STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา - ตอนที่ 19-2 คนไม่สู้สุนัข (2)
“ทำไมถึงพูดอย่างนี้ล่ะครับ”
หลี่ฮ่าวถามประโยคหนึ่ง แต่ไม่นานก็นึกถึงบางอย่างเลยพูดเสียงนิ่งว่า “ความหมายของลูกพี่คือผู้พิทักษ์รัตติกาลแข็งแกร่งขึ้นมาก ต่อให้ตอนนี้อาจารย์ผมกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ พวกเขาก็คิดว่าเอาอยู่เลยไม่จำเป็นต้องระแวงอีกแล้วงั้นเหรอครับ”
“ใช่!”
หลิวหลงพยักหน้า ฉลาดไม่เบา!
พูดจุดประกายหน่อยก็เข้าใจแล้ว!
พลังเหนือธรรมชาติเพิ่งปรากฏขึ้นเมื่อยี่สิบปีก่อนซึ่งช้าเกินไป หยวนซั่วก็กลายเป็นสุดยอดปรมาจารย์นักรบไปแล้ว หากผันตัวเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติก่อนใคร จากความสามารถของหยวนซั่วรวมถึงระดับความรู้จากการศึกษาอารยธรรมโบราณ บางทีหยวนซั่วอาจกลายเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติก็เป็นได้
ถ้าอย่างนั้นก็น่ากลัวเกินไปแล้ว!
บางครั้งเลยจำเป็นต้องป้องกัน
หยวนซั่วไม่ใช่คนของทางการและไม่นับว่าเป็นคนนอกรีต แต่หยวนซั่วยิ่งไม่ใช่คนดีเสมอต้นเสมอปลาย
การฝึกวิชานักรบถึงระดับทะลวงร้อยและด้วยความกล้าหาญโหดเหี้ยมนี้ การสังหารคนจึงย่อมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแน่นอนอยู่แล้ว
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไม่ว่าจะเพื่อการพัฒนาของผู้พิทักษ์รัตติกาลหรือเพื่อกดหยวนซั่วเอาไว้ ทางฝั่งผู้พิทักษ์รัตติกาลก็ไม่กล้าให้หยวนซั่วประสบความสำเร็จแต่แรก
ทว่ามาถึงตอนนี้บางทีก็คงถึงเวลาแล้ว
ผู้พิทักษ์รัตติกาลมีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าพอจะควบคุมหยวนซั่วได้แล้ว หยวนซั่วช้าไปยี่สิบปี ตอนนี้กลายเป็นปรมาจารย์แสงดาราก็ไม่มีอะไรต้องระแวงอีก
หลี่ฮ่าวครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วเอ่ยอีกว่า “ผมยังสงสัยอีกจุดหนึ่ง อาจารย์ผมยอมจำนนทำงานให้ผู้พิทักษ์รัตติกาลแต่โดยดีแบบนี้จริงๆ เหรอครับ”
หลิวหลงมองเขาแวบหนึ่งก็หัวเราะ “คุณต้องรู้ว่าผู้พิทักษ์รัตติกาลเป็นตัวแทนของทางการ! ต่อให้คนๆ หนึ่งจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็มีขีดจำกัด! ยิ่งไปกว่านั้น ความจริงผู้พิทักษ์รัตติกาลก็ไม่ได้จะขออย่างเดียว แต่ยังมีข้อแลกเปลี่ยนด้วย อย่างเช่นปกป้องอาจารย์ของคุณ”
“ปกป้องเหรอ”
“แน่นอน!”
หลิวหลงเผยยิ้มมีเลศนัย “หลี่ฮ่าว ปรมาจารย์นักรบทะลวงร้อยคนหนึ่ง คุณคิดว่าเขาไม่มีคู่อริเหรอ ตายไปกันหมดแล้วเหรอ จะว่าอย่างไรดีล่ะ หยวนซั่วเป็นคนว่าง่ายขนาดนี้หรือออกจากกู่ย่วนน้อยครั้งมากก็เพราะเรื่องนี้ หากออกไปไหนต้องมีผู้พิทักษ์รัตติกาลคอยตามประกบก็เพราะสาเหตุนี้เหมือนกัน เขาเสียสละเพื่อขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติไว้มากเป็นอีกเหตุผลหนึ่งด้วย ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งก็เพราะอดีตเขาล่วงเกินใครไว้มากเหลือเกิน และเหตุที่อยู่ในกู่ย่วนความจริงก็เพราะกำลังหนีภัยอยู่”
หนีภัย!
นี่เป็นสิ่งที่หลี่ฮ่าวไม่เคยคาดถึง!
ค่อนข้างเหนือความคาดหมายแต่ก็เหมือนจะสมเหตุสมผล อาจารย์…อาจจะมีคู่อริคู่แค้นจริงๆ มิน่าถึงได้ยอมรับชะตากรรมทำงานให้ผู้พิทักษ์รัตติกาลแต่โดยดี
ไม่อย่างนั้นจากนิสัยของอาจารย์ ผู้พิทักษ์รัตติกาลไม่ยอมให้เขากลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสักที เขาคงแตกคอกันไปนานแล้ว จะทนยอมก้มหน้าทำงานให้อีกฝ่ายต่อไปได้เสียที่ไหน
หลี่ฮ่าวไม่ถามอีก แต่กวาดตามองรอบๆ ทีหนึ่งก่อนจะถาม “ลูกพี่ พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่นี่ เป็นของในคลังส่วนหนึ่งของทีมเราเหรอ ของสำคัญอื่นๆ ไม่ได้เก็บไว้ที่นี่เหรอ”
“…”
หลิวหลงมองเขาแวบหนึ่ง แล้วก็ตอบกลับอย่างละเหี่ยใจว่า “คุณไม่เข้าใจ! คุณอาจเห็นว่าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติกินพื้นที่ไม่เยอะแต่ความจริงเยอะมากเชียวละ! ที่นี่มีพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติอยู่สิบสองลูกบาศก์ บาศก์ก็คือหนึ่งลูกบาศก์! พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเวลากระจายจะมีระดับความหนาแน่นคงที่ ต้องเข้าสู่ร่างกายหรือของพิเศษบางอย่างถึงจะหดตัวลง สิบสองลูกบาศก์ก็เท่ากับทั่วทั้งคลังเก็บของของทีมแล้ว! อีกอย่างกระจกครอบผลึกเหมันต์หายาก การใช้กระจกครอบผลึกเหมันต์ครอบเยอะขนาดนี้ก็ลงทุนไปไม่น้อย นี่เป็นคลังเก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติเพียงหนึ่งเดียวของทีมเรา!”
ทั้งหมดหรือ
หลี่ฮ่าวชะงักน้อยๆ แล้วมองอีกแวบหนึ่ง ก็มากพอสมควร ในเมื่อบอกว่ามีสิบสองลูกบาศก์ก็คงประมาณนี้แหละ
แต่…ทีมล่าปีศาจ มีของอยู่ในคลังอยู่แค่นี้เองหรือ
เขาลองดูให้ละเอียดอีกทีก็รู้สึกแปลกๆ พิกล
พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ตนดูดซับมาจากจี้หยกกระบี่กับพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่แผ่ซ่านออกมา ดูเหมือน…จะไม่น้อยนี่นา
หรือว่าคุณภาพต่างกัน?
ของที่นี่มีคุณภาพมากกว่าหรือ?
“ลูกพี่ครับ แล้วผม…จะได้รับแบ่งเท่าไรเหรอ”
“คุณเป็นสมาชิกคนใหม่ แถมต้องดูแลตัวเอง ครั้งนี้ผมก็ปัดเสียงแย้งคนอื่นๆ ไปแล้วตัดสินใจจะให้พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไร้ธาตุสองลูกบาศก์แก่คุณ! พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไร้ธาตุก็คือพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติที่ไม่แฝงด้วยพลังธาตุอื่นๆ เลยซึมซับง่ายกว่าและปลอดภัยมากกว่า!”
“แต่ก็มีข้อเสียอยู่อย่างหนึ่ง พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติไร้ธาตุมักจะพัฒนาศักยภาพร่างกายได้ง่ายยิ่งกว่า หรือความสามารถของปรมาจารย์นักรบนั่นเอง ปลดกลอนล็อกพลังเหนือธรรมชาติได้ยากและยากจะเข้าสู่ขอบเขตพลังเหนือธรรมชาติได้!”
เขาอธิบายข้อดีข้อเสียสั้นๆ แล้วพูดอีกว่า “แต่ถ้าพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติมีธาตุไม่เหมาะกับคุณก็จะเสี่ยงอันตรายมาก เราไม่ใช่ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติเลยช่วยคุณได้ยาก ดังนั้นคุณเลือกเองได้ว่าจะเลือกมีธาตุหรือไร้ธาตุ ได้สองลูกบาศก์เหมือนกัน!”
เขาเห็นหลี่ฮ่าวไม่รู้สึกตื่นเต้นเท่าไร พลันก็หัวเราะออกมา “หลี่ฮ่าว ตอนนี้คุณมีเงินเดือนเดือนละเท่าไร”
หลี่ฮ่าวชะงัก เงินเดือนหรือ
คิดๆ แล้วก็ตอบกลับไปอย่างไว “ผมเป็นผู้ตรวจการณ์ระดับสาม ตอนฝึกงานหนึ่งเดือนได้รับหนึ่งพันเหรียญดารา หลังจากผ่านการฝึกงานแล้วตอนนี้ก็เดือนละสองพันเหรียญดารา เพิ่มขึ้นไม่น้อย ถ้าได้เข้าทีมปฏิบัติการก็ได้เลื่อนตำแหน่งอีก กลายเป็นผู้ตรวจการณ์ระดับสอง ถ้าอย่างนั้นก็จะได้เดือนละสี่พันเหรียญดารา!”
สี่พันเหรียญดารา ถือว่าไม่น้อยแล้ว
หลี่ฮ่าวโสดไม่มีภาระ อีกทั้งยังมักซื้อของสดประจำ ข้าวชั้นดีครึ่งกิโลกรัมก็แค่หนึ่งเหรียญดาราเท่านั้น
ต่อให้เป็นเงินหนึ่งพันเหรียญดาราในช่วงฝึกงาน ก็มากพอให้หลี่ฮ่าวใช้ชีวิตสุขสบายแล้ว
ออกไปทานอาหารจานด่วน มื้อหนึ่งก็แค่ห้าเหรียญดาราเอง
หนึ่งวันสามมื้อ หนึ่งเดือนก็แค่สี่ร้อยห้าสิบเหรียญดารา อย่างไรก็พอใช้
ถ้าได้เลื่อนขั้นคงได้เงินเดือนเพิ่มเป็นสี่พันเหรียญดารา หลี่ฮ่าวยังต้องคิดเลยว่าได้เงินเยอะขนาดนี้ควรหาเมียสักคนมาช่วยใช้เงินดีหรือเปล่านะ
หลิวหลงในตอนนี้ยิ้มแปลกๆ “ก็เท่ากับว่าตอนนี้ได้เงินเดือนเดือนละสองพันเหรียญดาราใช่ไหม”
“ครับ!”
“แล้วคุณรู้ไหม พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติหนึ่งลูกบาศก์ ข้างนอกเขาขายกันเท่าไร”
“ซื้อขายได้ด้วยหรือครับ”
หลี่ฮ่าวชะงักอีกหน เจ้านี่ซื้อขายกันได้ด้วยหรือ
“ภายนอกไม่ได้ แต่ลับๆ มีเยอะ!”
หลิวหลงแค่นหัวเราะทีหนึ่ง “มีคนใหญ่คนโต คนรวยมากมายที่ก็เป็นแค่คนธรรมดา! ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติไม่เพียงแค่มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่อายุยืนยาวมากด้วย ใครล่ะจะไม่อยากเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ แต่มีเพียงฝ่ายทางการอย่างผู้พิทักษ์รัตติกาลเท่านั้นที่รับคนได้อย่างถูกต้อง หรือไม่ก็เป็นปรมาจารย์เซียนสวรรค์โปรด นอกจากนี้ก็วิธีใดถูกต้องอีกแล้ว ดังนั้นย่อมเกิดการซื้อขายในตลาดมืดเป็นธรรมดา!”
หลี่ฮ่าวค่อนข้างเข้าใจจึงพยักหน้าน้อยๆ “ก็ถูก ถ้าผมมีเงิน และไม่สามารถกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติตามวิธีที่ถูกต้องได้ บางทีผมก็อาจจะเสียเงินซื้อ!”
นี่นับว่าเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ล่ะ!
หากมีเงินมากมายแต่กลับไม่สามารถเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้ น่าเสียดายจะตาย
“งั้นราคาในตลาดมืดคงไม่น้อยสินะครับ”
พลังลี้ลับเหนือธรรมชาติหายากมาก
ไม่อย่างนั้นใครๆ ก็เป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติกันหมดแล้ว
“แน่นอน!”
หลิวหลงเอ่ยถามติดสนุกๆ ว่า “คุณเดาสิ ในตลาดมืดหนึ่งลูกบาศก์มีราคาเท่าไร”
“แสนหนึ่งเหรอ”
หลี่ฮ่าวคิดๆ แต่ก็คิดว่าต่ำไปหรือเปล่า ในเมื่อมันหายากมาก ลองคิดดูอีกทีก็ตอบไปว่า “ห้าแสน!”
นี่เป็นราคาสูงสุดเท่าที่เขาคาดคิดได้แล้วล่ะ!
วัดจากฐานเงินเดือนของเขาในตอนนี้ ต่อให้ไม่กินไม่ใช้หนึ่งปีก็ได้แค่สองหมื่นสี่พัน ต้องใช้เวลาถึงยี่สิบกว่าปีบวกกับค่าใช้จ่ายที่ต้องหักไป แบบนี้ราวๆ สามสิบปีขึ้นไปถึงพอจะซื้อหนึ่งลูกบาศก์ได้
แพงมากพอแล้วล่ะ
ผู้ตรวจการณ์ยังนับว่าเป็นกลุ่มคนที่มีฐานเงินเดือนสูง ปกติแล้วชาวเมืองหยินมีเงินเดือนเฉลี่ยไม่ถึงคนละหนึ่งพันเหรียญดารา เช่นนั้นก็ต้องใช้เวลาห้าถึงหกสิบปีถึงจะพอซื้อหนึ่งลูกบาศก์
“ถือว่าใจกล้าดี!”
หลิวหลงหัวเราะ “แต่ก็ต่ำไปหน่อย ราคาตลาดมืด ลูกบาศก์ละล้าน!”
หลี่ฮ่าวเผลอหยุดหายใจไปชั่วขณะ
แพงจัง!
ล้านหนึ่ง ถ้าตนไม่เลื่อนตำแหน่ง ชาตินี้ก็ใช่ว่าจะมีปัญหาซื้อหนึ่งลูกบาศก์ได้
“คุณไม่ตื่นเต้นเหรอ”
หลิวหลงมองเขาแล้วยิ้มถาม “นี่ผมให้คุณฟรีๆ สองล้านเลยนะ!”
หลี่ฮ่าวกลับไม่ตื่นเต้นเท่าที่คิด ยิ้มตอบว่า “ลูกพี่ครับ ในความคาดคิดของผมของที่อยู่ในของเขตพลังเหนือธรรมชาติมันหลุดพ้นความธรรมดาเหล่านี้ไปแล้ว และทุกอย่างนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเงินทองอีก ความจริงต่อให้แพงแค่ไหน สำหรับผมก็เหมือนกันหมด!”
“สภาวะจิตใจใช้ได้…แต่เสียดายคุณคิดมากไปแล้ว”
ครั้งนี้หลิวหลงหัวเราะขึ้นมาแล้วจริงๆ “คุณคิดว่าถ้ามีพลังเหนือธรรมชาติแล้วก็หลุดพ้นความธรรมดาเหล่านี้ไปได้เหรอ ล้อเล่นน่า! กินดื่มซื้อของต้องใช้เงิน! ซื้อขายวัตถุเหนือธรรมชาติก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะสังคมนี้หรือคนธรรมดา เงินก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก!”
“อย่างอื่นยังไม่พูดถึง ถ้าไม่มีเงินคุณนอนที่ไหน นอนพักค้างแรมกลางป่ากลางเขาเหรอ ถ้าไม่มีเงิน คุณรู้ไหมว่ากระจกครอบผลึกเหมันต์ต้องใช้เงินเท่าไร ไม่มีเงินคุณจะไปหาซื้อเจ้านี่ไว้ใช้เก็บพลังลี้ลับเหนือธรรมชาติได้จากที่ไหน ถ้าไม่มีเงิน คุณออกจากบ้านทียังต้องเดินเอา หรือว่าพลังเหนือธรรมชาติช่วยให้คุณเหาะเหินมุดดินได้เหรอ”
ถ้อยคำนี้ทำเอาหลี่ฮ่าวผงะไป
เขาคิดจริงๆ ว่าหากกลายเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแล้วคงไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องเงินทองของธรรมดานี้เลย
แต่พอหลิวหลงพูดแบบนี้ ฉับพลันหลี่ฮ่าวก็คิดได้ว่า ผู้มีพลังเหนือธรรมชาติความจริงก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน
เป็นมนุษย์ก็ต้องใช้ชีวิต!
“แล้ว…”
หลี่ฮ่าวถามด้วยท่าทีสับสน “แล้วผมเข้าร่วมทีมล่าปีศาจได้เงินเดือนเพิ่มไหมครับ”