นิยาย SSS-Class Suicide Hunter SSSH ตอนที่ 52: สรวงสวรรค์หลังจุดจบ (3) Part 2
SSSH ตอนที่ 52: สรวงสวรรค์หลัง จุดจบ (3) Part 2
ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว พระอาทิตย์ก็ตกดินแล้ว
ตามสิ่งที่แม่มดแนะนําเรา เราก็ไปที่หลังคาแล้ววิ่ง เมื่อมองลงมาจากด้านบนยังคงมีผู้คนหลายร้อยคนมาเบียดเสียดกันที่หน้าร้านกาแฟ มีผู้สื่อข่าวจํานวนมากจากสถานีวิทยุกระจายเสียงอยู่ที่นั่นด้วย
“เราคงมีปัญหาแน่ๆถ้าออกไปทางประตูหน้า!
เรากระโดดข้ามหลังคาสีแดงเลือดหมู
สถานที่ที่เราแวะนั่นคือหอระฆังที่สร้างขึ้นในจัตุรัส
ยามที่เฝ้าหอระฆังกําลังเล่นสมาร์ทโฟนและใช้เวลาอยู่นานกว่าจะจําเราได้
“อึกก! ซะ คุณเซียนดาบ!”
“อือฮือ”
เซียนดาบร่อนลงที่หอระฆังอย่างง่ายดาย
“ฉันขอโทษที แต่เราขอเวลาส่วนตัวสักครู่ได้ไหม”
“อ่า มันก็…นั่นมัน…”
“ห้านาทีก็พอแล้ว”
ยามหนุ่มลุกลี้ลุกลน เขาต้องผงะเมื่อตํานานที่ยังมีชีวิตขอร้องเขา จากนั้นตาของเราก็สบกัน ตาของยามก็เบิกกว้าง
“คุณน่าจะเป็นราชาแห่งความตาย!?”
“เอ่อ ใช่ครับ”
“อุ้ว ว้าว! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เจอ คุณด้วยตัวเอง ว้าว! เจ๋งเป็นบ้า!”
ยามลนลานค้นกระเป๋าของเขา นิยายรักโผล่ออกมาจากกระเป๋า ดูเหมือนว่า เขาจะนําสิ่งของบางอย่างมาเพื่อฆ่าเวลาเมื่อเขาอยู่ในเวรยาม
“นี่ นี่คือกระดาษแผ่นเดียวที่ผมมีใน ตอนนี้! ผมขอลายเซ็นของคุณได้ไหม?”
เซียนดาบหยิบหนังสือนิยายราวกับว่า เขาคุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้
“เธอมีปากกาไหม?”
“น่ะ-นี่ครับ!”
“เธอชื่ออะไร?”
“เอ่อ ผมยังไม่ได้มีฉายาเลยครับ…!”
นักดาบชราเซ็นชื่อด้วยการตวัดปากกา ย่างประณีต
ยามหยิบลายเซ็นเหมือนเด็กไร้เดียงสาแล้วหันกลับมามองที่ฉัน
ฉันไม่รู้ว่าทําไม แต่ดวงตาของเขาเป็นประกายมาก
“รา- ราชาแห่งความตาย ผมขอลายเซ็นของคุณด้วยครับ!”
“เอ่อ”
ลายเซ็นของฉัน?
“ฉันไม่เคยเซ็นอะไรมาก่อน…”
“มันเป็นความปรารถนาตลอดชีวิตของผม! ได้โปรดด้วย!”
ด้วยความงุนงง ฉันได้รับปากกาและหนังสือนิยาย
ความปรารถนาตลอดชีวิตขาคือลายเซ็นของฉัน? ชีวิตของเขาเรียบง่ายแค่ไหน?
รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย ฉันวางหนังสือ นิยายลงลายเซ็นของเซียนดาบถูกเขียนไว้ที่นั่นแล้ว ในขณะที่ฉันพยายามเขียนลายเซ็นด้วยปากกา จู่ๆฉันก็รู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเขียนชื่อ “ราชาแห่งความตาย”
ก่อนที่ฉันจะรู้ตัว ลายเซ็นของเซียนดาบและของฉันก็อยู่ข้างกัน
เซียนดาบ
ราชาแห่งความตาย
“ขะ – ขอบคุณครับ! ขอบคุณมากๆ ครับ!”
ยามก้มหัวหลัง กลัวว่าลายเซ็นอาจหายไป ยามรีบเก็บเอานิยายคืนไป
เมื่อยามหยิบนิยายขึ้นมา ฉันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ และมันก็ยาก สําหรับฉันที่จะระบุได้ว่ามันรู้สึกอย่างไร
“ขอโทษที…”
“ผมจะยกย่องให้มันเป็นมรดกตกทอดของครอบครัว! ไม่ต้องกังวล! ผมจะไม่ขายให้ใครแน่ๆ! โอ้ขอบคุณทั้งสองมาก! ขอให้มีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ครับ!”
ยามรีบเดินลงไปตามขั้นบันไดของหอระฆัง เขาพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เย้ เย้! ช่างเป็นวันที่โชคดีจริงๆ!” และเสียงตื่นเต้นของเขาก็ค่อยๆเบาลง
เมื่อเสียงนั้นหายไป ในที่สุดก็สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์สีแดงเข้มคล้ายจุดที่กําลังตกดินได้จากหอระฆัง
และมีเพียงเสียงหายใจที่เงียบงันของทั้งคนสองเท่านั้นที่ยังคงอยู่
เราทั้งคู่เงียบไปพักใหญ่
แล้วจากนั้น…
“เอ่อ คุณเซียนดาบ”
“เฮ้ พ่อหนุ่ม”
คําพูดของเซียนดาบและคําพูดของฉันสวนกันและจางหายไป มันกลายเป็ แบบนั้นเพราะเราทั้งคู่พูดพร้อมกัน
ความเงียบที่น่าอึดอัด แต่ก็อยู่ได้ไม่นานฉันพูด
“คุณเซียนดาบ สําหรับคุณแล้วมันต้องดูเหมือนว่าผมได้ฆ่าคนจํานวนมหาศาล ฆาตกรหมู่ที่ต้องถูกลงโทษ”
ฉันมองไปที่เซียนดาบด้วยใบหน้าที่สงบ
“แต่ถ้าคุณมองในกระจก คุณจะเห็นฆาตกรที่ฆ่าคนมาแล้วมากมาย คนนั้น คือคุณ คุณเซียนดาบ”
เซียนดาบกําลังมองดูพระอาทิตย์ตกไม่ได้มองที่ฉัน
“แต่คุณเซียนดาบ คุณจะไม่ลงโทษตัวเองสําหรับเรื่องนั้น นี่เป็นเพราะคุณมีบรรทัดฐานชัดเจนในการฆ่าคน และบรรทัดฐานที่ว่าคือ [ลงโทษคนที่ทําร้ายคนจํานวนมาก”
ในขณะที่แสงอาทิตย์ยามสนธยาสาดส่อง ฉันก็ยังพูดต่อไป
“ผมก็มีบรรทัดฐานที่ชัดเจนด้วยและ นั่นคือเหตุผลที่ผมทําในสิ่งที่ผมทํา และ บรรทัดฐานคือ ลงโทษคนที่ทําร้ายคนจํานวนมาก”
นี่คือสิ่งที่ฉันเตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนที่ฉันโกหกเซียนดาบว่าฉันเป็นนักทํานาย
“ถ้าคุณเซียนดาบจะฆ่าใครสักคน เพราะพวกเขาฆ่าคนมามากมายก่อนหน้านี้ ผมก็ฆ่าคนก่อนที่พวกเขาจะฆ่าคนอื่นๆอีกมากมาย”
มันเป็นเรื่องโกหกที่พิถีพิถันที่ฉันเตรียมไว้เป็นพิเศษสําหรับเซียนดาบ
“ดังนั้นคุณเซียนดาบ คุณและผมกําลังเดินบนเส้นทางเดียวกัน……”
“พ่อหนุ่ม”
แต่ก่อนที่ฉันจะโกหกเสร็จ ชายชราก็เรียกฉันเบาๆ
“เธอไม่จําเป็นต้องพยายามพิสูจน์ตัวเองแบบนั้น”
“คุณเซียนดาบ ผม…”
“พ่อหนุ่ม”
ฉันปิดปากขณะที่เขาเรียกฉันด้วยเสียงทุ่มๆของเขา
ในขณะที่จ้องมองพระอาทิตย์ตก ชายชราก็พูดพึมพํา
“ฉันแตกต่างจากฮันเตอร์คนอื่นๆ”
แวบแรกคําพูดนั้นดูเหมือนจะพูดออกมาโดยไม่มีปีไม่มีขลุ่ย
“แม่มดมังกรดํา เคาท์ นักถามนอกรีต พญาอสรพิษ ครูเซเดอร์…พวกเขาทุกคนเป็นเด็กที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากโลกภายนอก แต่ฉันแตกต่างออกไป ฉั เกิดมาโดยไม่อดอยากและอยู่ได้โดยไม่ขาดตกบกพร่อง”
มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่
ฉันรู้ว่าชายชราตรงหน้าฉันมาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียง แทนที่จะเรียกว่ารู้ฉันได้ตรวจสอบเขาอย่างเต็มรูปแบบในฐานะศัตรูและเงยหน้าขึ้นมองเขา พวกเขาบอกว่าเขามาจากครอบครัวที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับการยอมรับทั่วทั้งยุโรปเหนือ
“เมื่อหอคอยปรากฏขึ้นในโลก ฉันได้สร้างครอบครัวของตัวเองไปแล้ว ฉันทํางาน ในบริษัท ฉันแต่งงานมีลูก ฉันเคยเห็นลูกๆของฉันมีหลานชายและหลานสาว ฉันประสบความสําเร็จมามากพอแล้ว”
เสียงของเซียนดาบสงบลง
“แต่ฉันสงสัย”
“คุณหมายถึงอะไรที่ว่าสงสัย?”
“ความสําเร็จของฉันทั้งหมดเกิดจากความสามารถของฉันหรือเปล่า? จู่ๆฉันก็รู้สึกสงสัย”
ชายชราค่อยๆดึงดาบออกจากฝักดาบ
“ไม่ใช่เพราะฉันเกิดมาในครอบครัวที่ดีหรอกหรือ?”
พระอาทิตย์ที่กําลังตกได้สาดแสง
ดาบเป็นสีแดงเข้มแม้ว่ามันจะไม่ได้ตัดอะไรเลย
“ไม่ใช่เพียงเพราะฉันเป็น “นก” ที่เกิดมาในครอบครัวที่ดี ได้รับการศึกษาที่ดี พบเพื่อนที่ดีและเติบโตมาโดยการดื่มสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นหรือ? ฉันภูมิใจกับความจริงที่ว่าฉันทําทุกอย่างสําเร็จด้วยตัวเอง… แต่บางทีมันอาจจะเป็นเพียงความเข้าใจผิดของใครบางคนที่ติดอยู่ในกรงนก”
เซียนดาบอธิบาย
“ไม่ มันไม่ใช่อย่างนั้น”
มันเป็นเสียงที่แหลมคมราวกับใบมีด
“นั่นเป็นไปไม่ได้”
“ฉันแน่ใจว่าฉันเกิดมาพร้อมกับสิ่งที่ดี อย่างไรก็ตาม ฉันต้องการที่จะยืนหยัด และภาคภูมิใจด้วยตัวเอง ฉันต้องการพิสูจน์ว่าความภาคภูมิใจของฉันไม่ใช่ความหลงผิด”
“ นั่นคือเหตุผลที่คุณมาที่หอคอย”
“ใช่”
ชายชราพยักหน้า
ริ้วรอยของเขาลึกและหนา
“ผู้ที่เข้ามาในหอคอยจะไม่สามารถกลับไปสู่โลกภายนอกได้ มีเพียงร่างกายของฉัน ในสถานที่นี้ไม่มีตระกูลที่มีชื่อเสียง ไม่มีครอบครัวและไม่มีผู้ช่วยที่สนับสนุนฉัน…ฉันต้องการพิสูจน์วิถีชีวิตของฉันด้วยร่างกายของฉันเอง”
อย่างไรก็ตาม เซียนดาบยังบ่นต่อไป
“ดูเหมือนว่าฉันจะปล่อยการ์ดลงโดยไม่รู้ตัว”
“เปิดสกิลการ์ด เปิดเผย”
ชิ้ง!
การ์ดสีเงินลอยออกมาจากมือของเซียนดาบ
[ญาณนักสืบ]
แรงก์: B
เอฟเฟค: คุณสามารถดูจํานวนการฆ่าของฝ่ายตรงข้ามได้ ยังไม่รวมถึงการฆาตกรรมทางอ้อม จะนับเฉพาะการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นโดยมีเจตนาที่ชัดเจนเท่านั้น
อย่างไรก็ตามคุณไม่สามารถรู้วิธีการฆ่าได้
“ฉันมันโง่เขลา”
เซียนดาบหงายสกิลการ์ดของเขา
“ฉันจะเชื่อใจแค่สายตาและมือของตัวเอง แต่…ก่อนที่ฉันจะรู้ ฉันพึ่ง [สกิล] ฉันเห็นมันผ่านทักษะมากกว่าผ่านสายตาของฉันเองและฉันมีความเชื่ออย่างมืดมนในการตัดสินของสกิลนั้นมากกว่า การตัดสินของฉันเอง”
จากนั้น
“พ่อหนุ่ม ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย”
ดวงตาสีฟ้าของชายชราหันมามองที่ฉัน
“เธอเคยฆ่าคนบริสุทธิ์แม้แต่คนเดียวหรือเปล่า”
นั่นเป็นเหตุผลที่เขาบอกว่าฉันไม่จําเป็นต้องพยายามพิสูจน์ตัวเอง ฉันมั่นใจ
ใช่ การแก้ต่างโดยใช้ “หัว” ของตัวเองเหมือนที่ฉันเคยทําไป
ไม่ว่าเรื่องโกหกอาจจะซับซ้อนแค่ไหนก็แค่หลอกความคิดของใครบางคนไม่ใช่เพื่อเอาชนะใจพวกเขา
“ไม่”
การโน้มน้าวใจและไม่ใช่ความไว้เนื้อ ชื่อใจ
“ผมไม่เคยทําแบบนั้น คุณเซียนดาบ”
ฉันพูดอย่างจริงใจ
“ในอนาคตผมก็จะไม่ทําแบบนั้นเด็ดขาด”
เซียนดาบหลับตาลงอย่างแผ่วเบา
ราวกับว่าเขากําลังวิเคราะห์สีหน้าและน้ําเสียงของฉัน
ความเงียบอันยาวนานผ่านไปและ
“ฮึบ!”
การ์ดก็ลอยขึ้นมา
การ์ดที่ลอยไปในอากาศถูกตัดด้วยใบมีดสีแดงสด
การ์ดขาดออกเป็นสองส่วน
แสงสีทองจากพระอาทิตย์ทะลุผ่านช่องว่างที่ถูกตัด
“ฉันเชื่อในสายตาของฉัน”
จากนั้นไม่นานการ์ดก็กลายเป็นละอองแสงและสลายไป
สกิลนั้นถูกทําลาย
“เธอมีช่วงเวลาที่ยากลําบากในช่วงห้าวันที่ผ่านมา ขอบคุณที่ยอมทําตามความดื้อรั้นของชายชราคนนี้”
เซียนดาบเก็บดาบของเขา
“มันอาจช้าไปหน่อยที่จะบอกเธอตอนนี้ แต่มันเป็นประสบการณ์ที่น่ายินดีที่ได้เห็นเธอทะลวงชั้นที่ 12 ถึงชั้นที่ 19 วันนี้พักผ่อนให้ดี เมื่องานแถลงข่าวจบลงในวันพรุ่งนี้ชั้นที่ 21 จะเปิดทันทีหลังจากนั้น”
ชายชรากระทืบเท้าลงบนพื้น
ก่อนที่จะกระโดดขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารอื่น เขาเหลือบมองมาที่ฉัน
“ฉันหวังว่าจะได้เห็นเธอแสดงฝีมือ ในชั้นถัดไปราชาแห่งความตาย”
และในพริบตา เขาก็อยู่ห่างจากหอ
ระฆังพอสมควร
เป็นเวลานานที่ฉันยืนเหม่อลอย
ฉันเปิดปากอย่างไม่เต็มใจ
“จักรพรรดิดาบ เมื่อกี้มัน…”
– เอ่ออออ
“เมื่อกี้ เซียนดาบยอมรับฉันแล้วใช่ไหม?”
– ฉันคิดว่านะ
ฉันโล่งอก
“ฮ่าาาาาาาาา…….
เข่าของฉันไม่มีแรงและฉันก็ค่อยๆนั่งลง พื้นที่ทําจากหินนั้นเย็นยะเยือก ฉันจ้องมองท้องฟ้าสีแดงที่ค่อยๆจางหายไปและเริ่มมืดลง
“ว้าว มันจบแล้ว…มันจบลงแล้วจริงๆ ตอนนี้ชั้นที่ 20 ก็เป็นของฉันเหมือนกัน และพวกกิลด์มาสเตอร์จะดูแลเรื่องสือ… ใช่ มันจบลงแล้วจริงๆ”
หัวเราะคิกคัก
– นายหมายความว่าอะไรที่จบ? คนอื่นอาจจะคิดว่านายเพิ่งเคลียร์ชั้น 50 หรือชั้นอื่นๆเอาได้นะ
“จากสิ่งที่ฉันรู้สึก ตอนนี้เหมือนกับว่าฉันเพิ่งเคลียร์ชั้นที่ 90 ไป”
– ชิ ชิ ชิ ซอมบี้บางครั้งฉันก็สับสนว่า นายนี่ใจเย็นเหมือนน้ําแข็งหรือนายเป็นแค่คนขี้ขลาดกันแน่
“อันที่จริง บางครั้งฉันก็สับสนเหมือนกัน….”
อย่างไรก็ตาม ฉันก็สรุปทุกอย่างที่ทําเอาไว้จนถึงชั้น 20
เมื่อฉันนึกย้อนถึงสิ่งที่ฉันทําลงไป ฉันก็รู้สึกอิ่มเอมใจแปลกๆ
[เทพธิดาแห่งการปกป้องประทับใจในความสําเร็จของท่าน!]
เสียงที่ไม่เคยได้ยินมาพักใหญ่ดังขึ้น
“ฮะ?”
เมื่อมาลองคิดดู
แม้จะเอาชนะราชาปีศาจแห่งห่าฝนมาได้ แต่เทพธิดาแห่งการปกป้องก็ยังคงนิ่งเงียบ ไม่ ยกเว้นตอนที่ฉันผ่านชั้นที่ 12 เป็นครั้งแรก เทพธิดาแห่งการปกป้องก็เงียบมาตลอดเวลา
[เทพธิดาแห่งการปกป้องรับรู้ความสําเร็จทั้งหมดของท่าน!]
ราวกับกําลังระบายทุกสิ่งที่เธออยาก จะพูดออกมาทั้งหมดในขณะที่เงียบอยู่ตลอดเวลาเสียงต่างๆดังออกมาเรื่อยๆ
[เทพธิดาแห่งการปกป้องสรุปว่า แม้ว่าท่านจะโกหกว่าเป็นอัครสาวกของเทพธิดาแต่ในความเป็นจริงท่านก็มีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นอัครสาวก
[เทพธิดาแห่งการปกป้องอนุญาตให้ท่านใช้ชื่อของเธอได้ในอนาคต!]
แต่มีบางอย่างแปลกๆเกี่ยวกับคําพูดของเธอ
“…คุณหมายถึงอะไรที่ว่าใช้ชื่อของคุณในอนาคต? นั่นหมายความว่าอย่างไร?”
[เทพธิดาแห่งการปกป้องเจ็บปวดจากคําพูดของท่าน เนื่องจากพวกเราทํางา ร่วมมือกันได้ดีจนถึงตอนนี้]
มันกลายเป็นไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เราร่วมมือกันได้ดีจนถึงตอนนี้?”
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขอให้ท่านมองลงไปข้างล่าง]
ฉันก้มมองลงไป
ไม่มีอะไรเลยนอกจากพื้นหิน
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขอให้ท่านมองไปทางซ้ายอีกหน่อย]
ฉันเลื่อนสายตาไปทางซ้าย
ทางนั้น ขาและเอวของฉันอยู่ตรงนั้น
ที่เอวของฉันมีอาวุธในตํานานที่เทพธิดา
ดามอบให้แก่จักรพรรดิผู้ก่อตั้งอาณาจักรเอจิม กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งการปกป้องของเลฟานต้า เอจิมซึ่งอยู่ในฝักดาบ
“เดี๋ยวก่อน อย่าบอกนะว่า?”
[เทพธิดาแห่งการปกป้องขอแนะนําให้ คณสนใจไปที่เอวของท่าน]
ฉันรู้สึกแปลกๆ
ฉันนึกถึงฉากที่ฉันกําลังต่อสู้กับกองทัพของราชาปีศาจที่ชั้น 12
ในเวลานั้น ฉันแน่ใจว่ามีเสียงที่ระบุว่าเทพธิดาแห่งการปกป้องกําลังเค้นพลังเฮือกสุดท้ายของเธอ ทันทีที่คําพูดจบลง แสงสีขาวก็พุ่งออกมาจากบางสิ่งที่ฉันถืออยู่
หลังจากนั้นก็ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆเกิดขึ้น
“ไม่ เดี๋ยวก่อน อย่าบอกนะว่า [เทพธิดาแห่งการปกป้อง] ที่ถูกกพูดถึงเป็นครั้งคราวในการต่อสู้กับราชาปีศาจคือ…”
ฉันพูดด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“คุณ…คุณเป็น “ดาบ เหรอ?”
หลังจากนั้นไม่นาน
เสียงนั้นก็ตอบ
[เทพธิดาแห่งการปกป้องยืนยันคําถามของท่านแล้ว!]
โอ้ พระเจ้า
เมื่อมาคิดว่าดาบศักดิ์สิทธิ์แห่งการปกป้องที่ฉันใช้มาตั้งนานนี่เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
MANGA DISCUSSION