Sword of horny ดาบแสงพลัง X กับทรชนพันธุ์ระยำ.. - ตอนที่ 89
แสงที่ 89 ชิบหายเลี้ยว..!
3 ชั่วโมงต่อมา..
ณ หุบเขาลาติสทางทิศเหนือ..
“ทะ..ท่านเอ็กเซ็ท กะ..กองกำลังหน่วยที่ 3,4,5 ถูกกองกำลังสนับสนุนของเอลเดียที่บุกจู่โจมทางช่องแคบทางทิศตะวันออกกวาดล้างจนหมดแล้วครับ แถมกองกำลังหน่วยที่ 1,2 ยังตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้เวทซุ่มยิงจากระยะไกลได้ นี่คือรายงานล่าสุด เมื่อ 5 ชั่วโมงก่อนของท่านผู้นำหน่วยฮิไรม์..!”
“กองกำลังหน่วยที่ 6 ,7 และ 8 เองก็ด้วยครับ ถ้าผมเดาไม่ผิดน่าจะถูกกองกำลังสนับสนุนหน่วยเดียวกันกับที่กวาดล้างหน่วยที่ 3,4 และ 5 บุกโจมตี เผลอๆไม่แน่ว่าตอนนี้หน่วยที่ 1 และ 2 อาจจะถูกกวาดล้างไปด้วยแล้วก็ได้ครับ นี่คือรายงานสถานการณ์ล่าสุดเมื่อ 3 ชั่วโมงก่อน..”
เสียงรายงานของทหารไฮสโตเรียจำนวนสองนายที่วิ่งตรงเข้ามารายงานสถานการณ์แก่ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนหลังม้า..
โดยที่ทหารทั้งสองนายนั้น นายแรกคือทหารที่ฮิไรม์ส่งให้มารายงานก่อนที่กลุ่มของเธอและกลุ่มที่สองจะถูกเซซิสเข้ากวาดล้าง
ส่วนทหารอีกนายคือทหารของกองกำลังที่เซซิสพึ่งจะกวาดล้างไป ซึ่งด้วยการที่ระยะทางของทหารทั้งสองนายไกลใกล้ไม่เท่ากัน อีกทั้งช่วงเวลาที่เกิดเหตุยังแตกต่างกัน จึงทำให้มาถึงสถานที่แห่งนี้พร้อมกัน..
“ทะ..ท่านเอ็กซ์เซ็ทครับ กองกำลังหน่วยที่ 9,10 และ 11 ได้ขับไล่กองกำลังสนับสนุนอีกกลุ่มของเอลเดียที่แอบลอบเข้ามาจู่โจมจากทางช่องแคบทางทิศตะวันตกได้แล้วครับ พวกมันน่าจะถอยร่นกลับไป ส่วนกองกำลังอีก 5 หน่วยของเราที่เหลือตอนนี้กำลังปิดล้อมกองกำลังหลักของพวกมันอยู่เหนือแอ่งกะทะ..”เสียงรายงานของทหารนายที่สามที่ปรากฏตัววิ่งตรงเข้ามารายงาน..
ซึ่งกองกำลังหน่วยที่ 9,10 และ 11 คือกองกำลังที่ซุ่มโจมตีอยู่ทางทิศตะวันตกของหุบเขา เป็นจุดเดียวกันกับที่กองกำลังของพอลเคลื่อนตัวไป
และจากการรายงานของทหารนายดังกล่าว มันก็บ่งบอกให้เห็นว่ากองกำลังของพอลได้ถูกโจมตีจนต้องถอยร่นกลับออกไปตั้งหลัก จึงทำให้ตอนนี้ที่บนหุบเขาเหลือเพียงแค่กองกำลังสนับสนุนของเซซิสเท่านั้น..
“อะไรกัน..? พวกแกมีกันตั้งเกือบหนึ่งกองร้อย แต่กลับแพ้ให้ไอ้พวกสวะเอลเดียเนี่ยนะ..เฮ้ยแกน่ะ กองกำลังสนับสนุนที่กวาดล้างกองกำลัง 3,4,5 มันมีจำนวนอยู่ที่เท่าไหร่กัน..?”เสียงของชายวัยกลางคนหรือผู้นำสูงสุดในภารกิจนามว่าเอ็กซ์เซ็ทที่เอ่ยถามต่อทหารที่ฮิไรม์ส่งมา..
“ยะ..ยี่สิบนายครับ..”
“ว่ายังไงนะ..?! มีแค่ยี่สิบนายแต่กลับฆ่าพวกมันไม่ได้..?”เอ็กซ์ที่ตวาดเสียงออกมา..
“ตะ..แต่ว่าท่านครับ กองกำลังสนับสนุนของไอ้พวกเอลเดียมันมีปีศาจอยู่ด้วย..”
“ปีศาจ..?”เอ็กซ์เซ็ทที่ขมวดคิ้วแน่น..
“ไอ้เจ้าปีศาจนั่นมันใช้ดาบรูปร่างประหลาดฟันกระสุนแรงดันเวทจู่โจมระยะไกล แถมมันยังสามารถปัดกระสุนแรงดันเวทชนิดจู่โจมแบบต่อเนื่องของหน่วยที่ 3 ถึง 50 นัดได้ โดยที่ตอนนั้นมันก็ตกอยู่ในวงล้อมของหน่วยที่ 3 เพียงคนเดียว..”สิ้นเสียงรายงานของทหาร เอ็กซ์เซ็ทที่ได้ยินก็เบิกดวงตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง..
“ปัดกระสุนด้วยดาบเนี่ยนะ..?”เอ็กซ์เซ็ทที่กล่าวออกมา แต่แล้วทันใดนั้น..
“ฮี๋..~”
กร็อบ กร็อบ กร็อบๆ
ทันใดนั้นเองจู่ๆก็มีร่างของทหารนายหนึ่งที่ควบม้าฝ่าพื้นหิมะวิ่งตรงเข้ามายังทิศทางของเอ็กซ์เซ็ทและทหารทั้งสามนาย..
“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วครับ..!!!”เสียงของทหารที่กระโดดลงจากหลังม้า ก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้ามาหยุดยืนอยู่ต่อหน้าของเอ็กซ์เซ็ท..
“เกิดอะไร..?”เอ็กซ์เซ็ทที่หรี่ตาลงพลางเอ่ยถาม..
“ตอนนี้กองกำลังหน่วยที่ประจำการอยู่เหนือแอ่งใจกลางของหุบเขาได้ถูกกองกำลังสนับสนุนของเอลเดียบุกจู่โจม พวกมันได้จัดการหน่วยที่ 12 ก่อนจะฝ่าวงล้อมเข้าไปยังจุดที่กองกำลังหลักของเอลเดียซ่อนตัวอยู่ได้จนสำเร็จ
ส่วนกองกำลังหน่วยที่ 14,15,16 และ 17 ของเราตอนนี้ยังคงประจำจุดอยู่ที่ตำแหน่งเดิม อีกทั้งพวกเรายังขอความช่วยเหลือไปที่กองกำลังหน่วยที่ 9 ให้เข้ามาสนับสนุนอุดรูรั่วของการปิดล้อมแทนหน่วยที่ 12 ที่ถูกกวาดล้างไป..
และที่สำคัญที่สุด..พวกเราเจอผู้ใช้เอมพาสระดับ 1 ดาวทองครับ..! ไอ้เจ้านั่นคือผู้นำของกองกำลังสนับสนุนเอลเดียที่บุกจู่โจมเข้าไปช่วยกองกำลังหลัก..”สิ้นเสียงรายงานของนายทหาร เอ็กซ์เซ็ทที่ได้ยินแบบนั้นก็เบิกดวงตากว้างขึ้น..
“สะ..เสาหลักแห่งเอลเดีย..กะแล้วเชียวว่าทำไมด้วยกองกำลังเพียงแค่นั้นถึงสามารถวาดล้างกองกำลังของพวกเราไปได้กว่าหลายหน่วย หึๆ..เยี่ยม คิดไม่ถึงว่าจะมีเหยื่อตัวใหญ่หลุดเข้ามาติดกับ
แสดงว่าไอ้เจ้าเสาหลักนั่นคงจะมั่นใจในตัวเองมากจนถึงขั้นบุกเข้าไปช่วยกองกำลังหลัก ทั้งๆที่มันเองก็จะต้องติดกับดักตกอยู่ในวงล้อมไปด้วย เป็นไปอย่างที่เบื้องบนคาดเดาเอาไว้จริงๆว่าพวกมันจะต้องส่งทหารระดับสูง เพื่อมาแย่งทรัพยากรของพวกเรา..”เอ็กซ์เซ็ทที่กล่าวออกมา ก่อนที่เขาจะแสยะรอยยิ้ม..
“อันที่จริงถ้าเกิดว่าพวกเรากวาดล้างกองกำลังสนับสนุนได้ ฉันเองก็กะว่าจะไม่ใช้กลยุทธ์หลักอยู่แล้วเชียว แต่ดูเหมือนว่าคงจะต้องใช้ซะแล้วสิ..”เอ็กซ์เซ็ทที่แสยะรอยยิ้มออกมา ก่อนที่เขาจะเปล่งเสียงตะโกนออกคำสั่ง..
“นักรบขั้นที่ 4 มาริน่าและนักรบขั้นที่ 4 คาล์ รับคำสั่ง..!”เอ็กซ์เซ็ทที่เปล่งเสียง ก่อนที่ทหารสองนายที่นั่งอยู่บนหลังม้าประกบอยู่ทั้งฝั่งซ้ายมือกับขวามือของเขาจะเปล่งเสียงขานรับ..
“ค่ะ..! /ครับ..!”เสียงขานรับของทหารทั้งสองนาย คนหนึ่งเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย ส่วนอีกคนเป็นชายหนุ่มร่างกายกำยำ โดยที่ทั้งสองคนคือนักรบขั้นที่ 4 ของไฮสโตรเรีย
ซึ่งนักรบขั้นที่ 4 ถ้าให้เทียบระดับยศกับทหารของเอลเดียโดยประมาณก็คงอยู่ในระดับยศนายร้อย แต่จะเป็นร้อยตรี ร้อยโทหรือร้อยเอกก็ขึ้นอยู่กับสีของขีดบนหมวก โดยที่ทหารทั้งสองนายนี้อยู่ในระดับยศร้อยเอก..
“ฉันขอมอบหมายหน้าที่ให้พวกแก แบ่งกองกำลังออกเป็นสองกองร้อย กองร้อยแรกมาริน่าเธอจงนำพากองกำลังทหารเคลื่อนพลอ้อมเข้าสู่แอ่งกระทะจากทางฝั่งซ้าย ส่วนแกคาล์จงนำกองร้อยที่สองเคลื่อนพลอ้อมเข้าไปทางฝั่งขวา เมื่อถึงจุดหมายก็จงเข้าโอบล้อมพวกมันซะ และรอฟังคำสั่งจากฉัน พวกแกมีเวลาเคลื่อนพลภายใน 30 นาที ไม่เช่นนั้นพวกมันอาจจะฝ่าวงล้อมและหนีรอดออกไปได้ ขอย้ำอีกครั้งเคลื่อนพลไปให้ถึงจุดหมายภายใน 30 นาที..!”เอ็กซ์เซ็ทที่แผดเสียงตะโกนออกคำสั่ง ก่อนที่ทั้งสองคนจะเปล่งเสียงขานรับ..
แผนการเข้าโอบล้อม จุดสีแดง:กองกำลังหลักของเอลเดียและเซซิสที่เข้าไปสมทบ..
“รับทราบ..!!!!”
“เหล่านักรบผู้ทรงเกียรติแห่งไฮสโตเรีย วันนี้คือวันที่ไฮสโตเรียจะสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ จงเด็ดหัวเสาหลักแห่งเอลเดีย และทำให้พวกมันได้รู้ถึงความร้ายกาจของพวกเรา..!!!”สิ้นเสียงของเอ็กซ์เซ็ทเสียงตะโกนขานรับก็ดังขึ้นอีกครั้ง ซึ่งภาพที่ปรากฏอยู่ที่ทางเบื้องหลังของเขา นั่นก็คือภาพของกองกำลังทหารม้าจำนวนเกือบ 250 นายที่กำลังยืนเข้าแถวประจำตำแหน่ง..
“ไฮสโตเรียจงเจริญ..!!!!!”
20 นาทีต่อมา..
ตัดกลับมาที่ทางด้านของเซซิส..
หลังจากที่เซซิสได้ให้สไปร์สและกองกำลังทหารพักผ่อน ถัดจากนั้น 3 ชั่วโมงเขาก็ได้เปลี่ยนแผน จากแผนเดิมที่ในตอนแรกจะต้องกระจายกำลังเป็นกลุ่มในการเข้าปิดล้อมกองกำลังของไฮสโตเรียที่ซุ่มอยู่ตามจุดต่างๆทางฝั่งซ้ายของหุบเขา เปลี่ยนมาเป็นนำกองกำลังทหารทั้งหมดบุกโจมตีกองกำลังของไฮสโตเรียที่กำลังล้อมสถานที่แห่งหนึ่งเอาไว้ ก่อนจะบุกทะลวงเข้าไปยังสถานที่แห่งนั้น..
ซึ่งสาเหตุที่ทำไมเซซิสถึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแผน นั่นก็เพราะเขามั่นใจว่ายังไงกองกำลังของพอลจะต้องไม่อาจรับมือกับการจู่โจมทางระยะไกลของไฮสโตเรียที่ซุ่มโจมตีอยู่ได้ จึงทำให้เขาตัดสินใจนำกองกำลังบุกทะลวงเข้าไปยังสถานที่ๆน่าจะเป็นจุดที่กองกำลังหลักซ่อนตัวอยู่
ซึ่งสถานที่ดังกล่าวนั้นมันเป็นเนินแอ่งกระทะที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขากว่าหลายลูก ทอดยาวจากบนภูเขาลงไปยังพื้นดินภายในแอ่งระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ 70 เมตร อีกทั้งทั่วบริเวณยังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวโพลน โดยที่ภายในแอ่งกระทะนั้นจะมีช่องแคบลึกลับที่ถูกล้อมรอบไปด้วยเนินหินที่สูงชันและดูสลับซับซ้อน..
โดยที่ภายในช่องแคบของเนินหินแห่งนี้มีถ้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ ซึ่งนั่นก็คือสถานที่ซ่อนตัวของกองกำลังหลัก และเซซิสก็ได้นำพากองกำลังทหารบุกทะลวงมาจนถึงที่ถ้ำแห่งนี้แล้ว..
ซึ่งทันทีที่เซซิสมาถึง เมื่อเหล่าทหารของกองกำลังหลักที่ซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำเกือบ 150 นายได้เห็นแบบนั้นก็ต่างพากันกู่ร้องออกมาด้วยความดีใจ ก่อนที่เซซิสพร้อมด้วยสไปร์สจะไปเข้าพบกับผู้นำของกองกำลังหลักและรับฟังรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน..
ภายในถ้ำ..
หลังจากที่เซซิสและสไปร์สได้รับฟังสถานการณ์จากผู้นำของกองกำลังหลักทั้งสอง เขาและเธอก็ถึงกับต้องก้มหน้าเอามือกุมขมับด้วยความเคร่งเครียด..
“สรุปแล้วก่อนหน้านี้พวกแกสองคนส่งกองกำลังทหารให้ออกไปตายเกือบหนึ่งกองร้อย โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยเนี่ยนะ..?”เซซิสที่กำลังนั่งอยู่โขดหินพลันเอ่ยถามกับผู้นำของกองกำลังหลักทั้งสอง
คนแรกคือชายวัยกลางอายุประมาณ 40 ต้นๆ เขาคือทหารของเหล่าทัพทารอน เป็นทหารระดับยศร้อยเอกนามว่าฟิลิป แถมเขายังเป็นทหารที่ติดยศว่าที่พันตรีของหน่วยพยัคฆ์เขี้ยวสังหารอีกด้วย
ส่วนอีกคนคือหญิงวัยกลางรุ่นราวคราวเดียวกัน เธอคือทหารของเหล่าทัพเอทารอส และเป็นทหารยศร้อยเอกนามว่าคาร์ดี้ อีกทั้งเธอก็ติดยศว่าที่พันตรีเฉกเช่นเดียวกันกับฟิลิป..
ซึ่งคนทั้งสองนั้นถือว่าเป็นทหารที่เลื่องชื่อประจำเหล่าทัพ จึงถูกส่งให้มาร่วมกันทำภารกิจนี้ ฟิลิปและคาร์ดี้นั้นเคยได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นผู้บัญชาการในภารกิจระดับ 3 อยู่หลายครั้ง แต่ทว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันเกินกว่าที่คนทั้งสองจะรับมือได้ไหว..
“ขอโทษครับ..”
“ขอโทษค่ะ..”
ฟิลิปและคาร์ดี้ที่ได้แต่ยืนก้มหน้าสำนึกผิด เขาและเธอตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นช่างไร้ความสามารถ..
ซึ่งแปดชั่วโมงก่อนที่เซซิสจะมาถึงหรือในช่วงที่เขาพึ่งจะกวาดล้างกองกำลังของฮิไรม์ ช่วงเวลานั้นฟิลิปและคาร์ดี้ได้ออกคำสั่งเคลื่อนพลนำกองกำลังทหารเกือบ 250 นาย ออกจากถ้ำแห่งนี้ เพื่อที่จะบุกเข้าจู่โจมกองกำลังของไฮสโตเรียที่ดักซุ่มอยู่รอบๆแอ่งกระทะ
แต่ทันทีที่ออกไปกองกำลังเกือบ 250 นายก็ถูกซุ่มยิงจนตกตายไปร้อยกว่านายโดยที่ยังไม่แม้แต่จะได้ทำอะไร นั่นจึงทำให้ฟิลิปกับคาร์ดี้ตัดสินใจสั่งถอนกำลังพลถอยกลับเข้ามาแอบอยู่ในถ้ำตามเดิม..
สาเหตุที่ทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจทำแบบนั้นก็เพราะคิดว่าทางเบื้องบนอาจจะไม่ส่งกองกำลังสนับสนุนมาช่วย และผลลัพธ์ของการตัดสินใจ มันก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม..
“เฮ้อ..เอาเถอะ ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเราคงต้องวางแผนกันใหม่ อย่างน้อยๆก็รู้แล้วว่าศัตรูมีอาวุธอะไร ถ้าไม่ติดว่าก่อนหน้านี้ฉันฝืนใช้เจมิไนท์มากจนเกินไป ฉันก็คงจะกวาดล้างกองกำลังของไอ้พวกไฮสโตเรียที่ล้อมสถานที่แห่งนี้ไปจนหมดแล้ว..”เซซิสที่กล่าวออกมา เหตุผลที่ทำไมเขาถึงไม่กวาดล้างกองกำลังที่ล้อมอยู่รอบๆแอ่งกระทะ นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาได้รับผลกระทบจากเจมิไนท์ จนตกอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมสู้..
ซึ่งถ้าจะให้พูด..ก่อนหน้านี้ในตอนที่เซซิสนำกองกำลังสนับสนุนบุกเข้ากวาดล้างกองกำลังของไฮสโตเรีย ผลงานส่วนใหญ่ก็ล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือของเขา จนพวกทหารที่ติดตามมาด้วยหรือแม้แต่สไปร์ส แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย
และถึงต่อให้เซซิสจะสั่งให้สไปร์สและพวกทหารไปกวาดล้างกองกำลังที่อยู่รอบๆแอ่งกระทะแทนเขา แต่การทำแบบนั้นมันถือว่าเป็นอะไรที่เสี่ยงจนเกินไป เพราะไม่รู้ว่ากองกำลังทั้งหมดมีจำนวนอยู่มากน้อยแค่ไหน
“แล้วท่านเสาหลักคิดว่าพวกเราควรจะทำยังไงต่อไปดี..ลำพังถ้าเกิดพวกเราออกจากอาณาเขตของช่องแคบเนินหินไปใกล้กับทางเนินขึ้นแอ่ง พวกเราก็ถูกซุ่มยิง..”ฟิลิปที่เอ่ยถามกับเซซิส..
“คงมีแต่ต้องรอให้พวกมันบุกลงมาในแอ่งแห่งนี้ ถ้าเกิดสู้กันในช่องแคบและปะทะในจุดอับสายตา ยังไงพวกเราก็จะต้องเป็นฝ่ายชนะอย่างแน่นอน ถึงแม้ไอ้พวกที่ซุ่มยิงสนับสนุนจะอยู่สูงกว่าพวกเราก็ตาม..”เซซิสที่กล่าวออกมา คงจะมีแต่ทางนี้ทางเดียว
“แล้วท่านรู้ได้ยังไงว่าพวกมันจะบุกลงมาในแอ่ง และถ้าเกิดว่าพวกมันไม่ลงมาในแอ่งล่ะคะ..?”คาร์ดี้ที่เอ่ยถาม..
“ฉันเห็นด้วยกับร้อยเอกคาร์ดี้ ไม่มีเหตุผลที่พวกมันจะต้องบุกลงมาในแอ่ง ในเมื่อพวกมันสามารถซุ่มยิงพวกเราจากที่สูงได้ มันจะเสี่ยงส่งกองกำลังลงมาปะทะกับพวกเราตรงๆทำไม..?”สไปร์สที่กล่าวออกมา..
“หึ..ใครบอกว่าไม่มีเหตุผล ฉันนี่ไงล่ะเหตุผลที่จะทำให้พวกมันบุกลงมา ตอนนี้พวกมันคงจะรู้แล้วว่าเสาหลักอย่างฉันอยู่ที่นี่ ยังไงพวกมันก็คงจะต้องแห่กันมาเพื่อเอาหัวของฉันไปแน่ๆ
และที่สำคัญ..พวกมันคงจะรู้ว่าถ้าไม่ติดว่าฉันมีพวกแกอยู่ ฉันคนเดียวยังไงก็สามารถที่จะบุกเดี่ยวหนีเอาตัวรอดออกไปจากที่นี่ได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่จะทำให้พวกมันต้องรีบบุกเข้ามาปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวพวกแกรอดูได้เล..ย..”
“ท่านผู้บัญชาการ..!!”
ยังไม่ทันที่เซซิสจะได้พูดอะไรจนจบ จู่ๆทหารนายหนึ่งที่ถูกส่งให้ออกไปสอดแนมก็วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาภายในโถงถ้ำ ก่อนที่ทหารนายนั้นจะเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆเซซิสและทุกๆคน
“เกิดอะไรขึ้น..?”ฟิลิปที่เอ่ยถามต่อทหารผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา..
“ตะ..ตอนนี้ที่บนภูเขาเหนือแอ่งกระทะ มะ..มีกองกำลังทหารม้าของไฮสโตเรียเกือบ 200 นายที่เข้ามาปิดล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้ครับ..!”
“นั่นไง..ฉันบอ..ก เดี๋ยวนะ..เมื่อกี้แกบอกว่าพวกมันมีจำนวนเท่าไหร่กันนะ..?”เซซิสที่กำลังจะกล่าวพลันหันไปเอ่ยถามกับทหาร นอกจากที่กองกำลังสนับสนุนของศัตรูที่ถูกส่งมาจะมาเร็วกว่าที่เขาได้คาดการณ์เอาไว้ จำนวนของพวกมันยังเยอะกว่าที่เขาคิดเอาไว้ถึงสองเท่า..
“สะ..สองกองร้อยครับ รวมกับไอ้พวกที่ล้อมเราอยู่ก่อนหน้า คาดว่าทั้งหมดน่าจะมีจำนวนอยู่ที่ราวๆเกือบ 300 นาย..!”สิ้นเสียงรายงานของทหารเซซิสที่ได้ยินก็ถึงกับอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก
“เวรแล้วไง..”เซซิสที่สบถออกมา..
ซึ่งก่อนหน้านี้เซซิสได้ส่งทหารจำนวนห้านายให้ออกไปสอดแนมกองกำลังทหารของไฮสโตเรียที่ซุ่มโจมตีอยู่รอบๆเนินบนแอ่งกระทะ โดยที่ทหารทุกๆนายได้ใช้อุปกรณ์แว่นตาส่องทางไกลของไฮสโตเรียที่เซซิสแอบหยิบติดมือมาด้วย เพื่อใช้มันในการสอดส่องขึ้นไปเหนือแอ่งบนภูเขา จนกระทั่งพวกทหารได้พบเข้ากับกองกำลังของข้าศึกที่เข้ามาโอบล้อมสถานที่แห่งนี้เอาไว้..
“อึก..ท่านพลโท พวกเราควรจะทำยังไงดีคะ..?”คาร์ดี้ที่เอ่ยถามต่อเซซิส โดยที่เขาในตอนนี้กำลังนั่งก้มหน้าใช้ความคิดอยู่..
“กระจายคำสั่งออกไป บอกให้ทหารทุกนายเตรียมพร้อมเข้าปะทะ..! นี่คือศึกชี้ชะตาระหว่างเรากับพวกมัน..!”เซซิสที่เงยหน้ากลับขึ้นมาแผดเสียงออกคำสั่ง เมื่อฟิลิปกับคาร์ดี้ได้ยินเช่นก็ได้ข่มความกดดันเอาไว้ ก่อนจะเปล่งเสียงขานรับด้วยความเข้มแข็ง..
“รับทราบ..!!!!”
“ไอ้เจ้าพวกโง่..พวกมันคงไม่รู้สินะว่ากำลังรนหาที่ตายกันอยู่ หึ..”เซซิสที่แสยะรอยยิ้มกล่าวออกมา..
ในขณะเดียวกันทางด้านของสตาร์..
[สตาร์]
หลังจากที่ผมกับไอรินจัดแจงตัวเองจนเสร็จสรรพ พวกเราก็เริ่มที่จะออกเดินทางกันต่อ ตลอด 3 ชั่วโมงเศษๆที่ออกเดินมาจากโถงถ้ำห้องล่าสุด พวกเราก็ได้ผ่านโถงถ้ำมาแล้วกว่าหลายห้อง..
โดยที่ตลอดทางไอรินก็เดินชนิดที่แทบจะตัวติดกับผม เธอเดินควงแขนของผมอยู่ตลอดเวลาแบบไม่คิดที่จะปล่อย แถมยังดูเหมือนกับว่าเธอกำลังหลงผมหัวปักหัวปำ..
“โอ้ย..เมื่อยขาแล้ว..”ไอ้จ้อนที่สบถบ่นออกมา มึงมีขาด้วยเหรอฟะ..?!
‘ตูต่างหากที่ต้องพูดคำนั้น..’ผมที่ตอบกลับไอ้เวรจ้อน ดูเหมือนว่าหลังจากที่มันได้ปลดปล่อยจนตัวใสสะท้อนแสง มันก็อารมณ์ดีจนกวนตีนขึ้นเป็นพิเศษ..
ฟิ้ว..~
“หะ..หืม..? สตาร์..ลม..”ไอรินที่จู่ๆก็หยุดชะงัก เธอสัมผัสได้ถึงกระแสลมที่พัดเข้ามาจากเส้นทางข้างหน้า..
“หึ..พวกเราเจอทางออกแล้วยังไงล่ะ..แต่จะไปโผล่ที่ไหนก็อีกเรื่อง..”ผมที่กระตุกรอยยิ้มกล่าวออกมา ก่อนจะจับมือของไอรินและพาเธอวิ่งตรงไปยังเส้นทางข้างหน้า..
ตุบๆ ๆ ๆ ๆ
ซึ่งหลังจากนั้นพวกเราทั้งสองคนก็พบเข้ากับแสงสว่างที่สุดปลายของอุโมงค์ถ้ำ ผมนั้นไม่รอช้ารีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังทางออก ก่อนที่ในท้ายที่สุดแล้ว..
ฟุบ..
ตุบ..
ร่างของผมกับไอรินที่วิ่งออกมาข้างหน้าถ้ำ สิ่งที่ปรากฏอยู่ทางเบื้องหน้าของพวกเราคือลานหิมะโล่งๆที่ทอดยาวไปยังภูเขาลูกหนึ่ง ซ้ายมือคือเนินทางขึ้นของภูเขา ส่วนขวามือนั้น..
กร็อบๆ ๆ ๆ
“อะ..อึก..”ผมที่ถึงกับหยุดชะงัก เมื่อหันไปมองยังไอรินที่ยืนอยู่ข้างๆก็พบว่าเธอกำลังเบิกดวงตากว้างขึ้น
ซึ่งสิ่งที่ปรากฏอยู่ทางขวามือของพวกเรา นั่นก็คือกองกำลังทหารของไฮสโตเรียจำนวนเกือบ 50 นายที่กำลังควบม้าวิ่งตรงเข้ามา อีกทั้งไอ้ตัวที่อยู่ทางด้านหน้าสุดของขบวนยังสวมใส่หมวกที่มีตราสัญลักษณ์อยู่ด้วยกันถึง 5 ขีด..
และที่สำคัญผมสัมผัสได้เลยว่าไอ้เจ้านั่นมันไม่ธรรมดา ออร่าที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของมันให้ความรู้สึกเหมือนกับพวกทหารที่มีฝีมือผ่านสมรภูมิแล้วอย่างโชกโชด
ซึ่งแท้ที่จริงแล้วกองกำลังที่ปรากฏตัวอยู่ทางเบื้องหน้าของสตาร์และไอรินในตอนนี้ นั่นก็คือกองกำลังของเอ็กซ์เซ็ทที่กำลังมุ่งหน้าไปยังแอ่งกระทะ
โดยเส้นทางที่เอ็กซ์เซ็ทใช้นั้นเป็นคนละเส้นทางกับกองร้อยทั้งสอง หรือก็คือทางตรงนั่นเอง..
จุดสีแดง:สตาร์
“ไอรินกลับเข้าไปในถ้ำ เปิดวงจร จงออกมา X เซเบอร์..!!!”ผมที่ตะโกนบอกกับไอริน พร้อมกับทำการเปิดวงจรเรียก X เซเบอร์ออกมา แต่ทว่า
เฟี้ยวๆ ๆ ๆ ๆ
ตู้มๆ ๆ ๆ ๆ
ยังไม่ทันที่ไอรินหรือผมจะได้วิ่งไป กองกำลังทหารของไฮสโตเรียที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาก็ยิงกระสุนแรงดันเวทไปยังปากถ้ำ จนถ้ำถล่มลงมาปิดทางเข้าออกเอาไว้..
การที่พวกมันไม่ยิงมาที่พวกเราแสดงว่าพวกมันต้องการที่จะจับเป็นหรือทำอะไรสักอย่างกับเรา..
“ชิบหายเลี้ยว..!!!!!!!!!”ไอ้จ้อนที่ร้องตะโกนแหกปากออกมา เออ..ชิบหายจริงๆนั่นแหละ ไม่ใช่มันนะ..เราเนี่ยแหละ..!!!!
ไรท์:คอมเม้น..~