Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 319 เสียงปืนที่ชั้นหก
ตอนที่ 319 เสียงปืนที่ชั้นหก
ด้านข้างรถ
“หมับ!”
ในขณะนั้นมีมือมาคว้าไหล่ของชายคนหนึ่ง เขาจึงก็หันหลังกลับไปแทงทันที
“ฉีก!”
มีดที่แทงสวนกลับมาอย่างรวดเร็วจนชายอีกคนเซถอยหลังไปสามก้าว เขาก้มมองหน้าท้องก็เห็นแผลถูกแทงเลือดไหลอาบ
อาเซียวจ่อปืนด้วยมือขวาและมีดสั้นในมืออีกข้าง เขาตะโกนอย่างดุดัน “คุกเข่า!”
ผู้ชายคนนั้นตัวแข็งอยู่กับที่ขณะเหลือบมองแผลบนท้อง ก่อนอีกคนก็วิ่งเข้ามา
“ผัวะ!”
อาเซียวยกขาขึ้นเตะสะโพกของฝ่ายตรงข้าม จนอีกฝ่ายทรุดตัวลงไป
“ฉีก!”
อาเซียวก้าวไปข้างหน้าเพื่อแทงอีกฝ่ายทันที “ฉันบอกให้คุกเข่า!”
เขาถูกแทงซ้ําไปอีกครั้ง จนกระอักเลือดออกมาพ่นกระจายเต็มพื้น
อาเซียวก็หันปลายกระบอกปืนมาจ่อหน้าผากอีกฝ่าย “ทายซิว่าฉันกําลังทําอะไร?”
ชายที่ถูกแทงคุกเข่าลงบนพื้นมองอีกฝ่ายอย่างสงบนิ่งอยู่นาน ก่อนจะยกมือขึ้นช้าๆ
อาเซียวเก็บมีดไว้ในเอวพร้อมวางปืนลง ก่อนเอื้อมมือออกไปคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายพลางตะโกนสั่งชายอีกคน “แกนําทางไป!”
“แต่พี่…”
“อยากพูดกับฉันอยู่ไหม?! คนที่เพิ่งบุกเข้าไป อยู่ไหน…โดนจับรึเปล่า?!” อาเซียวกระตุ้นอีกฝ่ายด้วยปืน
ชายที่บาดเจ็บกุมหน้าท้องขณะลังเลอยู่พัก
หนึ่ง
“หมดเวลาคิดของแกแล้ว!” อาเซียวขึ้นนกปืนพร้อมยิง
“อย่า อย่านะพี่!” ชายคนนั้นตะโกนเสียงหลง
หลังพูดจบ ชายคนนั้นก็เดินกุมแผลและเดินเซขึ้นบันไดเข้าไปในอาคารหลัก
อาเซียวตามไปพลางจับล็อกคอลูกน้องอีกคนไว้พลางจ่อปืน ด้วยมืออีกข้าง “ไอ้หนวดนายไปตัดไฟ!”
หลังได้ยินคําสั่งชายไว้หนวดเคราที่หลบอยู่บนผนังก็ดึงสวิตช์วงจรหลักลง
“พรึบ!”
ทันใดนั้นไฟทุกดวงในอาคารหลักก็ดับ
ชายไว้หนวดเครากระโดดลงจากกําแพงเพื่อเดินตามเข้าไปในอาคารหลัก เขาพูดผ่านวิทยุสื่อสาร “ข้างในพร้อมแล้ว ประจําที่ได้
บนถนนด้านนอก หลังจากคนขับได้ยินเขาก็เหยียบคันเร่งขับไปทางด้านขวาของสถานเลี้ยงเด็กกําพร้า
ชั้นบน
“ให้ตายสิวะ ไฟดับได้ไง?!” “ชั้นล่างก็ด้วยเหรอ?!”
“ไปดูอาคารฝั่งตรงข้ามหน่อยว่าไฟดับเหมือนกันหรือเปล่า”
ลูกน้องกลุ่มที่ติดอยู่ระหว่างบันไดพูดด้วยน้ําเสียงตื่นตระหนก
“อย่าเพิ่งตกใจ โวยวายกันทําไม?!” หลังจากที่ชื่อเหมาจื่อตั้งสติได้ เขาก็เดินไปหาต้าช่วงทันที พร้อมกับคว้าคอเสื้อด้วยมือทั้งสองข้าง “ยังมีพวกนายอีกใช่ไหม?”
“ไม่มีแล้ว!” ต้าฮวงส่ายหัว “พวกเรามีกันแค่สามคน!”
“โกหก!” ชื่อเหมาจับหัวต้าฮ่วงแล้วกระแทกเข้ากับผนัง
“ตุบ!”
เสียงของแข็งกระทบกันดัง จนต้าฮวงมึนงงไป หมดสติเขาแทบจะเลือนราง
“มีใครอีกไหม?!” ชื่อเหมาตะเบ็งเสียงถาม
“ครืน!”
เสียงประตูเหล็กหน้าบันไดถูกเลื่อนเปิดออก และหญิงชราอ้วนถือไฟแช็กกับเทียนไว้ในมือเพื่อให้แสงสว่าง “เกิดอะไรขึ้น ไฟดับไปได้ยังไง?!”
“พวกนี้ต้องมีคนบุกเข้ามาเพิ่มแน่นอน” ชื่อเหมาจื่อหันกลับมา “อย่าเพิ่งแห่กันออกมา กลับเข้าไปในห้องก่อน!”
“บัดซบ ฉันงงไปหมดแล้ว!” หญิงชราพูดอย่างเร่งด่วน “ไอ้พวกปัญญาอ่อนนี่มันมาทําอะไรที่นี่?!”
ชื่อเหมารือกัดฟันแน่นพลางหันไปออกคําสั่ง “พาพวกมันตามฉันมา!”
“ครับ!” พวกลูกน้องเข้าไปพาตัวต้าส่วงแล้ว ลากตามไปทันที
ชื่อเหมาจื่อก้าวขึ้นบันไดไปอย่างร้อนรน ก่อนจะเห็นร่างเงาตะคุ้มเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ทําบ้าอะไรกันทําไมไฟถึงดับ..มันเกิดอะไรขึ้น?” ชายชราทางด้านซ้ายขมวดคิ้วถาม
“พวกมันมีคนมาเสริม!”
“ทําไมไม่ถามพวกมันดีๆ ล่ะ?” น้ําเสียงชายชราฟังดูกังวล “เป็นคนของทางการหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่คนของทางการแน่นอน!” ชื่อเหมาจื่อพูดอย่างหนักแน่น “คุณกลับไปก่อนฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง!”
“ฉันไม่กลับไป! รีบจัดการซะพวกฉันจะออกไปแล้ว” ชายชราพูดอย่างไม่พอใจ เพราะสําหรับพวกเขายังไงความปลอดภัยย่อมสําคัญกว่าสิ่งอื่นใด
“วางใจเถอะ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ขอแค่กลับไปที่ห้องก่อน พอทุกอย่างโอเคผมจะไปส่งพวกคุณกลับเอง!”
“เร็วๆ เข้าล่ะ!” ชายชราทิ้งคําพูดไว้ก่อนเดินกลับไปกับเพื่อนอีกคน
ซือเหมาจื่อตาแดงก่ํา เขาดึงปืนออกมาพลางตะโกนด้วยอารมณ์โกรธ “ทุกคนไปชั้นหก! ไอ้พวกส้นตีนนั่นมันมาทําอะไรกันแน่วะ!”
ในบันไดเสียงฝีเท้าวิ่งวุ่นไปทั่ว ส่วนคนที่เหลือก็ลากพวกต้าส่วงไปตามทางเดิน
“อยู่รวมกันไว้ พวกมันจะขึ้นมาหาเราแน่นอน!” ชื่อเหมาจ๋อโบกมือตะโกนใส่ฝูงชนแล้วเดินกลับเข้าไปในทางเดินด้านขวา
บริเวณมุมบันได อาเซียวสั่งให้ชายหนุ่มที่บาดเจ็บ “รีบวิ่งออกไป ตะโกนบอกพวกนั้นว่า มีแปดคนอยู่ข้างล่าง!”
ชายหนุ่มลังเล
“ถ้าไม่ตะโกน ฉันฆ่าแกแน่!” อาเซียวไม่ได้พูดกับอีกฝ่ายโดยการคํารามหรือขู่ แต่เขาพูดด้วยน้ําเสียงที่จริงจังและแน่วแน่
ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่ง กลืนน้ําลายก่อนรีบออกจากมุมบันไดเปิดปากและตะโกนสุดเสียง “มีคนอยู่ข้างแปดคน!”
ชื่อเหมาจื่อหันไปโดยรอบ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนนั้น ก็ตะโกนกลับ “ตามไปจับมัน!”
หลังจากชายหนุ่มเดินออกมา เขาก็รู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเขากับอาเซียวห่างกันพอสมควร เขาจึงตะโกนทันที “มีคนที่บันไดอีกคนหนึ่ง!”
ชื่อเหมาจอลิ้งนิ่งขณะมองขึ้นไปที่บันได
แสงจ้าพุ่งออกมาจากมุมบันได ซือเหมาจื่อ และคนอื่นยกแขนปิดหน้าตามสัญชาตญาณ
แขนซ้ายของอาเซียวล็อกคอตัวประกันไว้ ขณะอีกข้างถือปืนติดไฟฉายที่กําลังไฟแรงสูง ก่อนยกมันขึ้นทันที
“ปัง! ปัง! ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นสามนัด อีกสองคนก็วิ่งเข้ามาหา
ทันใดนั้นแสงจ้าก็หายไปอาเซียวรีบวิ่งออกจากมุมห้อง ทําให้อีกฝ่ายยิ่งไล่ตามเขาไป
“แกพยายามทําอะไรอยู่วะ?” ชื่อเหมาจื่อที่โกรธอย่างหนักเล็งปืนด้วยมือขวาพลางเหนี่ยวไกอย่างเด็ดขาด “ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้น!
“อาก!”
ต้าส่วงแผดเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเขาถูกยิงที่น่องขวาก่อนทรุดลงกับพื้น
“ไม่ออกมาคุยกันหน่อยเหรอ?!” ชื่อเหมาจื่อตะโกนถาม
เมื่อพรรคพวกของอาเซียวได้ยินเสียงต้าฮ่วงก็ดันสวิตช์ขึ้นทันที
“พรึบ!”
ทางเดินสว่างขึ้นอีกครั้ง
เสียงชักปืนดังขึ้น ชายไว้หนวดเคราก็ถีบประตู บันไดเปิดและปืนก็ยิงออกไปทันที
“ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นสองสามนัด ก่อนชายไว้หนวดจะตะโกน “สวนกลับ!”
“เออ! ฉันรอจังหวะนี้มานานแล้วโว้ย!” ต้าฮวงระเบิดความโกรธอย่างรุนแรงเขากระแทกไหล่ขวาใส่ลูกน้องซื้อเหมาอย่างแรง