บทที่ 29 คุณผู้อุปถัมภ์ที่รัก ได้โปรดรับเลี้ยงดูฉันหน่อย (9)
“เอ่อ…ผมไม่ได้จะหมายความว่าแบบนั้นนะครับนายน้อย” สู่ดาเพิ่งรีบปฏิเสธเสียงที่น่าสะพรึงกลัวนั้น ” ผม ผมก็แค่อยากจะทราบล่วงหน้าเพื่อที่จะได้เตรียมต้อนรับนายน้อยแค่นั้นเองครับ
สู่ดาเพิ่งตอบไปด้วยเสียงสั่นเครือเพราะความกลัวไอ้เด็กปีศาจนี้ไม่ได้อยู่ที่เมืองนอกหรอกเหรอหรือมันกลับมาทําอะไรกันแน่!! ”
ตระกูลลู่ เป็นตระกูลที่มีประวัติอันยาวนานมากว่าร้อยปีพวกเขาค่อยข้างเข้มงวดมากเรื่องลําดับชั้นและถึงแม้ว่าลู่ชิงหยุนจะเรียกเขาว่า “ลุงรองลู”แต่เขาก็เป็นเพียงสมาชิกคนหนึ่งที่มาจากสายรองเท่านั้นในขณะที่ลู่ชิงหยุนนั้นมาจากสายหลักและในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสาขาหลักก็ได้ย้ายสํานักงานไปประจําการอยู่ที่ต่างประเทศแล้วดังนั้นลู่ดาเพิ่งจึงค่อนข้างสงสัยว่าทําไมเขาถึงกลับมา
“ไม่จําเป็น” ลู่ชิงหยุนพูดพลางมองไปที่นี่เพิ่ง
ฉีเซิงฉีกยิ้มรับทันที ผู้อุปถัมภ์ ใช่เขาจะเป็นผู้อุปถัมภ์ใน อนาคตของเธอเพราะฉะนั้นอย่าทําให้ไอ้หมอนั้นขุนเคืองใจจะดีกว่า”
หลินซานซานมองลู่ชิงหยุนด้วยความตกตะลึง แม้แต่ในวงการบันเทิงก็คงจะหาคนที่เทียบเท่ากับเขาไม่ได้ ทั้งรูปร่างหน้าตาแล้วดูจากที่ลู่ดาเพิ่งพึ่งจะคุยกับเขาอีกล่ะ ดูก็รู้ว่าเขามีฐานันดรสูงกว่าลู่ดาเพิ่งมากเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆจะเป็นยังไงนะ ถ้า เธอสามารถทําให้คนอย่างเขามาชอบเธอได้
เมื่อพิจารณาถึงจุดนี้หลินซานซานก็รีบสลัดความคิดออกจากหัวทันทีก่อนสายตาแห่งความหลงใหลของเธอจะค่อยๆจางหายไป
ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนที่เธอจะเข้าหาได้ง่ายๆ ดูจากที่ลู่ดาเพิ่งกลัวเขาแทบหัวหดสิ อีกอย่างเขาไม่น่าจะใช่คนที่เธอจะยั่วให้มาติดกับได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นเธออาจจะต้องเลือกใช้ลู่ดาเพิ่งต่อไป เพราะ ไม่อย่างนั้นนอกจากเธอจะไม่ได้อะไรแล้วเธออาจจะต้องสูญเสียทุกอย่างที่ทํามาทั้งหมดไปด้วย
หลินซานซาน เข้าใจขีดจํากัดในเรื่องนี้ของเธอดี แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นฉีเชิงยิ้มให้ชายผู้นั้นก็ยิ่งทําให้หลินซานซานเกลียดชังฉีเซิงมากยิ่งขึ้น” ทําไมเธอ?!”
“ผู้อุป- คุณอู่ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆที่พบคุณที่นี้!” ฉีเซ็งทักทายพลางยิ้มหวาน
เมื่อลู่ดาเพิ่งเห็นลู่ชิงหยุนพยักหน้ารับที่ฉีเชิงทัก เขายิ่งรู้สึกหวาดกลัวราวกับว่าวิญญาณกําลังจะหลุดออกจากร่าง “เจียงหวันไม่ได้เป็นแค่คนธรรมดาๆหรอกหรือ? เธอรู้จักไอ้ปีศาจร้ายตัวนี้ได้ยังไงกัน?
“คุณยังมีธุระอะไรที่นี้อยู่อีกเหรอ ลุงรองลู่” คู่ชิงหยุนที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างๆฉีเซิงมองไปยังคู่ดาเพิ่งผู้ซึ่งตอนนี้กลัวจนแทบไม่กล้าแม้แต่จะกระดิกนิ้ว
ร่างกายของลู่ดาเพิ่งสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนเขาจะส่ายหัวอย่าง รวดเร็ว “มะ…ไม่แล้วครับ ผมกําลังว่าจะไปอยู่พอดีครับ นายน้อย”
สู่ดาเพิ่งรีบดึงมือหลินซานซานเดินกลับไปที่ประตูทางเข้าที่พวกเขาเพิ่งจะเดินผ่านมา ตอนนี้ถ้าเขาหายตัวออกจากที่นี่ได้เขาคงทําไปแล้ว”นรกชัดๆ ใครมันจะกล้าอยู่ต่อ ถึงฆ่าฉันให้ตายฉันก็ไม่อยู่หรอก !”
“เดียวก่อน”
สู่ดาเพิ่งหยุดเดินขณะที่หันกลับมา ก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงอ่อนน้อม “นายน้อยต้องการอะไรอีกหรือครับ”
” ขอโทษ”
“ขอโทษ?!”ลู่ดาเพิ่งรู้สึกกระอักกระอ่วนเป็นอย่างมาก” ยัยเด็กเจียงหวันนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกับไอ้ปีศาจนี้กันแน่ มันถึงได้บอกให้เขาขอโทษยัยเด็กนั้น!”
สู่ดาเพิ่งเริ่มมือเย็นและเหงื่อท่วมก่อนเขาจะมองไปที่ฉีเซิงและโค้งคํานับมิสเหลียงมันเป็นความผิดพลาดของผมเองผมถูกหลินซานซานหลอกล่อให้ผมดูหมิ่นคุณ ที่จริงแล้วผมไม่ได้ต้องการเป็นศัตรูกับคุณเลยได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย”
หลินซานซานเริ่มตัวซีด เธอไม่คาดคิดเลยว่าลู่ดาเพิ่งจะหักหลัง
เธอ
“ประธานลู่ คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”เพียงเพราะเขากลัวผู้ชายคนนั้นเขาถึงขนาดโยนความผิดทั้งหมดใส่เธอเขียวหรือ!
“หุบปาก” สู่ดาเพิ่งตะคอกหลินชานชานดังลั่นด้วยท่าทางดุร้ายถ้าไม่ได้เป็นเพราะเธอ เขาคงไม่ต้องมาถูกไอ้ปีศาจนี้หยามขนาดนี้
” ผมคงไม่ต้องสอนคุณนะว่าควรจะต้องทํายังไง?”
“ ไม่ ไม่ต้องเลยครับนายน้อย วางใจได้เลยผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เป็นที่น่าพอใจอย่างแน่นอน”
ความเหี้ยมโหดส่องประกายอยู่แววตาของคู่ดาเพิ่งอย่างเห็นได้ชัดถ้าหากเขาไม่ต้องการมีปัญหากับไอ้ปีศาจร้ายนี้คงมีทางออกอยู่แค่ทางเดียวเขาต้องจัดการหลินซานซานซะ
“อย่าให้เสียชื่อเสียงตระกูลลู่ล่ะ” ลู่ชิงหยุนพูดพลางสะบัดข้อมือออกไปราวกับว่าเขาพึ่งจะได้รับนิรโทษกรรม สู่ดาเพิ่งรีบกระชากแขนหลินซานซานที่ตอนนี้หน้าซีดเผือกไปเรียบร้อยแล้วออกไปทันที
* ช่างน่าประทับใจจริงๆ” ฉีเชิงพูดพลางทําท่าแสดงความเคารพ “ประธานลู่เป็นถึงผู้มีอิทธิพลอันดับต้นๆของแวดวงธุรกิจแต่คุณสามารถทําให้เขาเรียกคุณว่า นายน้อย” ได้ เจ๋งโครตอะ!”
คู่ชิงหยุนมองไปที่สายตาอันสงบนิ่งของฉีเชิง ที่ตอนนี้มีเพียงระลอกคลื่นเล็กน้อยเท่านั้น เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ต้องการที่จะชมเขาจริงๆ
“อย่างน้อยคุณก็ควรจะพยายามแสดงให้มันเนียนๆกว่านี้หน่อยสินี่อะไร…เขามองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเธอแค่แสดงให้พอเป็นพิธีเท่านั้น”
ลู่ชิงหยุนกลับมาสงสัยในเสน่ห์ของเขาอีกครั้งไม่ว่าจะครั้งไหนๆทําไมเสน่ห์อันเหลือล้นของเขาถึงดูจะไม่มีผลอะไรกับผู้หญิงคนนี้
เลย??
“นี่คุณชมผมแล้วจริงๆเหรอ? ทําไมผมรู้สึกว่า…คุณทําเพราะว่าความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสั่งให้ทํามากกว่านี่คุณกําลังสับสนอะไรอยู่เปล่า?”
“ให้ตายเถอะ! ถึงแม้ว่าคุณจะทําเพราะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีแต่อย่างน้อยคุณก็ควรจะพยายามซ่อนความคิดที่แท้จริงเอาไว้ให้มีดกว่านี้สิ!”
” ก็ไม่นะ”
“เอ๊ะ…หมอนี้นิ! ฉันพูดชมนี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว ยังจะมาต้องการความจริงจงจริงใจอะไรอีก ฝันไปเถอะย่ะ!”
ลู่ชิงหยุน ”
เป็นครั้งแรกที่เขาพบว่าตัวเองไม่สามารถที่พูดอะไรต่อได้อีกนี่มันไม่ซื่อสัตย์เกินไปหน่อยเหรอ!??
“เอ๊ะ? นี่นายไปลักพาตัวคุณผู้หญิงคนนี้มาจากไหนเนี้ย? ฉันไปจอดรถแค่แป๊ปเดียวนายก็ก่อเรื่องซะแล้ว! นายยังมีเป็นคนอยู่มัยเนี้ย!ทําอย่างนี้ได้ยังไงกัน!”
“ลักพาตัว? เอิ่ม…
”
ฉีเชิงมองไปยังผู้มาใหม่เขาแต่งตัวด้วยชุดมางานเลี้ยงปกติทั่วไปซึ่งนั่นทําให้เขาค่อนข้างดูดีมากทีเดียว
เขาไม่แม้แต่จะรอฟังคําตอบจากลู่ชิงหยุน เขารีบข้ามไปถามหัวข้อถัดไปทันที“เมื่อกี้ฉันพึ่งเจอลู่ดาเพิ่งมา ไม่รู้ว่าไปกินรังแตนที่ไหนมารึเปล่าเห็นเอะอะโววายใส่ผู้หญิงคนหนึ่งใหญ่เลยเอ๊ะ..หรือว่าเป็นเพราะนาย?”
นี่เซิงเองก็นิ่งเงียบ ไม่ได้พูดอะไรออกไป “ผู้ชายคนนี้น่าจะสนิทกับคู่ชิงหยุนพอสมควร เพราะแค่เขาเห็นอาการของลู่ดาเพิ่งเขาก็พอจะเดาออกแล้วว่าต้องเป็นเพราะฝีมือคู่ชิงหยุนแน่ๆอืม…มีเพียงคนเดียวที่เหมาะสมกับคําอธิบายนี้และนั่น ก็คือ คู่ขาของลูชิงหยุนเพื่อนสนิทผู้แสนดี : ซูอี้จิ๋ว”
“ แล้วคุณผู้หญิงคนนี้คือ..?” ซูอี้ซิ่วเปลี่ยนเรื่อง ก่อนจะวกกลับมาที่เรื่องของฉีเซิง และฉีเชิงเองก็ได้แต่กระพริบตาปริบๆ ตอนที่เขากําลังจ้องมองมาที่เธอด้วยความสงสัย “คุณผู้หญิงหัวใจของคุณแข็งแกร่งเบอร์ไหนเนี้ยถึงยืนอยู่ข้างๆหมอนี้ได้นานข นาดนี้”
“นี่ไม่ใช่คําถามที่ลู่ชิงหยุนเองก็ถามเธอเมื่อครั้งก่อนเหมือนกันหรอกเหรอ? ว่าทําไมสามารถยืนกับเขาได้โดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยเธอเลยไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ผู้ชายคนนี้จะถามเธออีก”
“น่าจะแข็งแกร่งพอที่จะอยู่รอดบนโลกใบนี้ได้ละมั้ง” ฉีเซิงตอบด้วยสีหน้าเฉยๆ
“ฟลิ้ววว ” ซูอี้ซิ่วกลิ้นหัวเราะแทบไม่อยู่
ฉีเชิงมองไปที่ผู้มาใหม่ ที่ตอนนี้ยังหัวเราะไม่หยุดเลยมีอะไรให้น่าหัวเราะนักหนายะ?!หน้าฉันเหมือนตลกค่าเฟรีไง”
“ฉันชื่อเจียงหวันค่ะ” ในเมื่อเขาอยู่ข้างผู้อุปถัมภ์ในอนาคตของเธอเพราะงั้นเธอจะปล่อยเขาไปก็แล้วกัน”
ซูอี้จิ๋วรีบกล่าวแนะนําตัวด้วยน้ําเสียงกระตือรือร้น“อ่า…ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเจียง ผมซูคิ้วซิ่ว เป็นเพื่อนแล้วก็พี่เลี้ยงในวัย เด็กของลู่ชิงหยุนครับ”
ริมฝีปากของฉีเซ็งกระตุกขึ้นเล็กน้อย เพื่อนและพี่เลี้ยงในวัยเด็กเอิ่ม..เอางี้เลยเรอะ? ฉันล่ะแมร่งไม่เข้าใจตรรกะของเจ้าพวกวายร้ายจริงๆเลี้ยยย!
” ขอบคุณสําหรับเรื่องในวันนั้นด้วยนะครับถ้าหากไม่ได้คุณช่วยเอาไว้เขาคงไม่น่าจะรอด คุณอาจจะไม่รู้แต่เขาน่ะอ่อนหัดยิ่งกว่าเด็กมัธยมอีก…”
“ถ้านายจะกรุณาหุบปาก น่าจะทําให้นายดูดีขึ้นมาก” ลู่ชิงหยุนพูดขัดจังหวะซูอี้ซิ่ว
“ถึงฉันจะไม่หุบปาก ฉันก็ยังเป็นคนที่ดูดีมากๆอยู่ดีแหล่ะ” ซูอี้ซิ่วตอบลู่ชิงหยุนอย่างทันควัน
ฉีเซิง “……………………..
“เหอๆ ในแก๊งพวกวายร้าย ยังคนซื้อๆเพี้ยนๆแบบนี้ด้วยเร็
อะ
“คืนนี้คุณเจียงมาคนเดียวหรอครับ” ในเมื่อลู่ชิงหยุนดูสนใจสาวงามคนนี้ขนาดนี้ เขาในฐานะพี่เลี้ยง / ผู้ช่วย / เพื่อนที่แสนดีก็คงต้องช่วยเขาสักหน่อยแล้วล่ะ
“ถ้าหมายถึงตอนนี้ก็คงใช่มั้งคะ” ซิโม่ยังไม่ปรากฏตัว เธอเอ งก็ไม่แน่ใจว่าเขาทําอะไรอยู่
“เยี่ยมไปเลยครับ พอดีผมพึ่งนึกขึ้นได้พอดีว่ามีธุระต้องไปจัดการคู่ชิงหยุนเองก็เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เขายังไม่ค่อยคุ้นกับที่นี้เท่าไหร่นักจะเป็นการรบกวนมากไหมครับถ้าผมจะวานคุณเจียงช่วยดูแลเขาแทนผมที่ในคืนนี้? ” ไอ้น้องชาย ฉันช่วย ได้แค่นี้นะโว้ย”
ฉีเชิงรู้สึกแปลกๆ กับคําพูดของซูอี้ซิ่ว
“เอาเป็นว่าตกลงนะครับ คุณเจียงนี่ช่างเป็นคนสวยน้ําใจงามจริงๆถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ซูอี้ซิ่วจบบทสนทนาที่ เขาพูดเองเออเองเพียงฝ่ายเดียวเรียบร้อยแล้ว ก่อนเขาจะหันไปเตือนลู่ชิงหยุนว่า “ลู่ชิงหยุน ฉันช่วยขนาดนี้แล้วห้ามทํามันฟังล่ะรู้ไหม!”
ก่อนซูอี้ซิ่ววิ่งเพ่นแน็บออกจากประตูไปอย่างรวดเร็วหลังพูดจบ
ฉีเซิงผู้ซึ่งพึ่งได้รับตําแหน่ง ” คนสวยน้ําใจงาม” มาหมาดๆถึงกลับพูดไม่ออก” คุณพระ! ฉันยังไม่ได้ทันจะตกลงอะไรเลยนายนั้นก็โกยแนบไปซะแล้วก็คือฉันปฏิเสธไม่ได้แล้วถูกมะ?”
MANGA DISCUSSION