นิยาย Side Character Transmigrations: The F… บทที่ 38 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (18)
บทที่ 38 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก.. ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (18)
ตัดภาพมาที่ฮั่นหลิงและเพื่อนร่วมทีมอีกสามคนที่ตอนนี้กําลังเดินขึ้นเขาตามหลังทีมงานไปอย่างช้าๆ ตอนนี้พวกเขาน่าจะเดินมาได้เกือบครึ่งทางแล้ว โดยในเทปนี้มีศิลบินที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดแปดคน และทุกคนได้รับสิทธิ์ในการเลือกเส้นทางในการเดินทางของตัวเอง อีกทั้งจะมีตากล้องให้อีกถึงสองคนเพื่อตามประกบแต่เท่าที่เห็นส่วนใหญ่ก็พากันรุมถ่ายแต่เซี่ยหยวนอะนะ
“พี่หยวนต้องการพัก เราหยุดพักตรงนี้กันก่อนแล้วกันนะคะ” ผู้ช่วยของเซี่ยหยวนวิ่งไปบอกผู้กํากับด้วยท่าทางหยิ่งยโสและออกคําสั่ง เธอไม่รอฟังแม้แต่คําตอบ พูดเสร็จก็รีบวิ่งแจ้นกับไปหาเซี่ยหยวนทันที ผู้กํากับก็เลยทําอะไรไม่ได้นอกจากหันไปบอกให้ทุกคนหยุดพักก่อน
ฮั่นหลิงจิบน้ําเย็นๆจากขวดที่เพิ่งได้รับจากทีมงานก่อนจะหันไปมองเซี่ยหยวนซึ่งตอนนี้กําลังถูกเหล่าทีมงานรุมเอาอกเอาใจอยู่ “นี่ถ้ารวมครั้งนี้เราหยุดพักกันมาตั้งหกครั้งแล้วนะแล้วคือพึ่งถึงแค่ครึ่งทางเท่านั้นเอง ถ้าขึ้นเป็นแบบนี้ต่อไปกว่าจะถึงยอดเขามีหวังฟ้าได้มีดก่อนพอดี รู้อย่างนี้ฉันตามพี่หวันไปซะตั้งแต่ที่แรกก็ดี”
เพื่อนทั้งสามคนค่อยๆเขยิบมาหาฮั่นหลิง ก่อนฟางจินหยูจะยิ้มอย่างมีเลศนัย “ฉันเข้าใจแล้วว่าทําไมพี่หวันบอกให้เราทําตามที่ทีมงานบอก แล้วก็ติดตามพวกเขาไว้”
“ทําไมหรอ?”
ฟางจินหยูโบกโทรศัพท์มือถือของเขาไปมา พลางชําเลืองสายตามองไปยังเซี่ยหยวน และนั่นทําให้คนอื่นๆเข้าใจไปโดยปริยาย
พวกเขาเริ่มนั่งจับกลุ่มเม้าท์มอยกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฟางจินหยูกับฮั่นหลิงซะมากกว่าที่คุยกัน ในขณะที่หยวนซีและเจียงหมิงทําหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีอยู่เงียบๆ
“นี่ พวกเธอนะลงเขาไปซื้อน้ําแร่ให้พี่หยวนที่สิ” จู่ๆผู้ช่วยของเซี่ยหยวนก็มายืนอยู่ข้างๆพวกเขาแล้วก็ออกคําสั่งด้วยน้ําเสียงหยิ่งยโส
อาจจะเนื่องด้วยคนอื่นๆนั้นนั่งอยู่ค่อนข้างไกลจากบริเวณนี้และกลุ่มของเธอนั้นก็ดันเป็นกลุ่มที่นั่งอยู่ใกล้กับเซี่ยหยวนที่สุดอีกทั้งในกลุ่มก็มีแต่เด็กที่อายุยังไม่ถึง 20 ทั้งนั้นเพราะงั้นผู้ช่วยของเซี่ยหยวนก็เลยยิ่งหมายหัวเป็นพิเศษ
ฟางจินหยูจ้องหน้าผู้ช่วยของเซี่ยหยวน ก่อนจะเอ่ยตอบ“ฉันคิดว่าทางทีมงานน่าจะเตรียมน้ําไว้ให้แล้วนะคะ?”
“พี่หยวนไม่ดื่มน้ํายี่ห้อนั้น พูดอะไรน่ารําคาญจริง ฉันบอกให้ไปก็ไปสิ ยังจะชักช้ากันอยู่อีกรีบๆลงไปซื้อมาได้แล้ว”
“ขอโทษด้วยนะครับ พอดีว่าพวกเราไม่ได้เป็นทีมงานของรายการ คงจะไปให้ไม่ได้” หยวนซียืนขึ้นก่อนจะตอบกลับอย่างสุภาพ
“พี่สาวไปขอให้ทีมงานลงไปซื้อให้ก็ได้นี้ครับ พี่ก็น่าจะเห็นว่าพวกเราเองก็เหนื่อยเหมือนกัน”
ผู้ช่วยเริ่มหน้าบึงก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงแดกดันว่า “แหมเป็นคนหนุ่มคนสาวก็ควรออกกําลังกายมากๆสิจ้ะอีกอย่างก็แค่ให้ลงไปซื้อน้ําแค่นี้เอง จะทําให้เรื่องยุ่งวุ่นวายไปทําไมกันแล้วนี่ยิ่งไปซื้อให้พี่หยวนถือว่าเป็นวาสนาของพวกเธอตั้งเท่าไหร่แล้ว ไม่รู้เหรอว่าถ้าจะอยู่ในวงการนี้ต้องหัดเคารพรุ่นพี่ให้มากๆ”
ฮั่นหลิงรีบดึงหยวนซีไว้เพื่อไม่ให้เขาพูดอะไรออกไปอีกก่อนเธอจะเอ่ยถามขึ้นว่า ” พี่หยวนจะดื่มน้ําแร่ยี่ห้ออะไรเหรอคะ? เดี๋ยวพวกเราจะลงไปซื้อให้เองค่ะ”
“มันต้องอย่างนี้สิจ้ะหนู”
ผู้ช่วยบอกชื่อยี่ห้อก่อนจะเร่งให้พวกเขารีบลงไปซื้อ
“ฮั่นหลิง เธอห้ามฉันทําไม” หยวนซีรู้สึกสับสนก็เห็นๆกันอยู่ว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งใจจะหาเรื่อง ทําไมเราต้องยอม
“เซี่ยหยวนเป็นดาราตัวแม่ของวงการ เธอมีอิทธิพลมากและถึงแม้ว่าผู้จัดการของเธอจะนิสัยไม่ดีแต่แล้วเราจะทําอะไรได้ดูสิขนาดผู้กํากับยังไม่กล้าหือกับเธอเลยแล้วนี่เราก็ยังไม่ทันจะได้เดบิวต์เลยจะเอาอะไรไปสู้กับเธอล่ะ”
ฮั่นหลิงอายุเยอะสุดดังนั้นเธอจึงค่อนข้างที่จะมองภาพได้ชัดกว่าอีกสามคนที่เหลือ
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ต้องยอมให้เธอรังแกงั้นหรอ?” ฟางจินหยุผู้ซึ่งยังโมโหอยู่หน่อยๆก็พูดเสริมขึ้น
หยผู้ซึ่ง
” ทําไมเธอถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?” ฮั่นหลิงยิ้ม “พวกเธอลืมไปแล้วเหรอ ว่าใครรอเราอยู่ข้างบน?”
ทั้งสามคนเบิกตาโพลงราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างออก “อ่า…ใช่พี่หวันรออยู่บนนั้น!”
ฮั่นหลิงเดินไปแจ้งทีมงานก่อนจะเดินนําหยวนซีลงไปซื้อน้ําที่ด้านล่าง ทีมงานของรายการบอกว่าจะไปซื้อแทนเองแต่เธอก็ปฏิเสธทีมงานไปอย่างสุภาพ
ด้วยภาพลักษณ์ที่สุภาพอ่อนหวานของเธอ ทําให้เหล่าที่มงามเริ่มเทคะแนนสงสารมาให้เธอไม่น้อย อีกทั้งยังมีทีมงานบางส่วนที่ก็เริ่มไม่พอใจการกระทําของฝั่งของเซี่ยหยวนขึ้นบ้างแล้ว
และกว่ากลุ่มของเซี่ยหยวนจะเดินทางมาถึงจุดนับพบบนเขาก็เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว
ฉีเพิ่งที่กําลังนั่งพักรออยู่ก่อนแล้ว เมื่อมองไปเห็นสภาพของฮั่นหลิงและเด็กๆอีกสามคน เธอถึงกับขมวดคิ้วแน่น “เกิดอะไรขึ้นทําไมพวกเธอถึงดูมอมแมมแบบนี้”
“คนของเซี่ยหยวนรังแกพวกเรา” เพราะมาจากบริษัทเดียวกันพวกเขาจึงกล้าที่จะบ่นให้ฟังโดยไม่ลังเล กฎของบริษัทคือห้ามก่อปัญหา และพวกเขาเองก็ปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดเพราะงั้นก็เลยยอมอดกลั้นให้คนของเซี่ยหยวนรังแก
ฉีเซิงมองไปยังเซี่ยหยวนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาพวกเธอทั้งคู่ประสานสายตากันอย่างเงียบๆ
ดวงตาของฉีเชิงยังคงสงบเงียบไร้ระรอกคลื่นใดๆและนั่นทําให้เซี่ยหยวนรู้สึกหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก
เซี่ยหยวนเห็นว่าเด็กสี่คนนั้นลงมาจากรถคันเดียวกันกับเชิงดังนั้นเธอเลยหาวิธีกลั่นแกล้งเด็กพวกนั้นสารพัดเพื่อให้ฉีเซิงหัวเสีย แต่ใครจะไปคิดว่าฉีเชิงกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
“พวกเธอไปพักผ่อนกันได้แล้ว เรื่องนี้ฉันจัดการต่อเอง”ฉีเซิงตบไหล่ฮั่นหลิงเบาๆก่อนจะเดินไปหาผู้กํากับ
ผู้กํากับตะโกนเรียกประชุมทุกคนยกเว้นเจ็ดคนที่กําลังมีปัญหากันนั่นก็คือฉีเซิงกับเด็กๆทั้งสี่คน แล้วก็เซี่ยหยวนกับผู้ช่วย
“เฮ้ ลูกชิ้นน้อย เธอมาถึงคนแรกอีกแล้วนะ” ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเดินออกมาจากทางด้านข้างและพอมาถึงก็ยกแขนขึ้นโอบคอฉีเซิงทันที
เธอคือ ฟางลี่ชิว เรียกได้ว่าเธอเป็นเซเล็ปชื่อดังของวงการเลยทีเดียว และเธอเองก็มาเข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้เช่นเดียวกับฉีเซิง แต่ก็ไม่รู้นะว่าทําไมเธอถึงต้องมาตั้งฉายาแปลกๆนี้ให้เธอด้วย
“ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที ไอ้ชื่อเล่นพิลึกกึกกือนี้มันอะไรกัน?”
“ฉันอุตสาห์พยายามมองหาเธอตั้งแต่ลงจากรถ แต่ใครจะไปรู้….พอฉันเดินไปหา เธอก็หายตัวไปซะแล้วเธอรู้บ้างไหมฉันเหงาแล้วก็เปล่าเปลี่ยวหัวใจแค่ไหนที่หาเธอไม่เจอ”ฟางลี่ชิวพูดออกมาอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้อยอกน้อยใจ
เนื่องจากในตอนนั้นขบวนรถของเซี่ยหยวนขวางทางอยู่เต็มไปหมด ทําให้รถของเธอไม่สามารถที่จะแทรกผ่านมาได้
“ไม่!!” ฉีเซิงตอบพร้อมกับแยกเขี้ยวยิงฟันใส่เธอ “จะเป็นพระคุณมาก ถ้าเธอกรุณาเลิกโอบฉันสักที แล้วฉันสัญญาว่าตอนทานอาหารเย็นนี้เธอจะไม่เหงาอีกต่อไป”
ฟางลี่ชิว รีบกระเด้งตัวออกจากฉีเชิงในทันที “สุดยอด!ลูกชิ้นน้อยเป็นคนดีที่สุด”
คนแรกที่มาถึงจะได้เพลิดเพลินกับอาหารค่ําสุดแสนอร่อยและเนื่องจากระหว่างทานอาหารค่ําจะไม่ได้บันทึกภาพตลอดเวลาดังนั้นถ้าฉีเชิงอนุญาต ฟางดีชิวก็สามารถมาแจมด้วยได้อย่างไร้ซึ่งปัญหา
ฉีเชิงกับฟางลี่ชิวคุยกันได้สักพักผู้กํากับก็ประชุมเสร็จก่อนจะมีทีมงานเดินมาประกาศเกี่ยวกับภารกิจในวันพรุ่งนี้ “อะ แฮ่ม…ในการ์ดพวกนี้จะมีคําใบ้ซ่อนอยู่ ภารกิจของพวกคุณ จะเริ่มขึ้นตอน 7.00 น.พวกคุณต้องออกไปหาของที่อยู่ในคําใบ้ให้พบ และถ้าใครหาไม่พบ คนๆนั้นจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการทานอาหารเช้า”
คําใบ้ที่ทีมงานให้มานั้นบรมยากคิดดูสิกว่าจะถอดรหัสได้คงต้องคิดย้อนกลับไปถึงบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโครตกันเลยที่เดียวและหลังจากได้รับการ์ดเรียบร้อยแล้ว ช่วงเวลาอาหารเย็นก็เริ่มขึ้น
นอกจากฟางลี่ชิวแล้ว คนอื่นๆก็ไม่สามารถแชร์อาหารเย็นกับฉีเชิงได้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่จ้องมองด้วยความอิจฉา
เซี่ยหยวนมองดูต้มผักกาดขาวในชามของเธอด้วยความสะอิดสะเอียน แต่เมื่อกล้องแพลนมาทางเธอเท่านั้นแหล่ะท่าที่ของเธอก็กลับมาเป็นสาวแสนสวยผู้สง่างามและอ่อนโยนทันที ก่อนเธอจะแอ็บนั่งกินต้มผักกาดขาวอย่างเอร็ดอร่อยราวกับว่ากําลังกินอาหารเหลาราคาแพงอยู่ก็ไม่ปาน
เมื่อการถ่ายทําจบลงฟางลี่ซิ่วก็ถูกผู้ช่วยของเธอลากออกไปทําให้ในห้องโถงตอนนี้เหลือแค่ฉีเชิงนั่งอยู่คนเดียว
“เจียงหวัน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
ฉีเชิงเงยหน้าขึ้น ขณะที่มุมปากของเธอเองกระตุกขึ้นเล็กน้อย “หรอ?”
“ฉันอุตสาห์ไม่ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอดันวิ่งแจ้นมาเรื่องฉันถึงที่ เก่งเหลือเกินนะแม่คุ้ณ…!”
“เธอไม่อยากรู้หรอว่าทําไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่?” เชี่ยหยวนนั่งลงตรงข้ามฉีเซิง พร้อมกับจ้องหน้าเธอไปด้วย
ฉีเชิงแสร้งทําเป็นครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะยิ้มและพูดออกมาว่า “เธอจงใจไม่ใช่เหรอ?”
“เธอ ” สีหน้าของเซี่ยหยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อย “อ๊าคําตอบนี้ไม่ได้อยู่ในสคริปต์นิพ”
“พระเจ้า ผู้ชายคนนั้นหล่อมาก”
“เขาเป็นดารารับเชิญของรายการหรอ? แต่ฉันไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อนเลยนะ…เอ๊ะ ดูนั่นสิ เขากําลังเดินไปหาพี่หยวน …”
MANGA DISCUSSION