ตอนที่ 29 เวทมนตร์แท้กับเวทมนตร์เทียม
ตอนที่ 29 เวทมนตร์แท้กับเวทมนตร์เทียม
“เวทมนตร์แท้คืออะไร” ลิธเอ่ยถามขึ้นมา
“ยังเร็วไปที่จะบอกตอนนี้ แต่ถ้าสงสัยนักก็เข้ามาดูในจิตของฉันได้เลย แต่ไม่รู้ว่ามันจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน”
ลิธผสานจิตเข้ากับโซลัสแล้วพบว่าเธอไม่ได้พูดเกินจริงแม้แต่น้อย ภายในจิตของเธอล้วนมีแต่เงื่อนไขและข้อแม้อยู่เต็มไปหมด มันคอยตรวจสอบความจริง, ทบทวนความจํา, ตกผลึกความคิดแล้วจางหายไป
ลิธจึงไปขอความช่วยเหลือจากนานา
“อยากให้ฉันช่วยอะไรหรือ?”
“ผมอยากได้สองอย่าง อย่างแรก ผมอยากได้ตาราเกี่ยวกับประวัติของเวทมนตร์ ทุกเล่มที่อาจารย์หาได้ อย่างที่สอง ผมต้องออกไปข้างนอกเพื่อทําการทดลองอะไรบางอย่าง เดี๋ยวผมจะอธิบายทีหลังครับ”
“ได้สิ ฉันมีตราประวัติของเวทมนตร์อยู่ แต่มันไม่ใช่หัวข้อที่น่าสนใจนัก ฉันเลยซื้อมาแค่เล่มเดียว ซึ่งมันครอบคลุมประวัติช่วงสองถึงสามร้อยปีที่ผ่านมาเท่านั้น นั่นพอสําหรับเธอหรือเปล่า?”
ลิธส่ายหน้า
“ถ้าอย่างนั้น อาจารย์ช่วยติดต่อเคาท์ลาร์คถามเขาว่าผมจะยืมตาราจากเขาเพิ่มได้ไหมครับ?”
“เธอนี่มันประหลาดคนจริงๆ ตอนแรกก็ขอให้ฉันสอนเวทมนตร์…”
“ผมไม่เคยขอนะครับ แต่เป็นอาจารย์เองที่อยากจะสอน และผมก็แค่ยินดีที่จะเรียนครับ”
นานาแสร้งทําเป็นไม่ได้ยินอะไรแล้วพูดต่อว่า
“….และตอนนี้เธอได้รับโอกาสในการฝึกเวทมนตร์จริงๆ แต่ดันอยากจมจ่อมอยู่กับประวัติต่างๆงั้นหรอ?”
“หลังจากที่ผมใคร่ครวญพิจารณาถึงสิ่งที่อาจารย์บอกผมเรื่องที่Magus โลคราเขียน ผมรู้ว่าต้องทําความเข้าใจอดีตเพื่อทําปัจจุบันให้ดีและวางแผนเรื่องในอนาคต”
ลิธตอบแบบต้นสด โดยใช้คําขวัญประจําครอบครัวออกมา
“ถ้ามองมุมนั้น มันก็มีเหตุผลอยู่นะ” นานายอมรับ
“ฉันจะติดต่อลาร์คผ่านเครื่องรางสื่อสารแล้วดูว่าจะช่วยอะไรได้บ้าง”
“ท่านเคาท์ก็มีเครื่องรางเหมือนกันหรอครับ?” ลิธเอ่ยถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“มันก็ไม่ใช่ความลับอะไรนะ ไม่ว่าจะเป็นขุนนาง,พ่อค้า,ทหาร หรือมีพื้นเพยังไง ตราบใดที่มีเงินจ่าย เธอก็มีได้ทั้งนั้นแหละ”
ลิธขอบคุณนานาก่อนจะกลับไปยังห้องเรียน ตาราที่ได้มานั้นมีรายละเอียดอยู่มาก มันบันทึกทั้งจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์และตํานานต่างๆ ลิธไม่รู้ว่ากาลังค้นหาอะไรอยู่ จึงอ่านอย่างละเอียด แต่จะอ่านผ่านๆในส่วนของความขัดแย้งระหว่างประเทศ หรือสมาคมเวทมนตร์ แล้วสนใจส่วนที่เป็นการศึกษาชีวิตของนักเวทย์ที่มีอิทธิพล, อาร์คเมจ, และ Magi
หลังจากใช้เวลาสองสามชั่วโมงในการค้นคว้าอดีต เขาก็พบจํานวนที่เพิ่มขึ้นของ Magi ซึ่งเป็นรูปแบบที่ซ้ําไปซ้ํามา บางคนได้รับการยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ส่วนมากมักจะมีความสามารถปานกลาง ไม่เคยมีความสามารถอันโดดเด่น จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง ความสามารถของพวกเขาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และมักจะเกิดขึ้นในช่วงอายุสามสิบถึงสี่สิบปี ซึ่งเป็นวัยที่สําคัญไปมากเพราะสมาคมเวทมนตร์ได้ดี ลืมการมีอยู่ของพวกเขาไปแล้ว
แน่นอนว่า ผู้เขียนเองก็ไม่รู้สาเหตุที่ทําให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เขาจึงนำเสนอทฤษฎีที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเวลานั้น น่าเสียดายที่ข้อความเหล่านั้นกลับดูเหมือนนิยายมากกว่ารายงานทางประวัติศาสตร์เสียมากกว่า
ตามข่าวลือ Magus เอลิสต้าได้แต่งงานกับเทพแห่งเวทมนตร์อย่างลับๆ ในขณะที่คนอื่นๆบอกว่าเธอได้พบเครื่องรางลึกลับจากอารยธรรมที่สาบสูญ ซึ่งมันสามารถให้มานากับเธอได้อย่างไม่จํากัด
ซึ่งข่าวลือนี้ก็ได้เกิดกับ Magus มอร์แกเนีย กับ Magus เฟรจิกด้วยเช่นกัน พวกเขาล้วนมีการเริ่มต้นที่คลุมเครือ จากนั้นก็มีพลังเพิ่มขึ้นพร้อมกับชื่อเสียงอันรุ่งเรือง ไม่มีคําอธิบายใดๆที่เหมาะสมราวกับเป็นเรื่องในเทพนิยาย
“นี่ใช่สิ่งที่โซลัสกําลังมองหาหรือเปล่า? บางที่สิ่งที่เปลี่ยนพวกเขาคงจะไม่ใช่โชค ชะตาบ้าๆบอๆนั่นหรอก แต่มันคือการค้นพบเวทมนตร์แท้” อย่างที่โซลัสบอกก่อนห
น้านี้”
ลิธกําลังจะปิดตาราเมื่ออ่านเรื่อง Magi จนหมดแล้ว แต่โซลัสกลับหยุดเขาไว้
“เปิดหน้าต่อไปเถอะ” ลิธทําตามนั้นโดยไม่คิดอะไร แต่เมื่ออ่านหน้านี้อย่างคร่าวๆก็พบความผิดปกติในสถานที่ที่อยู่ห่างไกล ซึ่งในช่วงเวลานั้นนักเวทย์ขั้นต่หลายคนกลับตกตายลงไปจํานวนมาก
โซลัสให้เขาเปิดทุกหน้าจนกว่าจะจบ จนกระทั่งถึงเวลาเที่ยง ลิธจึงเดินทางกลับบ้าน
“เธอพบอะไรสําคัญๆไหม?”
“ก็มีอยู่นะ แต่ฉันว่าเราต้องทําการทดลองเพื่อทดสอบทฤษฎีก่อน ถ้าทฤษฎีของฉันถูก ตอนที่เธอสัมผัสถึงความแตกต่างระหว่างเวทมนตร์แท้กับเวทมนตร์เทียมได้ เธอจะเข้าใจทฤษฎีของฉันเอง ฉันหวังว่าเมื่อเธอสัมผัสความแตกต่างได้ เธอจะช่วยเติมเต็มส่วนที่ฉันไม่อาจอธิบายเป็นคําพูดได้นะ”
จิตใจของลิธกลับว้าวุ่นขึ้นมา ถนนที่อยู่ตรงหน้าดูยึดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั่งเขานั่งอยู่กับครอบครัว ก็ไม่อาจกักเก็บความไม่พอใจไว้ได้
“บัดซบ! ทุกอย่างนี้มันบัดซบจริง! ตอนแรกก็เรื่องต้นกําเนิดของฉัน ต่อไปก็เวทย์ วิญญาณ, เวทย์ฟิวชั้น แล้วตอนนี้อะไรอีกล่ะ ฉันจะต้องเก็บไปอีกกี่ความลับเพื่อ ปกป้องตัวเองจากโลกนี้ ปกป้องครอบครัวจากตัวฉันเองอีก”
“มันไม่มีค้อนวิเศษหรืออะไรก็ได้ที่ทําให้ฉันมีพลังเทพหรือไง? ไม่ก็ให้ฉันถูกเลือก เป็นนักเวทย์โบราณเพื่อเป็นเทพประกาศิตร่ายเวทย์ออกมาด้วยค่เพียงคําเดียวไม่ได้หรือไง? ทําไมทุกสิ่งทุกอย่างมันต้องซับซ้อนขนาดนี้ด้วย?”
“ฉันรักครอบครัวนี้มากยกเว้นไทรอัน แต่กลับไม่อาจจริงใจกับพวกเขาได้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันจะไม่มีวันมีเพื่อน , คนรัก, หรืออะไรเลย ฉันจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับความลับเพียงล่าพังไปตลอด”
“ไม่สิ เธอไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวนะ” เสียงของโซลสดังก้องอยู่ในจิตของเขา น้ําเสียงนั้นเต็มไปด้วยความรักความอ่อนโยน อีกทั้งแกนหอคอยที่อยู่บริเวณคอลิธก็เริ่มเต้นเป็นจังหวะ มันปล่อยคลื่นมานาอันอ่อนโยนออกมาห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้ราวกับอ้อมกอดอันอบอุ่น
ลิธเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมา ทําให้เขาทานข้าวได้อย่างเอร็ดอร่อยและสนทนากับครอบครัวได้ตามปกติ โดยเล่าถึงงานของแต่ละคนที่ได้ทําในแต่ละวัน
หลังจากล้างจานเสร็จ เขาก็ออกจากบ้านและไปที่ป่าทรอน ลิธได้จับจองพื้นที่พิเศษเอาไว้เป็นของตนเอง มันอยู่ลึกเข้าไปในป่า ซึ่งเป็นสถานที่ที่กว้างพอจะฝึกเวทย์ได้โดยไม่ทําลายต้นไม้หรือสัตว์ป่า อีกทั้งยังอยู่ไกลจากสายตาของผู้คนอีกด้วย
ลิธกับโซลัสทําการตรวจสอบสภาพแวดล้อมอีกครั้งเพื่อค้นหาผู้บุกรุกหรือสัตว์เวทย์ เมื่อไม่มีอะไรแล้ว ลิธก็เริ่มหยิบตารา(กริมัวร์)ของตนเองออกจากกระเป๋ามิติ จากนั้นก็เริ่มท่องจ่าเวทย์ขั้นหนึ่งที่ง่ายที่สุดที่พบในตําราของนานา
“เราไม่ต้องการเวทย์ที่ทรงพลังหรือซับซ้อนเพื่อใช้ในการทดลอง ใช้เวทย์อะไรก็ได้เพื่อเปรียบเทียบกับเวทย์ของเธอเอง ยิ่งเชี่ยวชาญมันได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้คําตอบเร็วขึ้นเท่านั้น” โซลัสอธิบายเพิ่มเติม
เวทย์ที่เลือกใช้คือ Piercing Ice ซึ่งเป็นเวทย์ Ice Spear ของลิธในเวอร์ชั่นที่ลดความรุนแรงลงมา Ice Spear เป็นเวทย์ที่ลิธใช้กับคู่ต่อสู้ที่มีขนาดใหญ่มากอย่างไร หรือ หมูป่า
ค่าร่ายเวทย์ Piercing Ice คือ Joruna Litch” ที่เน้นเสียงไปที่ ตัว น ใน Joruna และเน้นเสียงที่ตัว i ใน Lituh สัญญาณมือจะต้องเริ่มจากปลายนิ้วชี้ทั้งสองข้างซ้ายขวาสัมผัสกัน ก่อนจะวาดเลข 7 กลางอากาศด้วยนิ้วชี้ขวาในขณะที่นิ้วชี้ซ้ายก็ต้องเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามเหมือนกับกระจก หลังจากนั้นมือซ้ายต้องหยุดลงในขณะที่นิ้วชี้ขวายังต้องวาดเป็นวงกลมแล้วชี้ไปยังเป้าหมาย ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้คือ ร่ายเวทย์ออกมาแล้วยิ่งแท่งน้ําแข็งขนาดใหญ่ใส่เป้าหมาย
“บ้าเอ๊ย! นี่มันเรื่องง่ายๆ ทําไมต้องพยายามมากมายเพื่อผลลัพธ์เล็กๆน้อยๆเนี่ย” แต่เมื่อเขาลองทําครั้งแรก ลิธก็สร้างส้อมขนาดยักษ์ที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้สองเมตร ก่อนจะล้มลงไปกับพื้น
“เธอไม่ได้ออกเสียงตัว h” โซลัสแก้ไขส่วนที่ผิดให้
จากนั้นก็มีบูมเมอแรงพุ่งออกมาซึ่งเกือบจะตัดหัวเขาออกไปแล้ว
“มันคือ Litch ไม่ใช่ Lituh!”
เมื่อร่ายเวทย์ล้มเหลวไปหลายต่อหลายครั้ง ลิธก็ต้องยอมรับว่าเขาไม่สามารถเรียนรู้การออกเสียงค่าร่ายและสัญญาณมือไปพร้อมๆกันได้ เขาจึงต้องนั่งลงและท่องคาถาจนกว่าจะถูกต้อง จากนั้นเขาก็ปวดหัวที่การทํางานของตาและมือไม่สัมพันธ์กันเลย
“นั่นไม่ใช่เลขเจ็ด มันเหมือนเลขหนึ่งมากกว่า ขึ้นบรรทัดที่สองให้เร็วขึ้นอีก!”
“เธอควรจะวาดวงกลม ไม่ใช่ไข่สิ!”
“ขอร้อง เธอควรจะหยุดมือซ้ายในช่วงสุดท้ายส์ ไม่งั้นเราก็จะไม่มีทางได้เห็นเวทย์นี้สักที”
โซลัสยังคอยชี้จุดที่บกพร่องในจิตของลิธ ซึ่งมันมากมายเสียจนเขาต้องบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด
“ถ้าเธอเก่งนัก ทําไมไม่ทําเองล่ะ”
“ขอโทษด้วยนะ ฉันไม่มีร่างกาย และฉันก็ร่ายเวทย์ไม่ได้ด้วย นอกจากว่า 1. เธอรู้วิธีร่ายเวทย์แล้ว 2. เธออนุญาตให้ฉันร่ายเวทย์”
นับเป็นช่วงบ่ายอันแสนยาวนานเหลือเกินสําหรับลิธ ทั้งยังเต็มไปด้วยค่าบ่น คำสาปแช่ง เขาร่ายเวทย์มากมายเสียจนเหงื่อชุ่มไปทั้งตัว กว่าจะร่ายเวทย์ Piercing Ice ได้อย่างถูกต้อง ลิธก็ร่ายเวทย์ซ้ําไปซ้ํามาจนกลายเป็นบุคลิกที่สองของเขาไปแล้ว
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันต้องลงทุนลงแรงพยายามมากมายเพื่อเวทย์ที่ง่ายที่สุด เหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงก่อนที่พระอาทิตย์จะตกแล้ว เฮ้ โซลัส วันนี้พอหรือยัง? จะได้เตรียมตัวกลับบ้านกัน”
“นั่นเรียกว่าเกินพอเสียอีก ว่าแต่บอกฉันหน่อยว่าเธอใช้เวทมนตร์แบบนั้นแล้วรู้สึก ยังไงบ้าง?”
“บอกตามตรงนะ ฉันไม่รู้สึกอะไรเลย ฉันแค่จดจ่อไปกับการร่ายเวทย์บ้าบอพวกนั้น จนแทบจะหายใจไม่ออกแล้ว”
โซลัสพยักหน้า
“ดีมาก ตอนนี้ก็ร่ายเวทย์ Ice Spear ของเธอสิ เอาแค่หอกอันเดียวนะ”
ลิธเหนื่อยจนเกิกว่าจะใช้คร่ายเวทย์แล้วจริงๆ
“Jorun!” เพียงแค่สะบัดข้อมือไปที่เดียว ลิธก็เสกหอกน้ําแข็งเรียวยาวและแหลมคมออกมาพุ่งชนต้นไม้ที่ใกล้ที่สุด ซึ่งมันทั้งรุนแรงและเร็วกว่า Piercing Ice เสียอีก
“เอาล่ะ คราวนี้มาพิจารณาดูอีกทีว่าเธอสร้างมันขึ้นมาได้ยังไง?”
ลิธไม่เข้าใจคําถามนั้น มันดูงี่เง่าเกินไป แต่เขาก็เชื่อใจโซลัสมากพอที่จะรู้ว่าเธอไม่ได้พยายามทําให้เขาหงุดหงิด
“ก็เหมือนปกติแหละ อันดับแรก ฉันนึกภาพผลลัพธ์ของเวทย์ นึกภาพสิ่งต่างๆอย่างรูปร่างของหอก, วิถีโค้ง, บลาบลาบลา”
“จากนั้นก็ใช้แกนมานาเพื่อสร้างมานาให้พอดีกับเวทย์ที่ฉันใช้ โดยคํานึงถึงขนาดของหอกและความรุนแรงของมันที่ฉันอยากจะโจมตีออกไป”
“สุดท้าย ฉันก็ปล่อยมานาออกไปข้างนอก ผสมกับพลังงานโลกเพื่อทําให้มันกลายเป็นธาตุน้ํา จากนั้นก็สั่ง voila!”
“โอเค งั้นตอนนี้ก็ใช้ Piercing Ice อีกครั้ง คราวนี้ทําแบบช้าๆ พยายามรับรู้การไหลเวียนของมานาขณะร่ายเวทย์นะ”
ลิธต้องทําอีกสองสามครั้งก่อนที่จะทําตามโซลัสบอกได้ ผลลัพธ์ของมันกลับทําให้เขาประหลาดใจมาก
“เกิดอะไรขึ้น? ทันทีที่ฉันเริ่มสัญญาณมือ มานาส่วนหนึ่งก็ออกมาจากร่างกาย ยิ่งไปกว่านั้น ค่าร่ายเวทย์ก็เป็นตัวก่าหนดวิธีการที่มานาของฉันจะตอบสนองกับพลังงานโลก ซึ่งในกรณีนี้คือธาตุน้ํา แถมยังก่อรูปร่างและขนาดให้กับเวทย์ได้ด้วย”
หากโซลัสมีใบหน้า ลิธคงได้เห็นเธอฉีกยิ้มจนถึงหูเป็นแน่
“เธอใกล้จะถึงเส้นชัยแล้ว สร้าง Piercing Ice อีกที่ส์ แต่คราวนี้พยายามสร้างให้แท่งน้ําแข็งมีขนาดใหญ่ขึ้นนะ”
“ฉันทําไม่ได้” ลิธรู้สึกประหลาดใจมาก “ถ้าฉันพยายามเพิ่มมานาให้มากขึ้น ตัวเวทย์จะไม่เสถียรและสลายไป”
โซลัสบอกให้เขาลองสร้างแท่งน้ําแข็งอีกสองแท่ง แท่งแรกทําให้มันเร็วขึ้น แท่งที่สองทําให้วิถีโค้งเปลี่ยนไปหลังจากสร้างขึ้นมา ค่าตอบของลิธก็ยังคงเหมือนเดิม
“ฉันทําไม่ได้ ตัวเวทย์ทั้งหมดถูกกําหนดไว้หมดแล้ว เมื่อฉันเรียนรู้สัญญาณมือ และการร่ายเวทย์ที่ถูกต้อง ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับแหล่งมานากับระบบกําหนดเป้าหมาย แกนมานากับจินตนาการของฉันไม่ส่งผลต่อการร่ายเวทย์แบบนี้”
ทันใดนั้นลิธก็พลันเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
“และนั่นคือสาเหตุที่เธอเรียกว่าเวทมนตร์เทียมนั่นเอง!”
“การเรียกมันว่าเวทมนตร์เทียมก็ดูจะเยอะไปหน่อย แต่เพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ เรียกมันเหมือนเดิมแหละดีแล้ว”
แล้วลิธก็สัมผัสได้ถึงความภูมิใจของโซลัส
“ในที่สุดฉันก็แบ่งปันทฤษฎีของฉันได้สักที่ อย่างแรกเลย ฉันอยากให้เธอนึกถึงขั้นตอนทั้งหมดที่จําเป็นสําหรับการใช้เวทมนตร์แท้” โซลัสหยุดพูดไปครู่หนึ่ง เพื่อให้ลิธมีเวลาคิด
“ประเด็นของเธอคืออะไร?”
“ประเด็นของฉันคือ เวทมนตร์แท้ที่เธอมองว่าทําได้ ปกติ” จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องซับซ้อนมาก และยากกว่าเวทมนตร์เทียมมากนัก
“เอ่อ… ขอโทษที ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี”
โซลัสพิมพ์ด้วยความหงุดหงิด
“เวทมนตร์แท้ไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิด มันต้องใช้แกนมานาของเธอและสร้างมานาในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละเวทย์ หากสร้างมานามากไปเวทย์จะตีกลับ สร้างน้อยไปเวทย์นั้นก็ไม่สมบูรณ์”
“นอกจากนี้เธอยังต้องดึงมานาออกมาจากร่างกายเพื่อรวมกับพลังงานโลกอีกด้วย ฉันเดาว่านานาเองก็ทําได้เช่นกัน”
ลิธรู้สึกว่าประโยคสุดท้ายมันออกจะน่าเหลือเชื่อไปหน่อย
“แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทําได้ด้วยเวทย์พื้นฐานนะ แล้วอะไรคือความแตกต่างระหว่างเวทย์แท้กับเวทย์พื้นฐานล่ะ? ทําไมไม่มีใครใช้เวทย์แท้เลย?”
“ความแตกต่างของมันอยู่ที่ปริมาณมานาที่ตัวเวทย์ต้องการ เวทย์พื้นฐานใช้มานาเพียงเล็กน้อย เธอถึงใช้มันโดยไม่ต้องผ่านแกนมานาเลย ในขณะที่เวทย์แท้กลับต้องการมานาปริมาณมากเพื่อรองรับเวทย์ที่เธอกําลังจะสร้าง”
เมื่อโซลัสเห็นว่าลิธกําลังจะเถียงกลับ เธอก็เริ่มใช้เสียงโทนเดียวก่อนจะอธิบายต่อไป
“เวทย์พื้นฐานคือสิ่งที่เป็นพื้นฐานมากๆสําหรับเวทมนตร์ มันสอนเธอได้ทุกอย่าง ยกเว้นการเปิดใช้งานแกนมานา เวทย์เทียมก็เป็นเหมือนกับไม้ค้ํายัน เป็นวิธีการร่ายเวทย์สาหรับหุ่นจําลองที่ไม่มีอันตรายใดๆ เธอเพียงแค่ต้องเรียนรู้ค่ไม่กี่ค่า และสัญญาณมืออีกนิดหน่อย แล้วร่ายเวทย์ด้วยคนเองได้เรื่อยๆตราบใดที่มีมานามากพอ”
“สมมติฐานของฉันคือ เวทย์พื้นฐานกับเวทย์เทียมที่สอนกันเป็นล่าดับถือเป็นการฝึกเตรียมสําหรับเวทย์แท้ไงล่ะ แต่มีMagi อยู่ไม่กี่คนที่เข้าใจว่า เวทย์เทียมไม่ใช่แค่การขยับนิ้วไปมาแล้วสะกดค่าให้ถูกต้อง แต่เป็นการรับรู้ถึงการไหลเวียนมานาและเรียนรู้วิธีการที่จะควบคุมมัน”
“การฝึกหายใจของเธอ ก็เปรียบเสมือนไม้ค้ํายันด้วยเช่นกัน และเป็นวิธีการที่ดีในการเข้าถึงแกนมานาอีกด้วย ทําให้เธอรับรู้ถึงการไหลเวียนมานาได้ กลับกันแล้ว เวทย์เทียมดันกลายเป็นของไม่ดีเสียแล้ว เพราะมันทําให้ผู้ใช้พึ่งพาพลังของมันมากเกินไป”
“ผู้ใช้เวทย์เทียมส่วนใหญ่จะจมจ่อมอยู่กับสัญญาณมือและการออกเสียงให้ถูกต้อง ซึ่งพวกเขาต้องใช้เวลากับมันไปทั้งชีวิตจนไม่สังเกตว่ามีอะไรอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังหรือเปล่า โดยเฉพาะนักเวทย์เทียมที่มีความสามารถอันโดดเด่น พวกเขารู้สึกพึงพอใจที่ทําในสิ่งที่ไม่มีใครทําได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่คนเหล่านั้นไม่เคยหยุดฝึกฝน แล้วถามว่าถามเหมือนที่เธอถามไงล่ะ ช่างน่าหัวเราะสิ้นดี”
ลิธพลันรู้สึกประหลาดใจมาก ทุกอย่างมันช่างลงตัวเหลือเกิน
“ถ้าเธอคิดและมองเรื่องนี้ออกแล้ว ทําไมเธอไม่บอกฉันล่ะ? ทฤษฎีส่วนที่อธิบายไม่ได้ก่อนหน้านี้ของเธอคืออะไรกัน?”
โซลัสรู้สึกอายแต่ก็ยังตอบกลับว่า
“เพราะฉันไม่มีค่าตอบสําหรับประเด็นสําคัญในทฤษฎีของฉัน ถ้าฉันคิดถูกแล้ว ท่าไมเวทย์เทียมจึงเป็นเวทย์ที่ทุกคนสามารถใช้ได้? แล้วทําไมนักเวทย์แท้ถึงพยายามฆ่าใครก็ตามที่พยายามแพร่งพรายความรู้เหล่านี้ล่ะ?”
“อะไรนะ?!”
โซลัสหลอมรวมจิตเข้ากับลิธเพื่อแสดงให้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอจับสังเกตได้จากการอ่านตาราประวัติศาสตร์ของเวทมนตร์ จํานวนของนักทฤษฎีและนักเวทย์ที่เพิ่มขึ้นต่างก็ตายเพราะอุบัติเหตุหรือประสบกับสถานการณ์ลึกลับบางอย่าง บ่อยครั้งมักจะเกิดหลังจากที่มีการประกาศให้ผู้คนรู้ถึงการค้นพบใหม่ๆ กลับกันผู้คนมักจะคิดว่านักทฤษฎีหรือนักเวทย์เหล่านั้นเป็นพวกนักต้มตุ๋น เป็นบ้าแล้วหายตัวไป
ลิธท่าได้เพียงหัวเราะเหอๆอยู่ในใจ
“โซลัส เธอฉลาดมาก แต่ก็ยังไร้เดียงสาในเรื่องของวิถีชีวิตคนอยู่นะ ค่าตอบของเรื่องนี้มันง่ายมาก เธอรู้ไหมทําไมในโลกเก่าถึงได้มีการจราจรติดขัด? เพราะทุกคนล้วนมีรถขับไง เธอจะปล่อยให้ไอ้บ้า โง่ ซื่อบื้อคนไหนมีพลังแบบนี้หรือเปล่า? เวทย์เทียมเป็นเครื่องมือในการควบคุมจํานวนของผู้ใช้ ไม่ใช่บททดสอบสุดท้ายอย่างที่เธอคิดหรอก”
“หลังจากที่ค้นพบเวทย์แท้แล้ว บททดสอบสุดท้ายก็คือการพิสูจน์ว่าเขาฉลาดพอที่จะเข้าร่วมกลุ่มแล้วเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้อย่างเงียบเชียบหรือเปล่า และถ้าหากไม่ขอบกฎของกลุ่มเหล่านั้น หนทางเดียวที่มีก็คือความตายนั่นเอง”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 88 : โทษเป็น ตุลาคม 25, 2022
- ตอนที่ 33 ผู้ล่ากับเหยื่อ ตุลาคม 25, 2022
- ตอนที่ 32 Merits and Trust ตุลาคม 16, 2022
- ตอนที่ 31 ความกรุณาและไร้ปราณี ตุลาคม 9, 2022
- ตอนที่ 30 เวทมนตร์แท้กับเวทมนตร์เทียม (2) ตุลาคม 9, 2022
- ตอนที่ 29 เวทมนตร์แท้กับเวทมนตร์เทียม ตุลาคม 9, 2022
- ตอนที่ 28 เวทมนตร์ที่แท้จริง ตุลาคม 9, 2022
- ตอนที่ 27 กวาดล้างตระกูล ตุลาคม 9, 2022
- ตอนที่ 26 ความจริง ตุลาคม 9, 2022
- ตอนที่ 25 ลอบทําร้าย กรกฎาคม 29, 2022
- ตอนที่ 24 เทศกาลฤดูใบไม้ผลิ กรกฎาคม 29, 2022
- ตอนที่ 23 เปิดอกคุยกัน กรกฎาคม 22, 2022
- ตอนที่ 22 ค่าที่แท้จริงของก้อนหินก้อนนี้ กรกฎาคม 13, 2022
- ตอนที่ 21 สารภาพความจริง กรกฎาคม 13, 2022
- ตอนที่ 20 แตกหัก มิถุนายน 17, 2022
- ตอนที่ 19 ความขัดแย้ง มิถุนายน 17, 2022
- ตอนที่ 18 ทางออกใหม่ และปัญหาใหม่ พฤษภาคม 13, 2022
- ตอนที่ 17 เผชิญหน้า (2) พฤษภาคม 10, 2022
- ตอนที่ 16 เผชิญหน้า เมษายน 30, 2022
- ตอนที่ 15 เปลี่ยนแปลง เมษายน 23, 2022
- ตอนที่ 14 เรียนรู้การแลกเปลี่ยนอีก ครั้ง เมษายน 16, 2022
- ตอนที่ 13 แลกเปลี่ยน(2) เมษายน 8, 2022
- ตอนที่ 12 แลกเปลี่ยน เมษายน 8, 2022
- ตอนที่ 11 รู้ในสิ่งที่ไม่รู้ เมษายน 8, 2022
- ตอนที่ 10 เติบโตและเรียนรู้ มีนาคม 18, 2022
- ตอนที่ 9 จิตวิญญาณของเวทมนตร์ ธันวาคม 24, 2021
- ตอนที่ 8 มุ่งมั่นตั้งใจ พฤศจิกายน 27, 2021
- ตอนที่ 7 หนึ่งวันของเด็กน้อย พฤศจิกายน 12, 2021
- ตอนที่ 6 การเริ่มต้นใหม่ พฤศจิกายน 12, 2021
- ตอนที่ 5 จิตสํานึกที่มั่นคง พฤศจิกายน 12, 2021
- ตอนที่ 4 ล่มลงแล้วลืมตา พฤศจิกายน 12, 2021
- ตอนที่ 3 อารัมภบท 3 พฤศจิกายน 12, 2021
- ตอนที่ 2 อารัมภบท 2 พฤศจิกายน 12, 2021
- ตอนที่ 1 อารัมภบท พฤศจิกายน 12, 2021
MANGA DISCUSSION