทหารเมลันเทียใช้เป็นฐานที่มั่นชั่วคราว..
“มันไม่ใช่เวลาที่แกจะมาพูดอะไรไร้สาร..ะ เดี๋ยวนะ..”เจมิสที่สบถออกมา เธอเริ่มที่จะสังเกตเห็นความผิดปกติ
ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน ในช่วงที่เจมิสสั่งถอนกำลังพลทางปีกซ้าย ผบ.ร้อยของเมลันเทียก็ได้ออกคำสั่งทหารทั้งหมดให้ตามไปไล่ล่า แต่ทว่าตั้งแต่ตอนนั้นจวบจนตอนนี้ กลับยังไม่มีทหารของเมลันเทียเลยสักนายที่วิ่งลงมาจากเนินดิน..
“ทหาร..!!! มัวมุดหัวทำอะไรกันอยู่วะ..?!”ผบ.ร้อยของเมลันเทียที่พึ่งจะสังเกตเห็นความผิดพลันตะโกนออกมา..
“เฮ้ย..ไอ้หัวโล้น แกเรียกให้คอแตกพวกมันก็ไม่โผล่หัวออกมาหรอก..”ผมที่ตะโกนบอกกับไอ้หัวล้านร่างใหญ่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคือ ผบ.ร้อยของเมลันเทีย
“ไอ้สวะแกพูดว่าอะไรนะ..?”ไอ้หัวโล้นหันมาจ้องหน้าผมด้วยดวงตาที่แดงก่ำ ซึ่งผมก็แสยะยิ้มหวานส่งตอบให้มันไปหนึ่งที..
“แกอยากรู้ไหมว่าเพราะอะไรทำไมทหารของแกถึงหายไป..”ผมที่กล่าว..
“ก็เพราะพวกมันกลายเป็นปุ๋ยไปหมดแล้วยังไงกันล่ะ…”ผมที่ประกาศออกมา และมันก็ทำให้ไอ้หัวโล้นต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะหรี่ตาลง..
“หืม..? อุ๊บ ฮ่าๆ นี่แกกำลังจะบอกว่าแกคนเดียวสามารถฆ่าทหารทั้งกองร้อยของฉันได้เนี่ยนะ..?”ไอ้หัวล้านที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา..
“ฮ่าๆ ๆ..”ผมที่ระเบิดเสียงหัวเราะตามมัน โดยเสียงหัวเราะของผม มันเป็นเสียงหัวเราะที่โครตจะกวนประสาท ในระหว่างนั้นเองผมก็ได้ถอดกระเป๋าเป้ที่ขโมยมาจากทหารเมลันเทียนายหนึ่ง ก่อนจะเทสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา..
ตุบๆ ๆ
“อะ..อะไรกัน..?”ไอ้หัวโล้นที่สบถออกมา มันพลันผงะหน้าแหยตาเหลือกไปในทันที
และก็ไม่ใช่แค่มันเพียงคนเดียวเท่านั้น ทางด้านของเจมิสเองก็ได้แต่นั่งอึ้งไม่ต่างกัน จากภาพของดวงตามนุษย์จำนวนมากที่กองพะเนินอยู่ต่อหน้าของผม..
“สยองโครต..~”ไอ้จ้อนที่กู่ร้องออกมา ผมสัมผัสได้ว่ามันกลัวจนหัวหด..
“น่าจะเป็นงานอดิเรกของฉันคนก่อนแหละ..”ผมที่ตอบกลับแบบติดตลก..
“ปะ..เป็นไปไม่ได้..”ไอ้หัวล้านที่ดูเหมือนจะรับความจริงไม่ได้กล่าวออกมา..
“ไม่คิดเลยว่าไอ้พวกเมลันเทียจะโง่ถึงขนาดนี้ ทั้งๆที่ก็ไม่ใช่ประเทศของตัวเอง แต่กลับกล้าไปตั้งฐานที่มั่นในป่ารกทึบ แกรู้จักกลยุทธ์ต้นไม้กินคนไหม..? ฉันเนี่ยแหละต้นไม้กินคนที่ว่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า..ไอ้ ควาย..”ผมที่กล่าวออกมา พร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ยมันแบบเน้นๆสามครั้ง ก่อนจะด่ามันปิดท้าย..
ซึ่งภาพที่ปรากฏอยู่ภายในป่ารกทึบบนเนินสูง ณ ตอนนี้ นั่นก็คือศพของเหล่าทหารเมลันเทียที่กำลังนอนกระจัดกระจายตายเกลื่อนกันอยู่ตามจุดต่างๆ โดยจำนวนของศพที่ตายนั้นคือกองกำลังทหารทั้งหมดจำนวน 60 นาย อีกทั้งยังเป็นฝีมือของคนเพียงคนเดียว
โดยที่สาเหตุการตายของเหล่าทหารเมลันเทีย ถูกสังหารด้วยวิธีที่โหดร้าย บางศพถูกตัดหัวจนขาด บางศพถูกดาบแทงติดเอาไว้กับต้นไม้ บางศพถูกของมีคมปาดคอ และก็มีอยู่อีกกว่าหลายศพที่ถูกหักคอจนตาย แต่ทุกๆศพที่กล่าวมาได้ถูกผู้ที่ฆ่าควักเอาลูกตาออกไป..
“สตาร์..นี่แก..!”เจมิสที่อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
“แล้วยศว่าที่ผมหายไปไหนเนี่ย..? แค่ขัดคำสั่งนิดหน่อยถึงกับถอดยศกันเลยเหรอ ยังไงก็ขอคำสั่งต่อไปด้วยครับท่าน ผบ.ร้อย..”ผมที่กล่าวกับเจมิส แต่อีกฝ่ายกลับยังคงอึ้ง สายตาที่เธอกำลังใช้มองผมอยู่ในตอนนี้ มันไม่เหมือนกับคนที่กำลังมองมนุษย์ด้วยกัน..
“ท่าน ผบ.ร้อย ขอคำสั่งกำจัดผู้นำข้าศึกด้วยครับ..”ผมที่บอกกับเจมิส เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไปชั่วขณะ สายตาของเธอกำลังมองไปยัง ผบ.ร้อยฝ่ายศัตรูที่ยังคงยืนชะงักอยู่อย่างนั้น..
“ว่าที่สิบตรีสตาร์..! จงกำจัดไอ้เจ้าสวะเมลันเทียนั่นซะ ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใดก็ตาม..”เจมิสที่ตั้งสติ ก่อนที่เธอจะเปล่งเสียงออกคำสั่ง..
“พิฆาตทมิฬ..รับทราบคำสั่ง..”ผมที่เผลอหลุดปากพูดรหัสลับในโลกเก่า ยิ่งเวลาผ่านไปผมก็ยิ่งสัมผัสตัวตนเมื่อสมัยก่อนได้ชัดขึ้น
“พิฆาตทมิ..ฬ..”
ฟุบ..!
หมับ..!
“อะ..อึก..!”
ในขณะที่เจมิสกำลังกล่าวทวนรหัสลับที่ผมเผลอหลุดปากพูดออกไป ดวงตาของเธอก็ต้องเบิกกว้างขึ้น จากฝ่ามือของผมที่เข้าจับขยำหน้าอกของเธอ
“ฉันรักแกในโหมดนี้ที่สุดเลย..!~”เสียงของไอ้จ้อนที่กล่าวออกมา
“นะ..นี่แก..!”
“ขออภัยด้วยครับท่าน แต่ท่านสั่งเองไม่ว่าจะต้องใช้วิธีการใดก็ตาม..”ผมที่แสยะรอยยิ้มกล่าวออกมา ก่อนจะหันหลังกลับ พร้อมทั้งเดินออกไปยังทิศทางของไอ้หัวโล้น..
《ชารจ์พลังงาน 20 หน่วย》
เสียงของระบบที่ดังขึ้นมาอยู่ภายในหัวของผม พร้อมกับอะดรีนาลีนที่เดือดพล่าน ระดับชาร์จพลังที่ปรากฏออกมา ดูเหมือนจะขึ้นอยู่กับระดับอารมณ์ของผมที่รู้สึกกับผู้หญิงแต่ละคน โถ่..เจ๊แกสวยซะขนาดนี้ ขึ้นมา 20 หน่วยก็คงไม่แปลก
“ระวังตัวให้ดี ฉันน่ะ..แข็งแกร่งเอาเรื่องเลยล่ะ..”ผมที่ใช้ด้ามไลท์เซเบอร์ชี้ออกไปยังไอ้หัวล้าน ดาบที่พกติดตัวมาในตอนแรกผมได้ทิ้งมันไป หลังจากที่จัดการสังหารหมู่กองกำลังของเมลันเทียนบนเนินที่ราบสูง
“ไอ้สวะ..แกคิดจะใช้ท่อนเหล็กนั่นเอาชนะฉันจริงๆอย่างงั้นเหรอ เห็นแล้วอยากจะขำให้ฟันร่วงเลยว่ะ ก็ไม่รู้หรอกนะว่าแกใช้วิธีไหนในการกวาดล้างกองร้อยของฉัน แต่สงครามในครั้งนี้ ฉันจะกลับไปพร้อมกับหัวของยัยร่านนั่น..”ไอ้หัวโล้นที่พูดออกมา เป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่ผมจะดีดตัววิ่งตรงออกไป..
“เฮ้ย..แกคิดจะใช้ท่อนเหล็กนั่นสู้จริงดิ..!?”เจมิสที่ตะโกนถามผม เธอดูตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก..
“ตายซะ..!!”
ในช่วงจังหวะที่ร่างของผมวิ่งตรงเข้ามาจวนจะถึงตัวของไอ้โล้น มันก็ได้ทำการเหวี่ยงขวานขนาดใหญ่เข้ามาในแนวเฉียง เท่าที่เห็นมันเป็นแค่การโจมตีปกติที่เสริมกำลังด้วยวงเวท แบบนี้ก็เข้าทางเลย..
ติก..!
หวิ่ง..!!!
“ลาขาดล่ะนะไอ้เวร..!!!”ผมที่กล่าวออกมา ก่อนจะกดเปิดสวิตซ์เหวี่ยงใบดาบเลเซอร์พลังสูงปาดปะทะเข้าสู่ใบขวานของเป้าหมาย..
ซึ่งทันทีที่ใบดาบเลเซอร์ปาดปะทะเข้ากับขวานใหญ่ มันก็ได้หลอมละลายใบขวานจนแยกขาดออก..
“อะไรวะเนี่ย..?!”ไอ้หัวโล้นที่กู่ร้อง ร่างของผมที่พุ่งผ่านการโจมตีของมันได้ย่อตัวฟันสาดใบดาบตัดขาทั้งสองข้างของมัน ก่อนจะดีดตัวขึ้นเหวี่ยงตวัดฟันแขนซ้ายและขวาภายในสองจังหวะ..
หวิ่งๆ ๆ
ฉ่า..!×2
“อ้ากกกกกกกก..!!!!”ร่างของไอ้โล้นที่ถูกตัดแขนและขาพลันลงไปนอนดิ้นพล่านอยู่กับพื้น
“ฝันดีนะ..!”ผมที่กล่าวคำพูดทิ้งท้ายเอาไว้ ก่อนจะง้างขาหวดเตะเสยเข้าไปที่ปลายคางของไอ้โล้นจนมันหมดสติไป..
ท่ามกลางร่างของเจมิสที่กำลังอ้าปากช็อคค้าง ผมในตอนนี้ได้โน้มตัวลงไปตามความรู้สึก ก่อนจะจัดการควักลูกตาของเป้าหมายที่หมดสติออกมาจากเบ้าตาหนึ่งข้าง..
“ภารกิจเสร็จสิ้น เอลเดียเป็นฝ่ายชนะ..”
“โรคจิต โรคจิตแน่ๆ..!”เสียงของไอ้จ้อนที่กู่ร้อง..!
MANGA DISCUSSION