Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ - บทที่ 355 ไวเวิร์นท่องนภา
บทที่ 355 ไวเวิร์นท่องนภา
ความเร็วของเจ้าสํานักมังกรนภาหลงเฟยช่างน่าอัศจรรย์จนเยี่ยฉวนเองยังตกตะลึง แต่แล้วแววตาของชายหนุ่มกลับทอประกายกล้าขณะใช้ฝ่ามือโจมตีกลับเพื่อสกัดกั้นและทดสอบความ แข็งแกร่งของเจ้าสํานักผู้นี้
ตู้ม! ร่างทั้งสองถอยห่างออกมาพร้อมกัน
ฝ่ามือของเจ้าสํานักหลงเฟยเจ็บปวดและไร้เรี่ยวแรงจนต้องถอยร่นเร็วกว่าตอนพุ่งเข้าปะทะ เสียอีกขณะที่เยี่ยฉวนฉวยโอกาสนี้หนีไปอย่างรวดเร็ว แขนขวาของเขาห้อยต่องแต่งราวได้รับบาดเจ็บสาหัส ทว่าความเร็วของเขายังคงน่าอัศจรรย์ดังเดิม
“เจ้าจะหนีไปไหน?!”
เจ้าสํานักหลงเฟยเล็กคิ้ว ฉับพลันเขาพุ่งทะยานขึ้นสูงและเหาะเหินไปข้างหน้าดุจมังกรนภากระทั่งปรากฏกายตรงหน้าเยี่ยฉวนในพริบตา เขาใช้ฝ่ามือโจมตีอย่างดุดันอีกครั้ง “รีบร้อนหนีไปไย?! อยู่ประลองกับข้าเสียก่อน!”
หนนี้เยี่ยฉวนไม่ได้ใช้วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันอีกต่อไป หากแต่โยกกายหลบซ้ายทีขวาที
กระแสลมจากฝ่ามือพัดโหมจนใบไม้ร่วงกราวฝ่ามือใหญ่โตของเจ้าสํานักมังกรนภาปัดผ่าน เยี่ยฉวนไปเฉียดฉิว
วินาทีนั้นเยี่ยฉวนรวมพละกําลังทั้งหมดที่ฝ่าเท้าก่อนเร่งความเร็วหนีไปอีกครั้ง
“เฮ้ย…”
เจ้าสํานักมังกรนภาร้องอย่างตกตะลึง กายสั่นเทิ้มด้วยโทสะรุมเร้าก่อนจะเร่งความเร็วไล่ตามเยี่ยฉวนไปทันที
ในการโจมตีด้วยฝ่ามือครั้งแรก เขาใช้พลังไปหกในสิบของพลังทั้งหมดและดูเหมือนว่าจะสร้างความเสียหายแก่ร่างกายของเยี่ยฉวนได้สําเร็จ ทว่าอีกฝ่ายยังคงปราดเปรียวจนน่าเหลือเชื่อเขาจึงเพิ่มพลังเป็นเจ็ดในสิบของพลังทั้งหมดในการโจมตีครั้งที่สองหมายจะยุติศึกครั้งนี้ด้วยกระ บวนท่าเดียว แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าเยี่ยฉวนจะสามารถหลบหลีกการโจมตีนี้ได้อย่างง่ายดาย?
เจ้าสํานักมังกรนภาผู้เลื่องชื่อด้านเคล็ดวิชาเคลื่อนไหวอันโดดเด่นไม่เคยจู่โจมพลาดอีกทั้ง ยังไม่เคยมีผู้ใดสามารถหลบหลีกการโจมตีของเขาได้ เขาจึงโกรธจัดที่ทําได้เพียงมองตามแผ่นหลังของเยี่ยฉวน หลงเฟยพลันเพิ่มพลังขึ้นเป็นแปดในสิบความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นฉับพลันก่อนจะทะยานขึ้นสูงและร่อนลงตรงหน้าเยี่ยฉวนเพื่อขวางทางหนีอีกครั้ง
เยี่ยฉวนไม่เอ่ยคําใดเพียงแต่เปลี่ยนทิศไปอีกทางเท่านั้น ในเมื่อเขาได้ประเมินความแข็งแกร่งของเจ้าสํานักมังกรนภาแล้วจึงไม่มีความจําเป็นต้องเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายอีกต่อไป เขาใช้เคล็ดวิชาขนปักษาสีครามเคลื่อนกายไปมาราวกับใบไม้ร่วงด้วยความเร็วอันน่าตกตะลึง แต่ไม่ว่าจะเลือ กหลบไปทิศใดก็โดนเจ้าสํานักมังกรนภาเข้าขวางทางทุกครั้ง อีกฝ่ายเหาะไปมาบนฟากฟ้าด้วยความเร็วน่าสะพรึงกลัวราวกับเขาได้แปลงกายเป็นมังกร และไม่แสดงท่าที่เหน็ดเหนื่อยแม้จะตามไล่ต้อนและสกัดกั้นมาเป็นเวลานาน มิหนําซ้ํากลับว่องไวขึ้นเรื่อยๆ!
เคล็ดวิชาไวเวิร์น* ท่องนภา!
* ไวเวิร์น = สิ่งมีชีวิตลักษณะคล้ายมังกรชนิดหนึ่ง แต่มีลําตัวขนาดเล็กกว่ามังกรทั่วไป มีปีกเป็นค้างคาวปลายหางเป็นรูปหัวหอกมีขาเพียงสองขาโดยขาหน้าและปีกเป็นส่วนเดียวกัน
เจ้าสํานักมังกรนภาเผลอใช้พละกําลังทั้งหมดสําแดงฤทธิ์เดชของท่าไม้ตายประจําสํานักออกไปโดยไม่รู้ตัว
แคว้นมังกรนภามีเหล่ามังกรและพยัคฆ์ร้ายแฝงกายอยู่มากมาย ในอดีต ความสามารถในการผลิตก้อนผลึกสีฟ้าที่มีคุณภาพสูงได้ดึงดูดทั้งยอดฝีมือและผู้ฝึกตนปีศาจนับไม่ถ้วนให้มาเยือนและทําให้แคว้นเจริญรุ่งเรืองขึ้นท่ามกลางภัยคุกคามจากศัตรูน่าเกรงขามมากมาย สํานักมังกรนภามีเคล็ดวิชาเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์รวมถึงเคล็ดวิชาไวเวิร์นท่องนภาอันเป็นกระบวนท่าสังหาร ร้ายแรงที่เจ้าสํานักทุกรุ่นต้องฝึกฝนหลงเฟยได้ฝึกปรือเคล็ดวิชานี้จนสมบูรณ์แบบขั้นสูงสุด แม้แต่ผู้ที่มีฐานการฝึกตนสูงกว่าหรือยอดฝีมือขั้นกึ่งปราชญ์ก็ไม่อาจต้านทานได้ นับประสาอะไรกับผู้ที่อยู่ในขั้นเดียวกันหรือต่ํากว่าต่อให้อยากหลีกหนี้เพียงใดก็ไม่มีทางหนีพ้น!
“มือสังหาร มือสังหาร…”
“ล้อมมันไว้ ปิดประตูรั้ว เปิดใช้งานอาณาเขตซะ…”
เหล่าทหารอารักขาพร้อมคบเพลิงลุกโชติช่วงในมือได้ยินเสียงการต่อสู้เข้าจึงเกิดความโกลาหลขึ้นทันที
บัดนี้สถานการณ์น่าหวาดหวั่นยิ่งนัก แว่วเสียงเอี๊ยดอ๊าดซึ่งเป็นเสียงกลไกเปิดใช้งานอาณาเขตป้องกันดังมาจากระยะไกล ไม่นานแรงกดดันหนักอึ้งก็เริ่มไหวกระเพื่อมบนท้องฟ้าและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเยี่ยฉวนรู้สึกราวกับถูกภูเขาลูกมหึมากดทับทําให้เขาเคลื่อนที่ช้าลง
“แม้แต่ยอดฝีมือขั้นกึ่งปราชญ์ก็ไม่อาจรอดพ้นจากไวเวิร์นท่องนภาของข้าไปได้ เจ้ายอมจนนเสียแต่โดยดีเถิด!”
หลงเฟยตะโกนลั่นพร้อมฉวยโอกาสใช้ฝ่ามือโจมตีเข้ากลางอกเยี่ยฉวนทันใด!
เยี่ยฉวนเหยียดมือซ้ายออกไปป้องกันอย่างรีบเร่ง…
ฝ่ามือทั้งสองปะทะกันรุนแรงจนคลื่นกระแทกที่มองไม่เห็นสาดซัดออก! ทหารอารักขาจํานวนมากที่กําลังเร่งรุดตรงมาหลังจากจากได้ยินเสียงอึกทึกถูกแรงผลักกระเด็นออกไปทันทีคบเพลงในมือของพวกเขาดับแสงลง
มือของเจ้าสํานักมังกรนภาชาหนีบและเสียวแปลบจนต้องผงะออก ส่วนมือซ้ายของเยี่ยฉวนอ่อนปวกเปียกลงและเกิดรอยคราบเลือดปรากฏบนแขนเสื้อ
ในเมื่อแขนทั้งสองข้างบาดเจ็บเช่นนี้ เยี่ยฉวนจึงไม่สามารถหลบหนีไปได้ต่อให้มีปีกงอกออกมาตอนนี้ก็ตาม! เจ้าสํานักมังกรนภาระเบิดหัวเราะก่อนพุ่งมาข้างหน้าอย่างดุดันและรวดเร็วเพื่อซัดฝ่ามือเข้ากลางอกเยี่ยฉวนซ้ําอีกครั้ง “ฮ่าๆๆ บังอาจบุกรุกหอมังกรนภาของข้า…จงรู้ซึ้งถึงรสชาติความเจ็บปวดซะ!”
เยี่ยฉวนยืนนิ่งไม่ไหวติง ดูเหมือนว่าเขาจะเจ็บหนักจนไม่อาจขยับเขยื้อนได้และยอมรับโชคชะตาแต่โดยดี
เสียงหัวเราะของเจ้าสํานักหลงเฟยดังกึกก้องยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นชัยชนะอยู่ใกล้เพียงเอื้อม ตลอดร้อยปีที่ผ่านมาผู้ที่บุกรุกหอมังกรนภาล้วนแต่ตายตกไปทั้งสิ้น ต่อให้ไม่สิ้นลมก็ถูกหามส่งสถานจองจ่ในสภาพปางตายและครั้งนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น!
ทว่าในวินาทีที่ฝ่ามือของเจ้าสํานักมังกรนภากําลังจะกระแทกเข้ากลางอกนั้น… แววตาของเยี่ยฉวนพลันลุกโชน! เขาไม่ได้ล่าถอยหากแต่ยกแขนขวาที่ห้อยปวกเปียกอยู่ข้างกายเมื่อครู่เหวี่ยงหมัดออกไปพร้อมพลังงานมหาศาลที่ปะทุขึ้นทันใด!
ท่าไม่ดีแล้ว เขาเพียงแค่แสร้งทํางั้นหรือ?!
หัวใจของเจ้าสํานักหลงเฟยกระตุกวูบเมื่อสัมผัสได้ถึงภยันตราย เคราะห์ร้ายที่ระยะห่างระหว่างพวกเขาแสนน้อยนิดจึงไม่มีเวลาพอให้หลบหลีก เขาจึงทําได้เพียงกัดฟันรับแรงปะทะตัวต่อตัวเท่านั้น
“ย้าก!”
เยี่ยฉวนแผดเสียงพร้อมโคจรยันต์กลืนกินสวรรค์ทั้งแปดอย่างบ้าระห่ํา พลังกว่าหนึ่งแสนสี่หมื่นสี่พันจนพลันระเบิดออก ต้ม! ร่างของเจ้าสํานักมังกรนภากระเด็นลอยออกไปเยี่ยฉวนสารอก กระบีบนสะบั้นมังกรออกมาก่อนที่อีกฝ่ายจะตกถึงพื้นตามด้วยแสงสีแดงเลือดที่พุ่งแหวกอากาศไปยังหว่างคิ้วของเจ้าสํานักผู้นี้ทันที!
ความแข็งแกร่งของเจ้าสํานักมังกรนภาว่าน่าอัศจรรย์แล้ว แต่ถึงกระนั้นพลังโจมตีจากหัตถ์ในครั้งแรกก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้มือของเยี่ยฉวนมากมายนัก เขาเพียงแต่แสร้งทําว่าแขนขวาไม่อาจใช้การได้อีกต่อไปแล้วเพื่ออาศัยจังหวะเหมาะจู่โจมอีกฝ่ายโดยไม่ให้ตั้งตัว!
เสี้ยว! เสียงหวีดหวิวแหวกอากาศดังขึ้นอีกครั้ง
กระบบินสะบั้นมังกรปรากฏตรงหน้าเจ้าสํานักมังกรนภาในชั่วพริบตา ทหารอารักขาไม่มีทางลงมือช่วยชีวิตเขาได้ทัน ครั้นกระบี่กําลังจะแทงทะลุหว่างคิ้วของหลงเฟยร่างของเขากลับพุ่งทะยานขึ้นฉับพลัน เขาใช้เคล็ดวิชาไวเวิร์นท่องนภาเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์คอขาดบาดตาย!
สํานักมังกรนภานั้นทรงพลังอย่างแท้จริง เมื่อเทียบกับสํานักเครื่องนิลและสํานักเบญจลักษณ์แล้วนับว่าแข็งแกร่งกว่ามาก!
เยี่ยฉวนนึกเสียดายและพุ่งออกไปข้างนอกพร้อมผิวปากเรียกมังกรปีศาจออกมาจากป่าละเมาะใกล้เคียง หนึ่งคนหนึ่งมังกรหายวับไปอย่างไร้ร่องรอยทันที ศิษย์สํานักมังกรนภาที่คิดว่าตน ดักไว้ได้รอบทิศแล้วได้แต่มองหน้าว่างเปล่าของกันและกันด้วยความตกตะลึงพวกเขาไม่คาด คิดว่าเยี่ยฉวนจะมีทางหนีสํารองเช่นนี้
“จับมัน! สานักมังกรนภามีอาณาเขตครอบคลุมอยู่ ทั้งคนทั้งมังกรหนี้ไปทางอากาศไม่ได้แน่ปิดประตูเมืองซะ ออกค้นหาทั้งเมืองและจับตัวมันมาให้ข้าให้จงได้!”
เจ้าสํานักมังกรนภาสังการเสียงต่า เขาเผยสีหน้าซีดเผือดขณะร่ายสารพัดเคล็ดวิชา จากนั้นรูปสลักมังกรนภาจึงลืมตาขึ้นเกล็ดบนร่างกายชูชันราวกับฟื้นคืนชีพอีกครั้ง วงรัศมีสีฟ้าปรากฏขึ้นเบื้องบนครอบคลุมทั้งเมืองมังกรนภา ต่อให้เยี่ยฉวนและหลงเอ่อร์น้อยรวดเร็วมากเพียงใดก็ไม่มีทางหนีออกไปได้ทัน
“กระบีบนสะบั้นมังกร มังกรปีศาจ…”
หลีก่วงซ่านที่ยืนอยู่มุมหนึ่งพึมพํากับตนเอง ทหารอารักขาพากันโล่งใจเมื่อมือสังหารได้จากไปแล้ว แต่เขากลับกลัดกลุ่มและหวาดกลัวมากขึ้นทุกขณะ “เป็นมันจริงๆ ไอ้สารเลวเยี่ยฉวน มันมาที่นี่…”
“ฝ่าบาท ผู้ใดมาหรือเพคะ?” ภรรยาของเจ้าสํานักที่ยืนอยู่เคียงข้างเอ่ยถาม ผ้าคลุมหน้าที่บดบังอยู่ทําให้ไม่อาจเห็นสีหน้าของนางชัดเจน ทว่าความสับสนและหวาดระแวงในดวงตากลับปิดไม่มิดนางแอบรักษาระยะห่างจากหลีก่วงซ่านด้วยท่าทางที่เขาพึมพํากับตนเองราวกับคนวิกลจริตท่าให้นางรู้สึกกลัวขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ
“เยี่ยฉวน! เป็นไอ้บัดซบเยี่ยฉวนแน่ มือสังหารเมื่อครู่เป็นมัน ใช่มันแน่ๆ มันมาที่นี่แล้ว!”
ยิ่งพูดออกมามากเพียงใดก็ยิ่งประหวั่นพรั่นพรึงมากเท่านั้น ซี่ฟันของเขากระทบกันไม่หยุดหย่อน
เยี่ยฉวนใช้เคล็ดวิชาเก้าอสูรจําแลงปลอมแปลงกายทําให้รูปลักษณ์ภายนอกแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง หากแต่กระบีบนสะบั้นมังกรและมังกรปีศาจน้อยหลงเอ๋อร์ได้สลักลึกลงไปในจิตใจของหลีก่วงซ่านประหนึ่งฝันร้ายที่เขาไม่มีวันลืม