นิยาย SSS-Class Suicide Hunter SSSH ตอนที่ 53: ราชาผู้ถูกครอบงํา (1)
SSSH ตอนที่ 53: ราชาผู้ถูกครอบงํา (1)
– ตอนนี้ที่ทุกท่านกําลังดูวิดีโอที่น่าที่อยู่ในขณะนี้!
– แม่มดหรือที่รู้จักกันในชื่อแม่มดมังกรดําเป็นผู้นําทีมจู่โจมชั้น 11 นี่เป็นวิดีโอล่าสุดที่เราได้รับจาก BBS โอ้! ผมขอซูมเข้าไปตรงส่วนนี้
– ใช่ครับตรงส่วนนี้แหละ!มาหยุดวิดีโอกันสักวินาทีครับ
ในห้องรอที่เงียบสงบ
ฉันกําลังดูทีวีอย่างไม่ได้สนใจนัก
– สําหรับผู้ชมทุกท่าน คุณเห็นไหมครับแม่มดมังกรดํากําลังจับมือกับฮันเตอร์อีกคนฮันเตอร์คนนี้ถูกสันนิษฐานว่าเป็นราชาแห่งความตาย
– หากไม่ได้วิดีโอนี้ไม่ได้ถูกตัดต่อขึ้นมานั่นหมายความว่าราชาแห่งความตา ยจัดการบอสชั้น 11 ในดาบเดียวมันถูกเรียกว่า one-shot one-killในหมู่ฮันเตอร์แต่จนถึงตอนนี้มันไม่เคยมีเลยที่ มอนสเตอร์ระดับบอสจะตายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
นักพากษ์และคอมเมนเตเตอร์กําลังตื่นตกใจ
– คุณบอกว่านี่เป็นครั้งแรกเหรอ?
– ใช่ครับ อาจด้วยความช่วยเหลือของแม่มดมังกรดําแต่ฮันเตอร์ที่เผชิญหน้ากับมอนสเตอร์ระดับบอสด้วยตัวเองดู เหมือนจะเป็นราชาแห่งความตาย
ใต้หน้าจอมีคําบรรยายข่าวด่วน [งานแถลงข่าวของราชาแห่งความตายบ่ายวันนี้]
– เอาล่ะครับทุกท่าน มาดูวิดีโอถัดไปด้วยกันครับ
– ราชาแห่งความตายที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นเมื่อบ่ายวาน นี้เขากลับมาที่บาบิโลนทางประตูเคลื่อนย้ายอย่างที่คุณเห็นกันแม่มดมังกรดและเซียนดาบก็อยู่กับเขา
– ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังพาราชาแห่งความตายออกไปใช่ไหม?
– ใช่ครับ เพื่อถ่ายทอดบรรยากาศของเหตุการณ์อย่างถูกต้องผมจะเพิ่มเสียงขึ้นเล็กน้อย
มีวิดีโอที่ดูเหมือนว่ามีคนถ่ายไว้ในโทรศัพท์มือถือ
กลางหน้าจอ ฉันกําลังเดินไปอย่างไร้ความรู้สึก
– โปรดมองทางนี้หน่อย!
– เฮ้ อย่าผลักฉันสิ! ได้โปรดพูดอะไรสักอย่างหน่อย!
– แม่มดมังกรดําเราจะได้ยินประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่?!
– พวกคุณสองคนมีความสัมพันธ์แบบไหน….
ปิบ!
ฉันไม่สามารถยืนดูได้อีกต่อไปและกดรีโมทคอนโทรล
ฉันขมวดคิ้วมองแบ ฮุรยองที่กําลังนั่งดูทีวีอยู่ข้างกัน
– อ๊ะ ทําไมนายปิดมันล่ะ? ฉันกําลังสนุกกับมันมาพักใหญ่แล้วนะ
ฉันเปิดปากของฉัน
“เพราะฉันอายมากจนแทบจะบ้าตาย!?
สถานที่แห่งนี้คือห้องรอ
หนึ่งวันผ่านไปหลังจากที่ฉันได้รับการยอมรับจากเซียนดาบ
วันนี้เป็นวันที่จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเคลียร์หอคอย
เดิมที่มันควรจะถูกจัดการโดยเหล่ากิลด์มาสเตอร์ชั้นนําแต่คราวนี้ฉันได้รับ เชิญให้เป็นแขกรับเชิญพิเศษอีกสักครู่การสัมภาษณ์จะเริ่มขึ้น
– ทําไมนายไม่ฆ่าตัวตายไปล่ะ?นายกไม่ตายอยู่ดี
“แต่ฉันไม่อยากทําน่ะสิ!”
ฉันไม่มีอะไรทําจนกระทั่งการแถลงข่าวจะจัดขึ้นฉันจึงคิดว่าฉันจะดูทีวีแต่มันเป็นความผิดพลาด
– อ๊ะ บัดซบ ฉันเข้าใจแล้ว งั้นเปลี่ยนเป็นช่องอื่นสิ
“ทุกช่องพูดถึงฉันอยู่แล้ว!”
ไม่ว่าจะเป็นช่องข่าวหรือช่องอื่นๆ การถ่ายทอดสดเกือบทั้งหมดพูดถึงการจู่โจมจากชั้น 10 ถึง 20 และรายการทีวี ไม่ใช่รายการเดียวทุกๆอย่างก็เหมือนเดิมแม้ว่าฉันจะดูบนอินเทอร์เน็ต
ฉันกลายเป็นคนดังหลังจากนอนหลับไปหนึ่งคืน
นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้สึกในตอนนี้
[เทพธิดาแห่งการปกป้องชี้ให้เห็นว่าความสําเร็จของท่านนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด]
ดาบศักดิ์สิทธิ์สั่นอยู่ที่เอวของฉัน
[ชื่อเสียงก็เหมือนกับภาษีที่ฮีโร่ต้องจ่ายวันต่อวัน เทพธิดาแห่งการปกป้องแนะนําว่าท่านต้องคุ้นเคยกับฐานะฮีโร่]
ฉันรู้สึกเป็นเมื่อยมากจนลดดาบศักดิ์สิทธิ์ลง
“เมื่อวานผมเหนื่อยมากจนเผลอหลับไปและพูดอะไรไม่ได้มาก…คุณ…เทพธิดาคุณอยู่หรือเปล่า? คุณไม่ได้คาดหวังผมไว้สูงเกินไปหรอกเหรอ?”
[ท่านคือแสงสว่าง!]
ดาบศักดิ์สิทธิ์สั่นแรงกว่าเดิม
ฉันไม่รู้ว่าเป็นแค่ฉันหรือเปล่าแต่รู้สึกเหมือนเธอเป็นแฟนคลับที่หลงไหลไอดอล
[เทพธิดาแห่งการปกป้องกระซิบว่าเธอยังจําได้ชัดเจนเหมือนผ่านไปหนึ่งวันเมื่อท่านปืนขึ้นไปบนปราสาทของจักรวรรดิและคํารามนั้น และท่าทางที่โอ่อ่าเมื่อท่านประกาศว่า’ฝากจักรวรรดิไว้ในมือของฉันตอนนั้นท่านดูมีความสุขมาก]
“อ้าาาา!”
ฉันปิดหูของฉัน
“หยุด! หยุดนะ! นั่นคือสิ่งที่ฉันพูดออกไปตอนฉันตื่นเต้น!”
แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ หูของฉันไม่ได้ยินเสียงของดาบ แต่มันส่งตรงไปที่หัวของฉัน
ดาบศักดิ์สิทธิ์กระซิบอย่างไม่รู้จบเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันมืดมนของฉัน
[เทพธิดาแห่งการปกป้องชี้แจง มันเป็ นกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ว่าฮีโร่ต้องรักตัวเอง! คําพูดของฮีโร่ที่ไม่มีความรักต่อตัวเองเป็นเรื่องที่น่าสังเวชและมันจะทําให้แม้แต่คนรอบข้างไม่มีความสุขด้วย ใน แง่นั้นความมั่นใจของท่านเป็นที่น่าชื่นชอบมาก!มันน่าทึ่งจริงๆ!]
ฉันเดาถูก
เทพธิดาแห่งการปกป้องเป็นแฟนคลับตัวยงของฉัน
“หยุด…ได้โปรดหยุด……!”
เช่นเดียวกับฉันที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นแฟนตัวยงของจักรพรรดิดาบศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นแฟนตัวยงของฉัน
ฉันคงไม่รังเกียจถ้าเธอแสดงความปรารถนาอันแรงกล้าของแฟนๆในที่ที่ฉันมองไม่เห็นแต่เสียงของดาบได้ถ่ายทอดถึงฉันตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน
[เทพธิดาแห่งการปกป้องสารภาพ]
[ข้ายินดีที่จะรับใช้คนอย่างท่านในฐานะเจ้านายคนที่สองของข้า!]
โอ้พระเจ้า
ฉันเคยได้ยินใครบางคนยกย่องฉันอย่างจริงใจอย่างต่อเนื่องและอยู่กับฉันตลอดเวลาหรือเปล่า?ใครบางคนที่ ยกย่องฉันอย่างไม่หยุดหย่อนจนทําให้ฉันคิดถึงอดีตอันดํามืดซึ่งฉันอยากจะลืมให้เร็วที่สุด
ช่วยเปลี่ยนมาเป็นฆ่าฉันแทนเถอะ
[โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านนําราชาปีศาจแห่งห่าฝนมาอยู่ภายใต้การปกครองของท่านและช่วงเวลาที่ท่านพูดพึมพําว่า “เจ้านายมีหน้าที่ปกป้องลูกน้องของเขา”นั่นเป็นฉากที่ยอดเยี่ยมจริงๆ…]
นี่มันมากเกินไปจริงๆ
เฉันหยิบน้ํามันโอโดออกจากกระเป๋าเป้น้ํามันโอโดเป็นน้ํามันที่ใช้ทําความสะอาดดาบฉันเทน้ํามันลงบนผ้าและจ้องไปที่ดาบศักดิ์สิทธิ์
“เรื่องนี้ คุณเป็นคนเริ่มก่อน”
มือของฉันเอื้อมไปใกล้ใบดาบมากขึ้น
แสงสีขาววูบวาบพุ่งออกมาจากดาบศักดิ์สิทธิ์
[เทพธิดาแห่งการปกป้องรู้สึกถูกคุกคาม
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขอร้องให้ท่านหยุดสิ่งที่ท่านกําลังทําอยู่]
(เทพธิดาแห่งการปกป้อง…]
10 นาทีต่อมา
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขออภัยสําหรับความผิดพลาดของเธอ]
ต้องขอบคุณทักษะการขัดที่จริงใจของฉันดาบศักดิ์สิทธิ์จึงสะอาดขึ้นใบดาบโปร่งใสราวกับกระจกและสะท้อนใบหน้าของฉันแต่ดาบศักดิ์สิทธิ์สั่นสะบ้านด้วยความอับอาย
“ฟู ตอนนี้ก็เงียบลงไปหน่อย”
ฉันลดดาบศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเงียบกว่าเดิมล
“ผมเข้าใจแล้วว่าคุณเป็นกลุ่มดาวแต่ทําไมต้องเป็นดาบ? คุณเป็นดาบตั้งแต่แรกหรือเปล่า?”
เท่าที่ฉันเข้าใจ กลุ่มดาวเป็นเหมือนผู้ดูแลชั้น
เช่นเดียวกับวิญญาณอาฆาตกลุ่มดาวอาจเป็นมอนสเตอร์ในตอนแรกฉันนึก ไม่ออกด้วยซ้ําว่า “ดาบ”กลายมาเป็นกลุ่มดาวได้อย่างไร
ในขณะที่ฉันพึมพําถึงคําถามนั้นดาบศักดิ์สิทธิ์ก็เปล่งแสงสีขาวบางๆออกมา
[เทพธิดาแห่งการปกป้องส่ายหัว]
[มันง่ายกว่าที่จะเข้าใจว่ากลุ่มดาวคือ“บางสิ่งที่เป็นตัวแทน”ของโลก]
ตัวแทนของโลก
[เทพธิดาแห่งการปกป้องพูดพึมพํา]
[เดิมที่ข้าเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเคารพในฐานะเทพเจ้า แต่ผู้ก่อตั้งอาณาจักรเลฟานต้าเอจิม” ได้แยกตัวข้าออกเป็นดาบห้าเล่มและผนึกบ้าเอาไว้
[ท่านเป็นผู้ครอบครองดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มแรกเลื่อมใส ]
ฉันขยี้ตา
“ชื่อดาบเลื่อมใสเหรอ?”
[ถูกต้อง]
จากนั้นเทพธิดาแห่งการปกป้องจึงไล่ชื่อดาบทั้งห้า
[ดาบเล่มแรก เลื่อมใส]
[ดาบเล่มที่สอง เวทนา]
[ดาบเล่มที่สาม ภาวนา]
[ดาบเล่มที่สี่ เสียสละ]
[ดาบเล่มที่ห้า ไถ่บาป]
[นี่คือดาบพี่น้องทั้งห้า]
[เทพธิดาแห่งการปกป้องคุยโวว่าถ้าท่านรวบรวมดาบพี่น้องทั้งหมดเธอจะได้รับพลังจากจุดสูงสุดของเธอกลับคืน
มา]
“โอ้ โห”
โดยสรุป ดาบที่ส่องแสงต่อหน้าฉันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดาบศักดิ์สิทธิ์
กล่าวอีกนัยหนึ่งต้องพบดาบอีกสี่เล่มเพื่อดึงพลังที่แท้จริงออกมาได้
“น่าสนใจ แล้วพี่ๆน้องๆดาบของคุณอยู่ไหน?”
เธอไม่ตอบ
ความเงียบที่น่าอึดอัดปรากฏขึ้นในห้องรอ
“ฮัลโหล? เทพธิดา? ฉันถามคุณว่าน้องๆของคุณอยู่ที่ไหน?”
ไม่มีเสียงตอบรับจากสายที่ท่านเรียก
ฉันหลี่ตาลง
“…อย่าบอกนะว่า แม้แต่คุณเองก็ไม่
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงงีมงํา
[เทพธิดาแห่งการปกป้องเคยทะเลาะกับลําดับที่ห้า]
“นั่นก็หมายความว่าคุณไม่รู้
[เทพธิดาแห่งการปกป้องให้เหตุผลว่าเธอรู้สึกได้ถึงตัวตนของดาบน้องสาวหากพวกเขาอยู่ใกล้ๆ]
ฉันยักไหล่
“อืม ฉันไม่รีบร้อนที่จะหาพวกเขาในตอนนี้อย่างไรก็ตามคุณต้องมีพลัง อย่างน้อยหนึ่งในห้าคุณดาบเลื่อมใสคุณทําอะไรได้บ้าง?”
[ข้าสามารถได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากพลเมืองของอาณาจักรเอจิม]
“ฉันรู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ มีอะไรอีกไหม?”
วิ่งงง!!!!
ราวกับว่าดาบศักดิ์สิทธิ์กําลังรอจังหวะนี้อยู่มันก็เปล่งแสงออกมาอย่างเต็มที่
“ว้ากกกก! ตาชั้น?! ตาช้านนนน?!”
ฉันกลิ้งไปรอบๆพื้นในขณะที่ปิดตา
ฉันได้ยินเสียงดาบศักดิ์สิทธิ์ดังก้องอยู่ในหัวของฉัน
[เทพธิดาแห่งการปกป้องอวดว่าเธอมั่นใจในการเปล่งแสง]
“ฉันเคยเห็นมาจนถึงจุดที่ฉันเอียนแล้วแน่นอนฉันรู้ดี!”
อะไรของมันวะ??? ฉันโชคดีที่ฉันปกป้องดวงตาของฉันด้วยออร่าในพริบตาฉันเกือบจะตายบอดไปแล้ว!
“ไม่ คุณทําอะไรได้อีกนอกจากการได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองของจักรวรรดิเอจิมและส่องแสง!”
เงียบนี่
แสงของดาบศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆหรี่ลงในแง่ของมนุษย์มันเหมือนกับว่าเธอพูดติดอ่าง
[ข้ามั่นใจในการจัดการมอนสเตอร์]
[เทพธิดาแห่งการปกป้องเสริมอย่างรีบร้อนว่ายังเธอมั่นใจในการจัดการกับมนุษย์ด้วยเช่นกัน]
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ท่ามกลางความเงียบ ขณะที่ฉันตกตะลึงมีคนมาเคาะประตูห้องรอ ฉันรีบเก็บดาบศักดิ์สิทธิ์จากมุมมองของคนอื่นฉันจะดูเหมือนคนบ้าถ้าเห็นฉันพูดกับ
ดาบ
“ใครน่ะ?”
“ฉันเอง”
ฉันสามารถได้ยินเสียงของแม่มดจากด้านนอกประตู
“นายเสียงดังมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วมีอะไรผิดปกติเหรอ?”
“ฉันไม่เป็นไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!”
“อย่างงั้นเหรอ…?”
แม่มดดูสงสัย แต่ไม่ได้ถามอะไรฉันเพิ่มเติม
“งานแถลงข่าวจะเริ่มในอีกห้านาที่นักข่าวอาจจะถามคําถามนายอย่างเมามันและชั้นที่ 21 จะเปิดให้เข้าในช่วงท้ายของงานแถลงข่าวเราจะตอบคําถามนักข่าวอย่างพอประมาณจากนั้นตรงไปที่ชั้นที่ 21 นายเข้าใจไหม?”
“ได้”
“ช่างเป็นคําตอบที่ยอดเยี่ยม…อย่ามาสายแล้วกัน”
ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอกประตูตึก ตึก ฉันดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาหลังจากที่ฉันตรวจสอบว่าเสียงเท้าของแม่มดอยู่ไกลออกไป
และจ้องมองใบดาบอย่างเงียบๆ
“โดยพื้นฐานแล้ว นอกจากความสามารถในการเปล่งแสงแล้วยังไม่มีอะไรที่คุณมีประโยชน์
[เทพธิดาแห่งการปกป้องกําลังประท้วงความคิดเห็นที่ลําเอียงของท่าน…]
“เอาล่ะ จากนี้ไปคุณไม่ใช่เทพธิดาแห่งการปกป้องฉันจะเรียกคุณว่าไชนี่มันโคตรเปล่าประโยชน์ที่คุณถูกเรียกว่าดาบศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อลองคิดดู กลุ่มดาวนี้โคตรน่าสมเพช!
ไม่ใช่ว่าเธอล้มเหลวในการปกป้องโลกของเธอและถูกปีศาจราชาแห่งห่าฝนกลืนกินหรือ?ในท้ายที่สุดฉันต้อง“ถือ”กลุ่มดาวนี้และปกป้องโลกของเธอเช่นเดียวกับวิญญาณอาฆาตกลุ่มดาวนี้ไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่จะโงหัวขึ้นมาเถียงกับฉัน
“และมันก็น่ารําคาญเกินไปหัวของฉันก็เต็มไปด้วยจักรพรรดิดาบคนนึงอยู่แล้วฉันคงเป็นบ้าแน่เพราะเธอเอาแต่ใช้ “เทพธิดาแห่งการปกป้อง” นั้น“เทพธิดาแห่งการปกป้อง”นี่! จากนี้ไปอย่าคุยกับฉันเว้นแต่เธอจะต้องพูดจริงๆ”
[เทพธิดาแห่งการปกป้อง…]
“โอ้โห! อย่าทําให้ฉันเอาเธอกลับไปที่อาณาจักรเอจิมเธอเข้าใจไหมไชนี่?”
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ
หลังจากนั้นครู่หนึ่งดาบศักดิ์สิทธิ์ก็สั่น
(นายท่าน ไชนี่เห็นด้วย]
ในขณะนี้เองที่ฉันได้รับกลุ่มดาวมาคร
งานแถลงข่าวจัดขึ้นที่จัตุรัส
ไม่เพียงแต่จัตุรัสกลางเมืองเท่านั้นแต่ยังมีตรอกซอกซอยมากมาย ฝูงชนที่ดูเหมือนว่าจะเกินหมื่นได้อย่างง่ายดายขณะที่เราเดินขึ้นไปบนเวทีที่ตั้งอยู่กลางจัตุรัสแสงแฟลชจากกล้องก็ส่องแสงวาบรอบๆตัวเรา
แม่มด เซียนดาบฉัน
พวกเราสามคนนั่งถัดกันที่โต๊ะที่จัดเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า
“ขอบคุณทุกท่านที่ต้อนรับเรา”
เป็นแม่มดที่พูดใส่ไมโครโฟนเมื่อเสียงที่ใจเย็นของแม่มดดังขึ้นเสียงเชียร์ก็ดังขึ้นจากมุมของจัตุรัส
“ท่านแม่มดมังกรดํา!”
“กรี้ดดดดด!”
“ช่วยมองทางนี้ที่ สักครั้งก็ยังดี!”
คนกลุ่มหนึ่งโบกป้ายไปรอบๆมีกระทั่งคนนําภาพปกนิตยสารที่แม่มดถ่ายแบบให้มาโบก
ค่อนข้างน่าทึ่งเลย
เป็นเพราะนักบุญหญิงยังไม่ปรากฏตัวหรือเปล่า? ในฐานะฮันเตอร์หญิงแม่มดมังกรดํากําลังได้รับความนิยมอย่างหาที่เปรียบมิได้
หลังจากก้มหัวเป็นการทักทายแม่มดก็เริ่มการแถลงข่าวด้วยความจริงจัง
“อย่างที่พวกคุณทราบกันดีว่าเราได้เคลียร์ชั้นที่ 10 ถึงชั้นที่ 20 แล้วนับเป็นความสําเร็จที่ยอดเยี่ยมตามที่สื่อต่างๆได้แพร่ภาพและแม้แต่สื่อขนาดเล็กๆก็ตามเราสงสัยว่าจะประกาศข่าวที่น่ายนดีนี้ได้อย่างไร…. แต่ดูเหมือนว่าเราไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากทุกคนได้โปรโมตมันเป็นอย่างดีใช่ถูกแล้วขอบคุณทุกคนมากที่ให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา”
มีเสียงหัวเราะเล็กน้อยจากสื่อมวลชนที่อยู่แถวหน้าเวที
“แต่มีอย่างอื่นที่เราภูมิใจในครั้งนี้มาก”
ทั้งจัตัสค่อยๆเงียบลง
[มันง่ายกว่าที่จะเข้าใจว่ากลุ่มดาวคือ“บางสิ่งที่เป็นตัวแทน”ของโลก]
ตัวแทนของโลก
[เทพธิดาแห่งการปกป้องพูดพึมพํา]
[เดิมที่ข้าเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการเคารพในฐานะเทพเจ้า แต่ผู้ก่อตั้งอาณาจักรเลฟานต้าเอจิม”ได้แยกตัวข้าออกเป็นดาบห้าเล่มและผนึกบ้าเอาไว้
[ท่านเป็นผู้ครอบครองดาบศักดิ์สิทธิ์เล่มแรกเลื่อมใส ]
ฉันขยี้ตา
“ชื่อดาบเลื่อมใสเหรอ?”
[ถูกต้อง]
จากนั้นเทพธิดาแห่งการปกป้องจึงไล่ชื่อดาบทั้งห้า
[ดาบเล่มแรก เลื่อมใส]
[ดาบเล่มที่สอง เวทนา]
[ดาบเล่มที่สาม ภาวนา]
[ดาบเล่มที่สี่ เสียสละ]
[ดาบเล่มที่ห้า ไถ่บาป]
[นี่คือดาบพี่น้องทั้งห้า]
[เทพธิดาแห่งการปกป้องคุยโวว่าถ้าท่านรวบรวมดาบพี่น้องทั้งหมดเธอจะได้รับพลังจากจุดสูงสุดของเธอกลับคืน
มา]
“โอ้ โห”
โดยสรุป ดาบที่ส่องแสงต่อหน้าฉันเป็นเพียงเศษเสี้ยวของดาบศักดิ์สิทธิ์
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต้องพบดาบอีกสี่เล่มเพื่อดึงพลังที่แท้จริงออกมาได้
“น่าสนใจ แล้วพี่ๆน้องๆดาบของคุณอยู่ไหน?”
เธอไม่ตอบ
ความเงียบที่น่าอึดอัดปรากฏขึ้นในห้องรอ
“ฮัลโหล? เทพธิดา? ฉันถามคุณว่าน้องๆของคุณอยู่ที่ไหน?”
ไม่มีเสียงตอบรับจากสายที่ท่านเรียก
ฉันหลี่ตาลง
“…อย่าบอกนะว่า แม้แต่คุณเองก็ไม่
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงงีมงํา
[เทพธิดาแห่งการปกป้องเคยทะเลาะกับลําดับที่ห้า]
“นั่นก็หมายความว่าคุณไม่รู้
[เทพธิดาแห่งการปกป้องให้เหตุผลว่าเธอรู้สึกได้ถึงตัวตนของดาบน้องสาวหากพวกเขาอยู่ใกล้ๆ]
ฉันยักไหล่
“อืม ฉันไม่รีบร้อนที่จะหาพวกเขาในตอนนี้อย่างไรก็ตาม คุณต้องมีพลังอย่างน้อยหนึ่งในห้าคุณดาบเลื่อมใสคุณทําอะไรได้บ้าง?”
[ข้าสามารถได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากพลเมืองของอาณาจักรเอจิม]
“ฉันรู้เรื่องนี้ดีกว่าใครๆ มีอะไรอีก ไหม?”
วิ่งงง!!!!
ราวกับว่าดาบศักดิ์สิทธิ์กําลังรอจังหวะนี้อยู่มันก็เปล่งแสงออกมาอย่างเต็มที่
“ว้ากกกก! ตาชั้น?! ตาช้านนนน?!”
ฉันกลิ้งไปรอบๆพื้นในขณะที่ปิดตา
ฉันได้ยินเสียงดาบศักดิ์สิทธิ์ดังก้องอยู่ในหัวของฉัน
[เทพธิดาแห่งการปกป้องอวดว่าเธอมั่นใจในการเปล่งแสง]
“ฉันเคยเห็นมาจนถึงจุดที่ฉันเอียนแล้วแน่นอนฉันรู้ดี!”
อะไรของมันวะ??? ฉันโชคดีที่ฉันปกป้องดวงตาของฉันด้วยออร่าในพริบตาฉันเกือบจะตายบอดไปแล้ว!
“ไม่ คุณทําอะไรได้อีกนอกจากการได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองของจักรวรรดิเอจิมและส่องแสง!”
เงียบนี่
แสงของดาบศักดิ์สิทธิ์ค่อยๆหรี่ลงในแง่ของมนุษย์มันเหมือนกับว่าเธอ พูดติดอ่าง
[ข้ามั่นใจในการจัดการมอนสเตอร์]
[เทพธิดาแห่งการปกป้องเสริมอย่างรีบร้อนว่ายังเธอมั่นใจในการจัดการกับมนุษย์ด้วยเช่นกัน]
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ท่ามกลางความเงียบขณะที่ฉันตกตะลึงมีคนมาเคาะประตูห้องรอ ฉันรีบเก็บดาบศักดิ์สิทธิ์จากมุมมองของคนอื่นฉันจะดูเหมือนคนบ้าถ้าเห็นฉันพูดกับ
ดาบ
“ใครน่ะ?”
“ฉันเอง”
ฉันสามารถได้ยินเสียงของแม่มดจากด้านนอกประตู
“นายเสียงดังมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วมีอะไรผิดปกติเหรอ?”
“ฉันไม่เป็นไร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!”
“อย่างงั้นเหรอ…?”
แม่มดดูสงสัย แต่ไม่ได้ถามอะไรฉันเพิ่มเติม
“งานแถลงข่าวจะเริ่มในอีกห้านาที่นักข่าวอาจจะถามคําถามนายอย่างเมามันและชั้นที่ 21 จะเปิดให้เข้าในช่วงท้ายของงานแถลงข่าวเราจะตอบคําถามนักข่าวอย่างพอประมาณจากนั้นตรงไปที่ ชั้นที่ 21 นายเข้าใจไหม?”
“ได้”
“ช่างเป็นคําตอบที่ยอดเยี่ยม…อย่ามาสายแล้วกัน”
ฉันได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอกประตูตึก ตึกฉันดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาหลังจากที่ฉันตรวจสอบว่าเสียงเท้าของแม่มดอยู่ไกลออกไป
และจ้องมองใบดาบอย่างเงียบๆ
“โดยพื้นฐานแล้ว นอกจากความสามารถในการเปล่งแสงแล้วยังไม่มีอะไรที่คุณมีประโยชน์
[เทพธิดาแห่งการปกป้องกําลังประ ท้วงความคิดเห็นที่ลําเอียงของท่าน…]
“เอาล่ะ จากนี้ไปคุณไม่ใช่เทพธิดาแห่งการปกป้องฉันจะเรียกคุณว่าไชนี่มันโคตรเปล่าประโยชน์ที่คุณถูกเรียกว่าดาบศักดิ์สิทธิ์!”
เมื่อลองคิดดู กลุ่มดาวนี้โคตรน่าสมเพช!
ไม่ใช่ว่าเธอล้มเหลวในการปกป้องโลกของเธอและถูกปีศาจราชาแห่งห่าฝนกลืนกินหรือ?ในท้ายที่สุดฉันต้อง“ถือ”กลุ่มดาวนี้และปกป้องโลกของเธอเช่นเดียวกับวิญญาณอาฆาตกลุ่มดาวนี้ไม่ได้อยู่ในตําแหน่งที่จะโงหัวขึ้นมาเถียงกับฉัน
“และมันก็น่ารําคาญเกินไปหัวของฉันก็เต็มไปด้วยจักรพรรดิดาบคนนึงอยู่แล้วฉันคงเป็นบ้าแน่เพราะเธอเอาแต่ใช้ “เทพธิดาแห่งการปกป้อง”นั้น“เทพธิดาแห่งการปกป้อง”นี่! จากนี้ไปอย่าคุยกับฉันเว้นแต่เธอจะต้องพูดจริงๆ”
[เทพธิดาแห่งการปกป้อง…]
“โอ้โห! อย่าทําให้ฉันเอาเธอกลับไปที่อาณาจักรเอจิมเธอเข้าใจไหมไชนี่?”
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ
หลังจากนั้นครู่หนึ่งดาบศักดิ์สิทธิ์ก็สั่น
(นายท่าน ไชนี่เห็นด้วย]
ในขณะนี้เองที่ฉันได้รับกลุ่มดาวมาคร
งานแถลงข่าวจัดขึ้นที่จัตุรัส
ไม่เพียงแต่จัตุรัสกลางเมืองเท่านั้นแต่ยังมีตรอกซอกซอยมากมาย ฝูงชนที่ดูเหมือนว่าจะเกินหมื่นได้อย่างง่ายดายขณะที่เราเดินขึ้นไปบนเวทีที่ตั้งอยู่กลางจัตุรัสแสงแฟลชจากกล้องก็ส่องแสงวาบรอบๆตัวเรา
แม่มด เซียนดาบ ฉัน
พวกเราสามคนนั่งถัดกันที่โต๊ะที่จัดเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า
“ขอบคุณทุกท่านที่ต้อนรับเรา”
เป็นแม่มดที่พูดใส่ไมโครโฟนเมื่อเสียงที่ใจเย็นของแม่มดดังขึ้นเสียงเชียร์ก็ดังขึ้นจากมุมของจัตุรัส
“ท่านแม่มดมังกรดํา!”
“กรี้ดดดดด!”
“ช่วยมองทางนี้ที่ สักครั้งก็ยังดี!”
คนกลุ่มหนึ่งโบกป้ายไปรอบๆมีกระทั่งคนนําภาพปกนิตยสารที่แม่มดถ่ายแบบให้มาโบก
ค่อนข้างน่าทึ่งเลย
เป็นเพราะนักบุญหญิงยังไม่ปรากฏตัวหรือเปล่า? ในฐานะฮันเตอร์หญิง แม่มดมังกรดํากําลังได้รับความนิยมอย่างหาที่เปรียบมิได้
หลังจากก้มหัวเป็นการทักทายแม่มดก็เริ่มการแถลงข่าวด้วยความจริงจัง
“อย่างที่พวกคุณทราบกันดีว่าเราได้เคลียร์ชั้นที่ 10 ถึงชั้นที่ 20 แล้วนับเป็นความสําเร็จที่ยอดเยี่ยมตามที่สื่อต่างๆได้แพร่ภาพและแม้แต่สื่อขนาดเล็กๆก็ตามเราสงสัยว่าจะประกาศข่าวที่น่ายดีนี้ได้อย่างไร…. แต่ดูเหมือนว่าเราไม่จําเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจา กทุกคนได้โปรโมตมันเป็นอย่างดีใช่ถูกแล้วขอบคุณทุกคนมากที่ให้เราประ หยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา”
มีเสียงหัวเราะเล็กน้อยจากสื่อมวลชนที่อยู่แถวหน้าเวที
“แต่มีอย่างอื่นที่เราภูมิใจในครั้งนี้มาก”
ทั้งจัตัสค่อยๆเงียบลง
“มันไม่ได้เกี่ยวกับความจริงที่ว่าชั้นที่ 10 ที่เราอยากจะเคลียร์มาหลายปีในที่สุดก็เป็นจริงและมันก็ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เราเคลียร์ขึ้นไปที่ชั้น 20 ด้วยความเร็วที่ไม่คาดคิดจํานวนผู้เสียชีวิตที่เป็นศูนย์ความจริงที่ว่าไม่มีใครสักคนที่เสียชีวิต…จากทุกสิ่งนี่คือสิ่งที่ทําให้เรามีความสุขมากที่สุด”
หลังจากอารมณ์ขันเล็กน้อยเธอก็แสดงความรู้สึกที่จริงใจ
แม้กระทั่งสําหรับฉันซึ่งเป็นคนนอกฉันก็เห็นได้ว่าแม่มดมังกรดําเป็นน้ําการแถลงข่าวด้วยคําพูดของเธออย่างเชียวชาญ
อย่างที่คิดไว้เธอต้องอยู่ในระดับนี้เพื่อเป็นหัวหน้ากิลด์ที่ใหญ่ที่สุด”
ฉันสงสัยว่าเธอเป็นคนเดียวกับที่แต่งตัวฉันเมื่อวานและทําตัวเหมือนคนองๆจริงๆหรือเปล่า
“ทุกท่าน โปรดมองลงข้างล่างไปสักครู”
แม่มดพูด
“มองไปที่พื้นของจัตุรัสในบาบิโลนที่ที่ทุกท่านกําลังเหยียบอยู่ ทุกท่านจะสา มารถเห็นหินแต่ละก้อนที่สลักชื่อเอาไว้ชื่อของนักรบที่ล้มตายเมื่อนานมาแล้วชื่อพี่น้องของพวกเราที่อุทิศชีวิตเพื่อเคลียร์หอคอย”
กล้องของคณะสื่อมวลชนถ่ายลงที่พื้นโดยพร้อมเพรียงกัน
“ตอนที่เราเหรดปที่ชั้นที่ 2 เมื่อเราเหรดไปถึงชั้นที่ 3 ก็มีการสลักชื่อนับไม่ถ้วนบนพื้นเป็นเพราะการเสียสละของพวกเขาที่ทําให้เราอยู่ที่นี่ได้ในวันนี้ต่อหน้าคนเหล่านี้ทั้งหมด… ฉันดีใจมากที่ได้ประกาศเรื่องนี้”
เสียงของแม่มดดังก้องไปทั่วทั้งจัตุรัส
“วันนี้เราไม่ได้สลักชื่อใครไว้ที่บนจัตุรัสนี้”
แชะ! แชะ!
ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพสลับกันระหว่างกระเบื้องบนพื้นจัตุรัสกับแม่มด สิ่งนี้จะเป็นตัวกําหนดรูปถ่ายที่จะตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์และยังตัดสินบรรยากาศและอารมณ์ของการแถลงข่าวในวันนี้ด้วยฝูง ชนตะโกนชื่อแม่มดและโห่ร้อง
“มันไม่จําเป็นต้องให้ฉันเข้าไปยุ่งด้วยซ้ํา
ฉันเฝ้าดูการแถลงข่าวด้วยใบหน้าที่ได้ความรู้สึก
ฉันรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างไม่มีเหตุผล
“อย่างที่คิด เลือกคนให้เหมาะสมกับงานเป็นสิ่งสําคัญจริงๆ”
เมื่อรู้สึกสบายใจฉันก็จ้องไปบนฟ้า
[01:22:10]
มันเหมือนกับตอนที่ชั้น 11 ถูกเปิดออกแม้ตอนนี้จะมีนาฬิกาสว่างอยู่บนท์องฟ้าเมื่อตัวเลขระบุ 00: 00: 00 ชั้นที่ 21ก็จะเปิดออก
ฉันแทบรอไม่ไหวแล้วที่จะจบงานแถลงข่าวและไปที่ชั้น 21 …
ขณะที่การแถลงข่าวดําเนินไปอย่างราบรื่น
ระหว่างช่วงถามคําถามของผู้สื่อข่าวและคําตอบของแม่มด
“ผมผู้สื่อข่าว จอห์น อีแวนส์จากบาบิโลนเดลินิวส์!”
นักข่าวผุดลุกขึ้นยืน
“ผมมีคําถามเกี่ยวกับราชาแห่งความตายอันดับที่ 3 คนใหม่”
“ฮะ? ฉันเหรอ?”
ฉันจ้องไปที่นักข่าว
สายตาของผู้คนที่มารวมตัวกันในจัตุรัสก็มองมาที่ฉันเช่นกัน
“มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับการเพิ่มอันดับอย่างกะทันหันของคุณ คุณราชาแห่งความตายโดยเฉพาะการคาดเดาว่าคุณเป็น [อภิมหารุกกี้ที่กิลด์ใหญ่แอบเลี้ยงมานานแล้ว]ซึ่งมันฟังดูน่าเชื่ออย่างยิ่ง!”
“เอ่อ…”
“ถ้านั่นเป็นเรื่องจริงก็คงหมายความว่าคุณราชาแห่งความตายคุณเป็นฮีโร่ที่กิลด์ใหญ่สร้างขึ้นโดยเจตนาคุณคิดอ ย่างไรกับข้อสงสัยเหล่านี้?”
ฮือฮา
มีความวุ่นวายเกิดขึ้นที่จัตุรัส
“นอกจากนี้ยังมีหลายเสียงแสดงความกังวลว่ากิลด์ชั้นนําอาจรวมตัวกันและผูกขาดชั้นที่ 10 ถึงชั้นที่ 20 โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมได้ยินมาว่าคุณราชาแห่งความตายได้รับสิทธิพิเศษในชั้น 20! จริงมั้ยครับ!”
ความปั่นป่วนถูกกระตุ้นมากยิ่งขึ้น
แม่มดที่นั่งข้างๆฉันไม่มีสีหน้า แต่เธอเคาะลิ้นของเธอเบาๆจนมีเพียงฉันเท่านั้นที่ได้ยินเธอปิดไมโครโฟนและพึมพํา
“เขาพยายามยั่วยุนายอย่าตอบเขาฉันจะจัดการเอง”
“ไม่”
ฉันส่ายหัว
“คนประเภทนี้จะโผล่ออกมาเรื่อยๆฉันจะต้องทําให้ตัวเองชัดเจนอย่างน้อยสักหนึ่งครั้ง”
“แต่…”
“ไม่เป็นไรน่ะ”
ฉันเอื้อมมือไปหาแม่มด
“ช่วยส่งไมโครโฟนให้ฉันที
ความมุ่งมั่นของฉันแน่วแน่
ก่อนปืนขึ้นไปชั้น 21ฉันต้องแน่ใจว่าต้องกําจัดการยั่วยุพวกนี้ให้หมดไป
MANGA DISCUSSION