Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 334 หลี่จู่เชิญเข้าประชุม
ตอนที่ 334 หลี่จู่เชิญเข้าประชุม
ในทางเดิน
ชายคนนั้นพยักหน้าให้หัวหน้าหลี่ “ใช่ อีกฝ่ายบอกว่าไอ้หนุ่มที่เราจับได้จากฮ่งเจียงเป็นผู้กํากับ ในสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ”
หัวหน้าหลี่นิ่งอยู่นานพลางกระซิบด้วยความงุนงง “คดีนี้ไม่ได้ทําเพื่อเงิน! ผู้กํากับนั่นหาคนมาทําเรื่องแบบนี้และกว่าจะเข้าถึงสถานเลี้ยงเด็กนั้นได้อย่างแม่นยํา มันไม่ง่ายเลย!”
ทุกคนเงียบ
หัวหน้าหลี่หยิบกันบุหรี่ออกจากปากแล้วดีดมันลงถังขยะ ก่อนจะขมวดคิ้วพูดต่อ “ไม่ง่ายเลยถ้าคนของกรมตํารวจจะออกมา เขามีเกี่ยวกับพวกที่ลักพาตัวด้วยงั้นเหรอ? ให้ตายสิ มีความเป็นไปได้”
“เป็นไปได้ยังไง?” หลี่หยวนจือถาม
“ชื่อเหมาจ่อต้องยังไม่ตาย อีกฝ่ายเลยเข้ามาแสดงตัวอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากให้พวกที่โดนจับก่อนหน้าหลุดพูดออกมา” หลี่จู่เหลือบมองหลี่หยวนจือก่อนให้คําแนะนําในทันที “นายไปพาทุกคนให้เข้าร่วมการประชุมในห้องชั้นหนึ่งเดี๋ยวนี้เลย!”
“ครับ!” หลี่หยวนจือพยักหน้า
“ให้ทั้งสามกลุ่มระบุตัวตนหัวน้าทีมชุดแรก ของสํานักงานตํารวจรัฐพื้นทมิฬ ฉันต้องการข้อมูลโดยละเอียด!”หลังหลี่ฉ่พูดจบ เขาก็เดินขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว
“หัวหน้าคุณไม่ไปหาพวกสํานักงานใหญ่ก่อนเหรอ?” หลี่หยวนจือถามด้วยเสียงตะโกน
“ปล่อยให้รอไปก่อน!” หลี่ตะโกนโดยไม่หันกลับมามอง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง
หัวหน้าหลี่นั่งอยู่ในห้องทํางาน เขากําลังดูข้อมูลทั้งหมดของฉันอรี่
ขณะอ่านข้อมูลของฉันอวอยู่นั้น หัวหน้าหน่วยข่าวกรองผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนข่าวกรองก็เริ่มวิเคราะห์เหตุการณ์ทันที
สถานเลี้ยงเด็กนั่นเป็นแหล่งสกปรกแถมซื่อเหมาจ๋อก็ยังมีความเชื่อมโยงกับทหารและพวกอันธพาลมากมาย ทําไมต้องมาพัวพันทั้งๆที่ยังเป็นตํารวจแบบนี้ล่ะ เป็นเรื่องปกติหรือไม่?
ตํารวจยืมมือพวกอันธพาลมาทําเรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องปกติหรือไม่?
พอบุคคลนั้นถูกจับ สํานักงานบริหารทั่วไปก็เข้ามาวิ่งเต้น แล้วนี่เป็นเรื่องปกติอีกหรือไม่?
หลังจากทบทวนอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ เขาประเมินได้ว่ากลุ่มของฉินอวี่อาจกําลังแอบตรวจสอบสถานเลี้ยงเด็กนั่น!
มีใครต้องการตรวจสอบสิ่งนี้หรือไม่? หรือระดับบนของหน่วยข่าวกรองทหารต้องการจะใช้ระบบตํารวจโค่นล้มฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง?
หลี่จี่กําลังนั่งครุ่นคิดอยู่บนโต๊ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งกระตือรือร้นที่จะรู้ความจริง
หลังจากนั้นไม่นาน หลี่จู่ก็หยิบโทรศัพท์และโทรออกทันที
“ฮัลโหล?”
“บอกหลี่หยวนจือว่าทรมานผู้ต้องสงสัยทั้งหมดซะ!” หลี่จี่กล่าวอย่างรวบรัด “ภายในห้าชั่วโมงพวกมันต้องคายความจริงออกมา!”
“มันจะดีเหรอครับหัวหน้าหลี่?!” อีกฝ่ายเดือน “ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับได้ก่อนหน้าเราก็อาจมีสิทธิ์ทําได้ แต่ผู้กํากับคนนั้นผมว่าคงจะทําอะไรไม่ได้แล้ว เพราะอีกอย่างตอนนี้เราก็ไม่มีหลักฐานมากขนาดนั้น!”
“มันต้องมีอะไรแน่ๆ เพราะหมอนั่นกําลังโกหกฉัน และฉันว่าเรื่องนี้มันต้องมีคนอยู่เบื้องหลังหมอนั่นอย่างแน่นอน” หลี่จู่มั่นใจในความคิดของตัวเองเป็นอย่างมาก “อีกไม่นานนายจะได้หลักฐานมาจากความกดดันจากผู้ต้องหาเหล่านั้นเอง”
“แล้วที่สํานักงานใหญ่…”
“ฉันจะไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้!” หลี่จู่พูดแทรกทันที
“ได้ครับ!” อีกฝ่ายพยักหน้า
หลี่วู่วางสายไป ก่อนก้มหน้าลงล็อกแฟ้มข้อมูลไว้ในลิ้นชัก แล้วรีบเดินออกจากสํานักงาน
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ห้องประชุมเล็กบนชั้นหนึ่งของหน่วยข่าวกรองทหาร หัวหน้าหลี่ผลักประตูเข้าไป
“หัวหน้าหลี่นี่คือหลิวต้า เขาคือรองผู้อํานว ยการสํานักงานกรมโฆษณาของการบริหารทั่วไปชาติจีน” จ่าคนแรกที่โต๊ะประชุมลุกขึ้นแนะนําทันที “ส่วนนี้คือคุณตง ผู้บัญชาการกรมตํารวจรัฐพื้นทมิฬ ถัดจากเขามาจากเขตเพียงหนาน หัวหน้าสมาชิกวุฒิสภาของซ่งเจียง คุณหลี่!”
“สวัสดีทุกคนนะครับ!” หลี่จู่พยักหน้าให้ทุกคน
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ”
ทุกคนจับมือกับหลี่จู่
“ไม่ต้องมีพิธีอะไรมาก เชิญนั่งลงเถอะครับ” หลี่จู่โบกมือพลางก้าวไปข้างหน้าเพื่อนั่งเก้าอี้หลัก “ทุกคนมาที่นี่ มีจุดประสงค์อะไรรึเปล่าครับ?”
หลิวต้าเรียบเรียงคําพูดก่อนจะตอบทันที “เป็นแผนกคุณใช่ไหมที่ร่วมมือกับตํารวจท้องถิ่นไปจับกุมคนในเขตของผมไป”
หัวหน้าหลี่ตอบกลับ “ผมจับได้สองสามคน แต่ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนอะไรมาก”
“ฮ่าฮ่า!” หลิวต้าหัวเราะเสียวเบา “บุคลากรที่คุณไปจับในฮ่งเจียงเราได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้วว่า เขาคือผู้กํากับฉินอวี่!”
“ถึงตรวจสอบว่าเป็นเขาจริงๆ แล้วจะให้ผมทํายังไงล่ะ?” ท่าทีของหัวหน้าหลี่หยิ่งผยองมาก
หลิวตาขมวดคิ้ว “งั้นผมต้องถามหน่อยว่าผู้กํากับคนนี้ทําอะไรก่อนเขาจะถูกจับ? หรือคุณมีหลักฐานที่ชี้ว่าเขาก่ออาชญากรรมเหรอ?”
หัวหน้าหลี่หันไปมองอีกฝ่าย “ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน!”
“พวกฉันขอพบเขาหน่อยได้ไหม?”
“ไม่ได้!” ผู้อํานวยการหลี่ส่ายหน้าอย่างจริงจัง
เมื่อเห็นท่าที่อีกฝ่าย หลิวต้าก็ไม่สามารถระงับความโกรธได้ เขาพูดด้วยใบหน้าบูดบึง “นี่หัวหน้าหลี่! คุณทําแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเรอะ?! ฉินอวี่เป็นคนในระบบตํารวจ คุณบุกไปจับเขาไม่มีแม้แต่เอกสารขออนุญาตมา แถมไม่มีหลักฐานในมืออีก เฮอะ! เอาไปดื้อๆ แบบนี้ก็ได้รึไง?! แล้วทําไมเราจะขอพบเขาก็ไม่ได้อีก?!”
“ยังไงก็ไม่ได้” หัวหน้าหลี่พูดจริงจัง “ไม่สําคัญว่าฉินอวี่จะเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจหรือไม่ สิ่งสําคัญคือตอนนี้คือเรากําลังค้นหาข้อเท็จจริงอยู่ เสร็จแล้วก็ค่อยตัดสินใจว่าจะให้เขาออกไปไหม?!”
หลิวต้าก็ลุกขึ้นยืนพลางตะโกน “นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย!”
“ฉันกําลังจัดการคดี อย่าเพิ่งเข้ามาแทรกแซงได้ไหม?!” หัวหน้าหลี่ยืนขึ้นพลางพูดอย่างฉะฉาน “ถ้าพวกคุณยินดีจะรอก็รอซะที่นี่ เราจัดเตรียมอาหารและห้องพักไว้ให้แล้ว แต่ถ้าไม่ต้องการอยู่ก็กลับไปรอฟังข่าว!”
“งั้นคงต้องถึงขั้นฟ้องใช่ไหม?”
“จะฟ้องเรางั้นเหรอ?” หัวหน้าหลี่พูดด้วยรอยยิ้ม “เอาสิ! งั้นคุณก็ไปฟ้องหัวหน้ากองทัพภาคสนามที่สามได้เลย! เราเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของพวกเขา และเมื่อเสนาธิการเรียกเมื่อไหร่ ผมจะปล่อยแน่!”
หลังจากพูดจบ หัวหน้าหลี่ก็หันหลังเดินจากไป
ในเวลาเดียวกัน
ฉินอวได้ยินเสียงประตูเหล็กถูกผลักเปิดออก และเห็นชายร่างผอมหลายคนในชุดเครื่องแบบทหาร นํากล่องเล็กๆ สองสามกล่องแล้วเดินเข้ามา
ในอีกห้องหนึ่ง จ่าสิบเอกหญิงสองคนตะโกน ใส่หลินเหนียนเลยด้วยเสียงดัง “ถอดเสื้อผ้าของ
คุณ!”
“ฝันไปเถอะ!” หลินเหนียนเล่นตะโกนกลับด้วยน้ําเสียงกังวล “ยังอยู่ในกฎหมายรึเปล่า? พวกแกมีสิทธิ์อะไร?!”