Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 362 การปะทะกันในตรอกมืด
ตอนที่ 362 การปะทะกันในตรอกมืด
เสียงปืนดังลั่นทั่วบริเวณ
ไป๋เหยียนรีบไปที่ประตู เขาโบกมือตะโกนทันที “อย่าให้หนีไปได้ ฆ่ามัน!”
“ครับ!”
“ครับ!
หลังจากได้ยินคําสั่งพวกลูกน้องจึงยกปืนขึ้นยิง เพียงพริบตาเดียวพวกเขาก็กระหน่ํายิงกันทุกคน
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ฉวีหยางรีบวิ่งจากด้านหลังและผลักไปเหยียนออกไป “นายกําลังทําบ้าอะไรวะ! ลูกเมียฉันยังคงอยู่ข้างในนั่นนะ!”
ไป๋เหยียนหันไปถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เป๊ยเตอหยงกําลังจะหนี้ไปแล้ว คิดว่าเขาจะปล่อยให้ลูกเมียนายรอดเหรอ? ห้ะ?!”
หลังจากพูดจบไปเหยียนก็ผลักฉวีหยางกลับ พลางตะโกนเสียงแข็ง “เข้าไปซะ!”
“ปัง!”
เปียเตอหยงพิงแผงประตู ยิงปืนสองสามนัดใส่ศัตรู ก่อนล็อกคอภรรยาของฉวีหยางเดินลากเข้าไปในบ้าน “มานี่!”
ลูกน้องหนุ่มรีบเขามาขวางศัตรู ดึงปืนลูกซองแฝดออกมาด้วยความตื่นตระหนก ก่อนตะโกนด้วยเสียงสั่นเทา “อย่าเข้ามา ถ้าใครก้าวขาเข้ามาละก็ ฉะ…ฉันจะระเบิดหัวมัน!”
“อย่ายืนนิ่งสิโว้ย!” เสี่ยวจิ๋วมองท่าทางอีกฝ่ายก่อนตะโกนใส่ลูกน้องเสียงแข็ง “หลบไป!”
เสี่ยวจิ๋วยกปืนขึ้นวางบนแขนอีกข้างก่อนเหนี่ยวไก
“บูม!”
เสียงลูกซองดังลั่น อีกฝ่ายกระเด็นเหมือนกับโดนลมพัดปลิวออกไปทันที และหัวก็ระเบิดออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นนน้อยน่าสยดสยอง
เลือดกระจายกลางอากาศ หัวอีกฝ่ายหายไปแต่ร่างกายยังคงดิ้นพล่านไปมาอยู่ครู่หนึ่งก็จะแน่นิ่งไปกับพื้น
ทุกคนตะลึงอยู่นานก่อนที่เสียงตะโกนของไปเหยียนจะดังขึ้นอีกครั้ง “ไล่ฆ่าพวกมันซะ!”
“ไป!” เสี่ยวจิ๋วก็ตะโกนด้วยเสียงคําราม
หลังได้ยินคําสั่งทุกคนจึงวิ่งไปที่ห้อง
ภายในบ้าน เปุ๋ยเตอหยงคลายคอภรรยาของฉวีหยางก่อนเอื้อมมือไปคว้าเด็กชายอายุสิบขวบพลางตะโกน “ถ้าตามฉันมา ฉันจะฆ่าลูกแกทันที!”
หลังจากพูดจบเปียเตอหยงก็ยิงหลอดไฟในอาคารทั้งหมด เตะประตูหลังด้วยเท้าข้างเดียว และวิ่งหนีออกไปพร้อมกับเด็ก
ภรรยาของฉวีหยางอดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่องลูกชายเธอก็ทําได้เพียงเดินตามไป
นอกบ้าน หลังจากที่ไป๋เหยียนรีบเข้าไปในบ้าน เขาหันกลับมาเห็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ คุกเข่าอยู่ทางด้านขวา เขาตัวสั่น “ผะ..ผมยอมแล้วครับ…นี่ปืนผม!”
“ปัง!”
ไปเหยียนยกปืนขึ้นยิงออกไปโดยไม่แสดงความเห็นอกเห็นใจหรือลังเลเลย ทําให้ฝ่ายตรงข้ามล้มลงกับพื้นทันที
ด้านหลัง เสี่ยวจิ๋วเห็นว่าไปเหยียนยิงอย่างเด็ดขาดเขาจึงประหลาดใจ เพราะพวกเขาไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อีกทั้งไป๋เหยียนคนนี้ก็ให้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกับผู้คนเสมอ แต่เขากลับยิงคนอย่างไร้ความปรานีแบบนั้น
ไปเหยียนดึงสลักลูกซองสั้นพลางตะโกนเสียงดัง “เร็วเข้า ตามไป!”
ภายในซอยทางเข้าหลัก
หยวนเค่อกําลังสูบบุหรี่ ขมวดคิ้วมองออกไปนอกหน้าต่าง ก่อนตัดสินใจเขาโทรไปหาไป์
“ฮัลโหล?!”
“ฉันตัดสินใจเรื่องเฒ่าเบี้ยได้แล้ว…นายจะทําอะไรก็ท่าเลย”
“เขาไม่ควรอยู่ต่อไป และนายก็ควรจะฟังฉันตั้งนานแล้ว อย่าไปเสียแรงกับย่านพื้นทมิฬอีกเลย!” ชายวัยกลางคนพูดด้วยเสียงทุ่มต่า “ฉันจะจัดการให้เร็วที่สุด แล้วเรามาคุยกัน”
“โอเค”
“แค่นี้นะ” อีกฝ่ายวางสายทันที
ที่ประตูด้านหลัง
เปียเตอหยงหมดหนทางจะหนี้แล้ว แสดงให้เห็นถึงด้านชั่วร้ายที่สุดของเขา เขายืนอยู่นอกกำแพงและยังไม่วิ่งหนีทันที เขารอให้อีกฝ่ายเข้าใกล้ก่อนตะโกน “ฉวีหยาง! ดูสิว่านี้คือใคร? มาสิ…ยิงเลย!”
หลังจากพูดจบเป่ยเตอหยงก็ยื่นศีรษะเด็กชายออกมา
ฉวีหยางตัวนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตะโกนพลางกําหมัดแน่น “พี่เปี่ย! ให้ตายสิวะ…พี่ไม่คิดถึงหัวอกคนเป็นพ่อเลยเหรอ?”
“ถ้าฉันตาย การมีลูกจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? และเด็กคนนี้ไม่ใช่ว่ามันเกิดมาโดยไม่ได้ตั้งใจหรอกเรอะ?!” ดวงตาของเปียเตอหยงแดงก๋า “ถ้าไล่ตามมา ฉันจะฆ่าเขาซะ!”
“คิดว่าทําแบบนี้แล้วจะรอดไปได้เหรอวะ!” ไป๋เหยียนรีบพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกระชับปืนในมือ แน่น “ไอ้ชั่ว ฉันจะฆ่าแกเอง!”
“หยุดนะ!” ฉวีหยางคํารามขณะคว้าแขนไป๋เหยียนไว้ “ลูกกับเมียฉันยังอยู่ตรงนั้น! ถ้านายทำให้พวกเขาตายฉันจะฆ่านาย!”
ไป๋เหยียนจ้องฉวีหยางครู่หนึ่งก่อนตะโกนด้วยรอยยิ้มทันที “นายหยุดฉันไม่ได้หรอก! ไอ้คนพรรค์นั้นมันต้องตายเดี๋ยวนี้!”
หลังจากพูดเสร็จ เขาก็ผลักฉวีหยางก่อนจะวิ่งไปกับลูกน้องอีกหลายคน
นอกประตูเป่ยเตอหยงล็อกคอให้เด็กอยู่ใต้วงแขน และพยายามเดินเข้าไปยังส่วนลึกของตรอกที่มืดสลัว
ในลานบ้าน หลังจากไปเหยียนกับเสียวจิ๋วรีบออกไป ฉวีหยางก็ตะโกนทันที “ส่งปืนมาให้ฉัน! เร็วสิ…ส่งปืนมา!”
“คุณรออยู่ที่นี่แหละ!” ลูกน้องของตระกูลไปตะโกนใส่ฉวีหยาง
“ถ้าครอบครัวฉันตาย! จะไม่มีใครได้วิดีโอนั้นแน่!” ฉวีหยางพูดอีกครั้ง “บอกให้ส่งปืนมา…ฉันไม่ได้จะไปขวางพวกนั้น! ฉันแค่จะไปช่วยลูกเมียฉันเท่านั้นเอง”
ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่งปืนพกให้อีกฝ่ายด้วยท่าทางที่ทําอะไรไม่ถูก
ฉวีหยางคว้าปืนอย่างรวดเร็วและวิ่งออกไป
ในตรอกข้างสนามหลังบ้านเปียเตอหยงหันกลับมาตะโกน “พวกแกอีกหน่อยกลับไป พวกแกก็ต้องหวั่นกันเองอีก ถ้านายไม่ตาย พวกมันก็จะฆ่านายอยู่ดี”
หลังจากที่ได้ยินพวกเขาก็หันกลับไปยิงข้างหลังด้วยความตื่นตระหนก
“ยังกล้ายิงมาอีกเหรอ ไอ้พวกเวร!” ไป๋เหยียนรีบเข้าไปในซอยโดยวิ่งไปหลบไป
เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป่ยเตอหยงก็อุ้มเด็กพลางวิ่งไปข้างหน้า
ที่มุมสุดของตรอกจินอวี่ยืนรออยู่ฝั่งตรงข้าม โดยยืนชิดมุมกาแพง ตํารวจด้านขวาก็ระวังให้อีกทาง
เสียงฝีเท้าเปียเตอหยงดังอย่างชัดเจนเขาเดินเซมาพร้อมกับเด็กขณะมองย้อนกลับไป
ฉินอวปรับลมหายใจพลางหรี่ตาซ้ายเพื่อมองผ่านศูนย์เล็งปืน
เปียเตอหยงก้าวไปข้างหน้าพลางเร่งภรรยาของฉวีหยางอย่างต่อเนื่อง “วิ่งเร็ว…ไม่งั้นฉันจะยิงลูกเธอซะ!”
“เปิดไฟเลย!” ฉินอวกระซิบ
“พรึบ!”
จู่เหว่ยด้านข้าง ก็เปิดไฟที่มีแสงจ้าออกมาทันที
แสงส่องเข้ามาในซอยฉายไปที่ใบหน้าเป่ยเตอหยง เขาชะงักโดยสัญชาตญาณและ ตัวแข็งที่อไปชั่วครู่!
“เปรี้ยง…”
เสียงสไนเปอร์ดังสนั่น!
“พลั่ก!”
แขนซ้ายเปียเตอหยงถูกกระสุนเจาะเข้าไปจนเลือดกระเด็นออกมา แขนของเขาไม่มีเรี่ยวแรงอีกต่อไปเขาจึงปล่อยเด็กใต้รักแร้ให้ล้มลงกับพื้น
“หนีไป!” จู่เหว่ยตะโกนเสียงดัง
ภรรยาของฉวีหยางตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคว้าตัวเด็กและรีบวิ่งออกไปทันที
ฉินอวี่ดึงสลักปืนเปลี่ยนกระสุนพลันหันปากกระบอกปืนเพื่อเตรียมพร้อมสําหรับนัดที่สองทันที!
ภายในตรอกหลังทางเข้าหลัก
จู่ๆ หยวนเค่อก็นั่งตัวตรงในรถ สะดุ้งเสียงสไนเปอร์ที่ดังจากด้านหลัง ก่อนอุทานออกมาด้วยอย่างงุนงง “นั่นมันปืนไรเฟิล 88-2! นี่พวกตํารวจใช้สไนเปอร์เลยเรอะ!?”
ไฟหน้าหน้าตรอกสว่างขึ้นอีกดวง
หม่าเหลาเอ๋อสวมเสื้อกันฝนขณะถือปืนตะโกนอย่างไร้อารมณ์ “หยวนเค่อ! ถ้าแกยังมีชีวิตอยู่ ฉันก็ผ่านไปถึงพื้นที่โครงการได้! ฉันจะกลับไปซ่งเจียงเพื่อรอฆ่าแก!”
หยวนเค่อเงยหน้าขึ้นและมองไปข้างหน้า