SSS-Class Suicide Hunter - ตอนที่ 54: ราชาผู้ถูกครอบงํา (2)
นิยาย SSS-Class Suicide Hunter SSSH ตอนที่ 54: ราชาผู้ถูกครอบงํา (2)
SSSH ตอนที่ 54: ราชาผู้ถูกครอบงํา (2)
“เฮ้อออ”
แม่มดถอนหายใจอย่างเป็นกังวล
“อย่าเพิ่งพูดอะไรออกไปโดยไม่คิดล่ะความผิดพลาดส่วนใหญ่สามารถแก้ข่าวได้แต่ถ้านายพูดเรื่องไร้สาระออกไปจริงๆฉันก็ไม่สามารถห้ามสื่อได้
“ไม่มีใครอ่อนโยนเท่าฉันแล้วเธอก็รู้จักฉันดีนี่ฉันเป็นนักทํานายนะ โอเค?ฉันรู้ว่าคําตอบที่คู่ควรที่สุดคืออะไร”
“…นี่ฉันเชื่อนายได้จริงๆหรือเปล่า?”
“อ่าาา แน่นอน”
ฉันรับไมโครโฟนจากแม่มด แม่มดดูเป็นห่วงฉันจนถึงวินาทีสุดท้ายที่เธอส่งไมโครโฟนให้ฉันแต่มันก็โอเคจริงๆฉันมี[วิธีการลับ]
“อา อา อา”
ฉันวอร์มเสียงเบาๆ เสียงของฉันดังก้องไปทั่วจัตุรัสผ่านลําโพง
“สวัสครับทุกท่าน ผมเป็นฮันเตอร์ที่ได้รับฉายาราชาแห่งความตาย ยินดีที่ได้รู้จัก”
แชะ! แชะ!
แสงแฟลชก่อตัวเป็นคลื่นฉันไม่ได้รู้มมากนักประสบการณ์เมื่อวานนี้ในการถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงชนเป็นรูปแบบหนึ่งของการสร้างภูมิคุ้มกันต่อสิ่งนี้หรือเปล่า? ฉันรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าที่คิดไว้และได้รับการล้างบาป” โดยแสงแฟลช
“คุณชื่อ… จอห์น อีแวนส์ ใช่มั้ยครับ?”
“ครับ ใช่แล้ว”
นักข่าวหนุ่มมองตรงมาที่ฉัน แววตาลุกเป็นไฟด้วยจิตวิญญาณของนักข่าวเขาจ้องมองอย่างเร่าร้อนราวกับว่าเขาจะไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวที่ฉันทําและเขาจะเปิดเผยตัวตนของฉันอย่างแน่นอน
มันเป็นสายตาที่ค่อนข้างอึดอัด
“เอ่อ”
พบกับการจ้องมองเช่นนั้น
มีเพียงความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของฉัน
“ในความคิดของผม มันเป็นเสียงกังว ลที่มาจากความบกพร่องของผม”
เรียนรู้จากบทเรียน
แค่ไม่เป็นคนอย่างจักรพรรดิเพลิง!
“ฮะ?”
นักข่าวจับไมโครโฟนด้วยมือข้างเดียวและขยี้ตาเขาคงไม่คาดคิดว่าฉันจะตอบสนองแบบนี้ในขณะเดียวกันฉันก็นึกถึงคําพูดเชี่ยๆของจักรพรรดิเปลวเพลิงในหัวของฉัน
“ผมจะพูดซ้ําอีกครั้ง ในความคิดของผมมันเป็นเสียงกังวลที่มาจากความบกพร่องของตัวผมเอง”
ท่าไม้ตายลับของฉันนั้นง่ายมาก
“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม สิ่งที่ฉันต้องทําก็คือพูดในตรงกันข้ามกับสิ่งที่จักรพรรดิเพลิงจะพูด!”
ฉันดูเหมือนว่าฉันจะมีความสามารถพิเศษในการสัมภาษณ์บ้างไหม?
ฉันแตกต่างจากแม่มด ฉันไม่มีพรสวรรค์ในการดึงดูดผู้คนด้วยคําพูดไม่มีความสามารถไม่มีทักษะไม่มีประสบการณ์
แต่มีเพียงสิ่งเดียว
ฉันมีความรู้ว่าคนอื่นไม่มี
บทสัมภาษณ์ของฮันเตอร์ที่ไร้มารยาทที่สุดในโลก!
“ถ้าฉันทําตรงข้ามกับสิ่งที่จักรพรรดิเพลิงทําแม้ว่าฉันจะพูดได้แย่ แต่มันก็ยังดีอยู่
ฉันเป็นแฟนตัวยงของจักรพรรดิเพลิงมาเกือบทศวรรษต้องขอบคุณสิ่งนั้นภายในหัวของฉันก็ไม่ต่างจากห้องสมุดห้องสมุดที่บันทึกความโหดร้ายและคําพูดไร้สาระของจักรพรรดิเพลิง
จะเป็นอย่างไรถ้าไม่ใช่ฉันที่ถือไมโครโฟนตอนนี้แต่เป็นจักรพรรดิเพลิงแทน?
เขาคงจะพูดแบบนี้
[เป็นเพราะความยิ่งใหญ่ของฉันที่ทําให้เราสามารถเคลียร์ได้จนถึงชั้นที่ 20 ไอ้เปรต]
ฉันทํางานตรากตรําเพื่อเคลียร์หอคอยพวงเอ็งรู้กันบ้างไหม? แล้วพวกแกคาดหวังให้ฉันทําอะไรไอเทมกับค่า ประสบการณ์ที่ฉันได้รับจะเป็นของฉันเอง เฮ้ไอ้นักข่าวเฮงซวย ถ้าฉันแม่งไม่ถ้าฉันไม่ได้เอาไปใช้เองฉันควรให้ใคร ฮะ?]
[พ่อของแกหรือไง?]
ตอนนี้ฉันไม่ได้ทําอย่างนั้น
ในความเป็นจริง เขาทําเช่นนั้นจริงๆ!
“นั่นคือเหตุผลว่าทําไมก่อนที่ฉันจะกลับมาแม่มดจะหน้าซีดทุกครั้งที่มีงานแถลงข่าว…”
มันเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า[พ่อของแก]
ดังนั้นงานแถลงข่าวจึงมีระเบิดเถิดเทิงที่สุดเสียงสบถของนักข่าวถ่ายที่ทอดสดและเมื่อถึงเวลาที่แม่มดรีบไปที่งานแถลงข่าวมันก็สายเกินไปแล้ว
มันเป็นหายนะครั้งใหญ่อย่างแท้จริง
การถ่ายทอดสดหยุดลงอย่างเร่งรีบแต่หายนะยังไม่จบสิ้น
ในขณะที่ยู ซูฮาตอบโต้นักข่าวคําสาปแช่งและคําสบถทุกประเภทที่มีอยู่ในโลกถูกโถมมาที่เขาและเหตุการ์ที่ถูกระงับการเผยแพร่ก็ถูกถ่ายทอดสดโดยสตรีมเมอร์แต่ละคน
“ฉายาของเขาคงไม่ใช่เชื่อโรคโดยไม่มีเหตุผล
มีข่าวลือว่าแม่มดต้องล้มหมอนนอนเสื่อเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากวันนั้น
บางที่อาจเป็นเพราะเหตุการณ์ [พ่อของแก]แม่มดได้เรียนรู้ว่าฮันเตอร์ยูซูฮาเป็นฮันเตอร์แบบไหนไม่ใช่เพราะเหตุการณ์นี้ที่หรอทําให้กิลด์ชั้นนําเหินห่างจากยูซูฮา?
“ในอดีต จักรพรรดิเพลิงได้ทําให้การแถลงข่าวนี้เละเทะปุ่น”
หรืออีกอย่าง
“ฉันแค่ต้องพูดตรงข้ามกับสิ่งที่เจ้าเชื่อโรคนั้นพูด
ทําตรงข้ามกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดแล้วมันจะดีที่สุด!
ฉันคว้าไมโครโฟนขณะที่นึกถึงคําพูดไร้สาระของยูซูฮา
[เป็นเพราะความยิ่งใหญ่ของฉันที่ ทําให้เราสามารถเคลียร์ได้จนถึงชั้นที่ 20ไอ้เปรต]
“ผมรู้ว่าความคิดเห็นของสาธารณชนอยู่ในความโกลาหลเพราะผมนแต่มันเกินจริงเกินไปหากปราศจากความช่วย เหลือจากแม่มดมังกรดําและเซียนดาบตรงนี้ผมคงไม่มีทางเคลียร์ได้จนถึงชั้นที่ 20 ได้โดยลําพัง”
[ฉันทํางานตรากตรําเพื่อเคลียร์หอคอยพวงเอ็งรู้กันบ้างไหม?]
หอคอย
“แน่นอน ผมภูมิใจที่จะบอกว่าฉันได้ทํามันอย่างเต็มที่โดยมุ่งเป้าไปที่การเสียชีวิตที่เป็นศูนย์เราใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แต่ผมไม่คิดว่านี่จะถือได้ว่าเป็น “การเสียสละของพวกเรามันเป็นสิ่งที่เราควรทําในฐานะมนุษย์ในฐานะฮันเตอร์นี่เป็นสิ่งที่ถูกต้องเหนือกว่าสิ่งอื่นใด…ผมทํามันเพราะเป็นสิ่งที่ผมชอบทํา”
[ไอเทมกับค่าประสบการณ์ที่ฉันได้รับจะเป็นของฉันเองเฮ้ ไอ้นักข่าวเฮงซวยถ้าฉันแม่งไม่ – ถ้าฉันไม่ได้เอาไปใช้เอง ฉันควรให้ใครฮะ?]
“แต่ด้วยเหตุนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะเรียกร้องสิทธิ์ของผมนั่นคือเหตุผลที่ผมมอบสิทธิ์ของชั้นที่ 10 ถึงชั้นที่ 19 ให้กับเหล่ากิลด์มาสเตอร์ผมบอกเพียงว่าผมต้องการชั้นที่ 20 ให้กับตัวเอง…ไม่สิ ชั้นที่ 20 จะเป็นพื้นที่[เซฟโซน]ที่ชั้นที่ 20 ผู้ที่อยู่ในหอคอยซึ่งเดิมอาศัยอยู่ที่นั่นจะก็อาศัยอยู่ที่นั่นผมจะมีความสุขกับบทบาทเจ้าเมือง”
[พ่อของแกหรือไง?]
“แค่นั้นครับ คุณนักข่าวอีแวนส์”
“คุณยังมีคําถามอื่นๆ อีกมั้ย?”
ชายหนุ่มที่ไฟลุกโชนด้วยจิตวิญญาณของนักข่าวพูดติดอ่าง
“มะ ไม่มีแล้วครับ”
เยี่ยมจากตรงนี้ ฉันขบคิดเร็วกว่าเดิม
ถ้าเป็นจักรพรรดิเพลิงเขาจะตอบยังไงเมื่อได้ยินคําพูดของนักข่าว?
[โอเค ถ้าแกไม่มีอะไรจะพูดก็ไปไกลๆซะไอ้หมูอเมริกัน]
มันเป็นฉากที่ฉันสามารถจินตนาการได้อย่างชัดเจนว่าจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้เขายังได้โชว์นิ้วกลางที่ใหญ่โตของเขา
มาดูกันสิถ้าฉันอยากจะพูดตรงข้ามกับประโยคนี้ )
ฉันเปิดปาก
“ขอบคุครับ อ่า หากมีคําถามอื่นๆ ผมจะตอบคําถามกับทุกท่านสักครู่”
มันเป็นเพียงช่วงเวลาแห่งความเงียบงันจนกระทั่ง
“ทางนี้ครับําางนี้! ผมมาจากหนังสือพิมพ์ฮวานมุน!”
“โปรดตอบคําถามของเราด้วยคุณราชาแห่งความตาย! ฉันมาจาก Only Towerเดลี่!”
“เรามาจากช่อง Tower of Babel!”
“คุณราชาแห่งความตาย!”
ผู้สื่อข่าวยกมือขึ้นโดยพร้อมเพรียงทันทีที่พวกเขารู้ว่าฉันเป็นคนง่ายๆพวกเขาก็รีบเตรียมบทความ
ฉากนี้ให้ความรู้สึกเหมือนลูกเป็ดที่กําลังแกว่งจะงอยปากเข้าหาแม่นกอย่างขะมักเขม้น
“ว้าว”
ฉันรู้สึกประทับใจมากเมื่อได้มองดูสื่อมวลชน
…กลยุทธ์เรียนรู้จากบทเรียนของนายแม่งโคตรบ้า
ตามที่คาดไว้ ไอ้เชื้อโรคคนโรคจิตที่น่ารังเกียจกว่าใครในโลกนี้
เขาเป็นคนที่จะกลายเป็นเข็มทิศในแง่ร้ายของฉันเสมอ
แม้กระทั่งตอนนี้ เข็มทิศก็บอกฉันอย่างชัดเจนว่าต้องทําอย่างไร
[อะไรนะ? หนังสือพิมพ์ฮวานมุน? ฉันจะไม่ให้สัมภาษณ์กับพวกแก ที่นั่นมีแต่พวกสมองถั่วแก่ๆแม้ว่าฉันจะเปิดหนังสือพิมพ์แต่มันก็ยังให้กลิ่นเหม็นเขียวเฮ้ถ้าแกจะเรียกตัวเองว่านักข่าวอย่างน้อยก็ไปอาบน้ําเถอะ]
อีกครั้ง ฉันนึกถึงคําพูดของจักรพรรดิเพลิงและพูด
“…ถ้าอย่างนั้นเริ่มจากนักข่าวของหนังสือพิมพ์ฮวานมุน”
ผลตอบรับนั้นงดงามมาก
การแถลงข่าวสิ้นสุดลงด้วยดี นับเป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงคําถามและคําตอบผุดขึ้นจากทุกหนทุกแห่งเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง แต่ฉัน ไม่ได้พูดอะไรแบบธรรมดาๆออกไป
ในความเป็นจริง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะยุติงานแถลงข่าวด้วยดี นักข่าวถามคําถามที่คลุมเครือมาที่ฉันเพื่อดึงข้อมูลเพิ่มเติมแม้แต่บรรทัดเดียวเพื่อให้พวกเขาสามารถใส่ไว้ในบทความของพวกเขาได้ในท้ายที่สุดแม่มดก็เข้าคว้าไมโครโฟนของฉันและกล่าวขอบคุณแบบเรียบง่าย
“ทุกท่าน! ฉันเข้าใจความปรารถนาของพวกคุณที่อยากรู้จักฮีโร่คนใหม่ของเรามากขึ้นน่าเสียดายที่เวลานั้นเหลือน้อย”แม่มดชี้ไปที่ท้องฟ้าด้วยนิ้วของ
เธอ
[00:05:27]
ก่อนที่เราจะรู้ตัว นาฬิกาแสงก็ใกล้จะถึงเวลา 00:00:00 แล้ว
มีเหลือเวลาอีกเพียง 5 นาทีกว่าชั้นใหม่จะเปิด!
ไม่มีข้อแก้ตัวไหนที่ดีไปกว่านี้ที่จะใช้ในการยุติงานแถลงข่าว
“เราจะสิ้นสุดการพักผ่อนในคืนนี้และตั้งสมาธิกับการเคลียร์หอคอยอีกครั้งในวันนี้ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนที่แสนอบอุ่นของทุกท่านในครั้งนี้เราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของผู้เสียชีวิตที่เป็นศูนย์”
“อ้าาาาา….”
มีเสียงเสียใจโผล่ออกมาจากที่นั่นและที่นี่
ขณะที่ฉันสงสัยว่างานแถลงข่าวจะจบลงเพียงเท่านี้เงาที่กล้าหาญก็ยกมือขึ้น
“มะ แม่มดมังกรดํา! ขอถามคําถามสุดท้าย!”
“ค่ะ คําถามเดียว การประชุมจะจบลงแล้วจริงๆ”
“แม่มดมังกรดํากับราชาแห่งความ ตาย!ความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคนคืออะไร?!”
ในขณะนั้น ดวงตาของผู้คนก็เป็นประกาย
ความสนใจจริง ความชั่วร้ายเล็กน้อย
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์สิ่งหนึ่งที่มนุษย์อยากรู้มากที่สุดคือเรื่องราวของความรักพวกนักข่าวคงต้องการจับคู่แม่มดกับฉันในแบบนั้น
“หืมมมมม”
แม่มดคิดสักพักแล้วก็เหลือบมองมาที่ฉัน
ฉันควรจะบอกว่ามันเป็นแค่มุกตลกหรือเปล่า?
แววตาของแม่มดมีความขี้เล่นเล็กน้อย
“ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน..นั้นสินะ”
แม่มดค่อยๆเปิดริมฝีปากของเธอ
จากนั้นคําพูดที่คงอยู่ในฐานะประโยคที่โด่งดังที่สุดของยุคก็หลุดออกมาจากปากของเธอ
“ ความสัมพันธ์แบบมากกว่าเพื่อนน้อยกว่าเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข”
รูไ!!!!!
ผู้สื่อข่าวต่างโห่ร้อง พวกเขาควรให้ความสําคัญกับคําว่าเพื่อนหรือเปล่า?พวกเขาควรให้ความสําคัญกับคําว่าเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขหรือเปล่า? ไม่ว่าจะด้วยคําไหนก็ตามมันเป็นอารมณ์ที่พวกเขาไม่สามารถแยกแยะหัวหรือก้อยจากสิ่งที่พวกเขาบอกได้
นักข่าวที่ถามคําถามก็เบิกตากว้าง
“เพื่อ เป็นมากกว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนนั่นคือสิ่งที่คุณพยายามจะพูดใช่ ไหม?”
“ใครจะรู้ล่ะ”
แม่มดพูดอย่างสบายๆ
“ฉันจะพูดซ้ําอีกครั้ง มันเป็นความสัมพันธ์แบบ”มากกว่าเพื่อนน้อยกว่า เพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุข”นั่นคือทั้งหมดที่ตอบได้ฉันหวังว่าจะไม่มีความเข้าใจผิดและการตีความที่ผิด”
“หากพวกคุณเข้าใจผิดและตีความผิด…!”
“งานแถลงข่าวที่จัดขึ้นโดยกิลด์มังกรทมิฬจะสิ้นสุดที่นี่ในวันนี้”
แม่มดลุกขึ้นจากที่นั่งของเธอ
“ฉันขอขอบคุณทุกคนอย่างจริงใจอีกครั้งสําหรับความสนใจและการสนับสนุนของทุกท่านนี่คือกิลด์มาสเตอร์ของมังกรทมิฬแม่มดมังกรดําฉันขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของทุกท่าน”
บรรดานักข่าวต่างพากันกระโดดขึ้น
“คะ- คุณแม่มดมังกรดํา!อย่าไปทั้งๆแบบนี้สิครับ!”
“โปรดให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดด้วย!”
“แม่มดมังกรดํา!”
“คุณราชาแห่งความตาย คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับแถลงการณ์นี้!ราชาแห่งความตาย!”
ว้าว
ผู้สื่อข่าวส่งเสียงโห่ร้องแม้ว่าพวกเขาตะโกนด้วยเสียงแหบแห้ง อย่างไรก็ตามแม่มดยังคงรักษาท่าทางที่ผ่อนคลายของเธอขณะที่เธอนําทางฉันไปที่หลังเวทีเธอหัวเราะเบาๆ
“รีบไปกันเถอะ”
“เอ่อ”
ฉันมองกลับไปที่กลุ่มสื่อมวลชนครูหนึ่งทุกคนต่างตะโกนออกมา
“…เธอจะไปหลังจากที่พูดถึงหัวข้อที่ร้อนแรงแบบนั้นเหรอ?”
“ฉันเป็นผู้หญิงที่ดูละคร”
แม่มดขยิบตาเบาๆ
การขยับตาแบบล้อหลอก
“เดิมที่นายต้องโหมไฟในตอนท้ายเพื่อสร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้ง”
คําพูดของเธอแสดงให้เห็นถึงศักดิ์ศรีและอํานาจของกิลด์มาสเตอร์ที่ครองหอคอย
ด้านหลังเวที
เราเดินไปจนถึงที่ที่เราจะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเมื่อเราไปถึงที่นั่นแม่มดก็ร้อง“ฟูววววว!”และถอนหายใจออกมาลึกๆจากนั้นเธอก็คว้ามือฉัน
“มันสมบูรณ์แบบ! ราชาแห่งความตาย!”
ดวงตาของแม่มดเป็นประกายเจิดจ้า
ฉันสงสัยว่าเธอเป็นคนเดียวกับที่จัดการการแสดงออกทางสีหน้าของเธออย่างสงบตลอดงานแถลงข่าวหรือเปล่า
“นายเรียนรู้วิธีการสัมภาษณ์ตั้งแต่เมื่อไหร่! ภูมิใจหน่อยสิ!”
“เอ่อ…”
ฉันแค่ทําตรงข้ามกับที่จักรพรรดิเพลิงจะทํา
“ทัศนคติที่ถ่อมตัวของนายเป็นปัจจัยบวก!ผู้คนชอบฮีโร่แต่มีสิ่งที่พวกเขาชอบมากกว่านั้นก็คือฮีโร่ที่ถ่อมตัว!แน่นอนความถ่อมตัวของนายไม่ควรมากเกินไปจนกลายเป็นเหมือนคนรับใช้… แต่นายทําได้ดี โอ้ พระเจ้า มันยอดเยี่ยมมาก!”
“ฉันไม่รู้ว่านายมีความสามารถพิเศษในการรับมือกับสื่อด้วยซ้ําอ่า เด็กคนนี้ทําบ้าอะไรกันมาตลอดถึงเพิ่งโผล่มาเอาตอนนี้?! นอกจากการเคลียร์หอคอยแล้วนายยังรู้วิธีสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ฉันรู้สึกว่าไหล่ของฉันเบาขึ้นเป็นสิบเท่า…!”
นี่คืออะไร?
หัวใจของฉันไม่สบายใจเมื่อเห็นเธอแสดงความดีใจมากขนาดนี้
ฉันไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่าฉันแค่เลียนแบบคนโรคจิตในทางตรงข้าม
“ถ้านายมีอะไรที่ต้องการบอกฉันได้ ทันทีเงิน?ชื่อเสียง?อํานาจ? หรือคนรัก?ไม่ต้องกังวลไปตราบใดที่มันมีอยู่ในหอคอยฉันจะหาทุกอย่างให้นายเอง”
“ไม่เป็นไร ฉันมีสิ่งที่ต้องการอยู่แล้ว… แม่มดมังกรดําคําแถลงที่บอกว่ามากกว่าเพื่อนน้อยกว่าเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขนั่นมันอะไร? ฉันรู้สึกประหลาดใจอยู่นะ”
“อ่อ นั่นน่ะเหรอ?”
แม่มดยักไหล่
การแสดงออกที่ดูเหมือนจะบอกว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
“มันไม่มีอะไรฉันวางกําแพงควันโดยตั้งใจ”
“กําแพงควันงั้นเหรอ?”
“อืมมม สื่อจะขุดคุ้ยเรื่องอื้อฉาวที่ไม่มีอยู่จริงด้วยวิธีนี้ภาพลักษณ์ของนายกจะเสียหายมากขึ้นนั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมฉันจึงควรสร้างกําแพงควันไว้เพื่อที่พวกเขาจะให้ความสนใจกับฉันและ
นาย”
“อย่างงั้นเหรอ…?”
ฉันไม่เคยรับมือกับสื่อมาก่อนดังนั้นฉันจึงไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นถูกหรือผิด
แม่มดหัวเราะอย่างคลุมเครือ
“ไม่ต้องกังวล ราชาแห่งความตายเป็นเวลาหลายปีแล้วที่ฉันรับมือความคิด เห็นของสาธารณชนทั้งหมดด้วยตัวเองเชื่อฉันทั้งหมดเมื่อมันเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ก็ฝากมันให้กับผู้เชี่ยวชาญเป็นคนจัด การเองโอเคไหม?”
“อ่า ก็ได้”
แปลก
ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันรู้สึกแปลกๆ…ใช่แล้ว มันรู้สึกราวกับว่าฉันกําลังเล็งไปที่มอนสเตอร์บนพื้นที่ล่าที่ไม่มีใครรู้จักความสามารถอย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่พื้นที่ล่ามอนสเตอร์แต่เป็นเมือง ชั้นหนึ่งของบาบิโลนเป็นไปไม่ได้ที่มอนสเตอร์จะมาที่นี่
มันเป็นเพราะบรรยากาศหรือเปล่า?
– ชิ ชิ ชิ
แบ สุรยองเดาะลิ้นของเขา
– เจ้าซอมบี้น่าสงสารเพราะนายมีหัวแต่ไม่มีสมองฉันจะไม่เรียกนายว่าซอมบี้ได้ยังไงแม้ว่านายจะเป็นฮันเตอร์ในนามแต่นายไม่รู้ด้วยซ้ําว่านายกําลังมุ่งหน้าไปยังความตายของตัวนายเองแหม่ แหม่ แหม่
“อา? นายกําลังพูดถึงอะไรอีก?”
– นายมันน่าสมเพช! น่าสมเพช!
แบ สุรยองทุบหน้าอกของเขาราวกับว่าเขาขาดอากาศหายใจถึงกระนั้นเขาก็เป็นชายหน้าตาน่ารังเกียจที่เหมือนกับกอริลลาทุบหน้าอกของเขา
ตอนนั้นเอง
“วู้วววว!”
อีกด้านหนึ่งของเวที จากทิศทางของจัตุรัสก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นมันสร้างความตื่นเต้นที่แตกต่างจากเสียงเชียร์ที่ส่งมาหาเรา
“สิบ!”
“เก้า!”
“แปด!”
มันคือการนับถอยหลัง
แม่มดและฉันหยุดการสนทนาของเราและมองขึ้นไปบนฟ้า
[00: 00: 05]
ก่อนที่เราจะรู้ตัว มันก็ถึงเวลาที่เวทีชั้น 21 กําลังจะเปิดออก
“สาม!”
“สอง!”
“หนึ่ง!”
และ
[00: 00: 00]
รัศมีแสงที่ก่อตัวเป็นตัวเลขบนท้องฟ้ากระจัดกระจายไปทุกทิศทางเสียงโห่ร้องของผู้คนก็ยิ่งทวีคูณราวกับว่าจะตอบกลับไปยังเสียงเชียร์แสงก็รวมตัวกันอีกครั้งและกลายเป็นโฮโลแกรมของ เทพธิดา
[เหล่านักรบ]
ท้องฟ้าสีคราม
โฮโลแกรมของเทพธิดาแยกริมฝีปากของเธอ
[ผู้ปีนป่ายหอคอย]
[ขอแสดงความยินดีกับการเอาชนะเงามืดของราชาปีศาจ]
เป็นช่วงเวลาที่ด่านใหม่กําลังจะเปิด ขึ้น
ผู้คนเริ่มส่งเสียงราวกับว่าพวกเขามีความสุขบางที่อาจเป็นเพราะพวกเขาได้เห็นภาพโฮโลแกรมของเทพธิดาแล้ว
แต่ฉัน ซึ่งเคยมีประสบการณ์ในหอคอยในอดีตรู้ดี
– เฮ ซอมบี้
“อีม
ฉันพยักหน้า
“ไม่เป็นไร ฉันจะไม่ลดการป้องกันลง
เช่นเดียวกับหอคอยซึ่งเป็นสถานที่ฝึกสอนจนถึงชั้นที่ 10 ทุกอย่างเปลี่ยนตั้งแต่ชั้นที่ 11 เป็นต้นไป
ความจริงที่ว่าชั้นที่ 21 จะมีขั้นตอนที่แตกต่างไปจากชั้นที่ 20 อย่างสิ้นเชิง
[พวกท่านจํานวนมากสามารถอยู่ที่ชั้นหนึ่งของหอคอยได้ตลอดไป]
โฮโลแกรมของเทพธิดาประกาศข้อเท็จจริงนั้นอย่างสงบ
[นี่คือที่หลบภัยสําหรับผู้ที่หลบหนี]
[ในทางกลับกันของการยอมแพ้ต่ออุปสรรคพวกท่านสามารถเลือก “ของว่าง”ได้]
[แต่พวกท่านทุกคนเลือกที่จะเคลียร์จากชั้นที่ 10 ขึ้นไปชั้นที่ 201
เสียงดังก้องกังวาลในท้องฟ้ากว้าง
[เพื่อเป็นสักขีพยานในจุดสิ้นสุดของหอคอยนี้]
[ถ้าอย่างนั้น มันก็ถูกต้องแล้วที่จะตอบสนองความต้องการของพวกท่าน]
วิ่ง!!!!
แสงสีขาวปกคลุมเราโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าไม่ใช่แค่แม่มดกับฉันจากทิศทางของจัตุรัสสามารถได้ยินเสียงที่ลุกลี้ลุกลน
“กะ – เกิดอะไรขึ้น?”
“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรนะ…”
นี่เป็นความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว
ไม่มีใครพูดว่า”เคลื่อนย้าย”ด้วยซ้ําแต่แสงสีขาวนั้นก็ห่อหุ้มพวกเราไป
แม่มดมองลงไปที่เท้าของเธอด้วยท่าทางที่สับสน
4. ไม่มีทาง นี้เป็นการบังคับเคลื่อนย้ายเหรอ?”
การคาดเดาของเธอนั้นถูกต้อง
[ผู้ที่ปีนป่ายหอคอย]
[ผู้ที่ตั้งใจจะปีนป่ายหอคอย]
[ผู้ที่ยินดีจะรับสมญานามใหม่และกลายเป็นนักรบแห่งหอคอย]
เทพธิดาประสานมือของเธอไว้ที่หน้าอกของเธอ
ราวกับว่าเธอกําลังอธิษฐานแก่ใครบางคน
จากนี้ไปมีเพียงนักรบที่ถูกเลือกเท่านั้นที่จะปฏิบัติหน้าที่อันสูงส่ง]
ทันใดนั้นแสงสีขาวก็ปกคลุมเราจนหมด