Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 - ตอนที่ 366 ระเบิดในมือเด็ก
ตอนที่ 366 ระเบิดในมือเด็ก
บนชั้นสองของร้าน
เปียเตอหยงเดินพิงกับผนังเข้าไปที่ประตูด้วยท่าทางโรยรา ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยเลือด
ทางขึ้นชั้นล่าง เป่ยเตอหยงมองย้อนกลับไปตรงบันได ก่อนจะถีบประตูห้องด้วยแรงทั้งหมดที่
ด้านในเป็นห้องขนาดสิบห้าตารางเมตร ชายวัยกลางคนร่างผอมบางสวมเสื้อกล้ามกําลังพยุงตัวให้ลุกขึ้น แต่ดูเหมือนเขาจะมีปัญหากับขาที่ไร้เรี่ยวแรงจึงไม่สามารถยืนตัวตรงได้
ข้างเตียงมีเด็กชายอายุประมาณสิบขวบหันมองเป่ยเตอหยงทันทีเมื่อได้ยินเสียง
หลังจากที่เปยเตอหยงดีขึ้นมาบ้างแล้ว เขาจึงยกมือไปเช็ดเลือดบนใบหน้าของเขา ขณะมองดูทั้งสองด้วยรอยยิ้ม
ชายวัยกลางคนชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเริ่มทักทาย “พะ…พี่ชายเป็นใคร?!”
“โชคดีจริงๆ ฉันคิดว่าจะไม่รอดซะแล้ว” เป่ยเตอหยงจ้องอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปข้างหน้าเพื่อจับตัวไว้
ชายวัยกลางคนเอื้อมมือออกไปพยายามผลักเปียเตอหยงและแม้ว่าเด็กชายตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านข้างจะดูหวาดกลัว แต่ก็ก้าวไปข้างหน้าพลางตะโกนขอร้อง “ลุง…ลุงอย่าจับพ่อผมนะ”
หลังจากที่เป่ยเตอหยงมองเด็กน้อยอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงคว้าคอเสื้อด้านหลังด้วยมือข้างหนึ่งและกระชากไปหน้าประตู
“อย่าแตะต้องลูกฉันนะ!” วัยกลางคนเอื้อมมือออกไปห้ามไว้
“พลั่ก!”
เบี้ยเตอหยงเตะชายวัยกลางคนร่างผอมบาง ก่อนลากเด็กน้อยไปยังบันได
ในห้องโถง เสียงฝีเท้าที่วิ่งกรูเข้ามาตอนแรกก็หยุดลงกะทันหัน
“ปัง!”
เป่ยเตอหยงยิงไปยังบันไดพลางตะโกน “อย่าขึ้นมานะเว้ย! ฉันมีตัวประกันอยู่ในมือ!”
พอพูดจบเปียเตอหยงก็จ่อปืนกับหัวเด็กชาย ก่อนเอาระเบิดออกมาและสั่งเด็กคนนั้น “ถือไว้!”
เมื่อได้ยินเด็กชายจึงหันไปมองเปียเตอหยงด้วยดวงตาที่หวาดกลัว
“ถือไว้ใ” เปียเตอหยงตะโกน
เด็กชายยังคงจ้องมองมาที่เขาด้วยใบหน้าซีดและสั่นเทา
“ฉันบอกให้แกถือไว้ไง!” เบียเตอหยงจ้องเด็กเขม็งพลางกดปากกระบอกปืนไปที่หน้าผากของเด็ก
หัวเด็กถูกกระแทกกับปลายกระบอกปืน เขาจ้องเป๋ยเตอหยงอย่างว่างเปล่าก่อนจะพูดอ้อนวอน “ลุง…ผมเข้าใจแล้ว…อย่ายิงพ่อผมนะ”
เมื่อเป่ยเตอหยงได้ยินเช่นนั้น เขาก็ตะลึงเพราะไม่ได้คาดหวังว่าเด็กวัยสิบปีจะพูดแบบนี้ได้ ขณะที่มีความกลัว
เด็กชายยื่นมือออกมาช้าๆ เพื่อจับแขนอีกฝ่าย “ผมกับพ่อไม่มีเงินซื้อยา…หมอบอกว่าพ่อผมจะอยู่ได้ไม่นาน”
เปียเตอหยงมองดวงตาเด็กตัวกระจ้อย ก่อนจะยื่นมือออกมาแล้วยัดระเบิดไว้ในมืออีกฝ่าย “เอานิ้วหัวแม่มือของแกกดค้างไว้ดีๆล่ะ!”
ชั้นล่าง
“เป๊ยเต่อหยง แกมันเดรัจฉาน ยอมเราโดยดีซะเถอะ!” ติงกั่วเฉินตะโกน
“ไม่มีทาง ฉันจะหันหลังกลับไม่ได้แล้ว!” เปียเตอหยงเห็นว่าเด็กได้ถือระเบิดด้วยมือทั้งสองข้างแล้วจึงรีบสั่ง “ลงไปเร็ว!”
หลังจากเด็กชายได้ยินค่าสั่ง เขาก็เดินไปยังบันไดด้านล่างแต่โดยดี
“โครม!”
ชายวัยกลางคนในห้องรีบเดินกะเผลกไปข้างหน้าสองหรือสามก้าวอย่างกระวนกระวายใจ ก่อนจะล้มลงกับพื้นทันที
เปียเตอหยงขมวดคิ้วพลางตะโกนสั่ง “อย่าขยับนะ!”
“พี่…ได้โปรดเถอะพี่ชาย ทํากับฉันดีกว่าอย่ายุ่งกับเด็กเลยนะ!” ชายวัยกลางคนนอนตะโกน อยู่กับพื้น “ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยได้มีโอกาสดีแบบเด็กคนอื่นเลย ฉันขอร้อง ได้โปรดเถอะพี่ ชาย…เขายังเด็ก!”
เมื่อชายวัยกลางคนพูดจบ เขาก็เอาหัวโขกพื้นพลางร้องไห้อ้อนวอน
เป่ยเตอหยงหันไปตะโกนใส่เด็ก “หยุด ยืนนิ่งๆ บนบันไดและยกมือขึ้น!”
เด็กชายหยุดเดินทันที เขายืนนิ่งอยู่ที่ส่วนล่างของขั้นบันได แล้วยกมือขึ้น
ในห้องโถง ติงกั่วเซินพร้อมเจ้าหน้าที่ต่ารวจอีกสิบกว่าคนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นเด็กยกมือขึ้นพร้อมกับระเบิด
“บ้าเอ๊ย เราอพยพคนออกไปแล้วไม่ใช่รึไง?! ตั้งนานแล้วทําไม่ยังมีคนอีกล่ะเนี่ย?!” เหว่ยถามขณะซ่อนตัวในบังเกอร์
“เวลาที่จํากัด! เราทําได้แค่ตะโกนอยู่ข้างนอกและปล่อยให้พวกเขาออกมากันเอง” ตํารวจที่อยู่ด้านข้าง ตอบกลับด้วยเสียงแผ่วเบา
ทิ้งถั่วเซินเหงื่อเต็มหน้าผากมองไปยังเด็กน้อยด้วยความงุนงงก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงที่สั่นเทา “เฒ่าเป่ย! ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่ไหม?! เอาเด็กมาเกี่ยวด้วยทําไม…คิดว่าจะรอดไปได้งั้นเหรอ?!”
“อย่ามายุ่ง!” เป่ยเตอหยงอ้าปากค้าง “ฉันไม่เคยเป็นผู้ชาย ฉันเป็นคนร้ายต่างหาก!”
ติงถั่วเซินหันไปทางด้านหลังก่อนพูดด้วยเสียงกระซิบ “หัวหน้าฉัน!”
ตํารวจที่อยู่ด้านหลังชี้นิ้วไปยังโรงเก็บของ
“อย่ามาทําเป็นกระซิบกระซาบนะ!” เป่ยเตอหยงพูดด้วยน้ําเสียงสั่นเทา “ฉันรู้ว่าพวกแกจะเขามา! ฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้ายังไม่ถอย ฉันจะฆ่าคนที่อยู่ในห้องนี้ซะ!”
หลังพูดจบบริเวณนั้นก็เงียบไปครู่หนึ่ง มีเพียงเสียงร้องคร่ําครวญของชายวัยกลางคนเท่านั้น
ทันใดนั้นเด็กชายก็มองกลับไปยังเป่ยเตอหยง เขาตกใจร้องไห้พลางตะโกนขอร้องทั้งน้ําตา “ลุง…ปล่อยพ่อผมไปเถอะนะ…อย่าทําอะไรเขาเลย ผมไม่เหลือใครแล้ว!”
ติงถั่วเซินและคนอื่นตกตะลึง
เด็กน้อยหันกลับมาอ้อนวอนทั้งน้ําตาขณะมองเป่ยเตอหยง “ผมจะทําตามที่ลุงบอกทุกอย่าง…อย่าทําพ่อผมนะ… ผมจะฟังลุง…”
“เวรเอ๊ย!”
เปียเตอหยงมองดูสีหน้าเด็กชายขณะฟังสิ่งที่เขาพูด เขาก็รู้สึกท้อแท้ทันที
ใช่ ขณะนั้นเป่ยเตอหยงเริ่มใจอ่อน เขารู้ดีว่าเขาทําได้แค่ถ่วงเวลาและเขาไม่สามารถดิ้นรนได้อีกต่อไปแล้ว
ในบ้านชายวัยกลางคนนอนอยู่บนพื้นขณะถามด้วยน้ําเสียงสั่นเทา “พี่ชาย…คุณมีลูกรึเปล่า? ดูลูกชายของฉันสิ พวกเขาเหมือนกัน…”
“หุบปาก!” ตาเปียเตอหยงแดงก่ํา ขณะชี้ปืนไปที่อีกฝ่ายหนึ่ง “นอนนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น แล้วก็หุบปากไปซะ!”
“ลุง…อย่ายิงพ่อผมนะ!” เด็กชายก้าวถอยหลัง
เป่ยเตอหยงหันกลับมา “อย่าขยับนะ อยู่นิ่งๆ ไว้ไม่งั้นฉันจะฆ่าแก!”
เขาตะโกนติดต่อกันสามครั้งจนมือสั่น แต่เขาก็ไม่ได้เหนี่ยวไก
“เพลง!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงกระจกแตกในห้องถัดไป
แก๊สน้ําตากลิ้งมาที่ประตู
“ฟู!”
เสียงควันแก๊สพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนแผ่กระจายไปทั่วบันไดทันที
เด็กน้อยตะโกนอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง “พ่อ…พ่อครับ!”
เป่ยเตอหยงนั่งที่บันได เขายกแขนขึ้นจับเด็กน้อยและตะโกน “อย่าขยับ!”
เด็กน้อยตกตะลึง
เป่ยเตอหยงเอื้อมมือออกไปจับฝ่ามืออีกฝ่าย กดสลักระเบิดที่หลวมอย่างแรงพลางตะโกนลั่น “อย่าปล่อยนะเดี๋ยวมันระเบิด! ไม่ต้องห่วง…พ่อของแกไม่เป็นไร!”
เด็กหยุดนิ่งอยู่ในควัน
เป่ยเตอหยงพิงกําแพงและหลับตาช้าๆ “เวรจริงๆ ฉันยอมแล้ว”
เสียงฝีเท้าดังขึ้นฉันอวี่สวมชุดป้องกันการระเบิดพลางรีบวิ่งไปที่บันได เขาเห็นท่าทางยอมจำนนของเปียเตอหยงก็หยุดนิ่งทันที