STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 6 -2 เจ้าเสือดำ (2)
ฉับพลันเลือดในร่างกายก็พลุ่งพล่าน ทันใดนั้นก็กำจี้หยกเข้าไปแหย่เจ้าเสือดำ ชั่วขณะนั้นเจ้าเสือดำก็กระเด้งตัวออกแล้วกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว
เวลานี้กลับทำให้หลี่ฮ่าวนึกประหลาดใจขึ้นมาแล้ว
เจ้าเสือดำกระโดดหลบแต่ไม่ได้หนีไปไหน เพียงแต่เห่าใส่หลี่ฮ่าวทีหนึ่งด้วยท่าทีน้อยใจ
“หืม?”
หลี่ฮ่าวเลิกคิ้วเล็กน้อย เจ้าเสือดำกลัวเจ้านี่เหรอ?
ชักสนุกแล้วสิ
เขาว่ากันว่าบางครั้งแมวสีขาวสุนัขสีดำจะเห็นสิ่งที่คนเรามองไม่เห็น หรือว่าเจ้าเสือดำเห็นอะไรในจี้หยกนี้เหรอ?
เจ้าเสือดำเฉลียวฉลาด จุดนี้หลี่ฮ่าวรู้ดี
สุนัขล้วนฉลาดอยู่แล้ว
ถ้าไม่ฉลาด เจ้าหมอนี่คงไม่ดื้อด้านไล่ไม่ไปเช่นนี้เพราะมันรู้ว่าที่นี่มีอาหารให้กิน
“เจ้าเสือดำ มานี่!”
หลี่ฮ่าวกวักมือเรียกแต่เจ้าเสือดำกลับเผยท่าทีหวาดกลัวและดูลังเลใจ ทว่ามันพยายามฝืนใจเดินเข้ามาหาอย่างช้าๆ พร้อมสายตาที่จับจ้องจี้หยกแน่นิ่ง
“โฮ่ง!”
ตอนแรกเจ้าเสือดำดูหวาดกลัวอยู่บ้างแต่ก็ค่อยๆ ขยับเข้ามาหาเพราะมีหลี่ฮ่าวอยู่มันเลยไม่ได้กลัวขนาดนั้น หลี่ฮ่าวจับสังเกตท่าทีของมันไม่วางตา ครั้นเห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วนึกสงสัย
ดูท่าทางจี้หยกนี้จะมีความพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่จริงๆ
ขณะที่คิด ชั่ววินาทีนั้นหลี่ฮ่าวก็สายตาพร่าเบลอ ครั้งนี้เขาไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ฉับพลันในมือก็เบาลง พอได้สติเจ้าเสือดำก็กลืนจี้หยกนั้นลงคอไปแล้ว
แย่แล้ว!
หลี่ฮ่าวชะงักไปชั่วขณะ ต่อมาก็เอามือคว้าหมับเข้าที่หัวของเจ้าเสือดำแล้วเอ่ยอย่างโมโหว่า “คายออกมา!”
สมควรตายจริงๆ!
วันนี้เจ้าเสือดำเป็นอะไรไป?
ปกติถึงแม้จะให้อาหารมันแต่ก็ไม่เคยแย่งไปจากมือแบบนี้นี่นา
ที่สำคัญก็คือวันนี้เจ้าสุนัขตัวนี้ดูร้ายแปลกๆ
ตอนแรกยังดูหวาดกลัวอยู่บ้าง ทว่าพอหลี่ฮ่าวเผลอหน่อยก็งับเข้าปากไปแล้ว นี่มันอะไรกัน?
ใช้แผนหลอกล่ออีกฝ่ายให้ลดความระแวงในตัวเองลงอย่างนั้นเหรอ?
ตอนนี้สุนัขมีลูกไม้แพรวพราวได้ขนาดนี้เชียวเหรอ?
“เอ๋ง!”
เจ้าเสือดำปิดปากสนิทไม่แม้แต่จะแง้มเปิดออกสักนิด
หลี่ฮ่าวบีบปากพลางจับหางมันไว้ด้วยความโมโหโดยไม่ให้มันมีโอกาสหนีไปไหนและไม่ให้มันมีโอกาสกัดตนได้ จากนั้นก็เอ่ยด้วยอารมณ์โทสะว่า “เนรคุณ ฉันเลี้ยงแกเสียข้าวสุกจริงๆ! นี่มันสมบัติสืบทอดของตระกูลแกยังกล้ากินเข้าไปได้!”
“คายออกมานะ!”
หลี่ฮ่าวคลายมือตรงหางแล้วคว้าจับคอของเจ้าเสือดำไว้แทน ส่วนมืออีกข้างก็เริ่มง้างปากของมันออก
“เอ๋ง!”
เจ้าเสือดำไม่ยอมอ้าปาก ทว่าหลี่ฮ่าวเองก็แรงเยอะใช่ย่อยรั้นจะง้างปากของมันให้ได้ ผ่านไปพักหนึ่งปากของมันก็ถูกง้างเปิดออก
จี้หยกอยู่ในปากของเจ้าเสือดำ
หลี่ฮ่าวหมดคำพูดพลางนึกรังเกียจอยู่บ้าง ทว่าความสำคัญของจี้หยกกระบี่ดาราพรายมีมาก ต่อให้สกปรกก็ต้องเก็บกลับมา เขาล้วงหยิบจี้หยกออกมาพร้อมใช้แรงฟาดมันไปทีด้วยความโกรธ
“เสียดายที่ฉันมักให้อาหารแกกิน ช่วงเวลาสำคัญแบบนี้แกกลับไม่เชื่อฟังฉันเลย”
“เจ้าหมาเนรคุณ!”
หลี่ฮ่าวสั่งสอนไปยกหนึ่ง ปกติสุนัขตัวนี้ซื่อสัตย์รู้ความ คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ เวลานี้จะมาเล่นไม้นี้กับตนได้ ความจริงต้องโทษที่หลี่ฮ่าวไม่ระวังให้ดีจนถูกมันแย่งไปด้วย
“ว่ากันว่าหมาที่กัดคนจะไม่เห่า คำพูดนี้ช่างเหมาะกับแกจริงๆ!”
หลี่ฮ่าวก่นด่าไปอีกไม่กี่ประโยค จากนั้นก็มองจี้หยกที่น้ำลายเยิ้มอย่างนึกรังเกียจและเอือมระอา
สกปรกชะมัดเลย!
“โฮ่ง โฮ่ง!”
เวลานี้เจ้าเสือดำก็ไม่ได้ดิ้นพล่านอะไรเพียงแต่จับจ้องไปที่จี้หยกนั้นไม่วางตาราวกับตัดใจจากมันไม่ได้ ส่วนท่าทีหวาดกลัวก่อนหน้านี้ได้มลายหายไปหมดแล้ว
มันแลบลิ้นออกมาหมายจะเลียจี้หยกอีกครั้ง
ทว่าถูกหลี่ฮ่าวที่รังเกียจจับใจฟาดใส่ไปที มันเลยหดลิ้นกลับอย่างไม่เต็มใจนัก
“โฮ่งๆ!”
เจ้าเสือดำรู้ว่าที่นี่ใครใหญ่ ไม่นานมันก็มองหลี่ฮ่าวด้วยแววตาเอาใจราวกับภาวนาขอให้มันได้เลียจี้หยกนั้นอีกสักที
ตอนแรกหลี่ฮ่าวรู้สึกรังเกียจ แต่ภายหลังกลับมุ่นคิ้วด้วยความสงสัยแทน
เขาเหลือบมองเจ้าเสือดำแวบหนึ่ง ปกติมันเชื่อฟังว่าง่ายไม่ได้มีนิสัยเช่นนี้เลย มิเช่นนั้นหลี่ฮ่าวคงไม่เลี้ยงมันไว้
บางครั้งหลี่ฮ่าวพกของกินมา ต่อให้เจ้าเสือดำจะจ้องตาเป็นมันแค่ไหนแต่ถ้าหลี่ฮ่าวไม่ให้ เจ้าเสือดำก็จะไม่กระโจนเข้ามาแย่ง
“แกอยากกินอันนี้เหรอ?”
หลี่ฮ่าวยกจี้หยกขึ้นมา เจ้าเสือดำไล่ตามองตามอย่างว่องไวราวกับมันกำลังเฝ้ารอคอยอยู่ แต่ก็เหมือนครุ่นคิดในคำพูดของหลี่ฮ่าวเพื่อตัดสินใจเรื่องบางอย่างก็มินาน แต่จากนั้นไม่นานมันก็ส่ายหน้า
“หืม?”
หลี่ฮ่าวนิ่งไป มันเข้าใจด้วยเหรอ?
ปกติสุนัขเข้าใจสีหน้าอารมณ์ของเจ้าของอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าฟังเข้าใจก็นับว่าเป็นเรื่องปกติ
แต่นี่มันส่ายหน้าหมายความว่าอะไร ไม่อยากกินอย่างนั้นเหรอ?
ถ้าไม่อยากกินแล้วจะจ้องตาเป็นมันขนาดนี้ทำไม?
แถมเมื่อครู่ยังแย่งไปจากมือเขาอีก
“แปลกจังแฮะ”
หลี่ฮ่าวพึมพำกับตัวเอง กระบี่ดาราพรายต้องมีความพิเศษอะไรบางอย่างแน่นอน ตอนที่เขาฟังบทเพลงพื้นบ้านก็เคยขบคิดมาก่อนเช่นกัน แต่หลายปีมานี้หลี่ฮ่าวไม่พบเจอสิ่งปกติใดเลย
วันนี้มีบางอย่างวาบเข้ามาในหัว เขาลองไตร่ตรองอย่างละเอียดถึงได้หยิบจี้หยกขึ้นมาสำรวจขณะที่เจ้าเสือดำอยู่ข้างๆ ทว่าครู่เดียวผลลัพธ์ก็ปรากฏขึ้นอย่างเหนือคาด
หากไม่ใช่เพราะได้ฟังบทเพลงพื้นบ้านมา ความใคร่รู้ที่หลี่ฮ่าวมีต่อจี้หยก บางทีเขาคงห้อยติดตัวเช่นนั้นไปตลอดชีวิตโดยไม่คิดถอดออกมาสำรวจดู
แน่นอนว่าคงไม่เกิดเหตุการณ์เจ้าเสือดำแย่งไปแบบนี้
เจ้าเสือดำดูอยากได้มันมาก หรือจะบอกว่าของชิ้นนี้มีแรงเย้ายวนดึงดูดเจ้าเสือดำด้วยเหรอ? เฉพาะกับเจ้าเสือดำเท่านั้นหรือกับหมาตัวอื่นด้วยนะ?
‘ตกลงกระบี่ดาราพรายมีสิ่งพิเศษอะไรกันนะ?’
ความคิดของหลี่ฮ่าวล่องลอยไปไกลอีกครั้ง
ฉวยโอกาสตอนที่เขาเหม่อลอยอีกครั้ง ครั้งนี้เจ้าเสือดำไม่ได้แย่งไปจากมือแต่กลับแลบลิ้นออกมาอย่างรวดเร็วแล้วใช้ลิ้นเลียจี้หยกเสียงดังแผล็บอีกครั้ง แม้กระทั่งอุ้งมือของหลี่ฮ่าวก็ชุ่มไปด้วยน้ำลายของมัน
หลี่ฮ่าวนึกรังเกียจขึ้นมาทันที จากนั้นก็ยื่นมือฟาดมันไปทีแล้วเอามือเช็ดบนขนของมันด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์นัก
“ถ้าแย่งอีก วันหลังก็อย่าหวังจะได้กินอะไรจากฉันเลย!”
“โฮ่ง!”
เจ้าเสือดำส่ายหน้าอีกครั้งพลางส่ายหางดุกดิกอย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังพูดว่ามันไม่ได้แย่งแต่แค่เลียทีหนึ่งเท่านั้น ครั้งนี้หลี่ฮ่าวแอบรู้สึกแปลกใจขึ้นมาแล้ว
เขามองเจ้าเสือดำแวบหนึ่งแล้วถึงมองไปที่จี้หยก ถึงอย่างไรเสียก็ถูกเจ้าบ้านี่เลียจนสกปรกไปหมดแล้ว อีกเดี๋ยวต้องล้างให้สะอาดแล้วล้างด้วยน้ำร้อนตบท้ายอีกสักรอบ
พอขบคิดดูแล้วหลี่ฮ่าวก็ยกจี้หยกขึ้นมา “แกยังอยากเลียอีกเหรอ?”
เจ้าเสือดำพยักหน้า!
“ฉลาดขึ้น?”
หลี่ฮ่าวแววตาวูบไหว เห็นผีเข้าแล้วไง เมื่อก่อนเจ้าเสือดำฉลาดมากก็จริงแต่ไม่ได้เป็นอย่างวันนี้ ตอนนี้ตนพูดอะไรเหมือนมันฟังเข้าใจหมดทุกอย่าง
พอครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง หลี่ฮ่าวก็เอาจี้หยกยื่นออกมา เจ้าเสือดำมองหลี่ฮ่าวอย่างระแวดระวังแวบหนึ่ง แต่ไม่นานก็ยื่นลิ้นมาเลียจี้หยกอีกครั้ง แววตาเต็มไปด้วยความพึงพอใจราวกับอิ่มเอมในทุกๆ ครั้งที่มันได้เลีย